บทที่ 1038 ยกยอปอปั้น
เดิมทีเย่โม่เซินที่สีหน้าเคร่งขรึม เมื่อได้ยินทุกคนชื่นชมมู่จื่อ สีหน้าก็ผ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นความโหดเหี้ยมในแววตา ก็จางหายไปหมดแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ ยังยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย อย่างมีความสุข
ผู้หญิงของเย่โม่เซิน ก็ต้องดีเลิศแน่นอน
และคณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงที่สามารถมาถึงตำแหน่งในวันนี้ได้ ก็ไม่ได้อาศัยทักษะเพียงเล็กน้อย ล้วนมีเล่ห์เหลี่ยมและยังสามารถสังเกตสีหน้าได้
อารมณ์การเปลี่ยนแปลงของเย่โม่เซิน ทุกคนก็มีตา สามารถมองเห็นได้
เมื่อเห็นว่า การประจบประแจงภรรยาท่านประธาน มีผลดีมาก คณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงก็ยิ่งประจบประแจงอย่างหนัก ยกย่องภรรยาของประธานอย่างจริงจัง
“ตอนนั้นที่ภรรยาของประธานมาบริหารบริษัท ก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก ประธานเย่ของเราช่างตาถึงจริงๆ”
“ขอแสดงความยินดีกับประธานเย่ ที่มีศรีภรรยาและลูกชายที่น่ารัก ~”
เดิมทีเป็นการประชุม กลายเป็นงานยกยอปอปั้นขนาดใหญ่
เย่โม่เซินฟังแล้วรู้สึกดีมาก ในเมื่อทุกคนชอบชื่นชมมู่จื่อ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาไปชื่นชมตามอำเภอใจ เพราะเขาก็ชอบฟังเหมือนกัน
กลับเป็นเซียวซู่ที่สีหน้าจนปัญญา ฟังคณะผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงเหล่านั้น แต่ละคนยกยอปอปั้น ในใจรู้สึกหมดคำพูดจริงๆ
เขาอยากถามพวกเขามาก พวกคุณไม่อายเหรอ?
ก่อนหน้านั้นตอนที่คุณนายน้อยเข้ามารับตำแหน่งรองประธาน พวกคุณไม่ใช่กิริยาท่าทีแบบนี้นะ แต่ตอนนี้ล่ะ โธ่ๆๆ
เซียวซู่ไอเบาๆ เดินไปด้านหลังเย่โม่เซิน
เขาเตือนเสียงเบา “คุณชายเย่ ควรจะประชุมแล้ว”
เย่โม่เซินพยักหน้าตามปกติ
เมื่อได้รับการอนุญาตจากเขา เซียวซู่ก็ทำเสียงกระแอมกระไอ เพิ่มระดับเสียงขึ้น “ทุกท่าน เราเงียบกันก่อน กำลังจะเริ่มการประชุมขึ้นแล้ว เชิญทุกท่านกรุณากลับไปตรงที่นั่งของตัวเอง เตรียมความพร้อมให้ดี”
ยังไงเซียวซู่ก็เป็นผู้ช่วยที่สำคัญของเย่โม่เซิน เมื่อเขาพูดอย่างนี้แล้ว ทุกคนเห็นว่าเย่โม่เซินก็ไม่ได้มีอารมณ์ต่อ พวกเขาก็รู้ด้วยว่า ยกยอปอปั้นไม่ควรทำมากเกินไป พอประมาณก็ได้แล้ว ดังนั้น จึงเงียบตามกันในไม่ช้า จากนั้นก็ต่างคนต่างเข้าที่
การประชุมเริ่มขึ้น
*
เสี่ยวเหยียนมาดูร้านค้าหลังนั้นตรงปากซอยใต้ ภายใต้การนำของหลัวหุ้ยเหม่ย ทำเลหน้าร้านตั้งอยู่ข้างหน้ามาก แต่เนื่องจากค่าเช่าสูงเกินไปจริงๆ ดังนั้นผู้ประกอบการหลายคน ยังคงอยู่ในการพิจารณา ยังไม่ได้ร้านนี้มาครอบครอง
อีกเหตุผลที่สำคัญกว่าคือ ร้านนี้แตกต่างจากที่อื่น
เจ้าของร้านนี้มีนิสัยแปลกประหลาดมาก หากคุณต้องการเช่าร้านกับเขา ต้องปฏิบัติตามกฎบางประการที่เขาวางไว้ หากทำไม่ได้ สัญญาก็จะสิ้นสุดก่อนกำหนด ดังนั้นจึงต้องย้ายออกล่วงหน้า
ว่ากันว่า คนก่อนหน้านี้ที่มาเปิดร้านที่นี่ ก็เพราะสัญญาสิ้นสุดก่อนกำหนด จึงจำเป็นต้องเก็บของย้ายออกไปจากที่นี่
ตอนที่เสี่ยวเหยียนเดินเข้าไปพร้อมกับนายหน้า พบว่าการตกแต่งในร้านยังใหม่มาก แค่ดูก็รู้ว่ายังไม่ค่อยได้ใช้ เธออดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “สาเหตุที่ทำให้สัญญาสิ้นสุดก่อนกำหนดคืออะไร?”
นายหน้ามองไปที่หลัวหุ้ยเหม่ยข้างๆเธอ จากนั้นก็มองไปที่เสี่ยวเหยียน โน้มตัวเข้ามา พูดด้วยเสียงต่ำ “เดิมทีเรื่องนี้ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเช่า เราไม่สามารถบอกคุณได้ แต่เมื่อพวกคุณเป็นคนที่ญาติของฉันแนะนำเข้ามา ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่อยากจะปิดบังพวกคุณ ก็บอกพวกคุณตรงๆเลยแล้วกัน เจ้าของร้านนี้นิสัยแปลกประหลาดมาก การตกแต่งก็เป็นแบบนี้ ถ้าคุณต้องการจะเช่า การตกแต่งของร้าน ไม่สามารถเปลี่ยนได้ อิฐหรือกระเบื้องชิ้นหนึ่ง ก็แตะต้องไม่ได้”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ นายหน้าก็มองไปรอบๆ “รูปแบบการตกแต่งของร้านนี้ คุณก็ได้เห็นแล้ว ไม่ค่อยเหมือนกับสไตล์การตกแต่งของร้านค้าทั่วไป พื้นที่โดยรอบไม่อนุญาตให้แตะต้อง ตอนที่เซ็นสัญญา ก็มีข้อกำหนดระบุไว้ในนั้น หากคุณผิดสัญญา จะต้องจ่ายผิดสัญญา และต้องย้ายออกด้วย ผู้ประกอบการจำนวนมาก ต่างก็กลัวว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย และอีกอย่างสไตล์การตกแต่งแบบนี้ ไม่เหมาะกับร้านค้าจำนวนมาก นี่ก็คือสาเหตุ ที่ทำไมร้านนี้อยู่ในย่านคึกคักขนาดนี้ แต่ก็ยังเช่าออกไปไม่ได้”
ไม่สามารถแตะต้องร้านได้?
เสี่ยวเหยียนก็มองพิจารณาการตกแต่งบริเวณโดยรอบไปด้วย เธอไม่ได้พูดต่อจากนายหน้า แต่เป็นหลัวหุ้ยเหม่ยที่อดไม่ได้ แล้วพูดว่า “สไตล์การตกแต่งนี้……เป็นสไตล์ญี่ปุ่นนิดหน่อย และดูเหมือนจะคล้ายกับโรงน้ำชา เหมือนสไตล์การตกแต่งที่ฉันเห็นในละคร ใช่ไหม เสี่ยวเหยียน เหมือนโรงน้ำชาไหม?”
เสี่ยวเหยียน “……ไม่คิดว่าขวัญจำของแม่ยังดีไม่น้อย ดูเหมือนกันจริงๆ”
แต่ว่า ยังมีความไม่เหมือนอยู่นิดหน่อย
เพราะเสี่ยวเหยียนสังเกตเห็นว่า สไตล์การตกแต่ง เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์จีนและตะวันตก แต่สัญชาตญาณในการมองเห็น จะมีความเป็นญี่ปุ่นมากกว่า เธอเม้มริมฝีปากเบาๆ “ถ้าฉันเดาไม่ผิดเมื่อก่อนที่นี่เป็นร้านราเม็งมาก่อน?”
นายหน้ายิ้มเบาๆ “ใช่แล้ว ร้านราเม็ง”
น่าแปลก ร้านราเม็งในปัจจุบัน น่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากถึงจะถูก ไม่ถึงกับเปิดร้านไม่ไหว
แต่สุดท้ายแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้ถามคำถามเหล่านี้ออกมา แม้ว่าเธอจะค่อนข้างพอใจกับการตกแต่งของร้านนี้ แต่ดูจากท่าทีของนายหน้าในเมื่อกี้แล้ว ค่าเช่าร้านหลังนี้ จะต้องไม่ถูกแน่นอน
“เหยียนเหยียน หนูอยากจะเปิดร้านอาหารพอดีเลยไม่ใช่หรือ หรือหนูเปิดร้านราเม็งเลยไหม ฉันคิดว่าก็ดีเหมือนกัน พวกลุงป้าน้าอาที่นี่ ฉันเห็นว่าพวกเขาก็ชอบอาหารจําพวกเส้นเหมือนกัน”
หลัวหุ้ยเหม่ยดึงมือของ เสี่ยวเหยียน สีหน้าของเธอ ดูพอใจมากกับการตกแต่งและทำเลของร้านแห่งนี้
เสี่ยวเหยียน “……”
เมื่อนายหน้าเห็นว่ามีหวัง ก็ยิ้มกริ่มแล้วพูดว่า “ในเมื่อจะเปิดร้านอาหาร ร้านนี้ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว”
เสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย “สามารถถามได้ไหมว่า ค่าเช่ารายปีเท่าไหร่?”
สีหน้าของนายหน้านั้นอึดอัดเล็กน้อย สักพักก็ชูนิ้วขึ้นสามนิ้ว ไปให้เสี่ยวเหยียน
เมื่อมองไปที่สามนิ้วนั้น เสี่ยวเหยียนก็เงียบลง
กลับเป็นหลัวหุ้ยเหม่ย ที่คิดซื่อ เมื่อเห็นเข้าก็ยิ้มพูดว่า “สามหมื่นเหรอ? ถ้าสามหมื่นต่อปี ก็ไม่ถือว่าแพงมากนะ ฉันคิดว่าดี เหยียนเหยียน เราเช่าร้านนี้เลยนะ”
เมื่อได้ยิน สีหน้าของนายหน้าก็กลายเป็นดูไม่ดีในทันที เพราะตัวเลขที่หลัวหุ้ยเหม่ย พูด ต่างจากที่เขาจะพูดถึงสิบเท่า
ดูเหมือนว่า วันนี้จะเช่าออกไปไม่ได้อีกแล้ว
“คุณนายหลัว คุณเข้าใจผิดแล้ว ค่าเช่าปีหนึ่ง คือสามแสน”
รอยยิ้มของหลัวหุ้ยเหม่ย ค้างไว้บนใบหน้าทันที
“คุณว่าอะไรนะ? ค่าเช่าปีหนึ่ง คือสามแสน?”
นายหน้าพยักหน้าเบาๆ “นี่คือราคาต่ำสุด ที่ฉันพูดให้กับคนรู้จักแล้ว อันที่จริง ราคาที่ให้คนอื่น คือสามแสนห้า ฉันได้คุยกับเจ้าของเดิมแล้ว ราคาต่ำสุด สามารถลดได้ถึงสามแสนเท่านั้น”
หลัวหุ้ยเหม่ย ตกตะลึงในทันที ค่าเช่าปีค่าสามแสน ถ้าอย่างนั้นค่าเช่าหนึ่งเดือนก็คือสองหมื่นห้า หนึ่งเดือนก็แค่มีเวลาสามสิบวัน หนึ่งวันค่าเช่าก็เกือบหนึ่งพัน อย่างนี้ก็แสดงว่า ผลประกอบการของคุณ ต้องมากกว่าหนึ่งพัน ประเด็นสำคัญคือ หนึ่งพันหยวนนี้ แต่ยังกำจัดออก ค่าแรง ทรัพยากรวัสดุ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าวัสดุและอื่นๆ
และถ้าต้องการให้ผลประกอบการสูง มีแค่ไม่กี่คน ทำไม่ไหวแน่นอน
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องจ้างคน
ถ้าอย่างนั้นวันหนึ่งต้องขายราเม็งเท่าไหร่ ถึงจะเริ่มได้กำไร??
หลัวหุ้ยเหม่ยเริ่มเครียดแล้ว เข้าใจทันที สาเหตุที่เสี่ยวเหยียนไม่ค่อยอยากมาในก่อนหน้านี้
“คุณนายหลัว ฉันรู้ว่าค่าเช่านี้แพงไปหน่อย แต่ทำเลนี้ ดีที่สุดจริงๆ คุณว่า……”
หลัวหุ้ยเหม่ย พูดอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “ฉันว่าเจ้าของร้านนี้อยากจะดูดเลือดดูดเนื้อมั้ง ค่าเช่าที่แพงขนาดนี้ ยังไม่ให้คนอื่นแตะต้องร้านเขา ใครจะเช่า?”