เสียงค่อยๆห่างออกไป
เหลือเพียงแค่เจ้าหน้าที่ที่กำลังหน้าซีดกันอยู่ ปาดเช็ดเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมาตรงหน้าผาก ตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก
“คุณจี้ครับ คนนี้พวกเราจะต้องจัดการให้อย่างเด็ดขาดแน่นอนครับ! เพียงแต่ไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขากับคุณจี้เกิดความขัดแย้งอะไรขึ้นหรือครับ?”
จี้จิ่งเชินเอียงศีรษะไปมองทางเวินเที๋ยนเที๋ยน พลางหลีกเลี่ยงจากปัญหาสำคัญไป : “จับตัวภรรยาของผมไป”
เขาไม่ได้เอ่ยพูดถึงสมบัติล้ำค่า สองสามคนนั้นได้ยินอีกฝ่ายทำเรื่องนี้ออกมาแล้วนั้น สีหน้าก็ยิ่งดูแย่มากขึ้นกว่าเดิม
มิน่าล่ะ…..
ใครๆก็รู้ว่าความรู้สึกของจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนดีต่อกันเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าทางฝ่ายนั้นจะเอาความคิดนี้มาอยู่ที่เวินเที๋ยนเที๋ยน สมควรแล้วจริงๆ!
คนทั้งหมดของสถาบันวิจัยถูกพาตัวไปหมดแล้ว คนขององค์กรที่ยังเหลืออยู่เองก็ถูกจับตัวแล้วด้วยเช่นกัน
สมาชิกองค์กรที่ไม่มีขื่อมีแป ทำอะไรตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวใครบนเกาะนี้ถูกจับไปหมดแล้ว ถูกถอดถอนออกจากสายตาของทุกคน
แววตาของทุกคนเต็มไปด้วยความเสียใจภายหลัง ทำไมพวกเขาคิดไม่ถึงเหมือนกัน เดิมทียังคิดว่าสมบัติล้ำค่าที่เป็นโอกาสที่ฟ้าประทาน สุดท้ายแล้วจะนำหายนะมาสู่พวกเขาแบบนี้
ดูธรรมดาๆ หรือแม้กระทั่งเบื้องหลังผู้หญิงที่ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน ไม่คิดว่าจะมีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้!
เมื่อก่อนพวกเขาเป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวบนเกาะนี้ได้ เป็นเพราะไม่ได้พบเจอกับพวกเวินเที๋ยนเที๋ยน ถ้าหากให้โอกาสอีกครั้ง พวกเขาจะไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้อย่างเด็ดขาด
เห็นการปรากฏตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชิน พวกศาสตราจารย์ก็รู้สึกโล่งใจ
“ดีแล้วที่พวกเธอไม่เป็นอะไร ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจิตใจของพวกเราคงจะไม่มีทางสงบได้ไปตลอดชีวิต”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้น : “มีจี้จิ่งเชินคอยปกป้องฉันอยู่ข้างๆ ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นหรอกค่ะ”
เห็นแววตาทั้งสองคนที่มีความสนิทสนมและความเชื่อใจกันตลอดเวลาแล้ว คนกลุ่มนั้นก็ยิ้มออกมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาเกือบจะเข้าใจเวินเที๋ยนเที๋ยนผิดแล้ว คิดว่าเธอจะสมคบคิดกับคนอื่น ต้องการจะฮุบสมบัติล้ำค่าใต้ทะเลนั้นมาเป็นของส่วนตัว
แต่ตอนนี้มาคิดอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าจากอิทธิพลทางการเงินของจี้จิ่งเชินกับเวินเที๋ยนเที๋ยนสิ่งของมีค่าเหล่านั้นไม่ได้ถือว่ามากเลย
ตอนแรกทำไมพวกเขาถึงเชื่อกันนะ?
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว จางเชียงหนิงจึงเอ่ยถามขึ้น : “ได้ยินว่าเธอหาตำแหน่งโดยรูปธรรมของสมบัติล้ำค่าได้แล้วอย่างนั้นหรือ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าลง
“ถึงแม้จะยังไม่ได้เคยไปดู แต่จากการใช้เหตุผลพิจารณาทุกๆด้านแล้ว ควรจะเป็นที่นั่น ไม่รู้ว่าที่ศาสตราจารย์จางเชียงหนิงกับฉันคิดเอาไว้จะเป็นที่เดียวกันหรือเปล่า?”
จางเชียงหนิงส่ายหน้าพลางเอ่ย : “ฉันไม่รู้ว่าสมบัติล้ำค่านั่นอยู่ที่ไหนหรอก”
“ไม่ใช่ว่าคุณบอกเบาะแสฉันมาแล้วหรอกหรือคะ?”
จางเชียงหนิงเอ่ย : “ฉันบอกกับเธอก็จริง ฉันรับรู้ได้ถึงตัวอักษรที่อยู่ด้านบนเครื่องเคลือบลายครามสีฟ้าขาวนั่นจริงๆ แต่เพื่อไม่ให้คนขององค์กรนั่นพบความลับนี้ ฉันตั้งใจที่จะไม่ไปสำรวจอยู่ตลอด ดังนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าสมบัติล้ำค่าอยู่ที่ไหนกันแน่”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินแล้ว ก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง : “เมื่อครู่นี้ฉันแจ้งกองกำลังทหารวิจัยแห่งชาติไปแล้วค่ะ เชื่อว่าไม่นานพวกเขาจะส่งคนมาหาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ แต่เพื่อเป็นการเช็คให้แน่ใจในตำแหน่งของสมบัติล้ำค่านี้ พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปตรวจสอบก่อนรอบหนึ่ง พวกคุณสนใจที่จะไปด้วยกันกับพวกเราไหมคะ?”
ดวงตาของพวกศาสตราจารย์เหล่านั้นเป็นประกายขึ้นมาทันที
“ตอนนี้จะไปกันได้หรือยังครับ?”
เวลานี้จี้จิ่งเชินถึงได้เอ่ยขึ้นมา : “จัดเตรียมเรือและอุปกรณ์ดำน้ำเอาไว้พร้อมแล้ว ออกเดินทางได้ตลอดเวลาเลยครับ”
สองสามคนนั้นพยักหน้าลง
“ดีเลยล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนพวกเธอด้วย!”
สถาบันวิจัยนี้ตอนที่พบเครื่องเคลือบลายครามชุดนั้นเป็นครั้งแรก ก็รับรู้ได้ถึงว่าบริเวณรอบๆก็อาจจะต้องมีสมบัติล้ำค่าอยู่ จึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นถึงได้พูดความลับของสมบัติล้ำค่าออกมาอย่างไม่ได้ระวังป้องกันอะไร
เพราะฉะนั้นจึงเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะขึ้นมาโดยไม่เจตนา
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองอีกห้องหนึ่ง เห็นจี้หยู๋ชิงกำลังยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าที่เย็นชา โดยไม่ได้มาทางนี้อีกด้วย
อาการบนใบหน้าของเขานั้นจริงจังเป็นอย่างมาก และมีใบหน้าที่เศร้าหมองและนิ่งไม่เหมือนกับคนอายุเท่านี้ แววตายังแฝงไปด้วยความแค้นเคืองอีกด้วย
เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาพาคนพุ่งเข้ามา ก็เป็นแบบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ผ่อนคลายลงเช่นกัน
“หยู๋ชิง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไป แล้วเอามือวางลงบนศีรษะของเขา
จี้หยู๋ชิงราวกับตอนนี้เพิ่งจะรู้สึกตัว จึงเงยหน้าขึ้นมามอง แววตามองไปยังใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณแม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
“แม่ไม่เป็นอะไรครับ ไม่ต้องกังวลนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มตัวลงแล้วกอดเขาเอาไว้
“เมื่อกี้นี้ลูกทำได้ดีมากเลยนะ ไม่ให้แม่กับคุณพ่อบาดเจ็บเลย โชคดีที่ได้ลูกไว้”
จี้หยู๋ชิงหันหลังไป เสื้อเกราะที่คลุมอยู่บนร่างของเขามาตลอด เวลานี้ได้ถอดออกไปในที่สุด แววตาปรากฏความกังวลและความอ่อนแอออกมา
พลางเอ่ยพูดขึ้นเบาๆ : “ผมเป็นห่วงคุณพ่อกับคุณแม่มากเลยครับ”
เขากอดคอของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ ตอนที่ได้ยินจากปากศาสตราจารย์เหล่านั้นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินอยู่ในอันตราย เขารู้สึกตกใจเสียจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ไม่สามารถจะจินตนาการถึงภาพที่เกิดเรื่องกับทั้งสองคนขึ้นได้เลย แม้กระทั่งให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บก็ไม่ยอมเช่นกัน
เพียงแค่ภาพที่ปรากฏลอยอยู่ในหัว ก็ทำให้เขาแทบระเบิดขึ้นมาทันใด ตอนนั้น ในหัวมีแต่ความคิดที่ว่า จะไม่สนใจทุกอย่างแล้วช่วยทั้งสองคนออกมาให้ได้!
ถ้าหากมีคนกล้าทำร้ายพวกเขา เขาจะแก้แค้นกลับไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า!
ชีวิตของคนพวกนั้น สำหรับเขาแล้วจะอย่างไรก็ไม่มีค่าสำหรับเขาอยู่แล้วเช่นกัน!
จี้หยู๋ชิงหลับตาสนิท กังวลว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะมองเห็นความแค้นเคืองในดวงตาของตัวเขา แล้วเกิดกลัวเขาขึ้นมา
แม้กระทั่งเมื่อครู่ที่ตัวเขาเองส่องกระจกนั้น ก็รู้สึกตกใจกับท่าทางของตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงไม่กล้าเข้าไปหาพวกเวินเที๋ยนเที๋ยน
ก่อนหน้านี้เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินกังวลอยู่ตลอดว่าเขาจะบกพร่องทางด้านความรู้สึก นิสัยเย็นชา จี้หยู๋ชิงยังรู้สึกว่าเป็นเพียงแค่ความกังวลมากเกินเหตุไปเท่านั้น ไม่ต้องเป็นกังวลได้เลยเสียด้วยซ้ำ
แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวในครั้งนี้ กลับรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาแล้ว
ถ้าหากตัวเองบกพร่องในเรื่องของความรู้สึกจริงๆ แล้วไม่ชอบคุณพ่อกับคุณแม่เข้าจะทำอย่างไร? ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้แล้ว จะทำอย่างไร?
ถ้าหาก…….
จี้หยู๋ชิงรู้สึกเจ็บปวด ความแค้นเคืองที่ลดลงเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆแพร่กระจายขึ้นมาอีกครั้ง
“หยู๋ชิง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเรียกเขาเบาๆ
ความแค้นเคืองที่รุกล้ำในแววตาของจี้หยู๋ชิงหยุดลง หายวับไป แล้วเปลี่ยนเป็นท่าทางที่ไร้ความกังวลเหมือนปกติอีกครั้ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกอดเขาเบาๆ แล้วเอาศีรษะพิงที่ไหล่เล็กๆของเขา
“ครั้งนี้หยู๋ชิงทำได้ดีและเก่งมากๆเลยนะลูก อีกอย่างคุณพ่อกับคุณแม่ก็จะไม่เป็นอะไรด้วย เพราะฉะนั้นลูกไม่ต้องกังวลนะครับ เพียงแค่พวกเราอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนดังขึ้นข้างๆหู ราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ ที่พัดไฟแห่งความโมโหในใจของจี้หยู๋ชิงให้กระจายออกไป ความกังวล ไม่สบายใจนั้นค่อยๆสงบลง
ไม่นาน ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆขึ้นมาอีกครั้ง พลางพยักหน้าลง
“ครับ! ผมเชื่อคุณพ่อคุณแม่!”
ใช่แล้ว เพียงแค่อยู่ข้างๆคุณพ่อคุณแม่ ก็จะไม่เกิดเรื่องขึ้น
ความมั่นใจของจี้หยู๋ชิงนั้นเด็ดขาดเป็นอย่างมาก
เขาจะไม่มีทางลืมพ่อกับแม่ และจะไม่มีทางให้เกิดเรื่องขึ้นกับพวกเขาอย่างเด็ดขาด
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงจี้หยู๋ชิงเดินออกมาทางด้านนอก แล้วพยักหน้าส่งสัญญาณให้กับจี้จิ่งเชิน
ไม่นานพวกเขาก็ออกไปด้วยกัน ขึ้นไปบนเรือลำก่อนหน้านี้
“ที่นี่ค่ะ”
เรือจอดลงตรงจุดที่เวินเที๋ยนเที๋ยนชี้เอาไว้ บริเวณรอบๆเป็นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ที่นี่ถึงตำแหน่งทะเลหลวงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการขุดจะไม่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว