แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1247 ถ้าเกิดว่าฉันไม่อยากไปโรงพยาบาลล่ะ?
“ก็แค่คนที่พ่ายแพ้คนหนึ่ง ยังกล้าที่จะมาคุยโวโอ้อวดต่อหน้าฉัน มาสร้างความร้าวฉาน? คุณหนูหลิน ไม่อยากจะบอกเลยว่าคุณนี่หน้าหนาพอสมควร”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็หัวเราะขึ้นอย่างไม่เกรงใจ
หลินชิ่นเอ๋อโดนเธอว่าจนหน้าแดงขึ้นๆ โมโหจนกัดฟัน “แกดีใจให้มันน้อยๆหน่อย ต่อให้ฉันเป็นคนแพ้ แกเองก็เป็นแค่คนที่คิดไปเองเท่านั้น เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรแก ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่ได้สนใจในตัวแก แกก็แค่เด็กสาวๆที่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ฉันแพ้แล้วก็ไม่เป็นไร ยังไงเสียฉันก็เป็นแค่คนที่พวกแกบังเอิญเจอบนท้องถนน แต่ว่าแกเป็นแฟนของเขา ผู้ชายไม่ได้สนใจแฟนของตัวเองนี่หมายความว่าอะไร ไม่ได้ต้องให้ฉันพูดเยอะหรอกใช่ไหม?”
นับว่าเสี่ยวเหยียนนั้นเข้าใจครบหมดทุกอย่างแล้ว
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี่น้า……
“หลินชิ่นเอ๋อ” ครั้งนี้เสี่ยวเหยียนแม้แต่จะเรียกเธอว่าคุณหนูหลินก็ยังไม่ทำ แค่เรียกชื่อของเธอออกมาเลยตรงๆ หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมาไม่หยุด “คุณนี่มันเป็นคนที่ใจอิจฉาริษยาหนักหน่วงจริงๆ แถมยังตรงตามฉบับของคนที่เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ ยั่วไม่สำเร็จ ยังกลัวว่าฉันกับเขาจะดีกัน ดังนั้นก็เลยตั้งใจที่จะมาเพื่อพูดคำพูดว่าเขาไม่สนใจฉัน คืออยากจะให้คิดว่า เขาน่ะไม่ได้สนใจในตัวฉันจริงๆ เสร็จแล้วเพราะเรื่องนี้ฉันเลยเสียใจฟูมฟาย จากนั้นก็ไม่คิดจะกลับไปแล้วใช่ไหม?”
“น่าเสียดายนะ” เสี่ยวเหยียนหันมายิ้มหวานๆให้เธออีกครั้ง แตกต่างกับใบหน้าที่กำลังโกรธจัดจนควันออกของหลินชิ่นเอ๋ออย่างลิบลับ ทั้งสองคนตอนแรกก็มีความแตกต่างกันอยู่แล้วทางอายุ บุคลิก ในตอนนี้ยิ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน
“ตอนก่อนที่จะมา ฉันยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องขอบคุณคุณ เพราะว่าปฏิกิริยาของคุณ ฉันมองแล้ว คุณคงจะโดนปฏิเสธมาอย่างรุนแรงมากๆ ฉันเดาว่าแค่มองคุณเพิ่มอีกสักครั้งหานชิงก็ไม่ทำ? เพราะฉะนั้นคุณก็เลยโกรธขนาดนี้?”
“แก!”
เสี่ยวเหยียนถอยหลังไปสองก้าว พูดขึ้นอย่างสบายใจอย่าหาใดเปรียบ “จริงสิ ยังต้องขอบคุณที่มาบอกข่าวฉันว่าเขาไม่ได้เป็นไข้ตัวร้อน ฉันเลยไม่ต้องไปอีกรอบ กาน้ำร้อนก็ให้คุณแล้วกัน ฉันว่าคุณโกรธขนาดนี้ จะดื่มหน่อยถึงจะดี”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็โยนกาน้ำไปทางหลินชิ่นเอ๋อ ไม่ได้เกรงใจเลยสักนิด
“กรี๊ด!” หลินชิ่นเอ๋อ ร้องออกมาเสียงแหลมถอยไปทางด้านหลัง แต่ว่ากาน้ำก็โดนเข้ากับปลายเท้าของเธอ เจ็บจนสีหน้าของเธอเปลี่ยนไปชัดเจน “แกมันบ้า!”
“จะได้ยังไงล่ะ นี่ฉันเผื่อคุณเลยน้า~ ฉันกลับไปก่อนนะ อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆนะ บ๊ายบาย”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็บอกลาหลินชิ่นเอ๋อ กลับไปทางเดิม
เพราะเพิ่งจะด่าหลินชิ่นเอ๋อเสร็จ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนรู้สึกกระฉับกระเฉง อารมณ์ดีมากที่สุด แถมหานชิงไม่ได้เป็นไข้ อย่างนั้นเธอเองก็ไม่กังวลแล้ว
แต่ว่า…..ในตอนที่เดินมาถึงประตูห้องพัก มือที่จะกดกริ่งของเสี่ยวเหยียนก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ เวลาเลยมาเนิ่นนานแล้วก็ยังไม่กล้ากดลงไป
ริมฝีปากของเธออ้าเปิดออกแล้วก็ไม่ส่งเสียง ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี
ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าหานชิงโดนวางยาก็ยังดี ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาโดนวางยา หลังจากที่เธอเข้าไป……จะเผชิญหน้ากับเขายังไง?
แถมตัวเธอเองยังบอกว่าจะให้ซ่อมกาน้ำร้อนให้ ตอนนี้กาน้ำก็ไม่มีแล้ว เธอจะโกหกยังไง? คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็เริ่มกังวลขึ้นมาแล้ว รู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกก็ไม่เอากาน้ำให้ผู้หญิงเลวคนนั้นหรอก
ในใจของเสี่ยวเหยียนก็คิดไปมาตั้งหลายครั้ง ยกมือขึ้นแล้วก็เอาลง เธอนั้นกลัวจริงๆ แค่เข้าไปก็ได้แล้วเหรอ? ตอนนี้หานชิงจะต้องทรมานมากแน่ๆ บางทีเองอาจจะสามารถ……
ต่อจากนั้นเธอไม่กล้าคิดต่อไปเรื่อยๆ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าตัวเองนั้นเกินไปแล้ว คนเขาโดนวางยายังไม่ได้ว่าอะไร เธอเองไม่ได้โดนวางยา คิดเรื่องเลอะสะเปะสะปะพวกนี้ทำอะไร?
เสี่ยวเหยียนกุมแก้มของตัวเองเอาไว้ รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั้นไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว?
ครืด——
และในเวลานี้เอง อยู่ๆประตูห้องก็โดนเปิดออก เสียงทุ้มแหบพร่าก็ดังขึ้น
“ยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วก็ยังไม่เข้ามา เหม่ออะไรน่ะ?”
หา??
เสี่ยวเหยียนได้สติขึ้นมาในทันที เงยหน้าก็มองเห็นหานชิง เมื่อกี้เธอยังเอามือบังหน้าเขินๆแดงๆ โดนเปิดเผยแล้วเหรอ? เธอรีบเอามือลง คนทั้งร่างยืนตรง มองเขาด้วยสายตาที่จริงจังจะหาใดเทียบ
หานชิงหรี่ตาด้วยท่าทางยิ้มเหมืองไม่ได้ยิ้ม พูดขึ้นอย่างอารมณ์ไม่ดี “เข้ามาก่อนสิ”
เขาเพิ่งจะเบี่ยงตัว เสี่ยวเหยียนเดินเข้าไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงเขาปิดประตู
ตอนแรกที่คิดว่าไม่มีอะไร แต่ว่าหลังจากที่รู้แล้วว่าเขาเป็นอะไร เสี่ยวเหยียนเพียงคิดว่าหลังจากที่ประตูโดนหานชิงปิดลงแล้วนั้น หัวใจของเธอก็เต้นแรงๆไปด้วยเหมือนกัน รวมไปถึงอากาศรอบๆเองก็ดูอึดอัดขึ้นมา
เสี่ยวเหยียนกัดปากตัวเองด้วยความกังวล ก็ได้ยินเสียงของหานชิงดังมาจากทางด้านหลัง
“ไม่ใช่ว่าไปเรียกให้คนซ่อมกาน้ำร้อนให้เหรอ? ของล่ะ?”
หานชิงจ้องมือเปล่าๆสองของเธอแล้วถามขึ้น
เสี่ยวเหยียนโดนเขาถามแบบนี้ ในพริบตาแม้แต่นิ้วเท้าก็ขดเข้าเหมือนกัน เธอหันกลับไปมองหานชิงครั้งหนึ่ง เอ่ยขึ้นอย่างอายๆ “คือว่า…..พนักงานโรงแรมบอกว่าไม่มีที่เหลือเอาไว้ ก็เลย……”
“ก็เลย? ทำไมของเก่าก็ไม่เห็นแล้วเหมือนกัน?”
เสี่ยวเหยียนมองตาของหานชิง เงียบไปตั้งพักใหญ่ๆจากนั้นถึงได้ว่าขึ้น “เพราะว่าเป็นของพัง ดังนั้นฉันก็เลยไม่ได้เอากลับมา”
หานชิงหัวเราะเบาๆ “ใช่เหรอ?”
เขามีท่าทางสบายๆและสงบ จากแววตากับสีหน้าท่าทางไม่เหมือนกับคนที่โดนวางยา ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเหงื่อเล็กๆบนหน้าผากเขา ดูไม่ออกจริงๆ
คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนก็เดินไปด้านหน้าสองก้าว สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นของเขาหลังจากนั้นอยู่ๆเธอก็ถามขึ้นกะทันหัน
“คุณไปอาบน้ำเย็นมาเหรอคะ?”
หานชิงก็ตอบอย่างไม่รีบร้อน ริมฝีปากค่อยๆยกยิ้มเป็นโค้งที่สวยงามขึ้น ภายในดวงตาสีดำนั้นราวกับว่ามีดาวตกที่กำลังเผาไหม้อยู่อย่างไรอย่างนั้น จับจ้องเธออย่างเป็นประกาย
“……..”
ภายใต้การจับจ้องของสายตาแบบนี้ ริมฝีปากสีชมพูของเสี่ยวเหยียนอ้าปากไปโดยไร้เสียง แค่ประโยคเดียวกลับพูดไม่ออก เธอโง่มาก ทั้งๆที่คิดว่าจะเสแสร้งแกล้งว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่า……แค่เพียงพูดก็โดนประจานแล้ว
คิดถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนโมโหความโง่ของตัวเองอยู่ในใจ ตอนแรกเธอคิดว่าจะไม่บอกแล้วให้มันผ่านไป แต่ว่าเวลาต่อจากนี้ไปพวกเขาจะต้องอยู่ภายในห้องเดียวกัน ให้ทำเป็นเสแสร้งต่อไปก็ดูจะไม่จริงใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเสี่ยวเหยียนเลยทำได้เพียงเรียบเรียงคำพูดใหม่อีกครั้ง จากนั้นค่อยพูดขึ้น “คือว่า…….คุณต้องไปโรงพยาบาลหรือเปล่าคะ?”
หลังจากที่ถามจบ เสี่ยวเหยียนคิดว่าตัวเองฉลาดมาก เพียงแค่ถามเขาว่าต้องไปโรงพยาบาลหรือเปล่า แถมไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ในตอนนี้หานชิงก็ไม่รู้แล้วว่าตกลงตัวเองหมายความว่าอะไร
และตอนที่เสี่ยวเหยียนกำลังคิดเองเออเอง ชายตรงหน้ากลับเดินมาทางด้านของเธอสองสามก้าว ระยะห่างของทั้งสองคน หดลงภายในช่วงเวลาหนึ่ง เธอสัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆที่เพิ่งผ่านการอาบน้ำเย็นมาของตัวเขา
“คุณว่ายังไงคะ?”
หานชิงโน้มตัวลงเล็กน้อย เป่าลมร้อนรดใบหูของเสี่ยวเหยียน
“……..”
เสี่ยวเหยียนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่เงยหน้าขึ้นมามองเขา พูดขึ้นอย่างโง่เขลา “ไม่อย่างนั้น……ก็ไปโรงพยาบาลดีกว่านะคะ ให้คุณหมอมาจัดการ บางทีอาจจะดีขึ้น”
เพิ่งจะพูดจบ อยู่ๆคางก็บีบเข้าให้ มือใหญ่ของหานชิงทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้น สายตาที่เธอตั้งใจจะหลบในตอนแรก ตอนนี้สบตากันกับเขาจนไม่อาจจะหนีได้แล้ว
เพราะว่าเขาโน้มตัว ดังนั้นระยะห่างของทั้งสองคนจึงใกล้กันมากๆ
“ถ้าเกิดว่าฉันไม่อยากจะไปโรงพยาบาลล่ะ?”