บทที่1088 ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง
แผ่นหลังนั้นกว้างใหญ่ ราวกับต้นสนที่ตั้งตรงอยู่กลางสายลม
หานชิง
เสี่ยวเหยียนรู้ทันทีว่าเป็นแผ่นหลังของใคร เท้าของเธอก้าวถอยหลังทันทีโดยสัญชาตญาณ แล้วหลบเข้าไปในมุม ยืนแผ่นหลังแนบกับกำแพง ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้นรัวขึ้นมาทันที
น่าผิดหวังจริงๆ
เสี่ยวเหยียนแอบด่าตัวเองในใจ
จู่ๆ เสียงที่คุ้นเคยของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“เอ่อ……ขอโทษด้วยนะคะประธานหาน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวนคุณ เพียงแต่วันนี้มีโอกาสแล้ว ฉันก็เลยมาหาคุณ ที่จริงฉันชื่นชมคุณมานานแล้ว และรู้ว่าคุณโสดมาตลอด ก่อนหน้านี้ไม่กล้าเอ่ยปาก วันนี้เลยขอใช้โอกาสนี้ ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันสักครั้ง”
เสี่ยวเหยียนเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ถ้าเธอฟังไม่ผิด เสียงนี้……เป็นเสียงของหลินซิงหั่วที่เมื่อครู่ยังคุยเล่นกับเธออยู่
หลินซิงหั่วคนที่ทั้งเด่นและดังในแวดวงบันเทิง กลับ……ชื่นชมหานชิง ?
เธอยืนทื่ออยู่กับที่ รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้เธอประหลาดใจเป็นอย่างมาก ทำไมถึงเป็นแบบนี้
แต่พอลองคิดดูก็ถูก คนที่ยอดเยี่ยมอย่างหายซิง ผู้หญิงที่ชอบเขาคงล้อมหน้าล้อมหลัง ถึงจะเป็นดาราดังแต่ยังไงก็เป็นแค่คนธรรมดา มีอารมณ์ความรู้สึกยังไงก็เป็นเรื่องปกติ การที่ชอบคนที่ยอดเยี่ยมนั้นเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาเป็นที่สุดอยู่แล้ว
แล้วหานชิงล่ะ ?
หลินซิงหั่วยอดเยี่ยมขนาดนี้ สวยงามขนาดนี้ ทั้งรูปร่างหน้าตาก็อยู่แนวหน้า ดีกว่าตัวเธอไม่รู้ตั้งกี่เท่า เมื่อเทียบกันแล้วแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มาสารภาพรักกับเขา เขาก็คงจะหวั่นไหวสินะ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใจของเสี่ยวเหยียนก็เริ่มเจ็บปวด แล้วก็เริ่มรู้สึกคัดจมูกขึ้นมา
เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงแม้หลินซิงหั่วจะชอบคนแบบหลินซิงหั่ว ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
เธอตัดสินใจว่าจะลืมเขาตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ
ขณะที่เสี่ยวเหยียนกำลังคิดอะไรไปเรื่อยอยู่นั้น น้ำเสียงเย็นชาของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“ถ้าหากคุณรู้ว่าผมโสดมาตลอด งั้นวันนี้คุณก็ไม่ควรมาพูดเรื่องพวกนี้”
หลินซิงหั่วชะงักไป แต่ยังไงดาราก็คือดารา รับมือได้อย่างรวดเร็ว เธอยิ้มบางๆออกมา
“ไม่แน่ว่าหลังจากวันนี้ อาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้นะคะ คุณเป็นโสดมานานขนาดนี้ ฉันก็แค่อยากจะลองดู ถ้าหากไม่ลองดูแล้ว ก็จะไม่มีโอกาสอีกเลยสิคะ”
ประโยคนี้จริงมาก เรื่องหลายอย่างจะต้องลองก่อนถึงจะรู้
ผู้กล้า ไร้ความกลัว
เสี่ยวเหยียนที่ยืนแผ่นหลังแนบกับกำแพงเองก่อนจะพบกับความผิดหวัง ก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน เธอเคยรู้สึกกระทั่งว่า ถ้าเธอต้องการ เธอก็แค่ต้องพยายามแล้วจะได้มันมาเอง
แต่กลับลืมเรื่องหนึ่งไป ว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ของๆเธอ
ตอนนี้ หลินซิงหั่วเองก็กำลังเป็นแบบเดียวกับเธอ
“ไม่มีอะไรไม่เหมือนเดิม”
หานชิงสีหน้าเย็นชา แววตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ผู้หญิงที่เป็นเทพธิดาของใครหลายคนเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็เป็นเพียงคนที่ไม่ได้มีสีสันอะไร
หลินซิงหั่วมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ริมฝีปากเริ่มสั่นเล็กน้อย ตอนที่กำลังคิดอยากจะพูดอะไรต่อนั้น จู่ๆหานชิงก็พูดประโยคหนึ่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ยังจะแอบฟังอยู่ข้างหลังอีกนานไหม”
อะไรนะ ?
ตอนแรกหลินซิงหั่วไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่เขาพูด ผ่านไปครึ่งค่อนวันถึงได้เข้าใจ และเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ก่อนจะหันมองไปรอบๆ
หรือว่าจะเป็นพวกนักข่าว ไม่น่าเป็นไปได้ วันนี้คนที่ถูกเชิญมางานเลี้ยงมีแค่คนสนิท อีกอย่างที่นี่คือวิลล่าไห่เจียง ไม่มีนักข่าวคนไหนในเมืองเป่ยกล้าเหยียบย่างเข้ามาในนี้ ถ้าถูกพบเข้าก็คือโทษบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว และต้องถูกแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด
พอเสี่ยวเหยียนได้ยินคำพูดของหานชิงทั่วทั้งร่างก็แข็งทื่อราวกับท่อนไม้ทันที แล้วเริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
หานหานหานชิง…..คำพูดเมื่อครู่นี้หมายความว่าอย่างไรกัน
ยังจะแอบฟังอยู่ด้านหลังอีกนานไหม ?
หรือว่า เขาจะรู้ว่าเธอแอบฟังอยู่หลังกำแพงแล้ว แต่ว่า ตอนที่เธอออกมาเขาก็กำลังหันหลังให้เธออยู่นี่นา แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าข้างหลังมีคนอยู่ หรือว่ามีตาหลังกันแน่
“ไม่ยอมออกมา จะให้ฉันไปลากเธอออกมาเหรอ”
ภายในน้ำเสียงเรียบๆนั้นแฝงไปด้วยคำขู่ ความหนาวเย็นปกคลุมทั่วร่างของเสี่ยวเหยียน
เธอไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป หานชิงคนนี้ถึงจะดูเป็นคนหนักแน่น ปกติแล้วไม่ค่อยระบายความโกรธออกมา แต่กลับไม่น่าเข้าหาเลยแม้แต่น้อย
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่ง แล้วเค้นความกล้าเดินออกมา
เมื่อเห็นเสี่ยวเหยียน ตอนแรกหลินซิงหั่วก็มีสีหน้าประหลาดใจ หลังจากนั้นก็ดูเหมือนจะโล่งอก
ดีจังเลย เธอคิดว่าจะเป็นพวกนักข่าวตามมาถ่ายรูปเสียอีก โชคดีที่เป็นเสี่ยวเหยียน
เสี่ยวเหยียนเดินไปข้างๆทั้งสองคนด้วยสีหน้าหดหู่ ตอนที่เข้าไปใกล้ทั้งสองคนพอสมควรแล้วก็หยุดเท้าลง ริมฝีปากล่างถูกเธอกัดครั้งแล้วครั้งเล่า
“ฉัน ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังพวกคุณคุยกันนะ ฉันก็แค่อยู่ในห้องน้ำพอดี ตอนที่ออกมาบังเอิญเห็นพวกคุณกำลังคุยกัน ฉัน……ไม่อยากขัดจังหวะพวกคุณก็เท่านั้น”
เธออธิบายสถานการณ์ของตัวเองอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้หานชิงเข้าใจผิดว่าเธอยังตามตื๊อเขาไม่เลิก
หานชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาตกอยู่ที่ใบหน้าของเธอ
เสี่ยวเหยียนตัวเกร็งทันที แล้วรีบหลบสายตามองลงไปที่พื้น ไม่กล้าที่จะสบตากับหานชิง
“ไม่เป็นไรหรอก” หลินซิงหั่วยิ้มบางๆ ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อยที่ถูกจับได้ แถมยังเดินเข้ามาโอบไหล่ของเสี่ยวเหยียน “เมื่อกี้ตอนฉันได้ยินว่ามีคนแอบฟัง นึกว่าเป็นพวกนักข่าวซะอีก โชคดีที่เป็นเธอ คนคุ้นเคยกันไม่เป็นไรหรอก แต่คราวหน้าเธอเดินผ่านไปเลยก็ได้นะ ไม่ต้องประหม่าขนาดนั้นหรอก”
เสี่ยวเหยียนทำได้แค่พยักหน้าอย่างอึดอัด
บรรยากาศรอบตัวเริ่มอึดอัด ถึงแม้หลินซิงหั่วจะไม่อึดอัดแม้แต่น้อย แต่เธอกลับอึดอัดเป็นที่สุด
ถ้าเจอคนอื่นกำลังสารภาพรักกัน เธอก็คงเดินผ่านอย่างไม่สนใจได้ แต่นี่อีกฝ่ายคือหานชิง จะให้เธอทำอย่างไรได้เล่า
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็เลยรีบพูดขึ้น
“คือว่า พวกคุณคุยกันต่อเถอะ……ฉัน ฉัน ฉันขอตัวก่อน”
อาจเป็นเพราะความตื่นเต้น เสี่ยวเหยียนก็เลยลิ้นพันกัน พูดจาติดๆขัดๆ ราวกับเด็กกำลังหัดพูด
หลังจากพูดติดขัดจนจบประโยคแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ส่งยิ้มเขินอายไปให้หลินซิงหั่ว แล้วก็เตรียมจะเดินจากไป
เวลานั้นเอง จู่ๆหานชิงกลับเปิดปากขึ้น
“รอเดี๋ยวก่อน”
เท้าของเสี่ยวเหยียนหยุดชะงักทันที ในใจรู้สึกผิดหวังมาก เขาคิดจะกล่าวโทษเธออีกใช่ไหม ไม่อย่างนั้น……เขาก็คงไม่เรียกให้เธอออกมาหรอก
แต่ว่ารออยู่ครู่ใหญ่ หานชิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา หลินซิงหั่วเองก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน เพียงแค่มองไปทางหานชิง เมื่อเห็นว่าสายตาของเขาเอาแต่จับจ้องอยู่ที่เสี่ยวเหยียน ก็กะพริบตาปริบๆ แล้วทันใดนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจอะไรได้ทันที
“พวกคุณมีเรื่องต้องคุยกันใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้วค่ะ”
พูดจบ หลินซิงหั่วก็เดินตัวลอยออกไป ผู้จัดการยืนรออยู่เธออยู่ไม่ไกลนัก เมื่อเห็นเธอเดินมา ก็พูดเหน็บแนมเสียงเบา
“เธอนี่จริงๆเลยนะ ทำไมถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นในสถานที่แบบนี้กัน ไม่กลัวถูกบันทึกภาพหรือไง ถ้าถูกโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตล่ะก็เธอได้ดับแน่”
“ดับอะไร ? ตามจับก็ถือว่าผิดด้วยเหรอ มุมมองของโลกนี้ช่างน่าตลกจริงๆ ทำไมถึงให้ผู้ชายจีบผู้หญิงได้อย่างเดียวล่ะ”
ผู้จัดการ “เธอจะทำให้ฉันโมโหจนตายจริงๆใช่ไหม รีบไปได้แล้ว!”
ก่อนไป หลินซิงหั่วก็อดใจไม่ไหวเลยหันกลับไปมองเสี่ยวเหยียนกับหานชิงทีหนึ่ง แววตาลุ่มลึก
เสี่ยวเหยียนได้รับสายตาของเธอ ก็รู้สึกขนหัวลุก และไม่มีใครพูดอะไร
หานชิงรั้งให้เธออยู่ต่อ แต่กลับเอาแต่เงียบ เสี่ยวเหยียนรู้สึกว่าบนหัวมีสายตาหนึ่งกำลังจ้องเขม็ง เนิ่นนานไม่จากไปไหน
เธอตื่นเต้นเป็นที่สุด เลยต้องเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง”