บทที่ 903 หมอกุ่ยขอความช่วยเหลือ
“เช่นนั้นก็ไม่ถึงกับต้องดีใจขนาดนั้น หนานอี้ไม่เหมือนประเทศเฟิ่ง ผู้หญิงปลอบโยนได้ง่ายกว่ามาก ท่านอ๋องส่งเสริมให้ผู้หญิงประเทศเฟิ่งแต่งงานกับผู้ชายประเทศต้าเหลียงอย่างจริงจัง และพวกนางก็เบื่อหน่ายกับเรื่องที่ผู้หญิงต้องออกไปสู้รบแล้ว ชอบวิธีการตรวจสอบของประเทศต้าเหลียงเรา มีเพียงคนจำนวนน้อยที่ไม่ยินยอมสวามิภักดิ์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้ว อย่างไรก็จะยอมสวามิภักดิ์เอง
หนานอี้ทางนี้ฆ่าคนมากจนเกินไป หากไม่ปลอบขวัญให้ดี วันหน้าเกรงว่าจะมีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นได้ ถึงแม้กำลังพลสองแสนนายทั้งหมดจะอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันว่าจะสงบสุขได้ อยู่ต่ออีกไม่กี่วันก็ไม่เป็นไร”
“วางใจเถอะ ฮั๋วฉิงกับเสินหยุนเจ๋จะอยู่ที่นี่ บวกกับขุนนางหลายคนที่ข้าเลือกเอาไว้ จัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพนานแล้ว”
“หากท่านอ๋องรู้สึกว่าใช้ได้ งั้นก็ใช้ได้เถอะ แต่ว่าท่านอ๋อง ท่านบอกว่าห้ามไม่ให้ผู้หญิงประเทศต้าเหลียงเราแต่งงานระหว่างกันกับผู้ชายของหนานอี้ แต่ผู้หญิงของหนานอี้กลับได้รับอนุญาตให้แต่งงานกับผู้ชายของประเทศต้าเหลียงได้ นี่เป็นเรื่องไม่น่าพอใจเล็กน้อยแล้ว
ถ้าหากผู้หญิงของพวกเขาแต่งงานกับผู้ชายประเทศต้าเหลียงหมด เช่นนั้นพวกเขาไม่ใช่ต้องครองตัวเป็นโสดหรอกหรือ นานๆไปยังจะไม่ก่อการกบฏหรือ!” เกี่ยวกับคำสั่งข้อนี้ที่กงชิงวี่กำหนดขึ้นมา อันหลิงหยุนรู้สึกถึงความจนปัญญาของผู้ชายที่ต้องสูญเสียประเทศพวกนั้นอย่างมาก
กงชิงวี่มองดูอันหลิงหยุนครู่หนึ่ง: “ข้าเพียงแค่กำหนดขึ้นมาเท่านั้น พวกเขาจะเป็นอย่างไร ข้าจะรู้ได้อย่างไร?”
“……ก็หมายความว่า เพียงแค่ประกาศออกไปก่อน อย่าให้เอิกเกริกเกินไปก็พอ?”
“อันที่จริงพวกเขาก็สามารถเป็นเขยแต่งเข้ามาได้ อย่างไรก็เป็นชนชาติอื่น หากต้องการแต่งเมียให้ได้ ก็มากันทั้งครอบครัว เพียงแต่ผู้ชายให้กำเนิดลูกแล้ว จะต้องใช้นามสกุลตามแม่”
“……” อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่ด้วยความกลัดกลุ้มครู่หนึ่ง: “คูเมืองหกแห่งของหนานอี้ ยังจะมีผู้หญิงของประเทศต้าเหลียงที่ไหนกัน เกรงว่าคงจะเป็นผู้หญิงของพวกเขาทั้งนั้น ผู้หญิงเหล่านี้ต้องแต่งงานกับผู้ชายของเรา เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่มีที่ที่จะสามารถเป็นเขยแต่งเข้าไปได้สิ”
“ทุกอย่างล้วนแต่เป็นเรื่องชั่วคราว ตอนนี้พวกเขาหนึ่งครอบครัวสามชีวิต ห้าชีวิต ก็ล้วนแต่งงานกับคนกันเองเท่านั้นไม่ใช่หรือ แผนการนี้หวังเพียงแค่ให้ทั้งสองประเทศสามารถรวมเข้าด้วยกันโดยเร็วที่สุด ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสอบเข้ารับราชการของที่นี่ ปล่อยนโยบายเสรีอย่างชัดเจน พวกเขาสามารถไปยังประเทศต้าเหลียงได้ เช่นนั้นก็สามารถแต่งเมียได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“ท่านอ๋อง ท่านจะให้พวกเขาเป็นเขยแต่งเข้ามา พวกเขายินยอมหรือ?”
“หากเป็นข้า ข้าอาจจะยินยอมก็ได้”
อันหลิงหยุนมองดูกงชิงวี่ ไม่เชื่อคำพูดของเขา แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับเขาอีก เพียงแค่มองดูเขาเท่านั้น
ผัวเมียพักผ่อน เช้าวันรุ่งขึ้นก็เตรียมตัวกลับเมืองหลวงของประเทศต้าเหลียงแล้ว ก่อนจะออกเดินทางอันหลิงหยุนได้จัดงานเลี้ยงให้กับฮั๋วฉิงและคนอื่นๆ
ระยะนี้ฮั๋วฉิงไม่ค่อยจะมองหน้าอันหลิงหยุนเท่าไหร่ เหมือนกับว่าเห็นนางแล้วก็รู้สึกร้อนตัว อันหลิงหยุนก็พอจะได้ยินมาบ้าง ฮั๋วฉิงกับหมอกุ่ยได้หมั้นหมายกันแล้ว เดิมทีหมอกุ่ยต้องกลับไปแล้ว อย่างน้อยก็ต้องตามนางกลับไป อย่างไรเสียหมอกุ่ยก็เห็นทักษะทางการแพทย์สำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด
แต่ครั้งนี้หมอกุ่ยวางแผนจะอยู่ที่นี่ต่อ อยู่กับฮั๋วฉิง
ยอมทิ้งสิ่งที่สำคัญที่สุดไป และเลือกคนอีกคนหนึ่ง รู้ได้เลยว่าคนคนนี้ สำคัญมากขนาดไหน
อันหลิงหยุนดูออก หมอกุ่ยให้ความสำคัญกับฮั๋วฉิงอย่างมาก
กินข้าววันนี้ หมอกุ่ยนั่งอยู่ข้างกายฮั๋วฉิง คอยคีบอาหารให้ฮั๋วฉิงอย่างต่อเนื่อง
หลังจากกินข้าวแล้วอันหลิงหยุนก็ออกไป อากาศเย็นลงเล็กน้อย
ทางด้านหนานอี้ไม่มีหิมะตก สภาพอากาศเป็นแบบไม่อุ่นไม่ร้อนอยู่ตลอด หนาวก็หนาวไม่เท่าประเทศต้าเหลียงอย่างนั้น
หมอกุ่ยออกมาจากข้างใน อันหลิงหยุนหันกลับไปมองอยู่ครู่หนึ่ง ไม่เห็นฮั๋วฉิง
“มีธุระ?”
“อาจารย์” เวลานี้หมอกุ่ยรู้สึกผิดเล็กน้อย เดินไปหยุดอยู่ข้างกายอันหลิงหยุน
“เรื่องอะไร พูดมาเถอะ”
“ก่อนหน้านั้นฉิงเอ๋อถูกพิษกู๋ ข้าเอาหนอนพิษกู๋ออกมา แต่ว่าเหลือรอยแผลเป็นทิ้งเอาไว้ ข้าลองมาหลายวิธีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถลบเลือนรอยแผลเป็นทิ้งไปได้ ตอนนี้ตรงรอยแผลดูน่าเกลียดเล็กน้อย ก็ต้องโทษที่ข้าเย็บแผลได้ไม่ดี นางใช้เหตุผลนี้ปฏิเสธการแต่งงาน ขออาจารย์ได้โปรดช่วยข้าด้วย”
อันหลิงหยุนหันไปมองหมอกุ่ย ก็เป็นผู้ชายที่อายุสามสิบแล้ว นางเป็นแค่สาวน้อยอายุสิบกว่ายี่สิบคนหนึ่ง เขากลับเคารพนบน้อมอย่างมาก ก็เพียงพอที่จะเห็นถึงบุคลิกลักษณะนิสัยแล้ว
อันหลิงหยุนถาม: “แผลเป็นนั่นน่าเกลียดมากหรือ?”
หมอกุ่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “สำหรับผู้หญิงแล้วมันไม่น่าดูจริงๆ หนอนพิษในตอนนั้นใหญ่เท่าฝ่ามือข้า และฝังตัวอยู่ข้างใน หากเป็นแค่รูเล็กๆ กลัวจะหนีไป จึงใช้เข็มตรึงทั้งสองข้างเอาไว้ก่อน กรีดเปิดบาดแผลจากบนลงล่างแผลหนึ่ง สั้นยาวประมาณเท่าฝ่ามือ เดิมทีไม่ได้คำนึงถึงตรงนี้ ตอนนี้น่าเกลียดมากจริงๆ ดูเหมือนกับตะขาบตัวใหญ่ตัวหนึ่ง
ข้าไม่ใส่ใจหรอก แต่ว่านางใส่ใจ”
“ให้ข้าดูหน่อย” อันหลิงหยุนหันหลังตามหมอกุ่ยไปดูฮั๋วฉิง ฮั๋วฉิงกำลังเหม่อลอยอยู่ในเรือน เห็นอันหลิงหยุนกับหมอกุ่ย ลุกยืนขึ้นมา
“เจ้ามาได้อย่างไร?” ฮั๋วฉิงไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ว่านางจะชอบหมอกุ่ย ยังถึงขั้นพูดคุยถึงเรื่องแต่งงานได้
แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางก็ไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรดี
อันหลิงหยุนเข้าประตูก็ไปนั่งลง: “ได้ยินมาจากหมอกุ่ยว่าตรงหน้าอกของเจ้ามีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดมาก ข้าลองตรวจดูให้เจ้า”
“ให้เขาปากมาก” ฮั๋วฉิงมองหมอกุ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ครู่หนึ่ง หมอกุ่ยก้มหน้าไม่กล้าสบตาแล้ว ท่าทางแบบที่หนูเจอกับแมว ทำให้อันหลิงหยุนยิ้มออกมา
อันหลิงหยุนกล่าวว่า: “เจ้าเร็วๆหน่อย ข้ายังมีธุระ อีกเดี๋ยวท่านอ๋องก็จะหาข้าอีกแล้ว”
ฮั๋วฉิงก็ไม่ใช่คนดัดจริต เดินไปถึงหน้าอันหลิงหยุนกำลังจะถอดเสื้อผ้าออก อันหลิงหยุนตะลึงไปเล็กน้อย มองดูหมอกุ่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างครู่หนึ่ง
คิดในใจ เช่นนี้จะไม่ให้หมอกุ่ยหวั่นไหวได้อย่างไร สุดท้ายเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
“ไม่ต้องแล้ว ข้าจับชีพจรให้เจ้าก็พอแล้ว เจ้านั่งลง”
ฮั๋วฉิงปล่อยมือออก นั่งลงไปแล้วยื่นมือให้กับอันหลิงหยุน: “เจ้ายังมีความสามารถเช่นนี้หรือ?”
ไม่ต้องดูที่บาดแผล ก็สามารถตรวจได้?
“ความสามารถของข้าเยอะอยู่แล้ว เจ้าไม่เข้าใจเอง”
เริ่มต้นสแกน อันหลิงหยุนตรวจสอบเสร็จก็ปล่อยมือออก
หยิบมีดออกมาจากตัว: “หมอกุ่ย เอาถ้วยเล็กมาถ้วยหนึ่ง”
หมอกุ่ยแปลกใจ: “เอาถ้วยมาทำอะไร?”
“เอามา!” อันหลิงหยุนใช้น้ำเสียงออกคำสั่ง หมอกุ่ยรีบเอาไปถ้วยเล็กมาวางลงทันที อันหลิงหยุนกรีดไปที่ข้อมือ เลือดก็ไหลออกมา
ฮั๋วฉิงรีบลุกขึ้นมา อันหลิงหยุนโบกมือไปมา ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องสนใจ
ไม่ช้าเลือดหนึ่งถ้วยก็ไหลออก เห็นได้ชัดว่าอันหลิงหยุนอ่อนแอลงไปเล็กน้อยแล้ว ตอนนี้นางกำลังตั้งครรภ์อยู่ ร่างกายไม่ได้ดีเหมือนแต่ก่อน เลือดหนึ่งถ้วยคือขีดสุดแล้ว
“เจ้าดื่มลงไป” อันหลิงหยุนยื่นถ้วยให้ฮั๋วฉิง ตาทั้งคู่ของฮั๋วฉิงจ้องมองไปที่อันหลิงหยุนโดยตรง
“เจ้าวางใจข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก เจ้าดื่มแล้วก็รู้เอง”
ฮั๋วฉิงส่ายหน้า: “ข้าไม่ดื่ม”
“เจ้าไม่ดื่ม มันจะแข็งตัวอย่างรวดเร็ว ก็จะสูญเปล่าไป สูญเปล่าไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”
หมอกุ่ยยกถ้วยขึ้นมาทันที เดินไปข้างหน้าฮั๋วฉิง ยกมือขึ้นมาสกัดจุดฮั๋วฉิง นิสัยของฮั๋วฉิงหมอกุ๋ยรู้ดี อย่าให้ความหวังดีของอันหลิงหยุนต้องสูญเปล่า
ฮั๋วฉิงจ้องมองหมอกุ๋ยอย่างเอาเป็นเอาตาย แววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร
หมอกุ่ยกรอกเลือดใส่ปากนาง ไม่ได้คลายจุดให้ในทันที อันหลิงหยุนกล่าวว่า: “เจ้าลองเปิดเสื้อผ้านางออกดู”