Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 580

ตอนที่ 580

บทที่ 580 : พิธีตัดริบบิ้น – เริ่มธุรกิจ!
  เมื่อได้ยินคำว่า‘เริ่มพิธีเปิด’ จากปากของหลิงหยุน ทุกคนไม่ว่าเพศใดวัยใด ต่างก็พากันลุกขึ้นยืน และสาวสวยที่อยู่ในห้องนอนต่างก็กรูกันออกมาล้อมรอบร่างของหลิงหยุนไว้
  ท่านเสี่ยวหมอเทวดาเดินแทรกคนอื่นๆเข้าไปยืนข้างหลิงหยุนพร้อมกับพูดอย่างมีความสุข
  “ได้เวลาตัดริบบิ้นแล้วสินะ!”
  “เย้!ถึงเวลาตัดริบบิ้นแล้ว! ในที่สุดคลินิกของพี่หลิงหยุนก็เปิดซะที!”
  เสี่ยวเม่ยหนิงส่งเสียงร้องอย่างตื่นเต้นพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบแขนของหลิงหยุนไว้ ใบหน้าสวยงามนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างที่สุด!
  เสี่ยวเม่ยหนิงไม่สนใจสายตาของหญิงสาวคนอื่นๆที่พากันจ้องมองมาราวกับจะกินเธอ..
  ในเวลานั้นใครก็ตามที่กล้าไปกอดแขนของหลิงหยุนไว้ เขาเองก็ไม่คิดที่จะห้ามอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่านอกจากเด็กสาวตัวแสบอย่างเสี่ยวเม่ยหนิง และไป๋เซียนเอ๋อแล้ว หญิงสาวคนอื่นๆได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเท่านั้น
  แม้แต่หลินเมิ่งหานเองก็ไม่ยังกล้ายิ่งเหยาลู่ด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ส่วนเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั้นยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้
  ทางด้านหนิงหลิงยู่และหลงหวู่นั้นตอนนี้ก็กำลังวุ่นอยู่กับการรับของขวัญอยู่ชั้นล่าง หากไม่เช่นนั้นแล้ว หญิงสาวทั้งสองคนคงจะกล้า และรวดเร็วกว่าเสี่ยวเม่หนิงอย่างแน่นอน
  บรรดาคนสำคัญของงานต่างก็พากันเดินลงบันไดมาด้านล่างอย่างพร้อมเพรียงแต่ละคนล้วนแล้วแต่ดูมีสง่าราศีและอำนาจบารมีกันทั้งสิ้น ภาพที่เห็นต่อหน้าทุกคนในเวลานี้จึงค่อนข้างยิ่งใหญ่ และน่าประทับใจอย่างยิ่ง ผู้คนที่อยู่ด้านล่างนั้นได้แต่เงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับร้องอุทานอยู่ในใจเงียบๆ
  หลิงหยุนเป็นคนสุดท้ายที่เดินลงบันไดมาสองข้างของเขาประกบด้วยสาวงามอย่างเสี่ยวเม่ยหนิง และไป๋เซียนเอ๋อ ส่วนเฉิงเมี่ยนที่เดินลงบันไดมาก่อนหน้านี้ ได้แต่กัดริมฝีปากแน่นอย่างไม่พอใจ เพราะไม่ได้รับความสนใจเลยแม้แต่น้อย
  หญิงสาวที่อยู่ด้านล่างต่างก็จ้องมองเสี่ยวเม่ยหนิงและไป๋เซียนเอ๋อด้วยความอิจฉาตาร้อน
  ดูเหมือนว่าระหว่างที่ทุกคนอยู่ชั้นสองนั้นคงจะได้ทำความตกลงกันไว้แล้วว่า ใครกันที่จะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดริบบิ้น เพราะเมื่อหลิงหยุนลงมาถึง ก็พบว่าทุกคนยืนอยู่ในตำแหน่งของตนเองเรียบร้อยแล้ว
  ทุกคนยืนแยกเป็นสองแถวและเว้นช่องกลางเป็นทางเดินไว้กับหลิงหยุน..
  สองข้างนั้นมีฉินตงเฉี่วยท่านเสี่ยวหมอเทวดา หลี่ยี่เฟิง หลินเจิ้งกัง ถังเทียนห่าว เสี่ยวเฉิงเยี่วย เฉิงเทียน และคนอื่นๆอีกมากมายยืนเรียงรายกันเป็นแถวยาว
  แม้เฉิงทียนจะเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจิงฉูแต่ทั้งท่านหมอเสี่ยว และฉินตงเฉี่วยต่างก็บอกกับหลิงหยุนเป็นการส่วนตัวว่า ไม่ควรให้เฉิงเทียนเป็นผู้ตัดริบบิ้น และหลิงหยุนก็เห็นด้วย
  ระหว่างที่หลิงหยุนเดินไปยืนตรงกลางประตูท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมานั้นหลิงหยุนก็ร้องเรียกหนิงหลิงยู่ หลงหวู่ และหลินเมิ่งหาน
  หญิงสาวทั้งสามคนนั้นคนหนึ่งเป็นน้องสาวของเขา คนหนึ่งเป็นคู่หมั้น ส่วนอีกคนเป็นภรรยาของหลิงหยุน
  จากนั้นหลิงหยุนจึงร้องเรียกเสี่ยวเม่ยหนิงและเหยาลู่ให้มายืนข้างๆหญิงสาวทั้งสามคนด้วย แต่เหยาลู่กับส่ายหน้าพร้อมกับโบกมือปฏิเสธให้หลิงหยุน แต่เขากลับใช้กระแสจิตบอกกับเหยาลู่ว่า
  -คุณสมควรต้องมายืนอยู่ตรงนี้กับผม!-
  ที่นี่เป็นที่ของหลิงหยุนและหญิงสาวที่งดงามเหล่านี้ล้วนเป็นผู้หญิงของเขา หลิงหยุนคิดว่าควรทำเช่นไร เขาก็จะทำเช่นนั้น โดยไม่สนใจว่าวันนี้จะเป็นโอกาสพิเศษอะไร และไม่สนว่าจะมีใครอยู่ในงานบ้าง
  หลิงหยุนเรียกไป๋เซียนเอ๋อและกงเสี่ยวลู่ให้มายืนข้างๆด้วยเช่นกัน แต่ทั้งคู่กลับส่ายหน้าปฏิเสธ ไป๋เซียนเอ๋อไม่ชอบอะไรที่ดูวุ่นวายบนโลกใบนี้ ส่วนกงเสี่ยวลู่นั้น แม้ในใจจะนึกตื่นเต้นดีใจ แต่ก็ยืนยันปฏิเสธ
  ส่วนด้านเหมี่ยวเสี่ยวเหมานั้นเธอไม่ใช่ทั้งผู้หญิงของหลิงหยุน และไม่ใช่เจ้าของคลีนิค เธอจะไม่ไปยืนตัดริบบิ้นด้วยอย่างแน่นอน
  หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะต้องเรียกเหลียงเฟิงอี้กับฉางหลิงให้มายืนด้วยแต่ฉินตงเฉี่ยวกับ
  ระหว่างที่หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดว่าจะต้องเรียกเหลียงเฟิงอี้และฉางหลิงมาด้วยนั้น ฉินตงเฉี่วยก็กระซิบบอกด้วยความโมโหอย่างมาก
  “หลิงหยุน..เจ้าจะเริ่มได้หรือยัง แขกเหรื่อต่างก็มายืนร่วมยินดีกับเจ้าเป็นครึ่งวันแล้ว! ปล่อยให้ทุกคนยืนเป็นตัวตลกอยู่ได้!”
  หญิงสาวคนอื่นๆมีแต่ต้องคอยเอาอกเอาใจหลิงหยุน แต่ฉินตงเฉี่วยนั้นแตกต่างกัน เพราะนอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีหญิงสาวคนใหนที่จะสามารถควบคุมหลิงหยุนได้
  “ข้าจะเริ่มเดี๋ยวนี้แล้ว!”
  หลิงหยุนตอบยิ้มๆแต่ในใจกลับคิดว่ายังขาดคนสำคัญอีกหนึ่งคน จึงได้เดินไปที่มุมห้อง เชื้อเชิญเหล่ากุ่ยซึ่งดูเหมือนคนแก่ธรรมดาๆคนหนึ่งให้มายืนข้างตนเอง
  หลิงหยุนมักรู้สึกอยู่เสมอว่าเหล่ากุ่ยที่เขาไม่รู้ภูมิหลังที่ชัดเจนนั้น เป็นผู้ที่ดีกับเขาเป็นพิเศษ เขาจึงไม่อาจปฏิบัติต่อเหล่ากุ่ยอย่างเย็นชาได้
  “พ่อหนุ่ม.. ข้าเป็นชายแก่ธรรมดาๆเท่านั้น คงจะไม่เหมาะสม..”
  แม้ปากจะพูดออกไปเช่นนั้นแต่ในใจของเหล่ากุ่ยกลับตื่นเต้นอย่างมาก เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าหลิงหยุนจะนึกถึงเขาในเวลาเช่นนี้ และต่อหน้าสายตาทุกคู่ เหล่ากุ่ยที่กำลังปฏิเสธนั้น ก็กำลังถูกหลิงหยุนดันตัวมาข้างหน้า
  นอกจากฉินตงเฉี่วยกับท่านหมอเสี่ยวแล้วหลงเทียนเจียว และแขกเหรื่อคนอื่นๆ ต่างก็พากันงุนงงว่า ชายชราที่ดูธรรมดาๆ และไม่โดดเด่นอะไร เหตุใดจึงมีความสำคัญต่อหลิงหยุนเช่นนี้
  “พ่อหนุ่ม..ข้าไม่ยืนข้างเจ้าหรอกนะ ขอข้ายืนข้างหลังเจ้าก็แล้วกัน..”
  เหล่ากุ่ยพูดได้เพียงเท่านั้นและเขาตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ออกอีก หลิงหยุนจึงได้แต่พยักหน้าตกลง
  “ได้!”
  และในพพิธีตัดริบบิ้นนี้ทั้งถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋ต่างก็สมควรที่จะมายืนเคียงข้างหลิงหยุนเช่นกัน แต่ตอนนี้ทั้งคู่นั้นยุ่งมากจริงๆ
  …………..
  “โอ้โห..โคตรเจ๋งเลย!”
  เด็กหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนที่ยังคงเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเมื่อเห็นจำนวนคนที่มายืนตัดริบบิ้นกับหลิงหยุนมากมาย แต่ละคนก็ได้แต่ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
  หากไม่ใช่เพราะป้ายชื่อร้านที่ติดอยู่หน้าประตูทางเข้าพวกเขาคงคิดว่านี่เป็นพิธีเปิดอาคารใหม่ของรัฐบาลอย่างแน่นอน
  ริบบิ้นสีแดงถูกนำมาติดตั้งไว้และมีเจ้าหน้าที่สองสามคนสวมชุดกี่เพ้านำกรรไกรสำหรับตัดริบบิ้นมายื่นให้ผู้ที่จะทำหน้าที่ในการเปิดพิธี
  หลี่ยี่เฟิงที่หันไปพูดอะไรสองสามคำจากนั้นท่านเสี่ยวหมอเทวดาก็ยิ้มพร้อมกับประกาศออกมาเสียงดัง
  “ฉันขออวยพรให้คลีนิคสามัญชนของหลิงหยุนมีแต่ความเจริญก้าวหน้า!”
  เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณและผ้าแพรสีแดงถูกตัดเป็นชิ้นๆ เสียงเปรบมือดังกระหึ่มแข่งกับเสียงประทัด!
  ปัง..ปัง.. ปัง.. เสียงประทัดจำนวนมากถูกจุดขึ้นอีกครั้ง และเสียงปรบมือพร้อมเพรียงกันอย่างอบอุ่นนั้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคลีนิคสามัญชนของหลิงหยุนได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว!
  “ขอแสดงความยินดีด้วย..”
  “ขอให้เงินทองไหลมาเทมา..”
  “ขอบคุณทุกท่าน..”
  ทุกคนต่างก็พากันเปล่งเสียงอวยพรให้กับหลิงหยุนและต่างก็พากันชื่นชม
  “คิดไม่ถึงจริงๆคิดไม่ถึงจริงๆ!”
  หลี่จินเหลียนที่ยืนมองอยู่ไกลๆนั้นได้แต่พึมพำออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ และก็ไม่รู้ว่าตนเองได้รำพึงรำพันเช่นนั้นออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว!
  “เจ้านายของเราเป็นใครกันแน่ท่าทางใหญ่โตขนาดนี้ แต่ทำไมถึงได้เปิดแค่คลินิกเล็กๆ? ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ..”
  แม้แต่ชางเสี่ยวเหมิงก็ถึงกับเกาหัวแกรกๆเพราะไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่!
  “ใช่..คนใหญ่คนโตมากมายมาร่วมยินดีกับเขา แสดงว่าเขาต้องมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาแน่เลย ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงได้จ้างพวกเราด้วยเงินเดือนที่สูงได้ แต่ถ้าเขาไม่ได้มีทักษะทางการแพทย์จริง แล้วรักษาคนไข้ไม่ได้ ฉันก็คงไม่ทำงานที่นี่!”
  ดูเหมือนว่าซันยู่วเจียวจะยังคงพยายามรักษาท่าทีจองหองเย็นชาของตนเองไว้
  พยาบาลสาวทั้งสามคนต่างก็จ้องมองหลิงหยุนแม้จะคิดไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนล้วนนึกชื่นชมหลิงหยุนอยู่ในใจลึกๆ
  หลิงหยุนต้องการทำพิธีเปิดคลินิกสามัญชนอย่างเรียบง่ายแต่กลับคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะกลับตาลปัตรเช่นนี้ กลับกลายเป็นว่าพิธีเปิดในวันนี้ทั้งยิ่งใหญ่ และอลังการอย่างที่สุด!
  “พี่ใหญ่..พี่เก่งที่สุดเลย!” หนิงหลิงยู่ร้องบอกด้วยความชื่นชม
  หลิงหยุนยกมือขึ้นลูบผมยาวสลวยของหนิงหลิงยู่อย่างอ่อนโยนพร้อมกับตอบยิ้มๆ“เก่งที่ใหนกันเล่า ยังไม่มีลูกค้าเลย!”
  “พี่เก่งมาก!เก่งที่สุด!”
  น้อยครั้งที่หนิงหลิงยู่จะมีท่าทางคล้ายเด็กเอาแต่ใจเช่นนี้เธอย้ำอย่างไม่ยอมแพ้เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนไม่ยอมรับ
  หลิงหยุนจึงได้แต่ยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า“ได้ๆ เอาเป็นว่าไม่ธรรมดาก็แล้วกัน..”
  หลิงหยุนกำลังหยิบผ้าแพรสีแดงขึ้นมาพาดคอหนิงหลิงยู่แต่ก็ได้ยินเสียงของท่านเสี่ยวหมอเทวดาพูดขึ้นมา
  “หลิงหยุน..เข้าไปข้างในเร็วเข้า! พิธีเปิดเสร็จสิ้นแล้ว พวกเราเตรียมของขวัญมาให้เธอด้วย..”
  หลังจากพพิธีตัดริบบิ้นจบไปแล้วก็ได้เวลามอบของขวัญอย่างเป็นทางการ ท่านหมอเสี่ยวซึ่งอาวุโสสุดจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้น และแน่นอนว่า การให้ของขวัญกันในเวลานี้ไม่ใช่การเอาหน้า แต่หมายถึงการสนับสนุน!
  ‘นี่ต่างหากถึงจะเป็นช่วงสำคัญของงานจริง!’
  “พี่หลิงหยุน..เข้าไปข้างในเร็วเข้า!” เสี่ยวเม่ยหนิงยิ้มกว้างพร้อมกับร้องบอกหลิงหยุนด้วยความตื่นเต้น และรีบดึงแขนของเขาให้เข้าไปด้านใน
  “..วันนี้มีคนใหญ่คนโตมาเยอะแยะไปหมดไปดูกันว่าพวกเขาเอาของขวัญอะไรมาให้หลิงหยุนบ้าง!”
  “จริงด้วย..รีบไปดูกันว่าหลิงหยุนจะได้รับอะไรบ้าง”
  “ลุงหลี่ก็ยังไม่กลับดูท่าว่าจะมีของขวัญมาให้หลิงหยุนด้วยเหมือนกัน!”
  หลิงหยุนได้ยินเสียงผู้คนรอบข้างพึมพำและแขกเหรื่อต่างก็พากันเบียดเสียดเข้ามาภายในคลีนิคเพื่อสังเกตุการณ์

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน