เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… – ตอนที่ 628

ตอนที่ 628

บทที่ 628 เย่โม่เซินมาแล้ว

จากนั้นเย่หลิ่นหานจึงยอมถอยเพื่อใกล้ชิดกับหล่อนง่ายขึ้น จนทำให้หานมู่จื่อถึงกับพูดอะไรไม่ออก

เพราะกลัวจะพูดถึงประเด็นเรื่องอ่อนไหว เย่หลิ่นหานจึงหลีกเลี่ยงการพูดคุยถึงเรื่องจีบหล่อน กลับถามถึงเรื่องราวชีวิตการเป็นดีไซน์เนอร์ของหล่อน

ต้องยอมรับว่า เย่หลิ่นหานเป็นผู้ชายที่พูดเก่งมาก และยังมีความเข้าใจทางด้านอารมณ์สูง รู้ว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด

ถ้าอยู่กับคนแบบนี้คงจะทำให้รู้สึกสบายใจมาก เพราะเขาจะคอยคิดแทนเธอได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะคบเป็นแฟนหรือแต่งงานอยู่ด้วยกัน

เพียงแต่น่าเสียดายที่หานมู่จื่อไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นกับเขา ดังนั้นแม้ว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้สุขสบายมากเพียงไหน แต่ชีวิตก็คงไร้รสชาติและสีสัน

หล่อนอยากบอกเย่หลิ่นหานมาก ไม่อยากให้เขาต้องเสียแรงเปล่า ตัวเองกับเขาไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมื่อเห็นท่าทางของเขาในวันนี้ กลับรู้สึกว่าหากตัวเองจะบอกเขาไปตรงๆ เขาคงไม่มีทางยอมแพ้แน่นอน

เมื่อคิดถึงตอนนี้ หานมู่จื่อก้มหน้าลง แอบถอนหายใจ

เมื่อตอนนั้น หล่อนมีอะไรดึงดูดเขามากขนาดนั้นเหรอ จึงทำให้เขาหลงใหลตัวเองได้นานขนาดนี้?

*

หลังจากที่หานมู่จื่อกับเย่หลิ่นหานออกไปไม่นาน รถสีดำคันหนึ่งก็ขับมาจอดอยู่ด้านล่างของบริษัท

เซียวซู่เหลือบมองเย่โม่เซินผ่านกระจกหลัง

“คุณชายเย่ คุณจะไม่กลับไปพักจริงเหรอ?”

เย่โม่เซินเงยหน้าขึ้น กวาดสายตาอันโหดเหี้ยมมองไปรอบๆด้วยความน่ากลัว แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่กลับปกปิดเสน่ห์อันหล่อเท่ห์ของเขาไว้ไม่ได้เลย

“พูดอะไรไร้สาระ?” เย่โม่เซินพูดตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชา คิดในใจว่า ไม่เจอสาวคนรักมานานแล้ว เขาจึงตัดสินใจอย่างกะทันหัน เพื่อที่จะเซอร์ไพรส์หล่อน

พรากจากหล่อนไปนานหลายวัน ถ้าเจอเขา…หล่อนจะมีปฏิกิริยาเช่นไร?

เซียวซู่ต้องยอมจำนนหุบปากไป กลางดึกขนาดนี้เซียวซู่ต้องจองตั๋วเครื่องบินขากลับก่อนกำหนดให้เขาอย่างกะทันหัน เมื่อมาถึง ก็ตรงไปหาหญิงสาวที่บริษัททันที

หญิงสาวคนนั้น มีเสน่ห์ดึงดูดมากขนาดนี้เชียวเหรอ?

ครุ่นคิดไปมา ทันใดนั้นเซียวซู่นึกถึงหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมา เขามองเหม่อลอยออกไปด้านนอก ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนั้นยังโกรธเขาอยู่รึเปล่า

เย่โม่เซินเดินเข้าไปในลิฟต์ บังเอิญเจอกับเยาเยาที่จะออกไปซื้อของด้านนอกพอดี

เมื่อเยาเยาจำได้ว่าหานมู่จื่อออกไปข้างนอกกับเย่หลิ่นหาน หล่อนรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที เพราะในสายตาของหล่อนรู้สึกว่าหานมู่จื่อกับเย่โม่เซินเหมาะสมกัน เมื่อก่อนหล่อนเองก็เคยเห็นเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด

แต่จู่ๆประธานหานแห่งบริษัทแอลทีก็โผล่มา สายตาที่เขามองหานมู่จื่อเต็มไปด้วยความรักอย่างชัดเจน ไม่แม้แต่จะปิดบังไว้ได้

แต่ตอนนี้เย่โม่เซินกลับมาที่บริษัท คงมาหาหานมู่จื่อ

เมื่อเห็นว่าเย่โม่เซินกำลังเตรียมขึ้นลิฟต์ไปด้านบน เยาเยาอดไม่ได้ที่จะเรียกเขา : “คะ…คุณชายเย่!”

เย่โม่เซินหันมามองด้วยสายตาอันเยือกเย็น รู้ว่าหล่อนเป็นพนักงานของบริษัทนี้ จึงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “มีธุระ?”

“ค่ะ!” เยาเยาพยักหน้าลง ตื่นเต้นจนกัดฟันกรามของตัวเองแน่น “คุณชายเย่มาหามู่จื่อรึเปล่าคะ? หล่อน…หล่อนไม่อยู่ที่บริษัทนะคะ”

ไม่อยู่ที่บริษัท?

เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้น เมื่อได้ยินข่าวคราวที่เกี่ยวกับหานมู่จื่อ สายตาของเขาหยุดนิ่งไปที่เยาเยาด้วยความตั้งใจทันที

เพียงแต่สายตาอันแสนเยือกเย็นนั้น ไม่มีความอ่อนโยนหลงเหลืออยู่เลย เยาเยาตัวสั่นเล็กน้อย

“บอกผมได้ไหม ว่าหล่อนไปไหน?”

เยาเยาส่ายหน้า : “อันที่จริง…ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่หล่อนออกไปคุยเรื่องงานแน่นอนค่ะ”

คุยงานเหรอ?

น่าเสียดายจริงๆ เย่โม่เซินเม้มปาก ครุ่นคิดอยู่สักพัก ไม่พูดอะไรต่อ

“หรือว่า…คุณชายเย่ไปรอหล่อนที่ห้องทำงานก่อนไหมคะ? ฉันคิดว่าหล่อนน่าจะใกล้กลับมาแล้ว”

รอหล่อนเหรอ?

เย่โม่เซินขมวดคิ้วแน่น เขาไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืนจนถึงตอนนี้ เพื่อจะรีบมาเจอหล่อน

ถ้ายังไม่ได้เจอก็กลับแล้ว คงน่าเสียดายแย่

“อื้ม” เย่โม่เซินตอบกลับ เยาเยาจึงช่วยกดลิฟต์ให้เขา

แต่อีกด้านหนึ่ง เย่หลิ่นหานกับหานมู่จื่อกำลังพูดคุยกันอยู่ อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว เย่หลิ่นหานดูแลหล่อนดีเป็นพิเศษ คอยตักอาหารให้หล่อนตลอด หานมู่จื่อทำได้เพียงเอ่ยปากบอกเขา : “ฉันทานเยอะขนาดนั้นไม่ไหวหรอกค่ะ คุณทานของคุณเถอะ”

“จะรีบร้อนทำไมกัน? ถ้าผมจำไม่ผิด นี่ยังห่างกับเวลาเข้างานของคุณอีกตั้งเยอะ”

“ค่ะ” หานมู่จื่อพยักหน้า “แต่คุณเห็นขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าของฉันไหม? เมื่อคืนฉันแทบไม่ได้นอน ฉันอยากกลับไปนอนพักผ่อน”

หล่อนพูดอย่างตรงไปตรงมา

เย่หลิ่นหานตกใจตะลึง จากนั้นจึงหัวเราะกลบเกลื่อน

“ผมเลินเล่อไปเอง มัวแต่คิดว่าอยากทานอาหารกับคุณ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าคุณทานอิ่มแล้ว งั้นผมไปส่งคุณกลับไปพักผ่อนนะครับ”

หานมู่จื่อคิดไปมา จากนั้นพูดขึ้น : “มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ไม่ต้องไปส่งฉันหรอกค่ะ ฉันโบกรถกลับไปเองค่ะ”

หล่อนหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดปาก เห็นกระดาษทิชชู่เต็มไปด้วยสีแดง หล่อนคิดในใจว่าลิปสติกคงหลุดออกหมดแล้ว ดังนั้นจึงพูดขึ้น: “ประธานหานกลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน”

หานมู่จื่อเดินไปห้องน้ำ หลังจากล้างมือเสร็จ ก็หยิบลิปสติกและตลับแป้งออกมา เติมหน้าด้วยความตั้งใจ

เรื่องการแต่งงหน้า ถ้าไม่แต่งก็คือไม่แต่ง ถ้าแต่งก็ต้องแต่งให้ดี

โดยเฉพาะสีของลิปสติกต้องเป็นสีสด หลังจากทานข้าวเสร็จสีของลิปสติกจะหลุดออกทำให้สีไม่สมดุลและจะดูไม่สวย

หลังจากที่หานมู่จื่อแต่งหน้าเสร็จ เตรียมตัวจะเดินไปจ่ายเงินที่หน้าเคาน์เตอร์ แต่กลับรู้สึกแปลกใจที่เย่หลิ่นหานยังรอหล่อนอยู่ตรงนั้น

“ทำไมคุณ…”

เมื่อได้ยินเสียง เย่หลิ่นหานจึงหันหลังกลับมา เห็นหล่อนเติมหน้าเสร็จแล้ว สีปากของหล่อนเหมือนสีของบ๊วย คงเป็นเพราะเพิ่งแต่งเสร็จ จึงทำให้สีของปากดูสดใสขึ้นมาก

เหมือนผลบ๊วยที่สุกได้ที่บนต้นไม้

มองดูอยู่สักพัก เย่หลิ่นหานก็หลบสายตาไป จากนั้นอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปลูบผมของหานมู่จื่อ

“สาวน้อย ผมจะกลับไปก่อนได้ยังไงล่ะ ให้ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่เหรอ?”

หานมู่จื่อ: “…”

หล่อนคิดไม่ถึงว่าเย่หลิ่นหานจะกล้าลูบหัวหล่อนต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ ดังนั้นหล่อนจึงไม่ทันหลบตัวออก เมื่อหล่อนตั้งตัวขึ้นมาได้กำลังจะหลีกตัวหนี เย่หลิ่นหานกลับเก็บมือไปก่อนแล้ว

“ไปกันเถอะ ง่วงแล้วไม่ใช่เหรอ? ผมส่งคุณกลับไปพักผ่อน”

เมื่อเห็นหล่อนยืนตกตะลึงอยู่ที่เดิม เย่หลิ่นหานก็เดินเข้าไป ตั้งใจจะไปจูงมือของหล่อน

หานมู่จื่อเดินถอยหลังออกมาทันที เลี่ยงไม่ให้เย่หลิ่นหานแตะต้องตัว “ฉะ…ฉันเดินเองได้”

จากนั้นเดินออกจากร้านอาหารอย่างรวดเร็ว

เมื่อมองไปที่แผ่นหลังอันเรียวบางของหล่อนสองวินาที เย่หลิ่นหานก็รีบเดินตามไป

ระหว่างทางกลับเต็มไปด้วยบรรยากาศเงียบสงัด หานมู่จื่อหลับตาตลอดทาง ดูอ่อนล้ามาก เย่หลิ่นหานดูใส่ใจหล่อนมากจึงไม่ได้รบกวนหล่อน

เมื่อใกล้ถึงบริษัท ทันใดนั้นเย่หลิ่นหานเห็นรถที่จอดอยู่ชั้นล่างของบริษัท ป้ายทะเบียนรถที่คุ้นเคยทำให้เขาหรี่ตาลองมอง และค่อยๆปรับความเร็วลดลง

ไปทำงาน กลับมาเร็วขนาดนี้?

ตามตารางงานของเขาต้องกลับพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ?

อันที่จริงหานมู่จื่อไม่ได้นอน เพียงแค่ปิดตาลงแสร้งทำเป็นหลับ เพราะถ้าลืมตาคงทำตัวไม่ถูก แต่หล่อนก็ไม่สามารถหลับบนรถของเย่หลิ่นหานได้อย่างสบายใจ

เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงบริษัทแล้ว หานมู่จื่อจึงเก็บของ เตรียมจะลงจากรถ

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

Status: Ongoing

ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอํานาจ ใหญ่ “ฉันเปโม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมที่คิดว่า งานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไป ด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเปโม่เซิน ด้วยฝ่ามือเล็กๆ “พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร ?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท