เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1570 ยั่วยุ
“หยวนหยวน”
สีหน้าที่แสดงออกมาของจงฉู่เฟิงมีความจริงจังสุดๆออกมา “เมื่อกี้คนที่โทรเข้ามาคือเวินจิ่งหรัว เธอบอกกับฉันว่าหยวนหยวนอยู่ที่งานวันเกิดของเธอ ปกติเธอไม่มีทางจะพูดโกหกอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะสืบมาดีแล้วถึงได้ไป”
“…”
ไม่ได้รับการตอบสนองกลับมาอยู่นาน แต่จงฉู่เฟิงรับรู้ได้ถึงบรรยากาศจากร่างของยู่ฉือยี่ซูที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ถางหยวนหยวนเป็นคนที่เขาเฝ้าดูแลประคบประหงมมา ปกติเขาพูดถึงถางหยวนหยวนให้มากมายไปแค่ประโยคเดียว เขาก็ไม่พอใจแล้ว
ตอนนี้เวินจิ่งหรัวกลับมาพาคนเขาไปงานเลี้ยงวันเกิด นี่ไม่ใช่ว่าจะเป็นการแหย่เสือหรือไงกัน? รู้ทั้งรู้ว่าอย่างนี้มันจะยั่วโมโหยู่ฉือยี่ซู แต่ก็ยังยอมเสี่ยงพาถางหยวนหยวนไปงานวันเกิดอีก
เดิมทีก็ไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ จงฉู่เฟิงก็แทบจะเห็นบทสรุปของเรื่องนี้ได้ล่วงหน้าเลย
ยู่ฉือยี่ซูเอ่ยด้วยเสียงนิ่งขรึมออกมา “ที่ไหน?”
“สถานที่ได้ส่งมาแล้ว จะไปตอนนี้เลยมั้ย?”
ยู่ฉือยี่ซูเอาเสื้อคลุมมาสวม รูดซิบขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไปพาหยวนหยวนกลับมา”
งานวันเกิด
หยวนเย่าหันกับจางเสี่ยวลู่ทั้งสองคนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ได้ออกมากันแล้ว และก็ยังแต่งตัวกันอีกที เมื่อก่อนพวกเธอเคยร่วมงานวันเกิดกันอยู่บ้าง แต่ปกติแล้วจะเป็นเพื่อนวัยเดียวกันทั้งนั้น ไม่เหมือนกับตอนนี้ คนที่มาวันนี้โดยทั่วไปแล้วก็จะแก่กว่าพวกเธอหลายปีทั้งนั้นเลย อีกทั้งยังมีพี่ชายที่ทั้งสูงทั้งหล่ออยู่หลายคน เห็นแล้วจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันต่างพากันใจเต้นรัวกันออกมา
“ถ้าไม่เพราะพี่ชายของหยวนหยวนสุดยอดมากล่ะก็ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นไหวขึ้นมาแน่” หยวนเย่าหันมองคนหล่อแต่ละคนที่ยืนกันอยู่ตรงนั้นพวกนั้น แต่กลับไม่อาจหวั่นไหวซี้ซั้วได้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ
แต่จางเสี่ยวลู่กลับแสยะริมฝีปากออกมา เอ่ยยิ้มๆออกมาเบาๆ “มองให้สูงเอาไว้หน่อยสิ คนพวกนี้ก็แค่ของริมทางเท่านั้น คนอย่างพี่ชายของหล่อนอย่างนั้นต่างหากที่เป็นหนึ่งในหมื่น”
“ใช่ ถ้าไม่มีเขาก็แล้วไป แต่นี่เห็นแล้ว เปลี่ยนไม่ได้เลยจริงๆ รอให้จีบไม่ติดก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”
ทั้งสองคนกำลังคุยกัน สายตาก็มองไปยังจุดเดียวกันทันที สายตามองกันอยู่ตรงจุดที่ถางหยวนหยวนอยู่พอดี เธอไม่ได้เปลี่ยนชุด นั่งกินเค้กผลไม้อยู่ตรงนั้น สีหน้าที่แสดงออกมาบนใบหน้าอมชมพูดูชื่นบานมีความสุขออกมา กินไปคำนึงก็หรี่ตาลงไปอย่างพออกพอใจ มองไปแล้วก็ดูน่ารักอย่างมาก
แต่หญิงสาวทั้งสองคนกลับแสดงสีหน้าดูถูกออกมาพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
“เธออ้วนเสียขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังจะกินอยู่อีก? ตกลงแล้วรู้ตัวบ้างหรือเปล่าเนี่ย?”
“คนแบบนี้ไม่มีวันรู้ตัวหรอก โลกของพวกหล่อนมีแต่เรื่องกินเท่านั้นแหละ ไม่มีวันจะสนใจรูปร่างของตัวเองหรอก”
“ชิส์ ถ้าหล่อนไม่ใช่น้องสาวของคนคนนั้นนะ ฉันก็ไม่อยากจะไปเป็นเพื่อนกับผู้หญิงอย่างนี้หรอกนะ อ้วนจนมีสภาพอย่างนี้แล้วในใจของตัวเองไม่มีการสำเหนียกบ้างเลย หรือว่าหล่อนจะคิดว่าตัวเองน่ารักมากงั้นหรอ?”
“ไม่รู้สิ แต่ถึงยังไงฉันเห็นแล้วก็ขยะแขยงสุดๆไปเลย แต่ก็ต้องทน เพราะถึงยังไงก็เป็นน้องสาว ต่อจากนี้ถ้าเป็นพี่สะใภ้หล่อน ไม่แน่ว่าจะต้องพาหล่อนไปลดความอ้วนด้วยกันก็ได้”
ถางหยวนหยวนไม่รู้เลยว่าตัวเองได้ถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์อยู่ เธอรู้เพียงแค่เค้กผลไม้ตรงหน้านี้มันรสชาติดีมาก ไม่รู้ว่าซื้อมาจากร้านเค้กร้านไหน เดี๋ยวเธอจะต้องลองถามพี่เวินเพื่อขอที่อยู่ร้านเค้กจากเธอดู หลังจากนี้ก็ให้พี่ชายช่วยซื้อมาให้
คิดไปว่าต่อจากนี้จะมีเค้กให้กินบ่อยๆแล้ว ถางหยวนหยวนก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา
งานวันเกิดนี้ ต่างก็เป็นคนที่เวินจิ่งหรัวเชิญมาทั้งนั้น คนส่วนใหญ่มาเพื่อโชว์ตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ก็เป็นคนที่อยากจะมาชมความสนุกกัน อย่างถางหยวนหยวนนั้น ที่หลังจากมาแล้วก็สนเพียงแค่เรื่องกิน มีแค่เธอเพียงแค่คนเดียวจริงๆ เพื่อนพ้องของเวินจิ่งหรัวยืนอยู่ข้างๆเธอ มองภาพฉากนี้
“นี่ใช่น้องสาวของยู่ฉือยี่ซูจริงๆหรอ? ทำไมเธอถึงได้กินเก่งขนาดนี้กันนะ อีกอย่างดูแล้วก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับยู่ฉือยี่ซูเลย”
เวินจิ่งหรัวโคลงไวน์ที่อยู่ในแก้ว เอ่ยพร้อมยิ้มจางๆออกไป “ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ก็แค่เพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็กจนโต”
“อะไรนะ? ไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ แล้วยังเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กงั้นหรอ?” เหล่าเพื่อนสาวแสดงอาการประหลาดใจกันออกมา “แล้วเธอก็ยังพาหล่อนมา ไม่กลัวหล่อนจะแย่ง…”
“ไม่มีทาง” รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินจิ่งหรัวนั้นดูมั่นใจสุดๆ “ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนั้นบริสุทธิ์ไม่มีอะไรเลย เธอเห็นท่าทางของเด็กคนนั้นหรือเปล่า? ในสายตาของเธอมีแต่ของกินทั้งนั้น ไม่มีอะไรอื่นเลย”
เหล่าเพื่อนสาวมองไปทางถางหยวนหยวนอีกที แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมา
“โชคดีที่หล่อนอ้วน ผู้หญิงอย่างนี้ปกติแล้วก็ไม่มีใครมองหรอก เธอก็สบายใจได้เลย”
ได้ยินอย่างนั้น เวินจิ่งหรัวกลับนิ่วหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ออกมา “เมื่อกี้เธอว่าไงนะ?”
“เอ่อ ฉันพูดอะไรผิดไปหรอ?”
“ยู่ฉือยี่ซูเห็นเธอเป็นน้องสาว อย่างนั้นแล้วเธอก็เป็นน้องสาวของฉันเหมือนกัน เธอกล้าพูดว่าเธออ้วน?”
“ฉัน…”
“พอเถอะ เธออย่าพูดออกมาอีก หลบไปซะ”
คนพวกนั้นรู้สึกโมโหกันขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรอีก ทำได้เพียงไปยืนอยู่ที่ข้างๆเงียบๆ
“พี่เวิน พี่ซูมาแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนพูดประโยคนี้ออกมา หลังจากนั้นสีหน้าของเวินจิ่งหรัวก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย มองเห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่งสองคนเข้ามาจากทางเข้า พอเข้างานมา ก็ตรงเข้าไปยังถางหยวนหยวนที่กำลังกินเค้กอยู่ทันที
ส่วนจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันที่อยู่ข้างๆก็เอาแต่หาพี่ชายของถางหยวนหยวนอยู่ตลอด ทั้งสองคนยังรู้สึกแปลกใจอยู่เลย ไม่ใช่ว่าพี่ชายเธออยู่ที่นี่หรือไง ทำไมมาตั้งนานแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้นเอง ทันใดนั้นเองทั้งสองคนก็เห็นยู่ฉือยี่ซูเข้ามาในงาน จึงถือกระโปรงเดินเข้าไปอย่างรีบร้อน
ถางหยวนหยวนยังกินเค้กอยู่ กินไปกินมาก็ได้ค้นพบถึงความผิดปกติ
เอ๊ะ ทำไมหลังจากที่เธอมาแล้วก็เอาแต่กินเค้ก? ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ชายอยู่ไหน เธอสนใจเพียงแค่กินไม่ได้ไปหาเขา เขาคงจะไม่โกรธหรอกมั้ง?
ดังนั้นแล้วถางหยวนหยวนก็ได้มองไปยังเค้กที่ยังกินไม่เสร็จตรงหน้า ใบหน้าเล็กเผยสีหน้าสับสนออกมาเล็กน้อย เธอยังอยากกินต่ออยู่เลยนะ หรือว่าจะไปหาพี่ชายก่อนแล้วค่อยกลับมากินดี?
ในระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเธอ
“หยวนหยวน”
เสียงนี้…พี่ชาย?
ถางหยวนหยวนหันหน้าไปอย่างประหลาดใจเล็กน้อย และก็สบเข้ากับใบหน้าหล่อของยู่ฉือยี่ซูอย่างที่คิดเอาไว้ เพียงแต่สีหน้าของพี่ชายในวันนี้ดูเคร่งขรึมอย่างมาก
“พี่ชาย ในที่สุดพี่ก็มา”
ยู่ฉือยี่ซูเห็นเค้กผลไม้ที่ถูกเธอกินไปแล้วเกินกว่าครึ่ง ภายในใจก็ถอนหายใจอย่างหน่ายใจออกมา แล้วมองดูสภาพของเธออีกที มุมปากเปื้อนครีมไปหมด ทำได้เพียงแค่หยิบกระดาษเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ายื่นออกไปให้เธอ
“เช็ดซะ”
เมื่อก่อนยู่ฉือยี่ซูไม่ได้มีนิสัยพกกระดาษเช็ดหน้าติดตัว ต่อมาในภายหลังเพราะว่าถางหยวนหยวนนั้นเป็นนักกินตัวยงคนหนึ่ง อีกทั้งปกติกินอะไรแล้วกินเสร็จก็ไม่เช็ดปาก พอนานวันเข้า ยู่ฉือยี่ซูก็ได้ติดจนเป็นนิสัย บนตัวก็มักจะพกกระดาษเช็ดหน้าติดตัว เพื่อป้องกันไม่ให้จู่ๆเธอกินอะไรแล้วไม่เช็ดปากขึ้นมา
“ขอบคุณค่ะพี่ชาย” ถางหยวนหยวนรับกระดาษเช็ดหน้ามาแล้วก็เช็ดลงไปบนหน้ามั่วๆ การกระทำลวกๆอย่างนี้เอาทำยู่ฉือยี่ซูต้องขมวดคิ้วออกมา ดุออกไปเบาๆ “ช้าหน่อย”
สุดท้ายก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ยู่ฉือยี่ซูก็ได้หยิบกระดาษเช็ดหน้ามาเช็ดให้เธอเอง เช็ดไปพลางเอ่ยพูดออกไปพลาง “กินเสร็จแล้วหรือยัง?”
“ยังเลยค่ะ”
“งั้นก็เลิกกิน ฉันจะพาเธอไปซื้อชิ้นใหม่”
ได้ยินอย่างนั้น บนใบหน้าของถางหยวนหยวนก็แสดงอาการแปลกใจออกมาเล็กน้อย “ซื้อใหม่? พวกเราไม่อยู่กินกันที่นี่หรอ?”
“ไม่อยู่ที่นี่”
จงฉู่เฟิงเองก็เอ่ยตามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มกริ่ม “ไปเถอะน้องหยวน วันนี้เธออยากกินอะไรพี่ฉู่เฟิงจะซื้อให้เธอหมดเลย พวกเราไปกินที่อื่นกันเถอะ”
ถางหยวนหยวนถึงแม้ว่าจะความรู้สึกช้าแค่ไหน ก็ยังรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเช่นกัน