ยอดสตรีฉางอิ๋ง – ตอนที่ 176-1 คลอด

ตอนที่ 176-1 คลอด

ยังไม่ทันรอถึงวันต่อมาที่จะมีคนมาเชิญจี้ชวี่ปิ้งไปตรวจชีพจรให้เว่ยฉางอิ๋งที่จวนตามปกติ จี้ชวี่ปิ้งตระเตรียมสัมภาระและเท้าหน้าก้าวตามเว่ยเจิ้งอินเดินทางออกไป ที่เท้าหลังหนีเทาผัวเมียก็วิ่งหน้าตั้งไปรายงานที่เรือนจินถงแล้ว

นางหวงได้ฟังก็ตื่นตกใจ หลังจากนิ่งคิดสักพัก เมื่อสงบลงแล้วจึงกำชับว่า “ความนี้อย่าเพิ่งนำบอกแก่ฮูหยินน้อย เพื่อไม่ให้ฮูหยินน้อยตื่นตระหนก ถึงยามคลอดมาก็จะยิ่งเกิดปัญหาได้ง่าย”

ด้วยเหตุที่หนีเทารับใช้จี้ชวี่ปิ้งมานาน จึงกลัวว่าเมื่อจี้ชวี่ปิ้งถูกเว่ยเจิ้งอินพาตัวไปแล้ว หากคุณหนูใหญ่ทางนี้เกิดเรื่องขึ้น ภายหลังแม่เฒ่าซ่งก็จะไม่จัดการอันใดกับบุตรสาว แต่จะมาพาลโกรธตนเข้าจึงถามอย่างหวั่นใจว่า “หากไม่รายงาน ฮูหยินน้อย แล้วส่งคนไปตาม จี้ชวี่ปิ้งกลับมา หากฮูหยินน้อยทางนี้….”

“เจ้าเพ้อเจ้ออันใด!” นางหวงหน้าถมึงทึงขึ้นมาพลางต่อว่าบุตรชาย “ฮูหยินน้อยร่างกายแข็งแรงนัก! ตามความเห็นข้าการคลอดครานี้ต้องราบรื่นดีเป็นแน่! เรื่องที่ยังมาไม่ถึง เจ้าก็พูดไปในทางไม่ดีเสียแล้ว?”

หนีเทาเกรงกลัวมารดามาแต่ไร เมื่อถูกด่าทอจนหัวหดจึงพึมพำว่า “เพราะ ท่านหมอเทวดาจี้บอกกับฮูหยินรองดังนี้ ลูกเองก็เป็นกังวล…”

“ท่านหมอเทวดาจี้!” นางหวงเอ่ยอย่างอารมณ์เสียว่า “เจ้าก็รู้ว่าเขาคือหมอเทวดานี่? แล้วเจ้าใช่รึ? เขาสามารถพูดส่งเดชได้ เพราะฝีมือแพทย์ของเขา ผู้อื่นจึงไม่กล้าเพิกเฉยต่อเขา และไม่อาจไม่อดทนต่อเขาด้วย! แล้วเจ้าเล่า?”

เมื่อเห็นแม่สามีด่าสามีเสียยับเยิน นางหลิ่วภรรยาของหนีเทาจึงต้องเข้าไปรอมชอบอย่างขาดเสียมิได้ นางเอ่ยเสียงบางเบาขอให้แม่สามีอย่าโกรธ อธิบายดีๆ อยู่พักหนึ่ง จึงบอกว่า “…พวกเราก็กลัวจะทำให้เรื่องที่ท่านแม่สั่งไว้เสียการ จึงได้รีบมาบอก ความจริงแล้วที่พวกเราคอยปรนนิบัติท่านหมอเทวดาอยู่ที่คฤหาสน์จี้ กลับไม่ทราบแน่ชัดว่าฮูหยินน้อยทางนี้เป็นอย่างไรบ้าง จึงพลั้งพูดผิดไปเพราะความร้อนใจ ท่านแม่อย่าได้ถือสาพวกเราเลยเจ้าค่ะ”

สะใภ้ทั้งสองคนของนางหวงล้วนเป็นนางเลือกหามาเอง ปกติแล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างไม่เลวเลย ในเมื่อสะใภ้มิใช่ลูกของตนจริงๆ แต่กลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวต่อกัน นางย่อมต้องไว้หน้าสะใภ้บ้าง พลันชี้นิ้วแตะที่หน้าผากของหนีเทาแล้วกล่าวว่า “ดูเจ้าสิเลอะเลือนเพียงนี้! ในเมื่อไม่รู้จักพูด คราหน้าก็ให้เมียเจ้าพูด! ครานี้หากไม่เห็นแก่หน้าเมียเจ้า ดูซิว่าข้าจะทุบเจ้าอย่างไร!”

พอนางมีทางลงจึงอบรมหนีเทาอย่างปากเปียกปากแฉะขึ้นมา “ฮูหยินรองเป็นท่านอาแท้ๆ ของฮูหยินน้อย ยามนี้นางพากจี้ชวี่ปิ้งไปก็มิใช่ไม่เหตุไร้ผลและจงใจสร้างความลำบากให้ฮูหยินน้อย! แต่เพราะคุณชายห้าบ้านซูต้องพิษร้ายแรง ชีวิตกำลังอยู่ในอันตราย! เมื่อเทียบกันแล้ว ทุกเรื่องของฮูหยินน้อยเราทางนี้ล้วนดีหมด! ต่อให้บอกแก่ฮูหยินน้อยตามที่เจ้าว่า ให้ฮูหยินน้อยส่งคนไปตามท่านหมอเทวดาจี้กลับมา ยังไม่ต้องเอ่ยถึงว่าฮูหยินรองเป็นห่วงความเป็นตายของคุณชายห้าเพียงใด จึงเอาสัมภาระไปเพียงน้อยนิด เพื่อเร่งเดินทางไปให้เร็วที่สุด! หากพวกเราส่งคนไปตามกลับมาก็ไม่แน่ว่าจะตามไปทัน หรือต่อให้ตามไปทัน ฮูหยินน้อยทำเรื่องเช่นนี้ ยังจะไม่ถูกชาวบ้านชาวช่องด่าตายรึ? ยิ่งไม่ต้องบอกว่านี่นับว่าเป็นการประกาศตัวเป็นศัตรูกับตระกูลซูและตระกูลเผยแล้ว! คำพูดโง่เง่าของเจ้านี้ ดีที่ไม่ได้ไปพูดต่อหน้าคนนอก!”

หนีเทาหน้าแดงก่ำ เอาแต่ตอบรับหลายครั้งหลายหน นางหลิ่วรีบเข้าไปช่วยแก้สถานการณ์อีกครั้ง เอ่ยถามว่า “เช่นนั้นท่านแม่เจ้าคะ เวลานี้นอกจากไม่บอกฮูหยินน้อยแล้ว ยังต้องทำสิ่งใดเจ้าคะ?”

นางมองสะใภ้อย่างชื่นชมหนหนึ่ง นางหวงกล่าวว่า “ความจริงแล้ว สถานการณ์ของฮูหยินน้อยไม่จำเป็นต้องไปเชิญท่านหมอเทวดาจี้มาตรวจที่จวนวันเว้นวัน เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินน้อยตั้งครรภ์ จึงอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ฉะนั้นหากไม่ได้ยินคำว่าใช่จากปากของท่านหมอเทวดาจี้ นางก็จะไม่อาจวางใจได้ …ดีที่ชื่อเสียงเรื่องความอารมณ์ร้ายของท่านหมอเทวดาจี้เป็นที่รู้กันไปทั่วเมืองหลวง เอาเป็นว่าปิดเรื่องนี้กับฮูหยินน้อยเอาไว้ก่อน รอจนถึงวัน เมื่อฮูหยินน้อยเข้าห้องคลอด ค่อยบอกกับฮูหยินน้อยว่าจี้ชวี่ปิ้งกำลังรออยู่ข้างนอก เพื่อให้ฮูหยินน้อยวางใจ…”

สรุปก็คือหนึ่งคำว่า ปิดบัง!

กำหนดคลอดของเว่ยฉางอิ๋งก็อีกไม่กี่วันนี้แล้ว เวลานี้จี้ชวี่ปิ้งถูกเว่ยเจิ้งอินพาตัวไปนอกเมืองหลวงแล้ว ต่อให้ติดตามไปก็ไม่สะดวก หากให้เว่ยฉางอิ๋งมารู้เรื่องเข้าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ถ้าเกิดจิตใจว้าวุ่นก็จะเกิดปัญหาขึ้นมา ไม่แน่ว่าเดิมทีไม่มีเรื่องก็กลับมีเรื่องขึ้นมาเสีย

ฉะนั้น มิสู้ปิดบังนางเอาไว้ รอจนคลอดบุตรแล้วค่อยบอกนาง

หนีเทายังคงไม่ใคร่วางใจ กล่าวว่า “ฮูหยินน้อยสามารถคลอดได้อย่างปลอดภัยจริงๆ ….” นางหลิ่วเห็นแม่สามีถลึงตาใส่หลายหน รีบหยิกเขาไปเต็มแรงหนหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงดังว่า “เมื่อถึงยาม แล้วฮูหยินน้อยคลอดคุณชายน้อยได้อย่างราบรื่นปลอดภัยแม้พวกเราไม่ได้มารับใช้ในเรือนจินถง ทว่ามีท่านแม่อยู่ทั้งคน เจ้ายังกลัวว่าพวกเราจะไม่ได้เงินรางวัลรึ?”

ความจริงแล้วนางหวงได้ยินชัดแจ้งนัก เพียงแต่นี่เป็นลูกชายตน ยามอยู่ต่อหน้าสะใภ้ก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง จึงมองค้อนแรงๆ ใส่เขาหนหนึ่ง ไม่ได้ไปไล่เรียงอันใดอีก และให้พวกเขากลับไปที่คฤหาสน์จี้เสีย

อีกสักพักเมื่อไปหาเว่ยฉางอิ๋ง เว่ยฉางอิ๋งและพวกของฉินเกอสองสามคนกำลังตรวจสอบรอยเย็บบนเสื้อผ้าตัวเล็กๆ ที่เรียงรายอยู่เต็มไปหมด กำลังสนทนายแย้มยิ้มอย่างอารมณ์ดียิ่ง เมื่อเห็นนางหวงเข้ามาเว่ยฉางอิ๋งจึงยิ้มพลางเอ่ยถามนางว่า “เมื่อครู่นี้ได้ยินว่าพวกของหนีเทามาหรือ?”

นางหวงตอบรับไปคำหนึ่งว่า “พวกเขามาบอกกล่าวเรื่องหนึ่งเจ้าคะ…”

เว่ยฉางอิ๋งสะดุ้ง ถามว่า “เรื่องใดหรือ?”

“ท่านหมอเทวดาจี้บอกว่าร่างกายของฮูหยินน้อยแข็งแรงดียิ่งนัก ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนเขาบ่อยๆ ดังนั้นแล้ว…จึงให้พวกเขามาบอกว่าวันพรุ่งท่านไม่มีอารมณ์จะมาแล้วเจ้าค่ะ” นางหวงมีสีหน้าลำบากใจพลางเอ่ยไปเบาๆ

เมื่อได้ยินคำนี้ เว่ยฉางอิ๋งก็ขบริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว …จะว่าไปแล้ว ฝีมือแพทย์ระดับจี้ชวี่ปิ้งในเขตทะเลนี้ก็มีเพียงที่เดียวไม่มีร้านสาขา แม้แต่ท่านอาของเขาก็ยังไม่ทัดเทียมเขา แม้ฐานะของนางและเขาจะห่างกันลิบลับ แต่ก็ไม่อาจอาศัยฐานะของตนไปข่มเขาได้จริงๆ …หลังจากครุ่นคิดอยู่นานจึงได้แต่ถอนหายใจคำหนึ่ง กล่าวว่า “จี้ชวี่ปิ้งผู้นี้ …ช่างเถิด ในเมื่อเขาบอกว่าข้าไม่เป็นอันใด เช่นนั้นก็เอาดังนี้เถิด ถึงวันแล้วค่อยไปเชิญเขามา”

นางหวงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “ความจริงแล้วนี้ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าฮูหยินน้อยท่านและคุณชายน้อยล้วนปกติดียิ่งเจ้าค่ะ หาไม่แล้วด้วยหน้าตาของฮูหยินผู้เฒ่าบ้านเรา แล้ว ท่านหมอเทวดาจี้ไม่เอาใจใส่ได้ที่ใด ท่านลองคิดดูว่าทั่วเมืองหลวงนี้ มีคนกี่มากน้อยที่สามารถเชิญท่านหมอมาตรวจรักษาที่บ้านได้? ยิ่งไม่ต้องเอ่ยว่ามาตรวจที่บ้านวันเว้นวันเลยเจ้าค่ะ”

เมื่อนางหวงว่ามาเช่นนี้ ความกังวลใจของเว่ยฉางอิ๋ง ด้วยจี้ชวี่ปิ้ง ‘ไม่ยอมมา’ จึงหายไปหลายส่วน นางยิ้มน้อยๆ กล่าวว่า “ว่าไปก็จริง เขาไม่มาก็ไม่มาไปก่อนเถิด ต้องคอยทนฟังคำพูดไม่น่าฟังของเขาวันเว้นวัน เมื่อเขาไม่มา พวกเราก็จะได้ผ่อนคลายลงบ้าง” แล้วบอกว่า “เช่นนั้นท่านก็ไปบอกกับทางท่านแม่สักคำ เพื่อมิให้พวกท่านแม่ต้องเป็นกังวล”

นางหวงเองก็คิดเช่นนี้ แต่เมื่อไปพบฮูหยินซูนางก็กลับเล่าทุกอย่างไปแต่ต้นจนจบ แล้วบอกอีกว่าตนตัดสินใจจะปิดบังเว่ยฉางอิ๋ง เรื่องที่ซูอวี๋อู่ได้รับบาดเจ็บสาเหตุจนแทบจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ และเรื่องที่จี้ชวี่ปิ้งถูกเว่ยเจิ้งอินพาตัวออกนอกเมืองเพื่อเร่งเดินทางไปตงหู ทั้งสองเรื่องนี้เอาไว้ ตอนท้ายจึงขอขมาฮูหยินซู “หลังจากคนที่รับใช้ท่านหมอเทวดาจี้เพิ่งมาบอกทั้งสองเรื่องนี้แก่ข้าน้อย ข้าน้อยเกรงวาหากมารายงานฮูหยินก่อนแล้วค่อยไปบอกกับฮูหยินน้อยก็จะทำให้ฮูหยินน้อยสงสัย จึงใช้ข้ออ้างว่า ท่านหมอเทวดาจี้อารมณ์ไม่ดี วันหน้าจึงไม่ยอมมาแล้ว เพื่อปิดบังฮูหยินน้อยเอาไว้ รอจนฮูหยินน้อยเอ่ยปากให้ข้าน้อยมารายงานฮูหยินเสียก่อนเพื่อมิให้ฮูหยินเป็นกังวล จึงกล้ามาเจ้าค่ะ ข้าน้อยตัดสินใจเองโดยพลการ ต้องขอให้ฮูหยินลงโทษด้วยเจ้าค่ะ”

——————————

ยอดสตรีฉางอิ๋ง

ยอดสตรีฉางอิ๋ง

Status: Ongoing
“ตอนนั้นท่านปู่จัดการหมั้นข้ากับสามีฝ่ายบู๊เพราะชะตาต้องกันเพียงคราเดียว!
ข้าไม่ร้องไห้โฮออกมาก็ถือว่าไม่เลวแล้ว ยังจะให้มีความสุขทั้งสองฝ่าย?
ตั้งแต่เล็กจนถึงตอนนี้ วันเวลาแสนหวานชื่นในอนาคตที่ข้าคิดว่าจะมีได้
ก็คือตีจนกว่าเขาจะต้องเชื่อฟังข้าไปทั้งชีวิต และไม่ทำให้ข้าต้องโมโห!
มีความสุขทั้งสองฝ่าย…ข้าจะไปชอบสามีเยี่ยมยุทธ์อย่างนั้นได้อย่างไร!
ข้ายังไม่ชอบเขา แล้วการที่เขาจะชอบข้าหรือไม่ ยังจะสำคัญหรือ?
ที่สำคัญก็คือ เขาต้องเชื่อฟังข้า!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท