Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 504

ตอนที่ 504

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 504
[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ]
บทที่ 504 : จัดการศัตรูหัวใจ!
“พี่หลิงหยุน.. พวกเราจะไม่ไปช่วยพี่เม่ยเฟิง กับพี่เสี่ยวเม่ยเม่ยงั้นหรือ..?”
ก่อนที่ไป๋เซียนเอ๋อจะกลายร่างนั้น นางได้อาศัยอยู่กับเฉิงเม่ยเฟิง และเสี่ยวเม่ยเม่ยมาเป็นเวลาครู่ใหญ่แล้ว หญิงสาวทั้งสองคนแม้จะเห็นว่านางเป็นสุนัขจิ้งจอก แต่ก็ปฏิบัติกับนางราวกับเป็นมนุษย์คนหนึ่ง หัวใจที่ไม่เลือกปฏิบัติของหญิงสาวทั้งสองคนนั้น ไป๋เซียนเอ๋อรับรู้ได้ชัดเจนกว่าใครๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ในคืนวันเชงเม้งที่หลิงหยุนต้องการไปช่วยเฉิงเม่ยเฟิงนั้น หลิงหยุนเองก็ตกอยู่ในอันตรายเพราะต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือถึงสามคน และใหนจะยังมีนักฆ่าระดับสวรรค์อีก ทั้งไป๋เซียนเอ๋อ และเสี่ยวเม่ยเม่ยต่างก็ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ฝ่าฟันความเป็นความตายมาด้วยกัน
เมื่อหลิงหยุนได้ฟังคำพูดของไป๋เซียนเอ๋อ แววตาของหลิงหยุนก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาเม้มริมฝีปากนแน่นก่อนจะพูดขึ้นว่า
“เซียนเอ๋อ.. เจ้าอยู่ที่นี่สักสองสามวันก่อนนะ อีกไม่กี่วันบัตรประชาชนของเจ้าก็จะเสร็จแล้ว ถึงตอนนั้นเราค่อยไปหาซื้อบ้านกัน”
สำหรับไป๋เซียนเอ๋อแล้ว บ้านเป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย จะใหญ่หรือเล็กนั้นไม่สำคัญสำหรับนาง เพราะที่ผ่านมาเพียงแค่นางได้อยู่กับหลิงหยุนในถ้ำเล็กๆบนเกาะเตียวหยู่ นางก็มีความสุขมากแล้ว
หลังจากที่หลิงหยุนจัดการเรื่องไป๋เซียนเอ๋อเรียบร้อยแล้ว เขาและถังเมิ่งจึงเดินไปที่รถซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าอพาร์ทเมนท์
ภายในรถแลนด์โรเวอร์..
“ถังเมิ่ง.. ต่อไปนายมีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องอาหารการกินของเซียนเอ๋อ..”
หลิงหยุนกังวลว่าต่อไปในวันข้างหน้าเขาจะยุ่งมาก และไม่มีเวลาดูแลไป๋เซียนเอ๋อ เขาจึงได้มอบหน้าที่นี้ให้กับถังเมิ่งเป็นผู้รับผิดชอบ
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าถังเมิ่งที่ปกติเชื่อฟังหลิงหยุนมาโดยตลอด กลับส่ายหน้าปฏิเสธทันทีที่ได้ยิน!
“ทำไม?!” หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมกับตะโกนถามถังเมิ่งอย่างงุนงง
ถังเมิ่งรีบยกมือขวาป้องปาก และกระซิบกับหลิงหยุนว่า “พี่หยุนอย่าเสียงดังไป.. ฉันยอมทำงานตามที่พี่สั่งทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้..”
หลิงหยุนถามขึ้นทันที “ทำไม? หรือเพราะนายเห็นเซียนเอ๋อเป็นแค่สุนัขจิ้งจอก? หรือเพราะว่านายกลัว?”
ถังเมิ่งรีบส่ายหน้าพร้อมกับตอบไปว่า “พี่หยุน.. พูดอะไรน่าเกลียดแบบนั้น ฉันไม่ได้รังเกียจ แล้วก็ไม่ได้กลัวด้วย แต่.. เพราะเธอสวยงามมากเกินไป มากจนฉันไม่กล้ามองหน้า..”
หลิงหยุนถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่ก็นึกเห็นด้วยด้วยกับถังเมิ่ง เขาถึงกับเกาศรีษะพร้อมกับคิดในใจว่าคงจะต้องมอบหน้าที่นี้ให้หลงหวู่กับเหยาลู่แทน..
“เอาล่ะ.. ฉันจะหาคนอื่นมาทำงานนี้แทน อีกอย่างตอนนี้นายก็มีงานค่อนข้างยุ่ง..”
หลิงหยุนรู้ว่าถังเมิ่งไม่ได้คิดเลยเถิดกับไป๋เซียนเอ๋อ แต่เพราะความงดงามที่เหนือมนุษย์ของนางนั้น แม้แต่หลิงหยุนเองยังยากที่จะหักห้ามใจ จึงแทบไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาทั่วไป..
“ขอบคุณพี่หยุนที่เข้าใจฉัน..” ถังเมิ่งถึงกับยกมือปาดเหงื่อที่หน้าผากออกทันที
“เอาล่ะ.. เมื่อคืนนายไม่ได้นอนมาทั้งคืน รีบกลับไปบ้านพักผ่อนได้แล้ว พรุ่งนี้ยังมีธุระอีกหลายอย่างที่ต้องไปจัดการ” หลิงหยุนร้องบอกถังเมิ่ง และรีบไล่เขาให้กลับไปบ้านพักผ่อน
“พี่หยุน.. แล้วพี่ล่ะ?”
หลิงหยุนยิ้มและตอบไปว่า “ฉันจะกลับไปที่บ้านในอ่าวจิงฉู หลิงยู่คงจะเป็นห่วงฉันมากแล้ว..”
ความจริงแล้วนี่เพิ่งจะหกโมงเช้า หลิงหยุนจึงไม่ต้องการกลับบ้านไปในตอนนี้ เขาต้องการกลับไปที่หมู่บ้านฝูฮัวเพื่อหาหลินเมิ่งหานก่อน..
แต่จู่ๆ ถังเมิ่งก็ทำเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “พี่หยุน.. มีเรื่องหนึ่งที่ฉันลืมบอกพี่ไป..”
หลิงหยุนค่อนข้างยุ่ง เขาจึงพูดออกมาอย่างหมดความอดทน “ก็ใหนนายบอกฉันว่านายจัดการเรื่องเล็กๆพวกนั้นไปเรียบร้อยแล้วยังไงล่ะ?”
ถังเมิ่งเกาหัวแกรกๆ พร้อมกับตอบไปว่า “มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ..”
หลิงหยุนร้องอุทานออกมา “อะไรนะ?”
ถังเมิ่งกัดริมฝีปากแน่น “พี่หยุน.. ก็พี่บอกฉันว่าจะไปแค่สองสามวัน แต่นี่พี่หายไปตั้งเกือบเดือน หลิงยู่กับน้าหญิงของพี่เป็นห่วงพี่มาก ก็เลยมาหาฉัน..”
หลิงหยุนได้ฟังคำพูดของถังเมิ่งก็ถึงกับตกใจ เพราะด้วยความสามารถของฉินตงเฉี่วยแล้ว ยากที่ถังเมิ่งจะรอดพ้นเงื้อมือของนางไปได้..
“แล้วนายบอกอะไรน้าหญิงไปบ้าง?” หลิงหยุนถึงกับเสียวสันหลังขึ้นมาวูบหนึ่ง และรีบร้องถามถังเมิ่งขึ้นมาทันที
“เอ่อ..” ถังเมิ่งยิ้มเฝื่อนพร้อมกับยักไหล่และตอบกลับไปว่า
“ฉันก็เล่าไปตามที่รู้..”
หลิงหยุนได้ยินคำตอบ และเห็นท่าทางของถังเมิ่ง เขาก็ได้แต่สบถออกมาว่า “ถังเมิ่ง.. นี่นายกล้าหักหลังฉันเหรอ?!”
ถังเมิ่งพูดอย่างสำนึกผิด “พี่หยุน.. ถ้าเป็นศัตรูของพี่ฉันไม่มีทางหักหลังพี่แน่! แต่พี่ก็น่าจะรู้จักน้าหญิงของพี่ดีไม่ใช่เหรอว่านางดุแค่ใหน? ขืนฉันไม่บอก หรือแม้แต่พูดโกหก พี่คิดว่าฉันจะต้องโดนอะไรบ้าง?”
หลิงหยุนเศร้าหนัก ยิ่งคิดว่าน้าหญิงของเขารู้เรื่องที่เขาโกหก ก็ยิ่งหวาดเสียว ในขณะเดียวกันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดนางจึงพูดโทรศัพท์กับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนถึงเพียงนั้น?!
“เอาล่ะ.. ช่างเถอะ! ยังมีเรื่องอื่นอีกไม๊?”
หลิงหยุนรู้ดีว่าเขาคงต้องพบกับความหายนะแน่ แต่น้าหญิงก็คงจะเป็นห่วงเขามาก คงไม่มีทางอื่นนอกจากการออดอ้อนนาง
“มี.. ตอนนี้ลุงหลี่ กับพ่อของฉันรอพบนายอยู่..”
“นายไปบอกพวกท่านทั้งสองว่า ฉันจะไปพบพวกท่านในวันสองวันนี้! นายกลับไปได้แล้ว..”
พูดจบ.. หลิงหยุนก็จัดการปิดประตูรถแลนด์โรเวอร์ และจัดการเหยียบคันเร่งจนรถแลนด์โรเวอร์หายเข้าไปท่ามกลางแสงแดดยามเช้า
ระหว่างทางไปหมู่บ้านฝูฮัวนั้น หลิงหยุนก็ได้โทรหาหลงหวู่ที่เพิ่งจะถึงบ้านให้ทำหน้าที่ดูแลไป๋เซียนเอ๋อแทนเขา และหลงหวู่ก็ตอบตกตลง!
หลิงหยุนวางสายไปพร้อมกับมองหาร้านขายอาหาร หลังจากจัดการซื้ออาหารเช้าสำหรับตัวเองและหลินเมิ่งหานเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่บ้านของเธอทันที
เมื่อคืนนี้ หลิงหยุนได้ส่งข้อความบอกกับหลินเมิ่งหานว่าเขากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว และคาดว่าหลินเมิ่งหานคงจะตื่นเต้นตลอดทั้งคืน และคงกำลังตั้งหน้าตั้งตารอคอยการกลับมาของเขา
หลิงหยุนไม่ได้โทรบอกหลินเมิ่งหานก่อนจะเข้าไปที่บ้าน เพราะต้องการให้เธอประหลาดใจ..
ในเมื่อต้องการให้หลินเมิ่งหานประหลาดใจ หลิงหยุนจึงต้องทำให้หลินเมิ่งหานจับไม่ได้ก่อน เพราะตอนนี้เธอยู่ในขั้นโฮ่วเทียน-9 แล้ว ประสาทสัมผัสทั้งห้าจึงนับว่าดีกว่าคนธรรมดามาก หากหลิงหยุนขับรถเข้าไปใกล้บ้าน เธอก็คงจะได้ยินเสียงรถเสียก่อน
ดังนั้น เมื่อรถของหลิงหยุนแล่นเข้าไปในหมู่บ้านฝูฮัวแล้ว เขาจึงหาที่ว่างจอดรถไว้ด้านนอก จัดการล็อคประตูรถ และหยิบอาหารเช้าเดินเข้าไปในหมู่บ้านแทน
“เยี่ยมเลย.. วันนี้ข้าจะได้กินข้าวเช้ากับเมิ่งหาน!”
หลิงหยุนจากหลินเมิ่งหานไปนานเกือบเดือน และหลังจากที่ไป๋เซียนเอ๋อกลายร่าง นางก็ช่างงดงาม และมีเสน่ห์ยั่วยวนหลิงหยุนมากเหลือเกิน
ตอนนี้ไป๋เซียนเอ๋อได้กลายร่างเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว แต่หลิงหยุนยังไม่สามารถที่จะร่วมรักกับนางได้ ถึงแม้ว่าการได้ร่วมรัก และได้บ่มเพาะเคียงคู่กับนางนั้น จะทำให้เขามีโอกาสสูงที่จะสามารถเข้าสู่ขั้นพลังชี่ได้
แต่ไป๋เซียนเอ๋อนั้นไม่ใช่มนุษย์ นางยังต้องเติบใหญ่ขึ้นอีก และเพิ่งจะงอกหางที่สามเท่านั้น หากเขาบ่มเพาะเคียงคู่นางในตอนนี้ แม้ว่าจะได้รับผลดีในการฝึกค่อนข้างมาก แต่หากเปรียบเทียบกับวันข้างหน้าแล้ว จะแตกต่างและห่างไกลกันราวฟ้ากับดินเลยทีเดียว
หลิงหยุนประเมินว่า ในวันที่ไป๋เซียนเอ๋อเติบโตเต็มที่นั้น เขาก็น่าจะเข้าสู่ขั้นรากฐานได้แล้ว หรืออาจจะเข้าสู่ขั้นกายทองคำ หรือขั้นปฐมจิตแล้วก็ตาม หากเขาได้บ่มเพาะเคียงคู่กับไป๋เซียนเอ๋อที่เติบโตเต็มที่นั้น เขาก็จะสามารถก้าวหน้าได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
นี่ไม่ใช่เรื่องของเงินทอง หรือธุรกิจ แต่มันคือการฝึกฝนบ่มเพาะความแข็งแกร่งที่หลิงหยุนจำต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง!
บนดาวเคราะห์ที่มีพลังชีวิตค่อนข้างขาดแคลนดวงนี้ หากสิ่งใดที่เป็นผลดีต่อการฝึกฝนของเขา และสามารถทำให้เขาก้าวหน้าได้ หลิงหยุนก็ยินดีที่จะอดทน และรอคอยได้เช่นกัน!
ดังนั้น.. แม้ว่าไป๋เซียนเอ๋อจะมีเสน่ห์เย้ายวน และดึงดูดมากเพียงใด แต่หลิงหยุนก็ต้องอดทนอดกลั้นอย่างมาก
การได้ร่วมรักกับไป๋เซียนเอ๋อนั้น ยังไม่ใช่เรื่องที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับหลิงหยุน แต่การได้ฝึกบ่มเพาะเคียงคู่กับนางต่างหาก จึงจะนับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! และหลิงหยุนก็ยินดีที่จะอดทน..
แต่ถึงกระนั้น การต้องมานั่งอดทนเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่สบายสำหรับหลิงหยุนนัก แต่โชคดีที่เขาเองก็ไม่ได้ขาดแคลนหญิงสาว
เพียงไม่นานหลิงหยุนก็เดินไปถึงบ้านหลังสุดท้ายในหมู่บ้านฝูฮัว เขายังคงเข้าไปอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้หลินเมิ่งหานรู้ตัว และด้วยความแข็งแกร่งของหลิงหยุนในเวลานี้ หากไม่ต้องการให้ผู้ใดจับได้ แม้แต่ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-1 ก็ยากที่จะสังเกตเห็นได้
แต่ทันทีที่หลิงหยุนเลี้ยวเข้ามุมไป เขาก็เหลือบมองไปทางประตูบ้านด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป..
เพราะที่หน้าบ้านของหลินเมิ่งหานนั้น มีรถสปอร์ตหรูคันหนึ่งจอดอยู่!
หลิงหยุนเคยเห็นรถเฟอรารี่ของเสี่ยวเม่ยหนิง และรถแลมโบกินี่ของเกาเฉินเฉินมาแล้ว อีกทั้งเพิ่งได้พบเห็นรถ Skyper C8 ของธิดาพรรคมารร แม้ว่าเขาจะไม่มีความรู้เรื่องรถมากนัก แต่เพียงแค่เหลือบมองก็พอจะเดามูลค่าราคารถสปอร์ตคันนี้ได้ว่าไม่ใช่ถูกๆอย่างแน่นอน!
และนี่ก็ไม่ใช่รถของหลิงเมิ่งหาน.. อีกทั้งตอนนี้ก็เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า..
ใบหน้าของหลิงหยุนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที ดวงตาของเขาคมกริบไม่ต่างจากกระบี่ ไอเย็นยะเยือกได้แผ่ปกคลุมร่างขณะที่เดินตรงเข้าไปในบ้าน
หลิงหยุนไม่รีรอที่จะใช้จิตหยั่งรู้ของตนเองสำรวจภายในบ้านทันที แต่ก็แทบจะไม่ต้องสำรวจอะไรด้วยซ้ำ เพราะหลิงหยุนได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกันดังออกมาจากด้านใน
“คุณจะออกไปจากบ้านของฉันได้หรือยัง? ถ้าไม่ออกไป ฉันจะเรียกตำรวจเดี๋ยวนี้!”
“เมิ่งหาน.. พวกเราหมั้นหมายกันแล้วนะ เพียงแค่รอให้ถึงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ พวกเราก็จะเข้าพิธีกันแล้ว ครั้งนี้ผมมาที่นี่เพื่อปฏิบัติภารกิจ ก็เลยแวะมาเยี่ยมเยียนคุณบ้างเท่านั้นเอง..”
เสียงผู้ชายดังออกมาจากในบ้าน และเป็นเสียงที่หลิงหยุนคุ้นเคยอย่างมาก เพราะเขาเพิ่งจะได้ยินมาเมื่อคืนนี้
มันเป็นเสียงของหลงเทียนเจียว!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท