บทที่ 575 : ของขวัญที่น่าตกใจ!
หลินเจิ้งกังเป็นถึงผู้บังคับบัญชาทหารที่แข็งแกร่งกำยำเขาจึงต้องพยายามสงบสติอารมณ์ และรักษาสีหน้าให้นิ่งเรียบเป็นปกติ ดังนั้นแม้ว่าภายในใจจะรู้สึกตกตะลึงกับสาวงามมากมายตรงหน้า แต่สีหน้าของเขายังคงนิ่งเรียบเป็นปกติ
และท่าทางขึงขังน่าเกรงขามอย่างนายทหารชั้นผู้ใหญ่ยศนายพลนั้นก็สามารถทำให้บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนเป็นเงียบกริบได้ในทันที
นอกเหนือจากไป๋เซียนเอ๋อกับฉินตงเฉี่วยแล้วแม้แต่หลงหวู่ และนักข่าวสาวสวยอย่างซูหลิงเฟยยังถึงกับเกร็งเมื่อเห็นหลินเจิ้งกังเดินเข้ามา
‘น่าแปลก..เขาเป็นผู้บัญชาการกองทัพนี่นา แต่ทำไมถึงมาร่วมงานเปิดคลินิกของหลิงหยุนได้นะ?’ ซูหลิงเฟยได้แต่นึกแปลกใจอย่างมากเมื่อเห็นหลินเจิ้งกังในงาน
กองทัพกำลังจะมีการซ้อมครั้งใหญ่เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ทางสถานีโทรทัศน์เพิ่งจะรายงานข่าวไป และซูหลิงเฟยเองก็เพิ่งจะสัมภาษณ์ และรายงานเหตุการณ์ไปเมื่อไม่นานมานี้ มีหรือที่เธอจะไม่เคยพบหลินเจิ้งกังมาก่อน
“นี่..มีอะไรเหรอ” เหลียงเฟิงอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆซูหลิงเฟยรีบสะกิดถามทันทีเมื่อได้ยินซูหลิงเฟยกำลังบ่นพึมพำกับตัวเอง
“ฉันเพิ่งจะสัมภาษณ์นายพลท่านนี้ไปเมื่อสองวันก่อน..”ซูหลิงเฟยกระซิบตอบ
เหลียงเฟิงอี้ถึงกับตกใจและกระซิบถามเสียงเบาเช่นกัน “ห๊ะ! นี่หลิงหยุนรู้จักคนใหญ่คนโตแบบนี้ด้วยเหรอ?”
หลินเจิ้งกังกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆคลีนิคโดยไม่แสดงความผิดปกติอะไรแม้แต่น้อย แต่ในใจนั้นกลับนึกขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อยเมื่อพอที่จะเข้าใจอะไรขึ้นมาได้บ้าง
‘หลิงหยุนมีผู้หญิงมากมายขนาดนี้เลยงั้นรึช่างกล้านัก!’
หลินเจิ้งกังเดินตามหลังหลินเมิ่งหานที่เดินคล้องแขนหลิงหยุนนำหน้าเข้าไปในคลีนิคหลินเจิ้งกังนั้นสามารถเก็บอารมณ์ความรู้สึกได้ แต่หลินเมิ่งหานถึงกับมีสีหน้าตกใจสุดขีดเมื่อก้าวผ่านประตูเข้าไปด้านใน!
‘ทำไม่คนถึงได้มากมายขนาดนี้!ที่สำคัญ.. มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้นเลย!’
ปกติแล้วเทพธิดาหลินจัดว่าเป็นหญิงสาวที่ขี้อายและหน้าบาง เธอจ้องมองหญิงสาวมากมายที่อยู่ด้านในด้วยความตกตะลึง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นแดงก่ำทันที และรีบสะบัดมือที่เกาะกุมแขนของหลิงหยุนออกทันที
‘สวยมากจริงๆ..’
ไม่ว่าหญิงหรือชาย..หากได้เห็นหลินเมิ่งหานก็คงต้องรำพึงรำพันเช่นนี้ในใจกันทุกคน
ตอนนี้ผู้คนที่มาร่วมยินดีกับหลิงหยุนต่างก็มารวมตัวอยู่ที่ชั้นล่างของคลินิกกันหมดและในบรรดาแขกเหรือนั้น หลินเมิ่งหานก็รู้จักเพียงแค่หนิงหลิงยู่ ฉางหลิง เหยาลู่ ตี้เสี่ยวอู๋ และถังเมิ่งเท่านั้น
เมื่อเห็นหลินเมิ่งหานเดินกอดแขนหลิงหยุนมาอย่างสนิทสนมเหลียงเฟิงอี้กลับมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย ส่วนเหยาลู่ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ในขณะที่หลงหวู่คำรามอยู่ในลำคอพร้อมกับกระทืบเท้าเบาๆ
ในขณะที่ไป๋เซียนเอ๋อและฉินตงเฉี่วยนั้นได้แต่รู้สึกขมขื่นอยู่ภายในจนร่างบอบบางนั้นสั่นเบาๆ ส่วนหนิงหลิงยู่และฉางหลิงนั้นก็ได้แต่รู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆเช่นกัน
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีหญิงสาวคนใดที่จะแสดงกิริยาที่เป็นการไม่ไว้หน้าหลิงหยุนออกมา ทุกคนต่างก็กัดฟันเก็บความขุ่นเคืองไว้ภายในใจ และค่อยกลับไปจัดการคิดบัญชีกับหลิงหยุนภายหลัง!
จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนนั้นสัมผัสได้ถึงสภาวะที่เก็บซ่อนอยู่ภายในใจของหญิงสาวเหล่านี้เขารู้ดีว่าช่วงเวลาหายนะของตนเองได้มาถึงแล้ว..
แต่ถึงกระนั้น..หลิงหยุนก็ยังคงมีสีหน้านิ่งเรียบเป็นปกติ และยังคงหัวเราะได้อย่างร่าเริง หลิงหยุนรีบเดินเข้าไปหาหลินเจิ้งกังพร้อมกับเชื้อเชิญเขาขึ้นไปนั่งพักผ่อนที่ชั้นสอง..
“ลุงหลินครับ..ข้างล่างผู้คนพลุกพล่าน เชิญคุณลุงขึ้นไปนั่งดื่มชาด้านบนจะดีกว่า..”
“เหยาลู่..คุณช่วยจัดการชงชากาใหม่ แล้วยกมาให้ลุงหลินด้วยนะ”
“อืมม!”หลินเจิ้งกังทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่พูดอะไร แล้วเดินขึ้นไปชั้นสองทันที
หลิงหยุนไม่ได้ตามหลินเจิ้งกังขึ้นไปแต่เขาใช้กระแสจิตพูดกับฉินตงเฉี่วย
-น้าหญิง..นี่เป็นแขกผู้ใหญ่ ท่านช่วยขึ้นไปต้อนรับแทนข้าจะได้หรือไม่-
ฉินตงเฉี่วยใช้กระแสจิตตอบกลับ-ตอนนี้นึกถึงข้าขึ้นมาแล้วรึ เจ้าเด็กตัวแสบ ให้ผ่านงานวันนี้ไปก่อนข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าทีหลัง!-
“หลิงยู่..ขึ้นไปข้างบนกับข้า..”
ในเมื่อฉินจิวยื่อไม่อยู่ตอนนี้ฉินตงเฉี่วยจึงนับว่าเป็นผู้ที่อาวุโสสุดในตระกูลฉิน นางจึงต้องทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหลิงหยุนออกมาต้อนรับแขกผู้ใหญ่อย่างหลินเจิ้งกังแทน และตอนนี้นางก็แทบอยากให้ฉินจิวยื่อกลับมาเร็วๆ
เมื่อเห็นฉินตงเฉี่วยและหนิงหลิงยู่เดินขึ้นบันไดไป หลิงหยุนจึงหันไปส่งกระแสจิตบอกถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋ว่า
-หนิงน้อยกำลังมาแล้วพวกนายตามฉันออกไปต้อนรับ!-
ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋เดินตามหลิงหยุนออกไปนอกคลินิกและถังเมิ่งก็รีบพูดกับหลิงหยุนว่า “พี่หยุน.. เรื่องวันนี้เป็นความผิดของฉันเอง..”
หลิงหยุนตอบกลับเสียงเบา“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ไว้ค่อยคุยกันวันหลัง..”
…………
ภายในรถBMW ที่จอดอยู่ห่างไกลออกไป..
พี่เฟยจ้องมองชายหนุ่มสามคนที่ก้าวเดินออกมาจากคลีนิคสามัญชนพร้อมกับร้องอุทานว่า
“พี่หยุนเดินออกมาพร้อมกับถังเมิ่งนี่!ดูท่าถังเมิ่งคงไม่ได้มีปัญหาถึงขั้นคอขาดบาดตายแล้วล่ะ พี่หยุนคงจะไม่ตำหนิอะไรเขามาก แบบนี้พวกเราก็ยังพอมีหวัง..”
อาปิงจ้องมองไปทางคลินิกพร้อมกับพึมพำออกมา“ไม่รู้ว่าครั้งนี้พี่หยุนออกมารับใคร”
“ว้าว..นั่นมันรถ Maybach 62! ผู้หญิงคนนั้นขับรถแพงกว่าของฉันอีก!”
“ผู้หญิงสองคนในรถนั่นก็สวยมากเลยด้วย..”
“เห้ย..นั่นมันแฟนเก่าลูกพี่จิ้งเฉินที่ชื่อเสี่ยวเม่ยหนิงไม่ใช่เหรอ!”
“จริงด้วย..!นั่นมันรักของลูกพี่จิ้งเฉินเลย พวกนายยังจำปาร์ตี้ที่ทั้งคู่พบกันครั้งแรกได้มั๊ย”
“ท่านเสี่ยวหมอเทวดาก็มาด้วยตัวเองเลยเหรอ!”
“เสี่ยวจี๋..ครั้งนี้นายตายแน่!” พี่เฟยหันไปขู่เสี่ยวจี๋
“แม่เจ้า!งานนี้มีแต่ผู้หญิงสวยๆ ฉันขอนับก่อน..” ตันตันเริ่มนับจำนวนสาวงามที่อยู่ในคลีนิค
หลังจากที่รถMaybach 62 ขับเข้ามา ก็ตรงเข้าไปจอดอยู่หน้าประตูคลีนิคสามัญชนทันที เสี่ยวเม่ยหนิง และเหมี่ยวเสี่ยวเหมาซึ่งงดงามไม่ต่างจากดอกไม้ราคาแพงก้าวลงมาจากรถ แล้วเสี่ยวเม่ยหนิงก็ชี้ไปทางถังเมิ่งพร้อมกับร้องตะโกนขึ้นมา
“ถังเมิ่ง..นายยังจะรออะไรอยู่อีก รีบมายกของเข้าไปข้างในเร็วเข้า!”
ท่านหมอเสี่ยวมีของขวัญมากมายมามอบให้หลิงหยุนและใช้เวลาในการขนขึ้นรถเกือบชั่วโมง เด็กสาวตัวแสบร้อนใจจนแทบทนรอไม่ได้!
เรื่องหลิงหยุนเปิดคลีนิคนั้นนับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับเสี่ยวเม่ยหนิง เธอตื่นเต้นอย่างที่สุด และไม่ยอมขับรถเฟอรารี่คันแดงมาในงาน แต่เลือกที่จะขับรถ Maybach 62 ซึ่งได้เป็นของขวัญวันเกิดออกมาแทน
รถMaybach 62 คันนี้ หลี่ยั่วหมิงแห่งตระกูลหลี่เป็นผู้มอบให้เสี่ยวเม่ยหนิง และมูลค่าของมันก็มากกว่าสิบล้าน แน่นอนว่าต้องเป็นที่สะดุดตาผู้คนอย่างแน่นอน
“พี่หลิงหยุน!”
เสี่ยวเม่ยหนิงเพิ่งจะแยกจากหลิงหยุนเพียงแค่สองชั่วโมงแต่เมื่อได้พบหลิงหยุน ก็รีบตรงเข้าไปกอดแขนของเขาไว้แน่น
“พี่ใส่เสื้อกราวน์สีขาวแล้วดูมีเท่ห์มากเลย!”เสี่ยวเม่ยหนิงเอ่ยชมจากใจ
“วันนี้หนิงน้อยก็สวยงามมากเหมือนกัน!”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองรถAudi A6 สีดำที่กำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างช้าๆ ในขณะที่มือก็ลูบไล้ผมดำขลับของเสี่ยวเม่ยหนิงพร้อมกับหัวเราะ
AudiA6 นั้นไม่สามารถเทียบได้กับ Maybach 62 ของเสี่ยวเม่ยหนิงได้เลย แต่ภายในรถกลับเป็นท่านเสี่ยวหมอเทวดา – เสี่ยวเจิ้งจี๋นั่งอยู่
ในเวลานั้นเองพยาบาลสาวที่จ้างมาใหม่ทั้งสามคน ก็เดินตามออกมาช่วยหลิงหยุนด้านนอก
ในเมื่อภายในคลีนิกมีแขกเหรื่ออยู่เต็มไปหมดอีกทั้งพวกเธอทั้งสามคนก็เป็นพนักงานของคลีนิคแห่งนี้ จึงควรต้องออกมาช่วยทำงานจึงจะถูก
“อาวุโสเสี่ยว..ท่านน่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไมต้องมาด้วยตัวเองล่ะครับ!”
เมื่อเห็นท่านหมอเสี่ยวเดินลงมาจากรถหลิงหยุนจึงรีบตรงเข้าไปต้อนรับพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างรู้สึกเกรงใจ
“เรื่องเล็กน้อยอะไรกันหลิงหยุนเปิดคลินิกทั้งที นี่จะเป็นเรื่องสำคัญของวงการแพทย์แผนจีนของประเทศนี้เลยทีเดียว แล้วก็จะเป็นเรื่องสำคัญของวงการแพทย์ทั่วโลกอีกด้วย!”
ท่านหมอเสี่ยวก็คือท่านหมอเสี่ยวคำพูดคำจาที่ออกมาล้วนแล้วแต่เป็นจริงเป็นจัง น้อยนักที่จะล้อเล่น..
จากนั้นท่านหมอเสี่ยวก็ยกมือขึ้นตบบ่าหลิงหยุนพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ฉันเองก็นั่งๆนอนอยู่แต่ในบ้านออกมาข้างนอกบ้างก็ดี.. อีกอย่างขืนฉันไม่ยอมมาล่ะก็ เกรงว่าเด็กสาวตัวแสบนั่นจะถอนหงอกเอาน่ะสิ..!”
“ท่านปู่..นินทาอะไรหนูอีกแล้ว..!” เสี่ยวเม่ยหนิงทำปากมุ่ยคล้ายเด็กเอาแต่ใจ
หลิงหยุนทักทายท่านหมอเสี่ยวเสร็จก็รีบตรงไปหาเสี่ยวเฉิงเยี่วย และจางเม่ยหยวนพร้อมกับยิ้มทักทาย
“ลุงเสี่ยวป้าจาง พวกท่านต่างก็มีงานยุ่งมาก ไม่เห็นต้องมาด้วยตัวเองเลยครับ ก็แค่งานเปิดคลีนิคเล็กๆเท่านั้น..”
แม่ยายมองลูกเขยด้วยความภูมิอกภูมิใจจางเม่ยหยวนยิ้มอย่างมีความสุข “หลิงหยุน.. พวกเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน! อย่าได้พูดแบบนี้ งานวันเกิดของหนิงน้อยเธอเองก็ยุ่งมาก แต่ก็ยังอุตส่าห์ไปร่วมจนได้! แล้วทำไมฉันจะมาแสดงความยินดีกับเธอไม่ได้ล่ะ!”
“มาเร็ว..ลุงกับป้าเตรียมของขวัญมาให้เธอด้วย มาดูสิว่าชอบมั๊ย”
จางเม่ยหยวนพูดพร้อมกับยื่นถุงกระดาษในมือให้กับหลิงหยุนและเพียงแค่เขาเหลือบมองถุงใบนั้น หัวของเขาก็แทบจะระเบิด!
ภายในซองเอกสารนั้นเขียนไว้ว่า– สัญญาโอนทรัพย์สินเกี่ยวกับเภสัชกรรมของตระกุลเสี่ยว
หลิงหยุนรีบโค้งศรีษะและใช้เนตรหยินหยางสำรวจดูด้านใน
-บริษัทเสี่ยว ฟาร์มาซูติคัล สาขาเจียงหนาน บริษัท เสี่ยว เมดิคัล ดิไวซ์ สาขาเจียงหนาน…-
มันคือเอกสารการโอนบริษัทในเครือของตระกูลเสียวทั้งหกบริษัทให้กับหลิงหยุน!
หลิงหยุนถึงกับตกตะลึงจนแทบล้มทั้งยืน!
Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 575
ตอนที่ 575
Posted by ? Views, Released on มีนาคม 6, 2021
, Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..