แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1617 รู้สึกรังเกียจ
เธอกัดปากแน่น รู้สึกเหมือนมีมีดมาทิ่มแทงหัวใจ
หันไปอย่างจะเดินออกไป สุดท้ายก็เห็นเมิ่งเข่อเฟยกลับมาพอดี ทั้งสองสบตากัน เมิ่งเข่อเฟยดูจะพยายามอดทนอยู่ คงจะได้ยินบทสนทนาของจางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันแล้วสินะ
ถางหยวนหยวนขยับปาก เดินไปตรงหน้าอยากจะพูดอะไร ก็ถูกเมิ่งเข่อเฟยดึงแขนวิ่งลงบันไดไป
ทั้งสองวิ่งมาหยุดลงตรงมุมที่ไม่มีไฟ เมิ่งเข่อเฟยหันหลังให้เธอ
“เฟยเฟย?”
ถางหยวนหยวนมองดูแผ่นหลังของเธอ อดไม่ได้เดินเข้าไปพิงหลังเธอ พูดอย่างเหนื่อยล้าว่า: “เธอจะเรียนเสร็จเมื่อไหร่กันนะ พวกเราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานมาก คิดถึงเธอจังเฟยเฟย”
คำพูดออดอ้อนของเธอทำเอาเมิ่งเข่อเฟยใจสั่น ช่วงนี้เธอตั้งใจหลบหน้าถางหยวนหยวนตลอด ไม่ใช่เพราะเกลียดหรอก แต่เพราะอยู่กับเธอนานๆเข้า จางเสี่ยวลู่กับหยวนเย่าหันจะชอบกลั่นแกล้งเธอ และช่วงนี้แผลบนใบหน้าของเธอพึ่งจะหายดี
แต่นานเข้า เมิ่งเข่อเฟยรู้สึกตัวเองอิสระมาก ก็ไม่อยากอยู่กับถางหยวนหยวนอีก วันนี้ไม่คิดว่าถางหยวนหยวนจะกลับมาเช้า เธอไม่ได้ไปวิ่งงั้นเหรอ?
ทั้งสองเจอกันก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็กลัวว่าถางหยวนหยวนพูดแล้วทั้งสองคนนั้นจะได้ยิน ดังนั้นเธอกำลังจะพูด เมิ่งเข่อเฟยก็ดึงเธอวิ่งออกไปที่อื่นแทน
นึกถึงตรงนี้ เมิ่งเข่อเฟยผละตัวออกจากถางหยวนหยวน จากนั้นหันหน้าไป
“การเรียนของพวกเราอาจจะหนักขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้หลังจากที่ฉันตั้งใจแล้วข้อที่ฉันไม่เข้าใจเมื่อก่อนก็ง่ายขึ้นมากเลยล่ะ แม่ฉันทำงานหนักมาก เธอหวังอยากให้ฉันสอบได้คะแนนดี ดังนั้นฉันจะหยุดไม่ได้”
พูดถึงตรงนี้ เมิ่งเข่อเฟยก็พูดกระอักกะอวม “ขอโทษด้วยนะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอก” ถางหยวนหยวนส่ายหน้าเข้าใจ และพูดปลอบใจเมิ่งเข่อเฟยว่า: “น้าคงหวังดีกับเธอมาก งั้นเธอต้องสู้ๆนะ รอเธอสอบได้คะแนนดีๆ พวกเราไปกินข้าวด้วยกัน ฉันไม่รบกวนเธอหรอก”
“อืม เธอช่วงนี้ดีไหม?”
“ยังดี ดีมาก”
“งั้นก็ดี ฉันนึกได้ว่ามีของลืมไปในห้องสมุดน่ะ เธอกลับไปก่อนเลยนะ”
“อะไรนะ ลืมของไว้เหรอ? ฉันไปกับเธอไหม?”
“ไม่ต้องหรอก” เมิ่งเข่อเฟยปฏิเสธอย่างเร็ว และพูดว่า “ฉันไปคนเดียวดีกว่า”
ถางหยวนหยวนหุบยิ้ม “งั้น เธอระวังหน่อยนะ”
“อืม”
เมิ่งเข่อเฟยไปแล้ว ถางหยวนหยวนก็มองแผ่นหลังเธออยู่นาน มือแนบสองข้างตัว จับชายเสื้อตัวเองไว้แน่นและกัดปาก
ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกผิดหรือเปล่า เธอรู้สึกว่าเฟยเฟยเหมือนจะพยายามหลบหน้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา เธอทำอะไรผิดหรือเปล่านะ?
ไม่ ไม่สิ เฟยเฟยกับเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก แม่เธอคาดหวังกับเธอไว้สูงมาก ดังนั้นเฟยเฟยอาจจะมีความกดดัน รอเธอสอบเสร็จแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
นึกถึงตรงนี้ ถางหยวนหยวนก็เข้าใจทันที และยิ้มกว้างอีกครั้ง กลับหลังหันเดินกลับหอพักไป
เพราะกลัวว่าจะได้ยินคำพูดไม่ดีจากพวกนั้นอีก ดังนั้นถางหยวนหยวนตอนกลับไปตั้งใจทำเสียงดังให้คนด้านในได้ยิน และพอผลักประตูเข้าไปทั้งสองก็หยุดพูด ได้ยินเสียงก็หันไปมองเธอ
“หยวนหยวน?”
“หยวนหยวนกลับมาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้กลับมาเช้าจัง เธอไม่ไปวิ่งเหรอ?”
ทั้งสองถามไถ่อย่างเป็นมิตร เหมือนไม่ได้พูดนินทาคนอื่นเมื่อกี้เลย ถางหยวนหยวนถึงรู้ว่า คนเสแสร้งได้ขนาดนี้เลยเหรอ ปลอมมากจริงๆ
นึกถึงตรงนี้ เธอไม่ได้ตอบ และเดินเข้าไปทันที
หยวนเย่าหันกับจางเสี่ยวลู่สบตากัน ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
นิสัยของถางหยวนหยวนไม่ใช่คนที่จะยิ้มให้กับคนที่ตัวเองไม่ชอบได้ ไม่สิ เธอทำไม่ได้ต่างหากล่ะ
เธอไปเอาเสื้อตัวเองและเตรียมไปอาบน้ำ
รอเธออาบน้ำเสร็จแล้ว หยวนเย่าหันก็ยืนรออยู่หน้าประตูพอดี
“อาบเสร็จแล้วเหรอหยวนหยวน ตอนเย็นออกไปกินปิ้งย่างกันไหม? ฉันกับเสี่ยวลู่เลี้ยงเอง”
พอเห็นพวกหล่อนทำดีด้วย ถางหยวนหยวนก็ตอบกลับเสียงแข็งว่า: “ไม่ไป”
หยวนเย่าหันอึ้ง “ทำไมล่ะ?”
“เธอลืมแล้วเหรอ ฉันลดน้ำหนักอยู่ ฉันไม่กินปิ้งย่าง พวกเธอไปกันเองเถอะ”
“ลดน้ำหนักนี่เอง ฉันลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงนะ ลดน้ำหนักก็ไม่เป็นไรนี่ เธอลดมาตั้งนานแล้ว กินบ้างเป็นบางครั้งก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
ถางหยวนหยวนเดินผ่านเธอไป ไม่ไว้หน้ากันเลย
“หยวนหยวน ฉันพูดจริงนะ เธอไม่เชื่อฉันเหรอ? เธอก็สั่งแต่ผักสิ ลดน้ำหนักละก็กินผักก็ได้นะ?”
ถางหยวนหยวนหันหน้าไป มองเธอและพูดอย่างจริงจังว่า: “ฉันบอกแล้วไง ฉันไม่กิน”
หยวนเย่าหันอึ้งไม่พูดต่ออีก
แต่เป็นจางเสี่ยวลู่เดินเข้าไป เธอพิงข้างเตียงของถางหยวนหยวน: “เธอกำลังโมโหเหรอ? โมโหเรื่องอะไรกัน? เพราะพวกเราต่อว่าเรื่องของขวัญเหรอ?”
ถางหยวนหยวน: “ไม่ใช่”
เรื่องที่ส่งของขวัญ แม้ถางหยวนหยวนไม่อยากช่วยพวกเธอ แต่เธอคิดว่าชอบคนคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ดังนั้นไม่ได้โกรธเรื่องนี้
เธอโกรธที่ว่า พวกเธอกล้าพูดไม่ดีลับหลังตัวเอง ทั้งที่ดูถูกเธอ แต่เพื่อให้พี่ชายชอบ ก็เลยตั้งใจประจบแบบนี้
เธอไม่เพียงแต่โกรธ และยังรังเกียจด้วย
เธอไม่อยากคบหากับคนแบบนี้ ไม่อยากมีเพื่อนแบบนี้ด้วย
จางเสี่ยวลู่ไม่ตายใจ: “งั้นเธอโกรธอะไรล่ะ? เย่าหันตั้งใจชวนเธอไปกินปิ้งย่างนี่? เธอทำท่าแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน?”
หยวนเย่าหันสีหน้าเปลี่ยน และดึงจางเสี่ยวลู่มา: “อย่าพูดแล้ว เธอไม่ไปก็ช่างเถอะ”
พูดจบ หยวนเย่าหันก็รีบพูดก่อนที่จางเสี่ยวลู่จะโมโห: “หยวนหยวน เธอไม่ไปกินปิ้งย่างก็ได้ ลดน้ำหนักนี่ ก็ต้องรักษาแคลอรี่ไว้ แต่ไม่นานเป็นวันเกิดของฉัน ถึงตอนนั้นเธอต้องเข้าร่วมนะ”
วันเกิด
วันเกิดชวนเธอไปงั้นเหรอ?
ถางหยวนหยวนเงยหน้ามอง
และคำพูดของหยวนเย่าหันเตือนสติจางเสี่ยวลู่ พวกเธอต้องหลอกใช้หล่อน จึงต้องควบคุมความโกรธไว้ และฝืนยิ้มออกไป
“ช่างเถอะ เธอไม่อยากไปสินะ พวกเราก็ไม่บังคับเธอหรอก ปิ้งย่างพวกเราไปกินกันเองก็ได้ วันเกิดเธอต้องไปนะ พวกเราอยู่หอพักเดียวกัน เรื่องแค่นี้เธอก็คงทำให้ฉันได้สินะ? และเป็นวันเกิดของเย่าหันด้วย เธอปฏิเสธละก็ เย่าหันจะเสียใจได้นะ”
ถางหยวนหยวน: “……เสียใจ?”
“ใช่ เพราะยังไงเย่าหันก็ชอบเธอมาก และหวังว่าเธอจะไปร่วมงานวันเกิด”
ถ้าถางหยวนหยวนไม่ได้ยินที่พวกหล่อนนินทาเธอลับหลังละก็ อาจจะเชื่อก็ได้ ตอนนี้พวกหล่อนพูดจาดีเท่าไหร่ ถางหยวนหยวนก็รู้สึกรังเกียจมากขึ้นเท่านั้น
เธอไม่ได้พูด
“ยังไงล่ะ? เธอจะไปไหม?” เพราะเห็นถางหยวนหยวนไม่ยอมตอบ ทั้งสองกลัวว่าเธอจะไม่ไป ก็จึงระวังมากขึ้น