Chapter 37: ปะทะ
“ฉันมั่นใจเสมอ” กู้หนิงไม่ปิดบังความมั่นใจของเธอ
“แก..” กู้เซียวเซียวเกลียดกู้หนิงที่เธอยังคงทำตัวสบายๆก่อนพายุจะมา กู้เซียวเซียวอยากจะฉีกทึ้งกู้หนิงออกเป็นชิ้นๆ
“กู้หนิง เสแสร้งให้มันได้ตลอดไปเถอะ ฉันจะรอดูความพ่ายแพ้ของแก และถ้าแกไม่ขอโทษฉันกับสิ่งที่แกทำกับฉันเมื่อวานล่ะก็ ฉันจะทำให้แกได้ชดใช้แน่!!”
กู้เซียวเซียวกัดฟันด้วยความโกรธเกลียดชังที่ปะทุอยู่ในใจเธอ
“ฉันไม่มีวันขอโทษ เธออยากจะทำอะไรก็เชิญ ฉันจะรอ” กู้หนิงตอบยียวน และส่งสายตากวนประสาทไปให้ จากนั้นก็เดินจากไปไม่สนใจกู้เซียวเซียวอีก
“แก..” กู้เซียวเซียวโกรธจัด เธอไม่คาดไม่ถึงว่ากู้หนิงจะกล้ากวนประสาทเธอ เธอตะโกนตามหลังกู้หนิง “ได้ แล้วแกจะเสียใจทีหลัง!!”
“กู้หนิง จะไม่เป็นไรแน่เหรอ?” หยูหมิงซีเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล เธอห่วงว่ากู้หนิงกับแม่ของเธอจะไม่มีบ้านอยู่
“ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกอย่างจะออกมาดี” กู้หนิงตอบ
หยูหมิงซีเชื่อใจกู้หนิงมาก ถ้าเธอบอกว่าไม่ต้องกังวลเธอก็พร้อมที่จะเชื่อโดยไม่กังขาใดๆ
มู่เค่อมองกู้เซียวเซียวและเฉินจื่อเหยาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็เดินเข้าห้องของเขาไป
นักเรียนบางคนคิดว่ากู้หนิงคงไม่มาโรงเรียนวันนี้ เมื่อพวกเขาเห็นเธอปรากฏตัวที่โรงเรียน พวกเขาก็ประหลาดใจ
กู้หนิงไม่กลัวเลยสักนิดเหรอ?
ในตอนเช้ากู้หนิงได้รับสายตาอยากรู้อยากเห็นมากมายที่มองมายังเธอ รวมถึงอาจารย์ใหญ่ พวกเขาอยากจะเห็นร่องรอยความหวาดกลัวบนใบหน้ากู้หนิง แต่ต้องผิดหวัง กู้หนิงยังทำสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อคาบสุดท้ายของช่วงเช้ากำลังจะจบลง อาจารย์ใหญ่อดถามกู้หนิงไม่ได้ว่า
“เธอมั่นใจจริงๆเหรอ?”
“หนูจะไม่ทำอะไรหากไม่มั่นใจค่ะ” กู้หนิงเอ่ยเสียงเข้ม
อาจารย์ใหญ่ไม่กล่าวอะไรอีก เธอเดินจากไปพร้อมความเงียบ
เวลานัดหมายคือบ่ายโมงตรง กู้หนิงตัดสินใจที่จะกินข้าวก่อน เมื่อกู้หนิงและเพื่อนของเธอเดินลงบันไดมา ฮ่าวหรันและเพื่อนก็ขวางพวกเธอไว้ พวกเขาไม่ปล่อยให้กู้หนิงเดินไปมาอย่างอิสระ ดังนั้นพวกเขาจึงเดินตามกู้หนิงเผื่อเธอจะวิ่งหนีหายไป
กู้หนิงอยากจะหายตัวไปซะให้รู้แล้วรู้รอด จะมีใครไหมที่ไว้ใจเธอ?
“อยากเลี้ยงข้าวบอสมื้อแรกของพวกนายไหม?” กู้หนิงมองพวกเขา แล้วพูดติดตลก
“กู้หนิง อย่ามั่นใจให้มันมากนัก ยังเร็วไปที่จะพูดแบบนั้น” ฮ่าวหรันโต้กลับทันที ฉินซีหุนและจางเทียนปิงก็มองมาที่กู้หนิงด้วย
ตามจริงแล้วในยามปกติเด็กหนุ่มทั้งสามไม่ได้ก้าวร้าว ตั้งแต่พบกู้หนิงพวกเขามักจะหงุดหงิดง่ายกว่าเก่า
บางทีอาจเป็นเพราะกู้หนิงนิ่งสงบเกินไปซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าเธอไม่ได้จริงจังเท่าไหร่ แต่กลายเป็นพวกเขาที่จริงจังอยู่ฝ่ายเดียว
หรือบางทีเป็นเพราะความสงบนิ่งของกู้หนิงแสดงออกถึงความมั่นใจของเธอซึ่งอาจทำให้พวกเขาหวั่นวิตกโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นพวกเขาจึงสู้เธอกลับด้วยการโต้เถียง
“หรือพวกนายไม่มั่นใจ?” กู้หนิงถามกลับ
“เธอ..” ฮ่าวหรันและเพื่อนรู้แล้วว่ากู้หนิงมีความสามารถอันโดดเด่นในการก่อกวนให้คนอื่นอารมณ์เสีย
ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างจ้องไปที่การทุ่มเถียงระหว่างพวกเขา
กู้หนิงไม่กลัวเลยสักนิด เธอยังมีอารมณ์พูดล้อเล่น
กู้เซียวเซียว จ้าวเฟยเฟยและเพื่อนๆของพวกเธอต้องการเห็นกู้หนิงแพ้ เมื่อเห็นกู้หนิงแสดงออกถึงความมั่นใจ พวกเธอก็ไม่สบอารมณ์
“ฉันคิดว่ามันกำลังแกล้งทำ!” กู้เซียวเซียวเอ่ยขึ้น
“ใช่ มันต้องแกล้งทำเป็นใจเย็นแน่”
จ้าวเฟยเฟยอยากจะต่อว่ากู้หนิง แต่เธอเก็บมันเอาไว้เพราะมู่เค่ออยู่ที่นี่ด้วย
ถึงอย่างนั้นมู่เค่อก็ไม่ได้หันมามองเธอเลยสักนิด จ้าวเฟยเฟยรู้สึกผิดหวังมาก เธออยากจะเข้าไปคุยกับเขาแต่กู้หนิงกับหยูหมิงซีก็ดันอยู่ที่นี่ด้วย
“ไหนๆพวกนายก็อยู่ที่นี่แล้ว ทำไมพวกเรา…” กู้หนิงเอ่ย
“อะไร?” ฮ่าวหรันและเพื่อนถามขึ้นพร้อมกัน
“ฉันไม่อยากถูกลงโทษถ้าต้องสู้กันในโรงเรียน งั้นเราเปลี่ยนสถานที่ออกไปสู้ข้างนอก ในเมื่อยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน สู้ก่อนเป็นไงแล้วค่อยกิน ใครแพ้ก็เลี้ยงข้าวด้วยล่ะกัน” กู้หนิงเพิ่มเงื่อนไขแพ้ชนะ
“ได้” ฮ่าวหรันและเพื่อนเอ่ยตอบตกลง
“มีตึกร้างอยู่หลังโรงเรียน แถวนั้นไม่ค่อยมีคน ถ้าอย่างนั้นไปที่นั่นกัน” พูดจบกู้หนิงก็ออกเดินคนแรก ตามมาด้วยมู่เค่อ หยูหมิงซี ฮ่าวหรันและเพื่อนของเขา
เหล่าผู้รับชมไม่อยากพลาดเช่นกัน เด็กนักเรียนห้องสี่ทั้งสี่สิบคนก็อยู่ที่นี่ด้วย รวมถึงกู้เซียวเซียวและเพื่อนของเธอ และเด็กคนอื่นๆที่อยู่คนล่ะห้องด้วย
นักเรียนกลุ่มใหญ่พากันเดินออกไปประตูหลังโรงเรียน
ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะเห็นนักเรียนกลุ่มใหญ่รวมตัวกัน นักเรียนหลายคนรับรู้ได้ทันทีว่าจะต้องมีเรื่องชกต่อยเกิดขึ้น
คนที่ไม่กล้าตามไปก็ได้แต่ยืนดูอยู่ตามทางเดิน ในระหว่างคนที่อยากรู้อยากเห็นก็เดินตามพวกเขาไปด้วย จากกลุ่มนักเรียนที่มีไม่กี่สิบคนกลายเป็นร้อยคน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนก็สังเกตเห็นเช่นกัน
แต่ถ้าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บพวกเขาก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้
กู้หนิงและนักเรียนคนอื่นพากันเดินตรงไปยังตึกร้าง
ทุกคนตื่นเต้นเมื่อเดินมาถึงตึกร้าง ทุกคนหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาเตรียมถ่ายวิดีโอ
ถึงแม้มู่เค่อและหยูหมิงซีเลือกที่จะเชื่อกู้หนิง พวกเขายังอดรู้สึกกังวลไม่ได้ พวกเขาไม่อยากเห็นกู้หนิงต้องบาดเจ็บ
“บอส สู้ๆ!”
“กู้หนิง สู้ๆนะ!”
มู่เค่อและหยูหมิงซีให้กำลังใจกู้หนิง เสียงของพวกเขาสั่นเล็กน้อย
“เชื่อใจฉันก็พอ” กู้หนิงเอ่ยปลอบพวกเขา น้ำเสียงของเธอปลอบมู่เค่อและหยูหมิงซีให้คลายความกังวลลง
“เราจะหยุดเมื่อจำเป็นหรือจะสู้จนกว่าจะจบ?”
“ตราบใดที่มีคนล้มลงไปบนพื้นถือว่าแพ้” ฮ่าวหรันไม่ต้องการให้มีการบาดเจ็บมาก ถึงอย่างไรกู้หนิงก็เป็นผู้หญิง
กู้หนิงรู้สึกดีกับฮ่าวหรันขึ้นมา แต่เธอรู้ว่าพวกเขาไม่จริงจังกับเธอเพราะเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิง
ถ้าเขาประมาทเขาอาจเสียโอกาสในการเอาชนะได้
“ดี เริ่มกันเลย” กู้หนิงประกาศเริ่มต่อสู้ และทั้งสองฝ่ายก็เริ่มขยับ
กู้หนิงเคลื่อนไหวรวดเร็ว ก่อนที่จะมีใครเห็น กู้หนิงก็พุ่งเข้าต่อยไปที่หน้าจางเทียนปิง เธอจับจางเทียนปิงทุ่มลงพื้น
จางเทียนปิงเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูง เขาถูกจับทุ่มลงพื้นอย่างง่ายดาย ทุกคนอ้าปากค้าง
จางเทียนปิง เขายังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเขาถูกโยนลงไปที่พื้น
กู้หนิงสบโอกาสที่จางเทียนปิงไม่ระวังตัว
เด็กหนุ่มทั้งสามต่างเป็นนักสู้ตัวจริง ถ้าพวกเขาเตรียมตัวมาอย่างดี อาจทำให้กู้หนิงต้องใช้เวลามากกว่าเดิมในการล้มพวกเขาลง
Chapter 38: ชัยชนะ
ฮ่าวหรันและฉินซีหุนตื่นตะลึงแต่ก็เรียกสติคืนกลับมารวดเร็ว พวกเขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก่อนหน้าพวกเขาอาจจะประมาทกู้หนิงไปบ้าง แต่เที่ยวนี้พวกเขาจริงจังมากขึ้น
กำปั้นฉินซีหุนพุ่งเข้ามา กู้หนิงก็ต่อยสวนกลับไปในทันที แต่ก่อนที่กำปั้นของแต่ล่ะฝ่ายจะชนกัน ฉับพลันกู้หนิงก็ถีบเข้าไปที่ท้องของเขาอย่างแรง
ฉินซีหุนถอยหลังไปทันทีราวกับถูกของหนักกระแทกเข้าใส่
โชคดีที่ร่างกายเขาแข็งแรงจึงไม่ล้มลงไป
บรรดาคนมุงตกใจกับภาพที่เห็น บางคนก็ทำสีหน้าไม่เชื่อ ส่วนคนที่อยากเห็นกู้หนิงแพ้ต่างพากันทำหน้าผิดหวัง
ฮ่าวหรันพยายามจะล้มกู้หนิงลงบนพื้นด้วยการเตะตัดขาเธอ กู้หนิงหลบโดยยืนขาเดียว ทุกคนคิดว่าเธอกำลังจะล้ม
มู่เค่อและหยูหมิงซีกลั้นลมหายใจ
โดยไม่คาดคิดกู้หนิงก็กลับมาทรงตัวยืนสองขาได้เหมือนเดิม จากนั้นก็เตะไปที่ขาฮ่าวหรันทำให้เขาเสียจังหวะการทรงตัว
กู้หนิงถอยออกมาในทันใด
ในขณะเดียวกันฉินซีหุนก็เข้ามาชกกู้หนิง
กู้หนิงไม่หลบ เธอเอาฝ่ามือเธอไปรับแรงปะทะจากกำปั้นฉินซีหุน
กู้หนิงยังเป็นเพียงเด็กวัยรุ่น ฝ่ามือของเธอจึงไม่อาจกุมกำปั้นฉินซีหุนได้มิด แต่ก็แรงพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของเขาได้
ฉินซีหุนไม่ได้ตื่นตระหนก เขาใช้กำปั้นอีกข้างชกไปที่กู้หนิงแต่ก็ถูกหยุดด้วยฝ่ามือกู้หนิงอีกครั้ง
จากนั้นก่อนที่ฉินซีหุนจะสามารถโจมตีเธอได้อีกครั้ง กู้หนิงยกเท้าขึ้นและเล็งไปที่หน้าแข้งของเขา ฉินซีหุนเสียจังหวะการทรงตัวล้มลงบนพื้นอย่างแรง
คนดูอ้าปากค้างด้วยความตื่นตกใจ
ภายในสามกระบวนท่าเท่านั้น ฉินซีหุนก็ล้มลงไปนอนกับพื้น
ฉินซีหุนเด็กหนุ่มที่สามารถต่อกรกับคนเจ็ดคนได้ กลับถูกกู้หนิงล้มภายในสามกระบวนท่า มันยากที่จะเชื่อและยอมรับความจริงข้อนี้ได้
เหลือเพียงฮ่าวหรันที่ยังยืนอยู่
ฮ่าวหรันรู้ตัวแล้วว่าเขาอาจจะกำลังแพ้ แต่เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ดังนั้นเขาจึงเพิ่มความรุนแรงมากกว่าปกติ
หลังจากผ่านไปหลายรอบ ในที่สุดฮ่าวหรันก็ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ กู้หนิงเตะเขาทันที
แต่เธอถูกเขาสกัดจุดสำคัญไว้ได้
ทุกคนคิดว่าฮ่าวหรันกำลังจะชนะแน่ แต่กู้หนิงใช้เท้าอีกข้างยันพื้นไว้ เท้าของเธอจึงพ้นการจับกุม
จากนั้นกู้หนิงก็เตะเต็มแรงไปที่ฮ่าวหรัน
ขณะนี้สายเกินไปแล้วที่ฮ่าวหรันจะป้องกันไว้ได้ทัน เขาถูกเตะอย่างจังแล้วล้มลงบนพื้น
เขาแพ้
นักสู้เก่งฉกาจอย่างฮ่าวหรันถูกล้มภายในสิบกระบวนท่า ทุกคนพากันเบิกตากว้างอ้าปากค้าง
พวกเขาแพ้แล้ว ฮ่าวหรันและเพื่อนอีกสองคนแพ้ให้กู้หนิง หนำซ้ำกู้หนิงยังเอาชนะได้ง่ายๆอีกด้วย ทุกคนไม่อยากเชื่อสายตา
แม้แต่มู่เค่อและหยูหมิงซีที่เชื่อมั่นในตัวกู้หนิงก็ยังตกตะลึง
“พระเจ้า! ฉันตาฝาดไปรึเปล่า? กู้หนิงชนะ!!”
“ฉันกำลังฝันอยู่ใช่มั้ย กู้หนิงเอาชนะพวกเขาได้?”
“ใช่ ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลย มันไม่จริง!!”
“ไม่ใช่แค่ชนะ แต่ยังเอาชนะได้ง่ายๆอีกด้วย เธอดูสบายๆตอนที่โจมตีพวกเขา”
“ใช่ โดยเฉพาะท่าเตะหมุนนั่น สุดยอดไปเลย เท่สุดๆ!”
“ฉันเชื่อแล้วจริงๆว่ากู้หนิงเป็นเจ้าแม่ต่อสู้ของแท้!!”
ตอนนี้ไม่มีใครคลางแคลงใจต่อความสามารถของกู้หนิงแล้ว ในสายตาคนธรรมดา เธอเป็นสุดยอดนักสู้ตัวจริง
ส่วนฮ่าวหรันและเพื่อนยอมรับความจริงได้ เพราะพวกเขาล้วนประสบด้วยตัวเอง
ในขณะที่จ้าวเฟยเฟยและเพื่อนๆของเธอไม่เต็มใจที่จะยอมรับความจริงจ้าวเฟยเฟยถึงกับโพล่งออกมาว่า
“ไม่ ๆ ไม่ ๆ มันเป็นไปไม่ได้ ฮ่าวหรันกับเพื่อนต้องไม่ตั้งใจสู้แน่”
ถึงแม้จะมีคนคิดแบบเดียวกัน ก็ไม่มีใครกล้าพูดออกมาเสียงดัง เพราะมันเป็นการทำให้ฮ่าวหรันและเพื่อนขายหน้า ไม่มีใครอยากมีเรื่องกับพวกเขา
ฮ่าวหรันและเพื่อนพ่ายแพ้ก็อับอายพออยู่แล้ว คำพูดของจ้าวเฟยเฟยเหมือนเอาน้ำมันไปราดกองไฟ พวกเขาเดือดดาลขึ้นทันที
“หุบปากเน่าๆของเธอซะ! อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าต่อยผู้หญิงนะ!” ฮ่าวหรันตะโกนใส่เจ้าเฟยเฟยด้วยความโมโหอย่างกับจะตรงเข้าไปต่อยเธอ จ้าวเฟยเฟยพลันหุบปากสนิท เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาดังๆ
เธอหันไปหามู่เค่อเพื่อขอความเห็นใจด้วยคิดว่าเขาจะปลอบเธอ เห็นได้ชัดว่ามู่เค่อมองเธอเพราะเธอพูดถึงกู้หนิง
จ้าวเฟยเฟยรู้สึกเจ็บที่หัวใจและเคียดแค้น น้ำตาของเธอเริ่มไหลออกมา
จ้าวเฟยเฟยไม่ใช่คนฉลาด ในเมื่อเธอชอบมู่เค่อเธอก็ไม่ควรหาเรื่องคนที่เขาชอบ แต่กลับทำตรงข้าม
การที่เธอหาเรื่องกู้หนิงยิ่งทำให้มู่เค่อไม่ชอบเธอ
เสียงตะโกนของฮ่าวหรันทำให้จ้าวเฟยเฟยและคนอื่นหุบปาก กู้เซียวเซียวและเพื่อนของเธอก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
“ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะจบเร็วขนาดนี้ พวกเราออกมาข้างนอกเพราะมีเรื่องชกต่อย ถ้าจบแล้วเราก็ไม่ควรเสียเวลาอยู่ที่นี่” กู้หนิงพูดขึ้นอย่างกับยกภูเขาออกจากอกแล้ว
ได้ยินดังนั้นทุกคนต่างพูดไม่ออก ใครจะคาดคิดว่ามันจะจบง่ายขนาดนี้
กู้หนิงแข่งแกร่งจริงๆ
ฮ่าวหรันสูดลมหายใจลึกขณะมองกู้หนิง ถึงเขาจะอับอายที่แพ้ เขาก็ชื่นชมกู้หนิง
“พวกเราแพ้แล้ว และต่อจากนี้เธอคือ บอส ของพวกเรา” ฮ่าวหรันกล่าวออกมาจากใจจริง
“ใช่ นับจากนี้เธอคือบอสของเรา” ฉินซีหุนและจางเทียนปิงก็เอ่ยทับขึ้นมา
“ดีมาก” กู้หนิงตอบ แล้วจึงพูดขึ้นอีกว่า “ฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกัน ในเมื่อฉันชนะ ฉันเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะกินอะไร”
กู้หนิงส่งสัญญานให้มู่เค่อและหยูหมิงซีเดินตามเธอออกมา จากนั้นเธอเดินจากไปอย่างไว
กู้หนิงไม่ได้หิวจริงๆ เธอแค่ไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาของคนกลุ่มใหญ่
ในเมื่อฮ่าวหรันและเพื่อนยอมรับกู้หนิงเป็นบอสของพวกเขา พวกเขาจึงทำตามคำสั่งเธอทันที
เมื่อเห็นกู้หนิงเดินจากไป สายตาของจ้าวเฟยเฟย กู้เซียวเซียว เต็มไปด้วยความผิดหวังและจงเกลียดจงชัง
ทำไม? ทำไมกู้หนิงถึงได้เก่งขึ้น?
ตอนที่ 37 – 38 : ปะทะ, ชัยชนะ