แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 1221 คุณเข้าใจอะไรฉันผิดหรือเปล่า
เธอรับแพลนการเดินทางมา ก่อนจะดูอย่างละเอียด
อันที่จริงหัวข้อของวันนี้มันง่ายมาก ก็คือการนั่งเรือออกทะเล แล้วก็ไปบนเกาะที่สวยงามแห่งหนึ่ง บนเกาะเล็กๆ นั้นมีกิจกรรมมากมาย ตอนกลางคืนมีการจุดพลุอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโรงแรมต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าเที่ยวเล่นจนดึกแล้วก็จะมีคนมารับไปโรงแรมโดยเฉพาะ แล้วก็ยังมีบ่อน้ำพุร้อน ได้ยินว่าคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
เสี่ยวเหยียนตอบรับอย่างง่ายดาย อีกอย่างในใจก็คิดไปด้วย ว่าถ้าถึงที่เกาะเมื่อไหร่เธอจะไปหาที่ที่วิวสวยๆ จากนั้นก็จะไปถ่ายรูปกับหานชิง รูปเมื่อวานตอนกลางคืนที่ถ่ายบนเตียงนั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว
พนักงานเห็นท่าทีที่พึงพอใจของเสี่ยวเหยียน ก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน ในตอนแรกเขายังกังวลว่าแพลนที่ตัวเองวางเอาไว้จะล้มเหลว ตอนนี้แขกพึงพอใจก็ดีแล้ว
ขณะที่ทุกคนกำลังเตรียมตัวจะออกไป ทันใดนั้นก็มีเงาหนึ่งปรากฏตัวเพิ่มขึ้นมา
“น้องเสี่ยวเหยียน พวกคุณกำลังจะไปไหนกันเนี่ย?”
เสียงกับเงาที่ปรากฏขึ้นนั้นทำให้เสี่ยวเหยียนอึ้งไปสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เข้ามา
หลินชิ่นเอ๋อ?
เธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เสี่ยวเหยียนกลับไม่ได้สังเกตเห็นเลย
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น หลินชิ่นเอ๋อก็เดินเข้ามาอีก “น้องเสี่ยวเหยียน ทำไมคุณไม่สนใจฉันเลย?”
เสี่ยวเหยียนมีสติกลับมา “เปล่าหนิ พี่หลินมาได้อย่างไร?อาการบาดเจ็บของคุณยังไม่ดีเลย ตอนนี้ควรจะพักผ่อนอยู่ในโรงแรมนะ”
“ในโรงแรมมันน่าเบื่อจะตายไป อีกอย่างฉันอยู่คนเดียวด้วย เหนื่อยจะตายไป ฉันอยากไปกับพวกคุณได้ไหม?”
ไปกับพวกเธอเหรอ?ในใจของเสี่ยวเหยียนนั้นไม่ค่อยพึงพอใจเท่าไหร่ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นโอกาสเดียวของเธอกับหานชิง ตอนนี้เสี่ยวเหยียนรู้สึกได้ถึงความกระตือรือร้นของหลินชิ่นเอ๋อ ดังนั้นเธอเลยไม่อยากจะพาไปด้วยสักเท่าไหร่
ระหว่างที่คิดอยู่นั้น เหมือนกับว่าหลินชิ่นเอ๋อเองก็รู้สึกได้ถึงความลังเลของเธอ เลยรีบเข้าไปคล้องแขนของเสี่ยวเหยียน “พาฉันไปด้วยเถอะน้องเสี่ยวเหยียน ฉันอยู่คนเดียวที่โรงแรมมันน่าเบื่อจะตาย”
เสี่ยวเหยียนใจอ่อนเป็นที่สุด เมื่อถูกเธอขอร้องแบบนี้ เลยคิดว่าไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ แต่การไปเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้มีเธอไปคนเดียว ดังนั้นเธอเลยต้องไปถามหานชิง และถามความเห็นจากเขา
หานชิงเองก็เข้าใจว่าเธออยากจะพูดอะไร เลยถามออกมาเบาๆ ว่า: “คุณอยากจะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องถามความเห็นของฉันหรอก”
ดวงตาและใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความน่าทะนุถนอม เหมือนกับว่าขอเพียงแค่เสี่ยวเหยียนไม่ฆ่าคนหรือเผาบ้าน อยากจะทำอะไรอย่างอื่นเขาก็คงจะเชิดชูยกย่องตลอด
ผู้ชายแบบนี้ น่าทะนุถนอมแบบนี้ ทำไมถึงไม่ใช่ของเธอล่ะ?หลินชิ่นเอ๋อรู้สึกคันยุบยิบอยู่ในใจ ถ้าเกิดว่าเป็นของเธอก็คงจะดี
ดูๆ ไปแล้ว เธอต้องรีบทำอะไรสักอย่างหนึ่งแล้ว
“งั้นก็ได้ คุณไปกับพวกเรา แต่ว่าฉันต้องไปถามพนักงานก่อนนะ ว่าจะพาคนไปเพิ่มอีกคนหนึ่งได้ไหม”
อันที่จริงตอนที่หลินชิ่นเอ๋อกับเสี่ยวเหยียนคุยกัน พนักงานก็อยู่ข้างๆ ดังนั้นเลยได้ยินที่ทั้งสองคนคุยกันไปโดยปริยาย
เมื่อตอนนี้ได้ยินว่าเสี่ยวเหยียนจะมาถามตัวเอง หน้าของเขาเลยเปลี่ยนไปเป็นความลำบากใจขึ้นมา
“ทริปในครั้งนี้กำหนดไว้ว่าสองคน ถ้าเพิ่มอีกคนหนึ่งเข้าไป เกรงว่าจะยากหน่อยน่ะ……”
เมื่อเสี่ยวเหยียนได้ยินก็รู้สึกดีใจขึ้น บางทีตัวเธอเองอาจจะเห็นแก่ตัว ถ้าเกิดว่าสามารถจัดการได้โดยที่ไม่ต้องให้เธอเป็นคนออกหน้าเอง งั้นคงจะดีที่สุด
แต่น่าเสียดาย ที่จู่ๆ หลินชิ่นเอ๋อก็พูดขึ้นว่า: “คุณไม่ต้องกังวลไป ในส่วนของค่าใช้จ่ายฉันจะออกด้วยตัวเอง ต้องจ่ายเท่าไหร่เหรอ?”
ในตอนแรกพนักงานรู้สึกลำบากใจ แต่เมื่อได้ยินเธอพูดว่าจะเป็นคนออกเงินด้วยตัวเอง ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นมีความสุขในทันใด ก่อนจะรีบตอบตกลงทันที
“งั้นก็ตกลงตามนี้ ค่าใช้จ่ายคุณเป็นคนออกเองทั้งหมด มีคนเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง มันก็เกี่ยวกับเรื่องของเงินทั้งนั้น”
หลังจากที่แก้ไขเรื่องนี้เสร็จ พนักงานก็รู้สึกโล่งใจขึ้น คิดว่าตัวเองจัดการเรื่องราวได้เสร็จแล้ว นายหานและคุณนายหานควรจะดีใจมากใช่ไหมล่ะ?
ใครจะไปรู้ว่าเพียงแค่หันกลับมา พนักงานก็มองเห็นแววตาที่ไม่พอใจของเสี่ยวเหยียน พนักงานอึ้งไปสักพัก ก่อนจะดึงสติกลับมาได้ แต่ก็เกือบจะกัดลิ้นตัวเองไปแล้ว
ทำไมเขาคนโง่เลยล่ะ?เขาไปเที่ยวแบบคู่สามีภรรยา จู่ๆ ก็มีคนเพิ่มมาอีกคน นี่มันไม่ใช่ก้างขวางคอหรอกเหรอ?ก่อนหน้านี้ทำไมเขาถึงได้โง่เขลาไม่คิดให้ดีก่อนนะ?คิดถึงแต่เรื่องเงิน เงินมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?ถ้าเกิดว่ากลับไปแล้วคู่สามีภรรยาไม่พอใจ แล้วประเมินเขาไม่ดีขึ้นมา ทุนครึ่งปีของเขา ก็คงจะไม่มีแล้ว……
แต่ก็ได้พูดออกไปแล้ว ถ้าจะเอาคำพูดกลับมาก็คงจะยากแล้ว ในใจของพนักงานนั้นรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แต่ว่าเขาจะสามารถทำอย่างไรได้ล่ะ?เห้อ ทำได้แค่ค่อยๆ ดูสถานการณ์ไปเท่านั้นเอง พนักงานได้แต่แอบคิดอยู่ในใจ ระหว่างทางไปเขาต้องตามติดพวกเขา เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของทั้งสองคนให้ได้
เพื่อเงินทุนครึ่งปีของเขา พนักงานเลยต้องพยายามอย่างหนัก!
ตอนที่ขึ้นเรือไป พนักงานใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบมองไปที่เสี่ยวเหยียน ก่อนจะพูดเสียงต่ำลง: “คุณนายหานวางใจเถอะ ฉันจะไม่ให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน!”
เสี่ยวเหยียน: “????”
เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?จะไม่ทำให้เธอผิดหวังคืออะไร?พนักงานคนนี้อยากจะทำอะไรงั้นเหรอ?
ยังไม่ทันจะรอให้เสี่ยวเหยียนถามอะไร พนักงานก็เดินออกไปแล้ว
เธอมีแต่คำถามเต็มไปหมด แต่ทำได้แค่กลับไปนั่งที่ที่นั่งของตัวเอง แถวที่พวกเธอนั่งนั้นไม่ได้มีใครนั่งอยู่ แต่ว่าเสี่ยวเหยียนอยากจะนั่งใกล้ๆ น้ำ ดังนั้นหานชิงเลยให้เธอนั่งที่นั่งด้านใน
สุดท้ายตอนที่เธอกลับมา ก็เห็นพอดีว่าหลินชิ่นเอ๋อเดินมาแถวที่พวกเธอนั่งอยู่ และกำลังจะเลือกนั่งที่นั่งของเสี่ยวเหยียน
สีหน้าของเสี่ยวเหยียนลี่ยนไป ตอนที่อยากจะพูดออกไป กลับมีเสียงที่เย็นชาพูดออกมาเร็วกว่าเธอ
“คุณเข้ามาผิดแล้ว”
คนที่พูดนั้นคือหานชิง เพราะถ้าจะเดินเข้าไปข้างในจะต้องผ่านหานชิงไปก่อน ดังนั้นตอนที่หลินชิ่นเอ๋อจะเดินเข้าไป หานชิงเลยเหยียดขายาวๆ ไปขวางไว้ เพราะไม่อยากให้หลินชิ่นเอ๋อเดินเข้าไปได้ พลางมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา
หลินชิ่นเอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่ไว้หน้าของเธอขนาดนี้ เลยทำได้แค่พูดออกมาเบาๆ ว่า: “นายหาน ฉันอยากนั่งข้างใน ไม่ได้เหรอ?ข้างนอกยังมีที่ว่างอีกมากเลยนะ”
พูดจบ หลินชิ่นเอ๋อก็ชี้ไปที่ที่นั่งด้านนอกทางหานชิง
ตอนแรกเสี่ยวเหยียนอยากจะเดินเข้าไป แต่เมื่อเห็นฉากนี้ก็ต้องหยุดลง และมองว่าหานชิงจะจัดการอย่างไร
น่าเสียดายที่หลังจากที่หานชิงพูดจบ ก็ผลุบตาลง และไม่ได้สนใจหลินชิ่นเอ๋ออีก
หลินชิ่นเอ๋อเริ่มรู้สึกหงุดหงิด ในตอนแรกที่เธออยากจะนั่งข้างใน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหานชิงจะตัดบทขนาดนี้ ไม่ให้เธอเข้าไปนั่งข้างในยังพอว่า แต่นี่กลับไม่คุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ
เธอคิดว่าเธอเสียหน้าเป็นอย่างมาก แต่ก็รู้สึกไม่เต็มไปด้วย เลยมองไปที่ที่นั่งข้างๆ ของหานชิง
ใครจะไปรู้ว่าตอนที่เธอกำลังจะนั่งลง ก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นมาอีก
“ก็บอกแล้วว่าคุณเดินมาผิด ทำไมยังไม่ไปอีก?”
หลินชิ่นเอ๋อเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ และก็พบกับแววตาเย็นชาของหานชิงที่กำลังมองเธอ เธออึ้งอยู่ตรงนั้น “ทำไมเหรอ?ฉันผิดยังไงเหรอ?นั่งข้างในก็ไม่ได้ ตรงนี้ก็นั่งไม่ได้เหรอ?”
“ใช่” หานชิงพยักหน้าอย่างไม่รักษาน้ำใจ
หลินชิ่นเอ๋อ: “……ทำไม?นายหาน คุณเข้าใจอะไรฉันผิดหรือเปล่า?