เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1568 งานวันเกิด
จากนั้นเสี่ยวโต้วหยาก็ไปทางหานจื่อซี
จงฉู่เฟิงก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วเดินเข้าเข้ามาส่งให้เมิ่งเข่อเฟย “เธอใช้ของพี่ฉู่เฟิงของเธอเถอะ?”
“ไม่ต้องหรอก” เมิ่งเข่อเฟยส่ายหน้าออกมา “พื้นก็ไม่ได้สกปรก ไม่เป็นไรหรอก”
ถึงยังไงเธอก็เป็นเด็กผู้หญิงที่ยากจนคนนึง ตอนที่ทำงานตอนเด็กๆบนตัวก็ยังสกปรกกว่าพื้นนี่เสียอีก ก็เลยไม่ได้คิดอะไร
“เด็กผู้หญิงก็จะต้องได้รับการดูแลปกป้อง เธอจะเล่นตัวอะไรกัน?” จงฉู่เฟิงเอาเสื้อคลุมมาปูลงบนพื้น จากนั้นก็กดตัวเมิ่งเข่อเฟยลงไป “นอกจากนี้เสื้อผ้าที่เธอสวมมันก็เป็นสีอ่อน ถ้าไม่นั่งบนเสื้อฉัน เดี๋ยวตอนลุกขึ้นแล้วมันเปื้อนขึ้นมาเธอไม่กลัวหรอ?”
เมิ่งเข่อเฟย “…”
เธอนั่งลงดีกว่า
“ขอบคุณ”
ตอนแรกฟ้ายังมืดครึ้มอยู่ ต่อมาก็เริ่มสว่างขึ้นมา เพียงไม่นานพระอาทิตย์ก็ค่อยๆขึ้นมา
พวกเขานั่งกันอยู่บนยอดเขานี้การมองเห็นก็ชัดเจนที่สุด สามารถมองเห็นภาพมุมกว้างของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆขึ้นมาได้พอดี เมฆข้างๆถูกแสงอาทิตย์ย้อมไปด้วยสีแดง ส่องแสงสว่างจ้าสุดๆออกมา
เมิ่งเข่อเฟยถูกภาพวิวอย่างนี้ทำเอาตื่นตะลึงไปอีกครั้ง
ที่แล้วมา เธอไม่เคยเห็นภาพอย่างนี้มาก่อน แม้ว่าจะรู้ว่าพระอาทิตย์จะขึ้น จะตกลงได้ แต่พระอาทิตย์ขึ้นนั้นสำหรับเธอแล้ว มันได้หมายถึงการเริ่มต้นใหม่ของวัน แสดงว่าแม่ของเธอกำลังจะเริ่มออกไปทำงานอีกแล้ว
นึกไม่ถึงว่าพระอาทิตย์ขึ้นจะสวยอย่างนี้
“มองจนเหม่อเลยไปหรอ?” จงฉู่เฟิงยื่นมือออกไปโบกอยู่ด้านหน้าของเมิ่งเข่อเฟย เอ่ยออกไปเบาๆ “ตอนที่ฉันมาครั้งแรกก็ช็อกมากเหมือนกัน คนที่ได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตมานั้นต่างกันจริงๆ”
ได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิต?
เมิ่งเข่อเฟยไม่ได้พูดต่อออกไป เธอจ้องมองภาพพระอาทิตย์ขึ้นไปอย่างตั้งอกตั้งใจ ไม่กล้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียว
ภาพอย่างนี้ เกรงว่าหลังจากนี้คงยากที่จะได้เห็นอีกแล้ว
ถางหยวนหยวนพิงร่างยู่ฉือยี่ซู เดิมทีก็ง่วงอยู่นิดหน่อย หลังจากที่เห็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้ว อาการขี้เซาก็ได้หายไปหมด
“พี่ชาย พระอาทิตย์ขึ้นสวยมากเลยนะ”
เธอยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเอง มีความสุขสุดๆ
“อืม” ยู่ฉือยี่ซูก้มลงมองเธอ บนใบหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยอาการมุ่งมาด ดวงตากลมใสไม่มีอะไรเจือปนเลยแม้แต่น้อย
“พี่ชาย หลังจากที่หยวนหยวนโตแล้ว พี่จะยังมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเป็นเพื่อนฉันอยู่หรือเปล่า?”
“มาสิ”
“หลังจากนี้ก็มาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่กันอีกหรอ? ไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่อื่นจะสวยสู้ที่นี่ได้หรือเปล่า! พี่ชาย ถ้ามีโอกาสล่ะก็ พวกเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่มณฑลอื่นด้วยกันดีมั้ย?”
“มณฑลอื่น?”
“อื้ม!” ถางหยวนหยวนพยักหน้าออกไปอย่างแรง “ถึงแม้ว่าจะเป็นพระอาทิตย์ขึ้นเหมือนๆกัน แต่คนละมณฑล คนละที่กัน มุมที่มองก็คงจะไม่เหมือนกัน!”
ยู่ฉือยี่ซูนึกไม่ถึงว่าในหัวของหญิงสาวจะซุกซ่อนความคิดเอาไว้มากมายขนาดนี้ ฟังไปแล้วก็คิดว่ามันช่างแปลกใหม่น่าสนใจดีเหมือนกัน
“เธอพูดมาก็ไม่เลว คนละที่กันมุมที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่เหมือนกัน แล้วยังมีอารมณ์ในตอนนั้นด้วยอีก”
“งั้นหลังจากนี้พี่ชายจะพาหยวนหยวนไปหรือเปล่า?”
“ไป ไปทุกที่เลย” ยู่ฉือยี่ซูผ่อนลมหายใจออกมา ฝ่ามือใหญ่วางลงไปบนหัวของถางหยวนหยวน ใครใช้ให้เขาเอ็นดูเธอกันล่ะ?
“ขอบคุณนะพี่ชาย!”
ในใจของหญิงสาว ในขณะที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัวอะไร ก็ได้ใช้คำพูดนี้มาเป็นการให้คำมั่นสัญญาอย่างหนึ่งเสียแล้ว
หลังจากที่กลับมาที่โรงเรียน เมิ่งเข่อเฟยก็เปลี่ยนมาจนขยันขึ้นมา อีกทั้งยังเงียบกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย เมื่อก่อนตอนที่ถางหยวนหยวนชวนเธอไปกินอะไร เมิ่งเข่อเฟยก็จะไปกับเธอด้วย แต่ตั้งแต่หลังจากที่กลับมาจากดูพระอาทิตย์ขึ้น จำนวนครั้งที่เมิ่งเข่อเฟยไปเป็นเพื่อนถางหยวนหยวนก็น้อยลง ส่วนใหญ่เธอมักจะขลุกตัวอยู่ในห้องสมุด ไม่ก็เป็นระหว่างทางไปห้องสมุด
ถางหยวนหยวนก็เหงาเป็นอย่างมาก ส่วนเมิ่งเข่อเฟยก็เรียนหนัก จึงเป็นโอกาสให้จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันได้ใกล้ชิดกับถางหยวนหยวนพอดี
ตอนแรกถางหยวนหยวนก็ยังไม่ยอมเล่นกับพวกเธอ เพราะว่าเรื่องการทะเลาะกันตอนที่ฝึกทหารครั้งนั้น จางเสี่ยวลู่ก็ได้ขอโทษเธอนานแล้ว ให้ขนมเธอมานาน ถางหยวนหยวนก็เพิ่งจะยกโทษให้เธอ
เพราะเรื่องครั้งนี้ จางเสี่ยวลู่ก็ยังแอบแขวะอยู่ลับหลัง
“นิสัยลูกคุณหนูจริงๆเลย นึกไม่เลยว่าจะต้องให้ฉันง้ออยู่ตั้งนาน โชคดีนะที่หล่อนอารมณ์เย็นลงแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
หยวนเย่าหันก็เอ่ยเยาะเธอออกมา “นี่เธอทนไม่ไหวแล้ว ถ้าหลังจากนี้เธอกับพี่ชายของหล่อนพัฒนาความสัมพันธ์กันขึ้นมา เธอไม่ต้องมานั่งโอ๋น้องสาวเหมือนกับพี่ชายเขาหรือไง?”
“ชิส์ ทำไมฉันจะต้องไปโอ๋ยัยนั่นด้วยห้ะ ถ้าฉันคบกับพี่ชายหล่อน ฉันจะต้องแย่งพี่ชายหล่อนให้หมดเลย น้องสาวจะมีค่าอะไรอีก?”
ทั้งสองคนหัวเราะให้กัน เพราะว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็คิดกันอย่างนี้
“เย่าหัน ฉันขอพูดให้ชัดเจนก่อนเลยนะ พวกเราทั้งสองคนจะแข่งกันอย่างยุติธรรม ไม่ว่าสุดท้ายแล้วใครจะได้เขาไป พวกเราไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์แค้นเคืองกัน”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
มีวันหนึ่งเลิกเรียนแล้ว ถางหยวนหยวนก็พูดกับเมิ่งเข่อเฟยไปว่า “เฟยเฟย วันนี้พวกเราไปกินข้าวที่โรงอาหารกันเถอะ ฉันได้ยินมาว่าวันนี้มีเนื้อตุ๋นน้ำแดงด้วย!”
ได้ยินอย่างนั้น บนใบหน้าของเมิ่งเข่อเฟยก็ปรากฏสีหน้าลำบากใจออกมา “หยวนหยวน ขอโทษนะ โจทย์พวกนี้ยังทำไม่เสร็จเลย ไม่งั้นเธอก็ไปก่อนเถอะ อีกสักสองสามวันฉันค่อยไปเป็นเพื่อนเธอดีมั้ย?”
บนใบหน้าของถางหยวนหยวนก็เผยสีหน้าขมขื่นออกมา “เฟยเฟย ภาคเรียนของเราเพิ่งจะเริ่ม ทำไมเธอถึงต้องขยันขนาดนี้กันล่ะ?”
“ก็ช่วยไม่ได้นี่ ฉันอยากสอบโรงเรียนดีๆสักหน่อย อีกอย่างฉันก็อยากได้ทุนการศึกษาด้วย”
เมิ่งเข่อเฟยทำได้เพียงฝืนยิ้มขมขื่นออกไป เธอจะทำอะไรอะไรได้? ถ้าเธอมีพื้นเพดีอย่างหยวนหยวน เธอก็ไม่อยากขยันอย่างนี้เหมือนกัน
ได้ยินเธอพูดมาอย่างนี้ ถางหยวนหยวนก็ไม่กล้าจะไปรบกวนอะไรเธออีก ทำได้เพียงให้กำลังใจเธอไป
“งั้นเธอก็พยายามเข้านะ รอจนเธอเรียนเสร็จแล้วเธอค่อยไปเป็นเพื่อนฉันนะ”
“ขอโทษนะหยวนหยวน ฉันไม่ดีเอง”
“ไม่เป็นไรๆ เธอขยันเรียน ให้ฉันเอาข้าวมาให้เธอดีมั้ย? เธออยากกินอาหารรสอะไร?”
“ไม่ต้องหรอก ฉันหิวก็กินบะหมี่ไม่ก็พวกบิสกิตเอาก็ได้”
ถึงแม้ว่าเธอจะพูดมาอย่างนี้ แต่ถางหยวนหยวนก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าอีกเดี๋ยวจะซื้อเนื้อมาให้เมิ่งเข่อเฟยเยอะๆ ช่วงนี้เธอขยันเรียนมากจริงๆ จนผอมไปหมดแล้ว
“หยวนหยวน หล่อนต้องตั้งใจเรียน เธอก็อย่าไปรบกวนหล่อนเลย พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ”
จางเสี่ยวลู่ดึงถางหยวนหยวนให้ลุกขึ้น มองไปทางเมิ่งเข่อเฟยเล็กน้อย เพียงมองไปว่าผู้หญิงคนนี้กลัวเธอ ก็เลยออกห่างจากหยวนหยวน นับว่าหล่อนยังพอรู้ความอยู่
ระหว่างทางไปโรงอาหารนั้นเอง พวกเธอทั้งสามคนก็ถูกผู้หญิงร่างสูงใหญ่สองสามคนเข้ามาขวางทางเอาไว้ เสื้อผ้าที่สวมอยู่บนร่างก็ไม่เหมือนกับชุดโรงเรียนของพวกเธอเลย
จางเสี่ยวลู่หรี่ตาลงมองคนพวกนั้น
“พวกเธอเป็นใคร?”
ผู้หญิงคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ สายตามองมาที่หน้าของถางหยวนหยวน
“เธอคือน้องของยี่ซู?”
ถางหยวนหยวนกะพริบตาปริบๆออกมา ไม่ได้ตอบกลับไป
“น่ารักจริงๆ”
เวินจิ่งหรัวก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าถางหยวนหยวน กลิ่นหอมก็ฟุ้งเข้ามา “พี่สาวเป็นแฟนพี่ชายเธอ อยากชวนเธอมาร่วมงานวันเกิดพี่สาว”
“แฟนพี่ พี่ชาย?”
ที่ผ่านมาถางหยวนหยวนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ายู่ฉือยี่ซูจะมีแฟน แต่ไหนแต่ไรมาเขาเองก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้เลย มาตอนนี้ได้ยินเวินจิ่งหรัวบอกว่าเธอเป็นแฟนของพี่ชาย สาวน้อยก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย
“ใช่แล้ว”
ในดวงตาของจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันต่างก็เผยแววตาที่ทั้งหวั่นกลัวและสงสัย จิตใจไม่สงบออกมา เพราะว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ทั้งสวยและมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากเลย แค่มองก็ดูเป็นคนที่มีหน้าตาที่สวยมาก สวยจนมีพลังการโจมตีออกมาอย่างมาก
“พี่ชายเธอก็อยู่ด้วยนะ เพราะงั้นก็ไปด้วยกันเถอะ”