เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… – ตอนที่ 1333

ตอนที่ 1333

บทที่1333 เธอดูละครเยอะไปหรือเปล่า

เจียงเสี่ยวไป๋นอนหลับฝันหวาน จู่ๆก็ถูกจับให้ลุกขึ้น ปวดหัวจนแทบทนไม่ไหว จึงเอ่ยออกไปด้วยความฉุนเฉียว “ใครอ่ะ ปล่อยฉันนะ!”

เสียงของเธอฟังดูตื่นตัวเอามากๆ ฟังไม่ออกถึงความเมามายเลยแม้แต่น้อย

ถ้าไม่ใช่แก้มและลำคอที่แดงออกมาพวกนั้นแล้ว ก็มองไม่ออกเลยว่าเธอดื่มเหล้าไป

เซียวซู่ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกโมโห แรงที่จับแขนของเธอก็ยิ่งลงแรงหนักขึ้น จนแทบจะบีบแขนของเธอหัก “เธอผู้หญิงคนเดียว มาดื่มเหล้าที่บาร์เหล้าอย่างนี้ไม่รู้จักคิดบ้างเลยหรอ? ดื่มมากมายขนาดนี้ คืออยากดื่มเป็นตายแล้วให้คนอื่นหิ้วไปได้ง่ายๆ?”

เรื่องการลากสาวเมาที่ผับไม่รู้ว่าเคยเกิดมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

วันไนท์สแตนด์ก็เรื่องนึง แต่บางรายก็มีตื่นขึ้นมาแล้วแม้แต่อวัยวะก็หายไปหมด ชีวิตก็ไม่เหลือ

เธอผู้หญิงคนนึง ไม่รู้จักรักตัวเองเลยรึไง?

เซียวซู่ได้ถูกเธอทำให้โมโหเสียจนปวดหัวจี๊ดขึ้นมา เส้นเลือดบนขมับของเขาเดือดปุดๆออกมา มือที่จับแขนเจียงเสี่ยวไป๋นั้นก็ค่อยๆลงแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

จนเมื่อเจียงเสี่ยวไป๋ทนไม่ไหว จึงได้เอ่ยด้วยเสียงสะอึกสะอื้นออกมา “เจ็บ…”

เซียวซู่ในตอนนี้ก็เลยได้สติกลับมา จึงได้คลายมือที่บีบเธอเอาไว้

เจียงเสี่ยวไป๋มองเขาไปอย่างน่าสงสาร พร้อมบึนปากออกมา “คุณจะดุขนาดนี้ไปทำไม? ฉันก็แค่ชอบดื่มเหล้า เกี่ยวอะไรกับคุณ? ปล่อยฉันนะ”

เซียวซู่ “…”

เจียงเสี่ยวไป๋ที่อยู่ตรงหน้าได้กลายเป็นสาวน้อยขึ้นมาทันใด ไม่เพียงแต่สีหน้าที่แสดงออกมา แม้แต่น้ำเสียงคำพูดคำจาเองก็เหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังออดอ้อนอยู่เลยไม่มีผิด

ทั้งๆที่เมื่อวินาทีก่อนหน้านี้ยังดุสุดๆ แต่ผลสุดท้ายในวินาทีต่อมาก็เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาเสียแล้ว?

เซียวซู่ถูกการตอบสนองของเธอทำเอามึนงงไป แต่เขาก็รู้ดีว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้นั่นก็คือการพาเธอกลับบ้านไปก่อน

ดังนั้นแล้วเซียวซู่ก็เลยไม่ได้พูดไร้สาระอะไรกับเธออีก ทั้งยังเอ่ยพูดเสียงเย็นออกมา “กลับไปแล้วค่อยว่ากันอีกที”

ที่นี่มันวุ่นวายเกินไป และก็ไม่ใช่ที่ที่น่าคุยกันเท่าไหร่นัก

เซียวซู่ลากเจียงเสี่ยวไป๋เดินไปทางข้างนอก แต่เจียงเสี่ยวไป๋กลับไม่ยอมก้าวเท้าออกไปเลยแม้แต่น้อย ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไป ถึงขนาดที่สุดท้ายมือข้างนึงก็ยังเกาะอยู่กับเก้าอี้ตรงข้างๆเคาน์เตอร์ตรงนั้นอีก

“เธอคิดจะทำอะไร? หรือว่าอยากอยู่ดื่มที่นี่ต่อหรือไง?”

เจียงเสี่ยวไป๋ไม่พูด นั่งกอดเก้าอี้อยู่ตรงนั้น นานกว่าจะเงยหน้าขึ้นมา จ้องมองเซียวซู่ไปด้วยแววตาที่ดูเบลอๆ

“ฉันอยากให้คุณอุ้มฉันกลับ”

เซียวซู่ “?”

ในชั่วขณะหนึ่ง เขาก็นึกว่าเขาฟังผิดไป

“เธอว่าอะไรนะ?”

เจียงเสี่ยวไป๋เน้นย้ำออกมาอย่างเป็นจริงเอาจัง “อุ้มฉันกลับไปไง”

จากนั้นก็ก้มหน้าลง เอ่ยออกมาอย่างน่าสงสาร “ฉันปวดหัวมากเลย ฉันเดินไม่ไหว”

บาร์เทนเดอร์ฟังมาจนถึงประโยคนี้ แทบจะหลุดหัวเราะออกมา ก่อนหน้านี้เขาก็แนะนำให้เซียวซู่อุ้มเธอไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ฟัง ตอนนี้มาแล้วมั้ยล่ะ? ผู้หญิงเอ่ยปากพูดออกมาเองอย่างนี้ ดูสิว่าเขาจะยังกล้าปฏิเสธอยู่อีกมั้ย?

เซียวซู่มองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างเอาจริงเอาจังอยู่สักพัก คิดว่าตอนนี้เธอคงเมาเสียจนคาดว่าคงมึนหัวไม่มีสติอยู่เป็นแน่ ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไร แล้วหน้าก็ยังแดงจนกลายมาเป็นอย่างนี้ คงจะไม่สบายตัวจริงๆนั่นแหละ

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็เม้มริมฝีปากเดินเข้าไป ย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเจียงเสี่ยวไป๋

“ฉันแบกเธอกลับแล้วกัน โอเคมั้ย?”

“แบก?”

เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินคำนี้ ก็ได้เงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสีหน้าที่ดูแปลกออกไป “อุ้มไม่ได้หรอ?”

“ถ้าแบก เธอจะได้สบายตัวหน่อย ถึงตอนนั้นแล้วเธอจะได้ซบบ่าฉันนอนพักได้ไง”

“อ๋อ” หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ได้ยินก็เหมือนกับว่าจะรู้สึกพึงพอใจสุดๆ พยักหน้าออกมา ใบหน้าเผยรอยยิ้มหวาน “งั้นก็ได้ งั้นคุณแบกฉันกลับเถอะ!”

จากนั้นเธอก็อ้าแขนไปทางเซียวซู่

ใบหน้าของหญิงสาวภายใต้แสงไฟที่สาดส่องทั้งขาวและทั้งเกลี้ยงเกลา แก้มกับลำคอชมพูออกมา อ้าแขนมองไปทางเซียวซู่ด้วยสายตาที่ดูเบลอๆเล็กน้อย

เซียวซู่นิ่งอึ้งไปสักพัก จากนั้นเขาก็หันไปหันหลังให้กับเจียงเสี่ยวไป๋

เจียงเสี่ยวไป๋เห็นไหล่กว้างนั้น ก็ลุกขึ้นพุ่งเข้าไปหาเขาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย แรงที่เธอพุ่งเข้าไปค่อนข้างที่จะแรงไปหน่อย สามารถพูดได้เลยว่าร่างของเธอชนเข้ากับหลังของเซียวซู่เต็มๆ

เซียวซู่ถูกชนเข้ามาก็แทบจะเซล้มลงไปข้างหน้า มือทั้งสองข้างวางลงบนพื้นเพื่อทรงตัว

เขาสบถออกมา ผู้หญิงคนนี้ใช้แรงลงมาเท่าไหร่กัน ชนเข้าไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างนี้ ถ้าไม่เพราะกำลังของเขายังพอโอเคอยู่ล่ะก็ เกรงว่าตอนนี้ทั้งสองคนก็คงล้มไปนอนกับพื้นกันไปแล้ว

“รีบลุกขึ้นมา!!!”

หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋นอนลงไปบนหลังของเขาแล้ว ก็ได้ยกมือขึ้นมากอดคอเซียวซู่เอาไว้แน่นทันที เรี่ยวแรงอันมหาศาลนั้นเหมือนกับว่าจะรัดคอเซียวซู่ให้ขาดเสียให้ได้ ทำเอาเขาแทบจะไม่สามารถลุกยืนขึ้นมาได้เลย

เซียวซู่นั่งเรียบร้อยแล้ว ก็จับมือของเธอพร้อมพูดออกไปว่า “อย่ากอดแน่นขนาดนี้สิ ฉันหายใจไม่ออก”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋ก็กอดเขาแน่นขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่พอใจ เซียวซู่หายใจแทบไม่ออกเลย ผู้หญิงคนนี้จริงๆเลย…

เขากัดฟันเอ่ยออกไป “เธอยังอยากให้ฉันลุกขึ้นหรือเปล่า?”

เจียงเสี่ยวไป๋กะพริบตาปริบๆอย่างไร้เดียงสา “ถ้ารัดคุณเอาไว้คุณยืนขึ้นไม่ไหวหรอ?”

“เธอว่ายังไงล่ะ? ปล่อย!”

“อือ”

เจียงเสี่ยวไป๋ถูกเขาดุ ก็คลายมือออกไปอย่างน่าสงสาร

เซียวซู่ “…ฉันให้เธอคลายแรงลงเล็กน้อย ไม่ได้บอกให้เธอเอามือออก อย่างนี้เดี๋ยวก็ตกลงไปจะทำยังไง”

ดังนั้นแล้วเจียงเสี่ยวไป๋ก็ได้เอาแขนโอบกลับไปอีกครั้ง ครั้งนี้ก็ยังคงแน่นเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้แน่นเสียจนเหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้ เป็นระดับที่เขายังพอหายใจได้อยู่ ดังนั้นแล้วครั้งนี้เซียวซู่ก็เลยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แล้วก็ได้เหยียดตัวแบกเจียงเสี่ยวไป๋ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอก

เจียงเสี่ยวไป๋ที่นอนอยู่บนตัวของเขาก็ได้โอบรอบคอของเซียวซู่ไปอย่างอารมณ์ดี ส่งเสียงร้องครวญครางออกมาพลาง ขาทั้งสองข้างก็ขยับวุ่นไปหมด

ถึงแม้ว่าเธอจะเบามาก ไม่ว่าเซียวซู่จะแบกหรือว่าอุ้มเธอก็ไม่ได้มีความกดดันอะไร แต่เธอกอดคอเขาแน่นอย่างนี้ แล้วขาทั้งสองข้างก็ยังขยับวุ่นไปหมด มันง่ายที่จะทำให้เซียวซู่ทรงตัวไม่อยู่ ดังนั้นแล้วเซียวซู่ก็เลยจะต้องบอกให้เธอหยุดไปพลางรีบเดินออกไปข้างนอกไปพลาง

ไม่ง่ายเลยที่จะออกมาจากบาร์เหล้านี้ได้ ลมหนาวพัดเข้ามา เจียงเสี่ยวไป๋ก็กอดเซียวซู่แน่นขึ้นทันที พลางพูดออกไป “หนาวจะตายอยู่แล้ว! ฉันต้องการฮีตเตอร์! ฮีตเตอร์!”

เซียวซู่ “…”

เขาหันหน้ากลับไปมองอย่างหมดคำพูด “ที่นี่ไม่ใช่ทางเหนือสักหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ก็ไม่ใช่ช่วงหนาว เธอจะเอาฮีตเตอร์ไปทำไมกัน?”

“ฉันไม่สน!” เจียงเสี่ยวไป๋นอนโวยวายอยู่บนหลังของเขา “ฉันอยากได้ฮีตเตอร์ ฉันหนาว!”

เสียงของเธอดังมาก เรียกสายตาของคนแถวนั้นมองเข้ามาเป็นครั้งแล้วครั้งเล่า!

“ถ้าคุณไม่ให้ฮีตเตอร์ฉันน่ะ คุณก็โหดร้ายกับฉันน่ะสิ! ฮือๆๆๆๆ…”

เซียวซู่ขี้เกียจจะไปใส่ใจเธออีก เดินออกไปต่อ หลังจากที่มาถึงลานจอดรถก็ได้พาเธอยัดเข้าไปในรถ จากนั้นก็ชะโงกเข้าไปคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ

แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่คาดเข็มขัดไป เจียงเสี่ยวไป๋ก็กุมมือของเขาเอาไว้ มองเขาไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ “องค์ฮ่องเต้ องค์ฮ่องเต้พระองค์จะทำอะไรกับหม่อมฉันเพคะ?”

เซียวซู่มือกระตุก เบิกตามองเธอ

สายตาของเจียงเสี่ยวไป๋ประดับไปด้วยน้ำตา “องค์ฮ่องเต้จะจับหม่อมฉันขังตำหนักเย็นหรือเพคะ? หม่อมฉันทำผิดอะไร? พระองค์บอกหม่อมฉันมาสิเพคะ หม่อมฉันจะได้แก้ ดีมั้ยเพคะ?”

“…”

เซียวซู่กลืนน้ำลาย ผลักมือเธอออกไปพร้อมเอ่ยออกมาว่า “เธอดูละครมากไปหรือเปล่า?”

“องค์ฮ่องเต้! พระองค์ได้โปรดบอกหม่อมฉันเถิดเพคะ!”

เจียงเสี่ยวไป๋กอดแขนเขาแน่น ไม่ปล่อยให้เขาได้หลุดรอดไป “ไม่อย่างนั้นแล้ววันนี้ก็จะเท่ากับว่าหม่อมฉันก็คงต้องตายเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ จะไม่ปล่อยองค์ฮ่องเต้ไปเด็ดขาดเพคะ”

เผชิญกับเจียงเสี่ยวไป๋ที่เมาแล้วเรื้อนอย่างนี้ เซียวซู่ก็จนปัญญาแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าพอเธอเมาแล้วจะกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ ถ้ารู้ก่อนว่าเธอจะเป็นอย่างนี้ เขาไม่มีทางไปรับเธอมาหรอก

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก…

Status: Ongoing

ถูกบังคับเป็นตัวแทนของงานแต่งงานนี้ เธอแต่งงานกับผู้ชายที่พิการแต่กลับมีอํานาจ ใหญ่ “ฉันเปโม่เซินไม่เอาผู้หญิงที่ท้องและไม่รู้ว่าพ่อของลูกเป็นใครเด็ดขาด”เดิมที่คิดว่า งานแต่งงานนี้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอกลับเผลอใจ ไปไปมามา สุดท้ายเธอก็จากไป ด้วยความเสียใจผ่านไปหลายปี ลูกชายที่หน้าตาคล้ายกับเขามากตบหัวของเปโม่เซิน ด้วยฝ่ามือเล็กๆ “พ่อคนร้าย นายว่าใครเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าพ่อของตัวเป็นใคร ?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท