บทที่ 897 ฮ่องเต้ชิงหยินบ้าอำนาจ
ฮ่องเต้ชิงหยินมองหยุนโล๋ชวน และพูดอย่างเป็นห่วง “เจ้านั่งลงก่อน มันเหนื่อย”
ฮ่องเต้ชิงหยินลุกขึ้นและพยุงหยุนโล๋ชวนให้นั่งลง หยุนโล๋ชวนพูดว่า “เรื่องในวันนี้ ไม่ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นใครก็ตาม จากความคิดของข้า ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ บางทีขุนนางบางท่านตรงนี้อาจไม่เคยสู้รบ และไม่มีสายเลือดนักรบ
แต่ข้าใช่ ในทัศนคติของข้า ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ นี่คือตัวตนของข้า
กองทัพ 700,000คนของพวกเขารุกรานเข้ามาชายแดน คนที่พวกเขาข่มเหงคือผู้หญิงคนหนึ่ง?
คนที่พวกเขากำลังข่มเหงคือประชาชนประเทศต้าเหลียง และเหยียดหยามผู้ชายที่แข็งแกร่งของประเทศต้าเหลียง
ระหว่างสองประเทศ ละแวกใกล้เคียง ถ้าไปมาหาสู่กัน เป็นธรรมดาที่จะรักใคร่ร้อยปี ผู้ชายสองคนสามารถเป็นพี่ชายน้องชายได้ ผู้หญิงสองคนสามารถเป็นพี่สาวน้องสาวกันได้ และชายหญิงก็สามารถแต่งงานกันได้ นั่นเป็นสิ่งที่มีความสุข
แต่ถ้าวันนี้เจ้าแย่งแตงโมไปจากข้า พรุ่งนี้เจ้าขโมยแกะของข้าไปหนึ่งตัว มะรืนเจ้าชอบภรรยาของข้า ลวนลามภรรยาของข้าในขณะที่ข้าไม่อยู่
ขอถาม จะทนได้ไหม?
วันนี้ เป็นเช่นนี้ ถ้าพวกข้าขี้ขลาด พวกเขาก็จะยิ่งหยิ่งผยอง
ประเทศต้าเหลียงตั้งอยู่ทางตอนเหนือ และมีฐานะยากจนกว่าเล็กน้อย พวกเขามีคนจำนวนมากมีพลังแข็งแกร่ง ประเทศร่ำรวยและแข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาจึงหยิ่งผยองมาก
กองทัพ 700,000 คนที่มา ต้องการทำลายล้างประเทศต้าเหลียง
ความเกลียดชังจากการแย่งชิงภรรยา ความเกลียดชังจากการทำลายล้างประเทศ
พวกข้าจะอดทนต่อไปได้ไง?
ถ้าพระชายาเสียนชอบหนานอี้จริงๆ ก็ไปเถอะ ข้ายินดีที่จะขึ้นภูเขาข้ามแม่น้ำเพื่อส่งนางไปที่นั่น แต่ตอนนี้พระชายาเสียนมีสามี และลูกกลุ่มหนึ่งแล้ว
หนานอี้ออกรบโดยไม่มีเหตุผล!
ใช้ผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเครื่องมือ ใช้คนเยอะมารังแกประเทศต้าเหลียง
ผู้ชายประเทศต้าเหลียงของข้าตายหมดแล้วหรือ?
ในประเทศของข้าแม้ว่าผู้ชายจะตายหมด ก็ยังมีผู้หญิง แม้ว่าผู้หญิงก็ตายหมด ก็ยังมีคนแก่และเด็ก
แม้ว่าประเทศจะพังพินาศและครอบครัวแตกสลาย ดินแดนนี้แม้มีเลือดไหลเป็นสายน้ำ แต่ยังมีจิตวิญญาณองอาจนับไม่ถ้วน พวกเขายังสามารถทนต่อไปได้ไหม?”
หยุนโล๋ชวนมองไปที่ฮ่องเต้ชิงหยิน “ฮ่องเต้ หม่อมฉันรู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร หากเกิดสงครามขึ้น มันจะทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอำนาจของประเทศต้าเหลียงด้อยกว่าเขา หากประเฟิ่งได้เข้ามาแทรกแซง ประเทศต้าเหลียงจะไม่มีทางรอดแน่นอน”
ฮ่องเต้ชิงหยินจับมือหยุนโล๋ชวน “สิ่งที่ชวนเอ๋อพูดเป็นความจริงอย่างยิ่ง นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด ข้าได้สั่งให้คนคำนวณแล้ว มีเงินและเสบียงอาหารเท่าไหร่ที่สามารถใช้ได้ ให้ทหารชายแดนไว้ต้านทานกองทัพ 700,000คน
ชวนเอ๋อ… …ข้าไม่ใช่คนขี้ขลาด แม้ว่าครั้งนี้ประเทศต้องพังพินาศ ข้าก็จะไม่ยอมถดถอย
ข้าเป็นผู้ชาย และพระชายาเสียนเป็นสะใภ้ราชวงศ์ ข้าจะส่งนางไปได้อย่างไร
ถ้าพวกเขาต้องการฮองเฮาของข้า ข้าก็จะต้องให้เหรอ?
บ่อยครั้งที่ราชวงศ์ถูกทำลายล้าง และผู้หญิงจะกลายเป็นของเล่นของศัตรูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ข้าทนไม่ได้ที่จะคิดถึงภาพเหตุการณ์นี้
ถ้าประเทศต้าเหลียงของข้าพังพินาศ เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ ข้าจะฆ่าชวนเอ๋อก่อน แล้วฆ่าตัวตายเพื่อไถ่โทษ และจะไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว
เขาต้องการพระชายาประเทศต้าเหลียง ก็เหมือนให้ข้าถอดเสื้อผ้าจนหมด เพื่อไปประเคนพวกเขา ข้า… …จะไม่ทนแน่นอน!”
ฮ่องเต้และฮองเฮากล่าวเช่นนี้ ไม่มีเหตุผลใดที่ขุนนางด้านล่างจะไม่พูด
ราชครูจุนคุกเข่าลงและพูดว่า “ฮ่องเต้ กองกำลัง 700,000 คนของหนานอี้รุกรานเข้ามาชายแดน กระหม่อมคิดว่า พวกเขาแค่ใช้พระชายาเสียนเป็นข้ออ้าง แม้ว่าจะตกลงส่งคนกลับไป พวกเขาก็จะรบเหมือนกัน พวกเขาจะทำเหยียดหยามพระชายาเสียน จากนั้นก็เข้าโจมตีอีกครั้ง
กระหม่อมคิดว่า สู้รบไปเลยดีกว่า!”
“ฮ่องเต้ กระหม่อมก็สนับสนุนการสู้รบ!”
ขุนนางทั้งหลายพากันคุกเข่าลงทีละคน ฮ่องเต้ชิงหยินมองไปที่กงชิงวี่ “อ๋องเซ่เจิ้ง(อ๋องที่ทำหน้าที่สำเร็จราชการแทน)อยู่ที่ไหน?”
กงชิงวี่เงยหน้าขึ้น “ข้าจะไม่ยอมมอบหลิงหยุนให้พวกเขา หลิงหยุนเป็นภรรยาของข้า ข้าจะไม่ส่งภรรยาให้กับชายอื่น แม้ว่าข้าจะต้องตาย ก็จะตายพร้อมกับหลิงหยุน”
“เอาล่ะ ในเมือสิ่งที่พวกเขาต้องการคือพระชายาเสียน วันนี้ข้าจะมอบตราผนึกของกองทัพทั้งสาม อ๋องเซ่เจิ้งรับราชโองการ”
กงชิงวี่รับราชโองการ ฮ่องเต้ชิงหยินกล่าว “ทุกเรื่องต้องมีเหตุผล ปัญหาเกิดจากหนานอี้เป็นผู้ก่อกวน ดินแดนที่ไม่อุดมสมบูรณ์ของประเทศต้าเหลียงไม่ผิด แต่ไม่ควรได้รับการเหยียดหยามเช่นนี้
สงครามครั้งนี้ข้าต้องสู้ และต่อสู้อย่างสง่า ถ้าไม่สามารถเอาชนะก็ตายในสนามรบ แต่ถ้าชนะ รายได้ภาษีสิบปีที่จะให้ประเทศต้าเหลียง ทุกปีหนานอี้จะต้องมอบทองคำหนึ่งหมื่นชั่ง ข้าวสามพันกระสอบหมี่ข้าวถ้วยหนึ่งและเมืองสามแห่ง
ถ้าแพ้ ข้ากับฮองเฮาจะฆ่าตัวตาย”
“ขอรับคำสั่ง”
กงชิงวี่ลุกขึ้น ฮ่องเต้ชิงหยินกล่าวว่า “จะให้เงินสามสิบล้านตำลึง เป็นเงินส่วนตัวของข้าเงินกองคลังยังไม่ต้องใช้ ตอนนี้พระชายาเสียนมีทรัพย์สินร่ำรวยกว่าข้า ห้าสิบล้านตำลึง เอาออกมาได้อยู่แล้ว
สำหรับเสื้อผ้าและอุปกรณ์ทั้งหมด ให้จวนแม่ทัพเป็นคนจัดการ ฝีมือของแม่นางหยุนจิ่นข้ารู้ดี… …ใช่สิ ตอนนี้ก็เป็นฮูหยินแม่ทัพแล้ว”
ขุนนางต่างลังเล ฮ่องเต้ชิงหยินกล่าวว่า ไม่ต้องกังวล ชนะแน่นอน เมื่อชนะ ภาษีสิบปี ข้าจะเพิ่มเงินเดือนให้พวกเจ้า”
เรื่องนี้ฮ่องเต้เป็นคนเสนอ และแพร่กระจายไปทั่ว
และผู้ที่แพร่กระจายข่าวลือก็ถูกจับได้ กลับเป็นเสินหยุนเอ๋อ
เสินเฉิงเสี้ยงโกรธเสินหยุนเอ๋อมาก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด จับเสินหยุนเอ๋อเพื่อนำไปเซ่นไหว้บริเวณที่ปักธงของกองทัพสาม
ถึงเวลาตายเสินหยุนเอ๋อก็ไม่รู้ นางไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเสินฮูหยิน และก็ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของเสินเฉิงเสี้ยง นางเป็นเพียงลูกสาวของสาวใช้ที่แอบมีความสัมพันธ์กับคนอื่น
และฮูหยินเฉิงเสี้ยงก็สงสัยมาตลอดว่านางเป็นลูกสาวของเสินเฉิงเสี้ยง และตอนนี้เสินเฉิงเสี้ยงก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์แล้ว
เสินหยุนเจ๋และเสินหยุนเลี่ยกลายเป็นผู้บัญชาการแนวหน้า ภายในสามวันกงชิงวี่สามารถวางแผนปรับเปลี่ยนได้สำเร็จ กองทัพใหญ่ก็เริ่มออกเดินทาง
ก่อนออกเดินทาง กงชิงวี่ได้ไปหาอันหลิงหยุน และทั้งสองกล่าวคำอำลากันในช่วงเวลาสั้นๆ และอันหลิงหยุนเฝ้ามองกงชิงวี่จากไป
ก่อนจากด้วยความอาลัยอาวรณ์ ม้าของกงชิงวี่ไม่ยอมไป อันหลิงหยุนยืนอยู่ที่นั่น โดยไม่ขยับ
ขณะที่ผู้คนเดินออกไปไกล ฮ่องเต้ชิงหยินและหยุนโล๋ชวนก็ออกมา
“ตอนนี้เจ้าไม่สะดวก รอเขาได้ชัยชนะกลับมา พวกเจ้าก็จะได้อยู่ด้วยกัน”ในขณะที่หยุนโล๋ชวนพูด
อันหลิงหยุนมองไป “หม่อมฉันรู้ หม่อมฉันจะไม่ยอมให้เขาแพ้ ฮ่องเต้ หม่อมฉันต้องการคลังอาวุธของท่าน และต้องการช่างตีเหล็กสามพันคน ทหารหนึ่งหมื่นคน”
“ทำไมมากขนาดนี้?”
ฮ่องเต้ชิงหยินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
หยุนโล๋ชวนกล่าวว่า “ตำหนักกั๋วกงสามารถคัดคนเหล่านี้ออกมาได้”
“สตรีไม่ได้ ใช้ไม่ได้ ถ้าฮ่องเต้ไม่มี หม่อมฉันจะไปหาที่จวนแม่ทัพ”
“ข้ามีสามพันคน ช่างตีเหล็กให้เจ้า ในคลังอาวุธมีห้าพันคน ไม่ถึงหนึ่งหมื่น”
“ถ้าอย่างนั้นก็เกือบแล้ว เรียกคนในตำหนักกั๋วกงออกมา หม่อมฉันจะคัดเลือก”
“อืม”
หยุนโล๋ชวนเป็นคนใจกว้าง ให้ทั้งคนให้ทั้งอำนาจ โดยไม่ถามว่าทำไม
สองสามีภรรยาไปแล้ว ฮ่องเต้ชิงหยินถามว่า “ไม่ถามดูว่าทำไม”
“ถามอะไร สามีของเขากำลังสู้รบอยู่ข้างนอก นางเป็นหญิงมีครรภ์ เพื่อปกป้องสามีของนางไม่ใช่หรือ? ไม่จำเป็นต้องถาม?” หยุนโล๋ชวนชำเลืองมองไปที่ฮ่องเต้ชิงหยินอย่างไม่สบอารมณ์ พิงในอ้อมอกเขา “ฮ่องเต้ หม่อมฉันคิดไม่ถึง ว่าท่านจะบ้าอำนาจได้ขนาดนี้”
ฮ่องเต้ชิงหยินก้มมองหยุนโล๋ชวนที่อ้วนขึ้นมากอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ข้าแค่คิดถึงใจเขาใจเรา ถ้าหากหนานอี้ต้องการชวนเอ๋อของข้า ข้าคงส่งมอบประเทศให้เขาดีกว่า!”
“นั่นมันไร้ความสามารถจริงๆ เป็นฮ่องเต้ดี คือการปกป้องประเทศต้าเหลียง และใครก็ตามในประเทศต้าเหลียงก็เหมือนลูกข้า และห้ามใครมารังแก!”
หยุนโล๋ชวนจูบฮ่องเต้ชิงหยิน ฮ่องเต้ชิงหยินก็ก้มศีรษะลง และจูบเขาเป็นเวลานาน