บทที่ 898 เพื่อลูกสาว
กงชิงวี่จากอันหลิงหยุนมาแล้วไปเตรียมตัว หยุนจิ่นรับผิดชอบเรื่องเสบียงอาหาร และมีแม่ทัพอันคุ้มกันการขนส่ง
ผ่านไปครึ่งเดือน กองทัพใหญ่ก็ได้พบกันตรงชายแดน
ฮั๋วฉิงเคลื่อนย้ายไปอยู่กองหน้า
เมื่อฮั๋วฉิงเห็นกงชิงวี่ใบหน้าเย็นชา ทำตาเหลือกด้วยความโกรธ “ในที่สุดเจ้าก็มีวันนี้?”
แม่ทัพใหญ่ฮั๋วไม่รู้จะพูดอะไรดี ตอนแรกคิดว่าถ้าฮั๋วฉิงสามารถแต่งงานกับกงชิงวี่ แม้ว่าจะเป็นเพียงพระชายารอง ก็เป็นเรื่องไม่เลว แต่ทุกวันนี้เหลือแต่ความว่างเปล่า หาเรื่องวุ่นวายจะเอาแต่อันเสี่ยวฮวน
แม่ทัพฮั๋วเครียดมาก คิดจะหาใครสักคนให้นางได้แต่งงาน แต่วันเวลาผ่านไป และยังไม่มีใครมาสู่ขอแต่งงาน
ยังมีใจมาทะเลาะกับผู้นำแม่ทัพ!
ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแล้วจะมีใครมาขอแต่งงาน
กงชิงวี่พูดอย่างเย็นชา “หรือว่า เจ้าต้องการให้ข้ามอบหลิงหยุนให้พวกเขา?”
“หืม เจ้ากล้าหรือ!” ฮั๋วฉิงเดินไปข้างหน้ากงชิงวี่ และพูดอย่างหดหู่ “มีความมั่นใจหรือ?”
ฮั๋วฉิงกังวลเช่นกัน เพราะฝ่ายตรงข้ามคือหนานอี้ ได้รับข่าวว่าประเทศเฟิ่งได้ย้ายกองกำลังมาเช่นกัน
“ไม่มั่นใจ”
ฮั๋วฉิงกัดริมฝีปาก “นางเป็นมกุฎราชกุมารีของหนานอี้จริงหรือ?”
“อืม”
“ในเมื่อเป็นมกุฎราชกุมารี คนพวกนั้นก็ยังคงหยิ่งผยอง หมายความว่ายังไง แล้วอ๋องเซ่เจิ้งไปทำอะไร? ไม่ใช่พ่อแท้ๆเหรอ?”
ฮั๋วฉิงไม่เข้าใจ พ่อแบบไหน ไม่มียังจะดีกว่า
กงชิงวี่เพิกเฉยต่อฮั๋วฉิง เดินไปที่หน้าโต๊ะแผนที่ทราย เรียกแม่ทัพคนอื่นๆ และวิเคราะห์สงครามให้พวกเขาฟัง
ทุกคนถอนหายใจ และรู้ดีว่า ผู้คนในหนานอี้เชี่ยวชาญการใช้หนอนพิษกู่ ดังนั้นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับพวกเขาในครั้งนี้คือหนอนเหล่านั้น หากพวกเขาไม่มีหนอนเหล่านั้นก็จะดี แต่หนอนเหล่านั้น ทำให้พวกเขากังวลมาก
ฮั๋วฉิงถามว่า “จะตายได้หรือไม่?”
กงชิงวี่พยักหน้า และพูดว่า “ได้ยินมาว่าเมื่อสิบปีก่อน แม่ทัพอันพาคนไปที่หนานอี้ และเคยเผชิญครั้งหนึ่ง บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ครั้งนั้นเป็นความพ่ายแพ้ที่น่าเศร้าที่สุดของแม่ทัพอัน”
ฮั๋วฉิงกัดริมฝีปากและกำหมัดแน่น “ถ้างั้นควรทำอย่างไรดี?”
“ขณะนี้ข้ายังไม่มีวิธี” กงชิงวี่ยังไม่อยากพูด
แต่ในคืนนั้นแม่ทัพหนานอี้ก็มาเรียกท้าทายให้ออกรบ และก็ด่าทั้งคืน
กงชิงวี่ยืนอยู่บนกำแพงและเฝ้าดูทั้งวัน จากนั้นหันกลับไปที่กระโจมทหาร
ฮั๋วฉิงก็จนปัญญา ตามกงชิงวี่เข้าไป เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือ
แต่กงชิงวี่ก็ไม่ยอมพูด
ในตอนกลางคืน รองแม่ทัพลูกน้องของฮั๋วฉิงเพื่อต้องการทำผลงาน ได้ออกไป ได้พาทหารออกไปมากกว่า 100 คนและเสียชีวิตเพราะหนอนพิษกู่ ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดปะปนกันจนมองไม่ชัดเจน และส่งกลิ่นเหม็นมาก เมื่อฮั๋วฉิงเห็นภาพนี้ ก็อยากออกไป แต่แม่ทัพใหญ่ฮั๋วได้ห้ามไว้ นางเลยไม่ได้ไป
กงชิงวี่ให้คนขังฮั๋วฉิงไว้ นางเป็นคนหุนหันพลันแล่น ก่อนที่กงชิงวี่จะคิดหามาตรการตอบโต้ได้จะไม่ยอมให้นางออกไป
ใครจะรู้ว่าฮั๋วฉิงหนีออกไป และไปที่ค่ายของศัตรูในเวลากลางคืน
เมื่อฮั๋วฉิงไปถึงก็ถูกค้นพบทันที กงชิงวี่รีบไปช่วยนางไว้ แต่นางหมดสติไปแล้ว
กลับมาที่ค่ายทหาร กงชิงวี่วางฮั๋วฉิงลง หมอทหารมาตรวจ และหมอทหารก็หมดสติไปด้วย จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าแตะต้องฮั๋วฉิงและหมอทหาร กงชิงวี่จำใจต้องขังพวกเขาสองคนไว้ในบ้าน แต่มันก็ไม่ใช่วิธีที่ดี
แม่ทัพหนานอี้ก็มาเรียกท้าท้ายการรบอีกครั้ง พูดด้วยคำหยาบคาย ทำให้เหล่าแม่ทัพโกรธแค้นจนกำหมัดแน่น
กงชิงวี่กำลังยืนอยู่บนกำแพงอย่างกังวล ราชาอีกายืนบนไหล่ของเขา กงชิงวี่มองไป ที่ขาของราชาอีกามีกระดาษโน้ตถูกมัดไว้ เมื่อเขาแกะมาดู กงชิงวี่ก็รีบเรียกประชุมทันที ออกจากเมืองทันที เพื่อไปนอกเมือง
รถม้าหลายคันรีบเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว กงชิงวี่เดินไปเปิดผ้าม่านรถม้า ซึ่งทั้งหมดเป็นวัสดุยา คนที่คุมรถม้ามาเป็นอู๋โก๋และหมอกุ่ย
เมื่อเห็นกงชิงวี่หมอกุ๋ยรีบทักทาย“คารวะท่านอ๋อง”
กงชิงวี่พยักหน้าและมองไปที่อู๋โก๋ อู๋โก๋ท้องกลมโต ยืนอยู่ข้างรถม้าและพูดว่า “ส่งพวกเจ้าถึงที่นี่ขอพูดสองสามคำ ข้าเจอคนหนานอี้ไม่ได้ ข้าต้องคิดไตร่ตรองแทนเจ้าสำนัก ข้าไปก่อน”
อู๋โก๋หันตัวจากไป กงชิงวี่มองไปที่หมอกุ่ย หมอกุ่ยพูดว่า “วัสดุยาเหล่านี้เป็นผงป้องกันหนอนพิษกู่ ตามที่อาจารย์บอก ทุกคนต้องบดวัสดุยาทั้งสามชนิดรวมกันให้เป็นผง และใส่กระเป๋าผ้าเย็บติดบนร่างกาย ก็สามารถขับไล่หนอนกู่ออกไปได้ และอาจารย์มีจดหมายถึงท่านอ๋อง
หมอกุ่ยยื่นจดหมายให้กงชิงวี่ ส่วนกงชิงวี่ก็หยิบมาเปิดดู
หลังจากรับมาแล้วกงชิงวี่ก็พูด “เจ้าไปดูอาการของฮั๋วฉิง นางไม่ได้สติ ยังมีหมอทหารท่านหนึ่ง ตอนนี้ข้ากำลังกลุ้มใจมาก!”
หมอกุ่ยรีบไปดูทันที เขายังรู้เรื่องเกี่ยวกับหนอนพิษกู่ เขาเคยอยู่หนานอี้เป็นเวลาสิบปี เมื่อเห็นอาการของฮั๋วฉิงจึงไม่แปลกใจ “ มันคือหนอนพิษกู่ แต่ว่าข้าต้องเอาหนอนออกมาก่อน อีกอย่าง… …”
หมอกุ่ยรู้สึกลำบากใจ กงชิงวี่ถาม “เป็นอะไร?”
“จะต้องถอดเสื้อผ้า และผ่าตัดตรงหน้าอก แม่นางคนนี้ยังสาวและสวย ถ้าข้าทำแบบนี้ในอนาคตนางจะทรมานเหมือนตายทั้งเป็น”
กงชิงวี่ก็ลังเลเช่นกัน แต่ฮั๋วฉิงยังไม่ได้สติ เขาจึงตัดสินใจไปหาแม่ทัพใหญ่ฮั๋ว
เมื่อแม่ทัพใหญ่ฮั๋วได้ยินเช่นนี้ เขาก็มีท่าทางเจ้าเล่ห์
แค่เป็นผู้ชายก็ได้แล้ว!
“ท่านอ๋อง ข้าขอพบหมอกุ่ย” แม่ทัพใหญ่ฮั๋วอายุเท่าไหร่แล้ว เขาอายุมากแล้ว
หมอกุ่ยคิดว่า เป็นเรื่องปกติ คนที่เป็นพ่อจะปล่อยให้ผู้ชายเปลื้องผ้าอย่างนี้ได้ไงที่ต้องการพบเพื่ออยากรู้ว่าเขาเป็นคนเที่ยงธรรมหรือไม่
หมอกุ่ยไปพบแม่ทัพใหญ่ฮั๋ว เมื่อแม่ทัพใหญ่ฮั๋วเห็นหมอกุ่ยก็ชอบทันที สูงสง่า หล่อเหลาไม่ธรรมดา ในวัยสามสิบเหมือนอายุเยอะไปหน่อย แต่ก็ใช้ได้ ไม่มากเกินไป
อายุเยอะก็ดีสิ อายุเยอะจะได้รู้จักทะนุถนอม
แม่ทัพใหญ่ฮั๋วถามว่า “เจ้าแต่งงานหรือยัง?”
“ยัง” หมอกุ่ยพูดตรงๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าถามทำไม
แม่ทัพใหญ่ฮั๋วพยักหน้าและพูดว่า “ถ้างั้นเจ้ามีของล้ำค่าอะไร หรือของสำคัญอะไรหรือเปล่า?”
หมอกุ่ยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วพูด “ข้าเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็กๆ และไม่มีของล้ำค่า ส่วนของสำคัญ มีชิ้นหนึ่ง เป็นจี้หยกที่แม่มอบไว้กับข้า นางเสียชีวิตไปนานแล้ว”
“งั้นฝากไว้กับข้า ถ้าเจ้ารักษาลูกสาวข้าจนตาย ข้าจะไม่คืนเจ้า ข้าก็มีของให้เจ้า นี่คือกุญแจทองของลูกสาว ข้าเก็บไว้กลัวจะทำหาย รอเจ้าช่วยชีวิตนางไว้ได้ ก็มอบให้เจ้า เป็นรางวัลที่เจ้าช่วยชีวิตนาง
ข้าก็ไม่มีของมีค่าเช่นกัน เจ้าคิดว่าได้ไหม”
“ข้าไม่ต้องการกุญแจทอง ท่านเก็บไว้เถอะ” หมอกุ่ยไม่สนใจ
“ไม่ได้ ถ้าเจ้าไม่ยอมรับ ถ้ารักษาจนตายทำยังไง?”
หมอกุ่ยลำบากใจ จำใจยอมรับไว้
กงชิงวี่รออยู่ข้างนอก เห็นหมอกุ่ยจึงถาม “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“แม่ทัพให้ทำทุกอย่าง ขอให้รักษาจนหายขาด!”
กงชิงวี่เลิกคิ้ว ซึ่งดูแปลกไปเล็กน้อย
ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า กงชิงวี่จึงปล่อยให้หมอกุ่ยไปช่วยคน
หมอกุ่ยรักษาฮั๋วฉิง ต้องถอดเสื้อผ้า กงชิงวี่ไม่สะดวกที่จะดู หมอกุ่ยถอนพิษกู่ให้ฮั๋วฉิงคนเดียว
ครึ่งชั่วโมงหมอกุ่ยออกมา มีหนอนอยู่ในมือ โยนเข้าไปในกองไฟและเผาจนตาย
ฮั๋วฉิงต้องพักผ่อน ส่วนหมอกุ่ยก็ไปดูคนอื่นต่อ
แต่หมอกุ่ยรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย หลังจากรักษาเสร็จก็ซ่อนตัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน
ฮั๋วฉิงตื่นขึ้นมา และถูกส่งไปยังกระโจมทหารด้วยท่าทางงุนงง แม่ทัพฮั๋วฉิงนั่งข้างฮั๋วฉิงและเริ่มร้องไห้ ขณะร้องไห้ก็ดึงออกมา
ฮั๋วฉิงแปลกใจ “ท่านพ่อ เป็นอะไร?”
“อาการบาดเจ็บเจ้ามันอยู่ตรงจุดที่มิดชิด หมอกุ่ยรักษาให้เจ้ามันไม่เหมาะสม พ่อเป็นกังวล ก็เลยหมั้นให้เจ้า และยังเขียนคำสั่งการทหาร!”
ใบหน้าของฮั๋วฉิงงเปลี่ยนไป เป็นเวลานานกว่าจะถาม “ท่านพ่อ! ท่านเบื่อมีชีวิตอยู่แล้วเหรอ?”
แม่ทัพใหญ่ฮั๋วยิ้ม ถ้าสามารถทำให้เจ้าได้แต่งงาน ถือซักว่าข้าเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ก็ได้!