เมียหวานของประธานเย็นชา – บทที่ 1115 บกพร่องทางความรู้สึกต้องทำอย่างไร?

บทที่ 1115 บกพร่องทางความรู้สึกต้องทำอย่างไร?

เสียงค่อยๆห่างออกไป

เหลือเพียงแค่เจ้าหน้าที่ที่กำลังหน้าซีดกันอยู่ ปาดเช็ดเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมาตรงหน้าผาก ตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก

“คุณจี้ครับ คนนี้พวกเราจะต้องจัดการให้อย่างเด็ดขาดแน่นอนครับ! เพียงแต่ไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขากับคุณจี้เกิดความขัดแย้งอะไรขึ้นหรือครับ?”

จี้จิ่งเชินเอียงศีรษะไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางหลีกเลี่ยงจากปัญหาสำคัญไป : “จับตัวภรรยาของผมไป”

เขาไม่ได้เอ่ยพูดถึงสมบัติล้ำค่า สองสามคนนั้นได้ยินอีกฝ่ายทำเรื่องนี้ออกมาแล้วนั้น สีหน้าก็ยิ่งดูแย่มากขึ้นกว่าเดิม

มิน่าล่ะ…..

ใครๆก็รู้ว่าความรู้สึกของจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนดีต่อกันเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าทางฝ่ายนั้นจะเอาความคิดนี้มาอยู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยน สมควรแล้วจริงๆ!

คนทั้งหมดของสถาบันวิจัยถูกพาตัวไปหมดแล้ว คนขององค์กรที่ยังเหลืออยู่เองก็ถูกจับตัวแล้วด้วยเช่นกัน

สมาชิกองค์กรที่ไม่มีขื่อมีแป ทำอะไรตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใครบนเกาะนี้ถูกจับไปหมดแล้ว ถูกถอดถอนออกจากสายตาของทุกคน

แววตาของทุกคนเต็มไปด้วยความเสียใจภายหลัง ทำไมพวกเขาคิดไม่ถึงเหมือนกัน เดิมทียังคิดว่าสมบัติล้ำค่าที่เป็นโอกาสที่ฟ้าประทาน สุดท้ายแล้วจะนำหายนะมาสู่พวกเขาแบบนี้

ดูธรรมดาๆ หรือแม้กระทั่งเบื้องหลังผู้หญิงที่ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน ไม่คิดว่าจะมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้!

เมื่อก่อนพวกเขาเป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวบนเกาะนี้ได้ เป็นเพราะไม่ได้พบเจอกับพวกเวินเที๋ยนเที๋ยน ถ้าหากให้โอกาสอีกครั้ง พวกเขาจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้อย่างเด็ดขาด

เห็นการปรากฏตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน พวกศาสตราจารย์ก็รู้สึกโล่งใจ

“ดีแล้วที่พวกเธอไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจิตใจของพวกเราคงจะไม่มีทางสงบได้ไปตลอดชีวิต”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้น : “มีจี้จิ่งเชินคอยปกป้องฉันอยู่ข้างๆ ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นหรอกค่ะ”

เห็นแววตาทั้งสองคนที่มีความสนิทสนมและความเชื่อใจกันตลอดเวลาแล้ว คนกลุ่มนั้นก็ยิ้มออกมา

ก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบจะเข้าใจเวินเที๋ยนเที๋ยนผิดแล้ว คิดว่าเธอจะสมคบคิดกับคนอื่น ต้องการจะฮุบสมบัติล้ำค่าใต้ทะเลนั้นมาเป็นของส่วนตัว

แต่ตอนนี้มาคิดอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าจากอิทธิพลทางการเงินของจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนสิ่งของมีค่าเหล่านั้นไม่ได้ถือว่ามากเลย

ตอนแรกทำไมพวกเขาถึงเชื่อกันนะ?

พูดมาถึงตรงนี้แล้ว จางเชียงหนิงจึงเอ่ยถามขึ้น : “ได้ยินว่าเธอหาตำแหน่งโดยรูปธรรมของสมบัติล้ำค่าได้แล้วอย่างนั้นหรือ?”

เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง

“ถึงแม้จะยังไม่ได้เคยไปดู แต่จากการใช้เหตุผลพิจารณาทุกๆด้านแล้ว ควรจะเป็นที่นั่น ไม่รู้ว่าที่ศาสตราจารย์จางเชียงหนิงกับฉันคิดเอาไว้จะเป็นที่เดียวกันหรือเปล่า?”

จางเชียงหนิงส่ายหน้าพลางเอ่ย : “ฉันไม่รู้ว่าสมบัติล้ำค่านั่นอยู่ที่ไหนหรอก”

“ไม่ใช่ว่าคุณบอกเบาะแสฉันมาแล้วหรอกหรือคะ?”

จางเชียงหนิงเอ่ย : “ฉันบอกกับเธอก็จริง ฉันรับรู้ได้ถึงตัวอักษรที่อยู่ด้านบนเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวนั่นจริงๆ แต่เพื่อไม่ให้คนขององค์กรนั่นพบความลับนี้ ฉันตั้งใจที่จะไม่ไปสำรวจอยู่ตลอด ดังนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าสมบัติล้ำค่าอยู่ที่ไหนกันแน่”

เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง : “เมื่อครู่นี้ฉันแจ้งกองกำลังทหารวิจัยแห่งชาติไปแล้วค่ะ เชื่อว่าไม่นานพวกเขาจะส่งคนมาหาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ แต่เพื่อเป็นการเช็คให้แน่ใจในตำแหน่งของสมบัติล้ำค่านี้ พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปตรวจสอบก่อนรอบหนึ่ง พวกคุณสนใจที่จะไปด้วยกันกับพวกเราไหมคะ?”

ดวงตาของพวกศาสตราจารย์เหล่านั้นเป็นประกายขึ้นมาทันที

“ตอนนี้จะไปกันได้หรือยังครับ?”

เวลานี้จี้จิ่งเชินถึงได้เอ่ยขึ้นมา : “จัดเตรียมเรือและอุปกรณ์ดำน้ำเอาไว้พร้อมแล้ว ออกเดินทางได้ตลอดเวลาเลยครับ”

สองสามคนนั้นพยักหน้าลง

“ดีเลยล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพวกเธอด้วย!”

สถาบันวิจัยนี้ตอนที่พบเครื่องเคลือบลายครามชุดนั้นเป็นครั้งแรก ก็รับรู้ได้ถึงว่าบริเวณรอบๆก็อาจจะต้องมีสมบัติล้ำค่าอยู่ จึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นถึงได้พูดความลับของสมบัติล้ำค่าออกมาอย่างไม่ได้ระวังป้องกันอะไร

เพราะฉะนั้นจึงเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะขึ้นมาโดยไม่เจตนา

เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองอีกห้องหนึ่ง เห็นจี้หยู๋ชิงกำลังยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่เย็นชา โดยไม่ได้มาทางนี้อีกด้วย

อาการบนใบหน้าของเขานั้นจริงจังเป็นอย่างมาก และมีใบหน้าที่เศร้าหมองและนิ่งไม่เหมือนกับคนอายุเท่านี้ แววตายังแฝงไปด้วยความแค้นเคืองอีกด้วย

เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาพาคนพุ่งเข้ามา ก็เป็นแบบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ผ่อนคลายลงเช่นกัน

“หยู๋ชิง”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไป แล้วเอามือวางลงบนศีรษะของเขา

จี้หยู๋ชิงราวกับตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกตัว จึงเงยหน้าขึ้นมามอง แววตามองไปยังใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน

“คุณแม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”

“แม่ไม่เป็นอะไรครับ ไม่ต้องกังวลนะ”

เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มตัวลงแล้วกอดเขาเอาไว้

“เมื่อกี้นี้ลูกทำได้ดีมากเลยนะ ไม่ให้แม่กับคุณพ่อบาดเจ็บเลย โชคดีที่ได้ลูกไว้”

จี้หยู๋ชิงหันหลังไป เสื้อเกราะที่คลุมอยู่บนร่างของเขามาตลอด เวลานี้ได้ถอดออกไปในที่สุด แววตาปรากฏความกังวลและความอ่อนแอออกมา

พลางเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ : “ผมเป็นห่วงคุณพ่อกับคุณแม่มากเลยครับ”

เขากอดคอของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ ตอนที่ได้ยินจากปากศาสตราจารย์เหล่านั้นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินอยู่ในอันตราย เขารู้สึกตกใจเสียจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ไม่สามารถจะจินตนาการถึงภาพที่เกิดเรื่องกับทั้งสองคนขึ้นได้เลย แม้กระทั่งให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บก็ไม่ยอมเช่นกัน

เพียงแค่ภาพที่ปรากฏลอยอยู่ในหัว ก็ทำให้เขาแทบระเบิดขึ้นมาทันใด ตอนนั้น ในหัวมีแต่ความคิดที่ว่า จะไม่สนใจทุกอย่างแล้วช่วยทั้งสองคนออกมาให้ได้!

ถ้าหากมีคนกล้าทำร้ายพวกเขา เขาจะแก้แค้นกลับไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า!

ชีวิตของคนพวกนั้น สำหรับเขาแล้วจะอย่างไรก็ไม่มีค่าสำหรับเขาอยู่แล้วเช่นกัน!

จี้หยู๋ชิงหลับตาสนิท กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะมองเห็นความแค้นเคืองในดวงตาของตัวเขา แล้วเกิดกลัวเขาขึ้นมา

แม้กระทั่งเมื่อครู่ที่ตัวเขาเองส่องกระจกนั้น ก็รู้สึกตกใจกับท่าทางของตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงไม่กล้าเข้าไปหาพวกเวินเที๋ยนเที๋ยน

ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินกังวลอยู่ตลอดว่าเขาจะบกพร่องทางด้านความรู้สึก นิสัยเย็นชา จี้หยู๋ชิงยังรู้สึกว่าเป็นเพียงแค่ความกังวลมากเกินเหตุไปเท่านั้น ไม่ต้องเป็นกังวลได้เลยเสียด้วยซ้ำ

แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวในครั้งนี้ กลับรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาแล้ว

ถ้าหากตัวเองบกพร่องในเรื่องของความรู้สึกจริงๆ แล้วไม่ชอบคุณพ่อกับคุณแม่เข้าจะทำอย่างไร? ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้แล้ว จะทำอย่างไร?

ถ้าหาก…….

จี้หยู๋ชิงรู้สึกเจ็บปวด ความแค้นเคืองที่ลดลงเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆแพร่กระจายขึ้นมาอีกครั้ง

“หยู๋ชิง”

เวินเที๋ยนเที๋ยนเรียกเขาเบาๆ

ความแค้นเคืองที่รุกล้ำในแววตาของจี้หยู๋ชิงหยุดลง หายวับไป แล้วเปลี่ยนเป็นท่าทางที่ไร้ความกังวลเหมือนปกติอีกครั้ง

เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดเขาเบาๆ แล้วเอาศีรษะพิงที่ไหล่เล็กๆของเขา

“ครั้งนี้หยู๋ชิงทำได้ดีและเก่งมากๆเลยนะลูก อีกอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ก็จะไม่เป็นอะไรด้วย เพราะฉะนั้นลูกไม่ต้องกังวลนะครับ เพียงแค่พวกเราอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว”

น้ำเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นข้างๆหู ราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ ที่พัดไฟแห่งความโมโหในใจของจี้หยู๋ชิงให้กระจายออกไป ความกังวล ไม่สบายใจนั้นค่อยๆสงบลง

ไม่นาน ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆขึ้นมาอีกครั้ง พลางพยักหน้าลง

“ครับ! ผมเชื่อคุณพ่อคุณแม่!”

ใช่แล้ว เพียงแค่อยู่ข้างๆคุณพ่อคุณแม่ ก็จะไม่เกิดเรื่องขึ้น

ความมั่นใจของจี้หยู๋ชิงนั้นเด็ดขาดเป็นอย่างมาก

เขาจะไม่มีทางลืมพ่อกับแม่ และจะไม่มีทางให้เกิดเรื่องขึ้นกับพวกเขาอย่างเด็ดขาด

เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงจี้หยู๋ชิงเดินออกมาทางด้านนอก แล้วพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับจี้จิ่งเชิน

ไม่นานพวกเขาก็ออกไปด้วยกัน ขึ้นไปบนเรือลำก่อนหน้านี้

“ที่นี่ค่ะ”

เรือจอดลงตรงจุดที่เวินเที๋ยนเที๋ยนชี้เอาไว้ บริเวณรอบๆเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ที่นี่ถึงตำแหน่งทะเลหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการขุดจะไม่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว

เมียหวานของประธานเย็นชา

เมียหวานของประธานเย็นชา

Status: Ongoing

“คุณจะคิดแบบนี้ไปถึงเมื่อไรถึงจะกลับบ้านได้?” จี้จิ่งเชินพูดออกมาอย่างจนใจ เขารีบมาที่นี่ทันทีตั้งแต่รับสาย และยืนดูเธอเดินวนคิดเป็นหนูติดจั่นแบบนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าออกมา เพราะเธอกลัวว่าถ้าเขารู้เรื่องเข้า เขาจะทำอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือ จูบหน้าผากของเธอ “ผมเชื่อคุณ… ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมก็เชื่อคุณ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท