บทที่1003 ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนาย
“ขอบคุณ” หานมู่จื่อรับน้ำอุ่นไปดื่มอยู่หลายอึก
เสียงที่ดังขึ้นมาในสนามบินเป็นเสียงหวานที่บ่งบอกถึงประเทศจีน ไม่เหมือนกับที่ต่างประเทศ ที่แทบจะทุกเครื่องหมายล้วนใช้เป็นภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วจะไปไม่นาน แต่กลับมาครั้งนี้ หานมู่จื่อก็กลับมีความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นการจากไปเป็นเวลานานครั้งนึง
“ครั้งนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ก่อนหน้านี้ตอนที่เรานั่งเครื่องบินกันไม่เห็นเธอจะเป็นอะไรมากขนาดนี้เลยนี่?” เสี่ยวเหยียนเป็นห่วงอย่างมาก มองหานมู่จื่อไปด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
ส่วนเย่โม่เซินที่นั่งอยู่ข้างๆ ร่างของหานมู่จื่อ ก็ได้ยื่นมือออกมาจัดผมยุ่งปรกหน้าให้กับเธอด้วยสีหน้าสงบเยือกเย็น จากนั้นก็ถอดเสื้อโค้ทออกมาคลุมร่างของหานมู่จื่อ
รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น หานมู่จื่อหันกลับไปยิ้มให้กับเย่โม่เซิน จากนั้นก็ได้ตอบคำถามของเสี่ยวเหยียน
“ใช่ เมื่อก่อนก็ยังรู้สึกดีๆอยู่ๆเลย แต่ครั้งนี้จู่ๆก็ไม่ค่อยสบายขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าเด็กน้อยซนเกินไปล่ะมั้ง”
พูดจบ เธอก็ลูบลงไปบนท้องน้อยของตัวเองเบาๆ ท้องน้อยให้ความรู้สึกที่แปลกๆออกมา คาดว่าคงจะเกี่ยวกับที่ลูกน้อยในท้องของเธอกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยง เย่โม่เซินขมวดคิ้วออกมา “กินอะไรก่อนสักหน่อย แล้วค่อยไปตรวจดูที่โรงพยาบาล”
“ไม่ต้องหรอก” หานมู่จื่อส่ายหน้าปฏิเสธออกมา “ตอนนี้ฉันดีขึ้นมากแล้ว ก็แค่หิวมากไปเอง”
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากสนามบิน เลือกร้านอาหารเพื่อกินข้าวกันมาร้านนึง รอจนหานมู่จื่อดื่มซุปร้อนๆเสร็จแล้ว ก็รู้สึกสบายตัวขึ้นมามากขึ้น ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับออกไป เธอก็รู้สึกว่าหนังตาเริ่มง่วงจนลืมตาไม่ขึ้นเสียแล้ว
และในเวลานี้เองเย่โม่เซินที่อยู่ข้างๆจู่ๆก็เอ่ยถามออกมาเบาๆ “คุณกลับมาจะไม่บอกพี่ชายของคุณเลยหรอ?”
พี่ชายของเธอ?
หานมู่จื่อตัวสั่นได้สติกลับมา “ซวยแล้ว ตอนแรกฉันก็ไม่คิดจะบอกเขาหรอก เพราะเรื่องที่บริษัทของเขาก็เยอะแล้ว ก็เลยอยากให้เรามาถึงก่อนแล้วค่อยบอกเขา แต่ผลก็คือฉันลืมไปเสียได้”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นรอให้พวกเรากลับบ้านแล้วค่อยบอกเขาเถอะ”
เย่โม่เซินไปจ่ายเงิน กลับมาก็เห็นหานมู่จื่อฟุบหลับลงไปกับโต๊ะเสียแล้ว
เสี่ยวเหยียนกระตุกริมฝีปากออกมา เอ่ยพูดอธิบายออกมาเบาๆ “คุณชายเย่ มู่จื่อบอกว่าเธอง่วง ฉันยังไม่ทันพูดอะไร เธอก็หลับไปเสียแล้ว ไม่งั้น…”
คำพูดท่อนหลังยังไม่ทันได้พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ได้เก็บมันกลับไปเสียแล้ว
เนื่องจากเธอเห็นเย่โม่เซินประคองร่างหานมู่จื่อขึ้นมาแล้วสอดมือเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมา จากนั้นก็มองมาทางเสี่ยวเหยียน
เสี่ยวเหยียนรีบเอ่ยออกไปทันที “คุณชายเย่วางใจได้เลย คุณพามู่จื่อกลับไปพักก่อนเถอะ พวกเรากินข้าวกันแล้วเดี๋ยวก็กลับกันเองค่ะ”
ถึงยังไงก็ไม่ใช่คนท้อง แม้ว่าจะเหนื่อยแต่ก็ยังพอทนไหวอยู่
เย่โม่เซินเม้มริมฝีปาก พยักหน้าเอ่ยเสียงเรียบออกมา “เดี๋ยวให้เซียวซู่ไปส่งเธอกลับบ้าน”
“ค่ะ”
เสี่ยวเหยียนตอบรับออกมาทันที รอจนตอบรับออกไปแล้วก็ได้รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ทำไมเธอถึงต้องให้เซียวซู่ไปส่งด้วย เธอเรียกรถกลับเองก็ได้นี่
หลังจากที่เย่โม่เซินพาหานมู่จื่อออกไปแล้ว ที่โต๊ะอาหารก็เหลือเพียงแค่เซียวซู่กับเสี่ยวเหยียนอยู่เพียงแค่สองคน
เสี่ยวเหยียนกินไปพอประมาณนึงแล้ว พอผ่านไปนาทีกว่าๆ เธอก็ได้วางตะเกียบในมือลง “ฉันกินเสร็จแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อน นายค่อยๆกินล่ะ”
พูดจบ ก็รีบลุกขึ้นลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองเดินออกไป
แต่ใครจะรู้ว่าเซียวซู่ก็ได้ลุกขึ้นตามมาด้วย
“ฉันไปส่ง”
“ไม่ ไม่ต้อง!” เสี่ยวเหยียนโบกมือไปอย่างแรง “นายไม่ต้องไปส่งฉัน ฉันกลับเองได้”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เซียวซู่กลับอดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วออกมา “เสี่ยวเหยียน เธอกำลังหลบหน้าฉัน?”
เสี่ยวเหยียน “…”
อันไหนไม่ควรพูดถึงก็พูดอันนั้นขึ้นมาเลยนะ แต่เสี่ยวเหยียนก็ยังยิ้มแห้งๆปฏิเสธออกไป “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันจะหลบหน้านายได้ไงกัน อีกอย่างฉันจะไปหลบหน้านายไปทำไมกันล่ะ?”
เซียวซู่เดินเข้าไปหาเธอหลายก้าว กลิ่นอายของความเป็นชายโอบล้อมไปรอบๆตัวเธอไปอย่างนี้ เซียวซู่ก้มลงมองมายังใบหน้าขาวเนียนของเธอ
“ใช่ ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเธอต้องหลบหน้าฉันด้วย”
ทันใดนั้นเองเขาก็เข้าประชิดเข้ามา เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าตัวเองเริ่มประหม่าขึ้นมา จึงก้าวถอยหลังไปทันที “นายจะบ้าหรอ ฉันจะไปหลบหน้านายได้ยังไง?”
“งั้นก็ให้ฉันไปส่งเธอกลับไปสิ”
เสี่ยวเหยียน “…”
ว่ากันแล้ว เขาอยากไปส่งเธอกลับไปให้ได้เลยงั้นหรอ?
“ไปกันเถอะ”
เซียวซู่พูดไป ก้าวเข้าไปหิ้วกระเป๋าเดินทางของเธอแล้วเดินออกไป เสี่ยวเหยียนเรียกสติกลับมา ก็รีบก้าวตามออกไป
เซียวซู่เป็นผู้ชาย ในมือหิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบ แต่ก็ไม่ได้ดูกินแรงเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังเดินไปอย่างรวดเร็วอีก เสี่ยวเหยียนเลยต้องวิ่งเหยาะๆไปถึงจะตามเขาทันได้
ในตอนที่เดินออกไปถึงด้านนอกนั้นเอง เสี่ยวเหยียนก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียกเขาเอาไว้
“เซียวซู่ หยุดนะ!”
ฝีเท้าของเซียวซู่หยุดลง หันกลับมามองเธอด้วยสายตาของความสงสัย
“ฉันไม่ต้องการให้นายไปส่งฉัน!” เสี่ยวเหยียนเดินเข้าไปอย่างกระหืดกระหอบ แย่งกระเป๋าเดินทางไปจากมือของเขา พลางเอ่ยออกไปว่า “ฉันมีมือมีเท้า ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้การคมนาคมก็สะดวกสบายเสียขนาดนี้แล้ว ฉันเรียกรถสักคันก็กลับบ้านได้แล้ว ทำไมต้องให้นายไปส่งด้วย? ฉันกลับเองยังสะดวกกว่า ไม่ต้องรบกวนนายหรอก”
“ไม่รบกวนเลย” เซียวซู่เอ่ยด้วยเสียงแหบห้าวออกมา
เสี่ยวเหยียนพูดเสียงดังออกมา “แต่ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนาย!”
เซียวซู่นิ่งอึ้งไป
“นายช่วยเข้าใจที่ฉันพูดหน่อยได้มั้ย? ตอนนี้ความรู้สึกของฉันมันสับสนไปหมด แย่เอามากๆ จากนี้ไปฉันอยากจะปรับตัวเองให้ดีขึ้นสักหน่อย ฉันหวังว่านายจะออกห่างไปจากชีวิตฉันหน่อย พวกเรา…เป็นแค่เพื่อนทั่วไปกันเท่านั้นนะ”
เพื่อนทั่วไป…
ทั้งๆที่เป็นแค่คำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่กลับทำเอาเซียวซู่เหมือนกับตกเข้าไปในหุบเหวลึก ฤดูหนาวนี้เหน็บหนาวอย่างมาก แล้วตอนนี้กลับเหมือนกับว่าจะถูกคนเทน้ำเย็นลงมาจากบนหัวจนเย็นลึกไปทั้งใจ
เห็นสีหน้าของเขาไม่ดี เสี่ยวเหยียนเองก็เหมือนกับว่าจะรู้ว่าคำพูดของเธอพูดแรงไปหน่อย
แต่เธอกลับคิดว่า ถ้าเธอไม่พูดแรงไปสักหน่อย เซียวซู่ก็คงไม่เข้าใจ เธอก็เลยไม่เสียใจที่พูดออกไปอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย
“ที่ฉันพูดไป นายเข้าใจแล้วใช่มั้ย?”
เซียวซู่ได้สติกลับมา ยิ้มแห้งๆออกมา “เข้าใจอยู่แล้ว แต่ก็ให้ฉันไปส่งเธอดีกว่า เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้”
เสี่ยวเหยียน “ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นี้…”
“คำพูดพวกนี้ตอนอยู่ที่โน่นเธอก็เคยพูด ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คำพูดเดียวกัน แต่ความหมายของเธอฉันเข้าใจดี หรือว่าเธอจะคิดว่าฉันเซียวซู่คนนี้เป็นพวกคนไร้ยางอายที่เอาแต่ชอบฉวยโอกาสพวกนั้นจริงๆน่ะหรอ?”
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“แล้วเธอหลบอะไร? วันนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เธอ ถ้าเพื่อนร่วมทางที่มากับฉันเป็นผู้หญิงคนอื่น ฉันก็จะไปส่งเธอเหมือนกัน อีกอย่างนี่ก็เป็นคำสั่งของคุณชายเย่ ก็ถือว่านี่อยู่ในขอบเขตการทำงานของฉันด้วยเหมือนกัน”
ไม่รู้ทำไม เสี่ยวเหยียนคิดอยู่เสมอว่าคำพูดที่เขาพูดออกมาพวกนี้ล้วนแล้วจะเอามาปลอบให้เธอสบายใจทั้งสิ้น
บรรยากาศเงียบไปสักพัก สุดท้ายเสี่ยวเหยียนก็ได้พยักหน้าอย่างจนใจออกมา
“เอาเถอะ นายอยากไปส่งก็ไปส่งเถอะ”
สุดท้ายเซียวซู่ก็พาเธอไปส่งถึงประตูหน้าบ้าน
“ขอบคุณที่มาส่งฉันวันนี้ ฉันไม่รบกวนแล้ว นายขับรถกลับระวังๆล่ะ บาย”
ไม่ใช่ว่าเสี่ยวเหยียนไม่มีมารยาท แต่ตอนนี้เธอไม่อยากต้อนรับเซียวซู่เข้าบ้านเลยจริงๆ
เธอลากกระเป๋าเดินทางเปิดประตูเดินเข้าไป จากนั้นก็ปิดประตูลง
หลังจากปิดประตูไป เสี่ยวเหยียนก็ยืนพิงบานประตูพร้อมหลับตาลง
จากนั้นเธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดดูอัลบั้มรูป เจอรูปของหานชิง ปลายนิ้วขาวสวยลูบวนอยู่ตรงใบหน้าหล่อของชายหนุ่มเบาๆ สุดท้ายก็แตะลงไปบนริมฝีปากบาง
“หานชิง ฉัน…กลับมาแล้ว”