ถึงไป๋ยิ่นหนิงจะยังไม่ได้แต่งงานแต่เขาก็เป็นผู้ชายปกติคนหนึ่ง เขามองสภาพของจงจิ่งห้าวแล้วหรี่ตาลง ในใจเหมือนจะเดาได้คร่าวๆแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงไม่ถามอะไรต่ออีก จากนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“ไปกันเถอะฉุนฉุน”
โจวฉุนฉุนทำตามที่เขาพูด เธอเข็นเขาไปยังรถที่จอดอยู่
ไป๋ยิ่นหนิงรู้ทั้งรู้ว่าไม่ควร รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะเธอแต่งงานแล้ว ทว่าเขาก็ไม่อาจควบคุมหัวใจของตัวเองได้
เขาอยากอยู่ใกล้เธอ อยากเห็นหน้าเธอ
ที่จริงเขาก็เกลียดที่ตัวเองเป็นแบบนี้
“กลับกันเถอะฉุนฉุน”ที่จริงเขาไม่อยากกลับไปและก็ไม่อยากเจอคนของตระกูลโจวด้วย เขาอยากอยู่เงียบๆ
โจวฉุนฉุนขานรับแล้วเข็นเขาไปตามทางเดิน เกาหยวนขับรถตามหลังมาช้าๆ
“ยิ่นหนิง คุณอารมณ์ไม่ดีหรอคะ?”แม้โจวฉุนฉุนจะไม่ฉลาดมากนัก แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าไป๋ยิ่นหนิงกำลังรู้สึกหดหู่
ไป๋ยิ่นหนิงเหม่อลอยไม่ได้มองตรงหน้า“ฉุนฉุน คุณชอบผมไหม?”
โจวฉุนฉุนรู้สึกว่าเขาแปลกมาก ทำไมเขาถึงถามแบบนี้?
“ฉันเคยบอกแล้วนี่ว่าฉันชอบคุณ”
ไป๋ยิ่นหนิงเงียบลงครู่หนึ่งแล้วถามขึ้น“ถ้าคุณชอบผมไม่ได้ คุณจะทำยังไง?”
“ทำไมถึงชอบคุณไม่ได้ล่ะ?”โจวฉุนฉุนไม่เข้าใจที่เขาถาม แถมเธอยังรู้สึกแปลกมาก
ไป๋ยิ่นหนิงอธิบายให้เธอฟังอย่างใจเย็น“อย่างถ้ามีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้คุณชอบผมไม่ได้ คุณจะทำยังไง?”
โจวฉุนฉุนพอจะเข้าใจแล้ว เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบออกไป“ถ้าชอบคุณไม่ได้ ฉันคิดว่าฉันต้องเสียใจมากแน่ๆ แต่ฉันก็จะพยายามทำให้ตัวเองลืมคุณให้ได้ พยายามไม่ให้ตัวเองชอบคุณ การที่ชอบอะไรแล้วไม่สามารถครอบครองไว้ได้มันเจ็บปวดมาก เพราะงั้นควรพยายามลืมให้ได้แทนที่จะจมอยู่กับความเจ็บปวดดีกว่า”
ไป๋ยิ่นหนิงเงยหน้ามองเธอ“ใครบอกว่าคุณไม่ฉลาดเนี่ย นี่คุณฉลาดและเข้าใจทุกอย่างมากกว่าใครเลยนะ”
โจวฉุนฉุนหัวเราะออกมา“คุณเป็นคนแรกที่บอกว่าฉันฉลาดเลย”
ไป๋ยิ่นหนิงยื่นมือออกไปจับมือเธอไว้“มานี่สิฉุนฉุน”
โจวฉุนฉุนเดินไปนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็เอามือวางลงบนหน้าตักเขาแล้วเงยหน้าพูดออกไปด้วยท่าทีจริงจัง“ยิ่นหนิง ฉันไม่อยากให้คุณอารมณ์ไม่ดี คุณบอกฉันสิว่าจะให้ฉันทำอะไรคุณถึงจะมีความสุข?”
ใบหน้าของไป๋ยิ่นหนิงยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“ผมดูไม่มีความสุขหรอ?”
“ใช่ คุณดูไม่มีความสุข”โจวฉุนฉุนจ้องตาเขา“ถึงแม้คุณจะยิ้ม แต่นัยน์ตาคุณกำลังร้องไห้อยู่”
ไป๋ยิ่นหนิงจ้องหน้าเธอเงียบๆอยู่นาน จากนั้นก็ดึงเธอเข้ามากอด เขาลูบผบเธอเบาๆ“ฉุนฉุน ผมผ่านความเจ็บปวดมามากมายเหลือเกิน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะดีขึ้น”
“งั้นคุณลองชอบฉันดีไหม?”โจวฉุนฉุนเงยหน้าขึ้น“ชอบฉันดีไหมคะ?”
ไป๋ยิ่นหนิงอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วถึงตอบออกไป“เดิมผมก็ชอบคุณอยู่แล้วนี่นา”
โจวฉุนฉุนส่ายหน้า“คุณไม่ได้ชอบฉัน ตอนที่คุณมองฉันแววตาของคุณมันไม่ส่องประกายออกมา ทว่าตอนที่มองพี่สาวคนนั้นต่างหากตาคุณถึงเป็นประกาย”
ไป๋ยิ่นหนิงพูดไม่ออก
โจวฉุนฉุนจับมือของเขาขึ้นมาแนบกับใบหน้าของตัวเอง จากนั้นก็เอียงหัวหนุนกับฝ่ามือเขา“จากนี้ไปฉันจะพยายาม พยายามทำให้คุณมองฉันตาเป็นประกายให้ได้ แบบนี้คุณก็จะไม่เจ็บปวดอีกต่อไป”
ไป๋ยิ่นหนิงชินกับการแสร้งยิ้มอยู่ตลอด ทันใดนั้นเองเขาก็ไม่อาจรักษารอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป เขาเริ่มลูบใบหน้าของเธอ“ผมจะพยายาม”
พยายามลืมเรื่องที่ควรลืม และพยายามรักคนที่ควรรัก
“พวกเรากลับบ้านกัน”ไป๋ยิ่นหนิงพูดขึ้นเบาๆ
โจวฉุนฉุนตอบตกลง แล้วหันไปเรียกเกาหยวนให้มาช่วยเข็นเขาขึ้นรถ เดิมการที่ไป๋ยิ่นหนิงมาที่เมืองBจะต้องเข้าพักที่โรงแรม แต่คุณนายโจวไม่ยอม เธออยากให้พวกเขาเข้ามาพักที่บ้าน
ไม่นานรถก็ขับมาถึงหมู่บ้านของตระกูลโจว จากนั้นก็หยุดลงที่หน้าประตู หมู่บ้านนี้ไม่อนุญาตให้รถจากต่างถิ่นเข้ามา เกาหยวนเข็นไป๋ยิ่นหนิงลง จากนั้นโจวฉุนฉุนก็เดินตามลงมา
“นายกลับไปพักผ่อนได้”ไป๋ยิ่นหนิงพูดกับเกาหยวน
“ครับ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมจะเข้ามารับ”เกาหยวนพูด
ไป๋ยิ่นหนิงตอบอืมออกมา เมื่อเห็นเกาหยวนออกไปแล้วโจวฉุนฉุนถึงได้เข้ามาเข็นไป๋ยิ่นหนิงเข้าไปในหมู่บ้าน
ระหว่างทางโจวฉุนฉุนก็พูดกับเขาขึ้น“พี่เขาดูมีความสุขมากเลย”
“หืม?ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?”ไป๋ยิ่นหนิงรู้สึกแปลกใจ เธอพึ่งไปกินข้าวเย็นกับพวกเขามาเอง แค่นี้ก็รู้แล้วหรอว่าหลินซินเหยียนอยู่อย่างมีความสุข
“สามีของหล่อนดูแลหล่อนดีมากเลยหรอ?”ไป๋ยิ่นหนิงถาม
โจวฉุนฉุนทั้งส่ายหน้าและพยักหน้าพร้อมๆกัน “ฉันไม่รู้หรอกว่าสามีของหล่อนดีกับหล่อนมากแค่ไหน แต่พอเห็นลูกชายกับลูกสาวของเธอแล้ว พวกเขาทั้งสวยงามและน่ารักมากๆเลย”
ไป๋ยิ่นหนิงหลับตาลงเบาๆ“ใช่ ลูกๆของเธอสวยงามมาก”
“ยิ่นหนิงคุณว่าพวกเราจะมีลูกไหมในอนาคต?ฉันเห็นหลายคนหลังจากแต่งงานก็มีลูกทันที พวกเราก็แต่งงานกันแล้ว อีกสักพักฉันจะมีลูกไหมนะ?”โจวฉุนฉุนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความคาดหวังเล็ก ๆ
ไป๋ยิ่นหนิง“……”
“ฉุนฉุน ผมง่วงแล้ว พวกเรารีบกลับเข้าบ้านดีไหม?”
ไป๋ยิ่นหนิงไม่รู้จะตอบคำถามและอธิบายให้เธอฟังว่ายังไงดี
โจวฉุนฉุนทำตามที่เขาพูด เธอเงียบไม่พูดอะไรออกมาพลางเข็นเขากลับเข้าไปในบ้าน คุณท่านคุณนายตระกูลโจวยังคงไม่นอน พวกเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ดูเหมือนกำลังคุยอะไรกันบางอย่าง ทว่าสีหน้าของทั้งสองดูไม่ค่อยดีนัก
เมื่อเห็นลูกสาวกับลูกเขยกลับมา ทั้งคู่ก็เงียบลงทันที คุณนายโจวกวักมือเรียกลูกสาวเข้ามา โจวฉุนฉุนเดินเข้ามาแล้วนั่งลงอย่างว่านอนสอนง่าย“คุณแม่”
คุณนายโจวลูบผมของลูกสาว“ไปกินอะไรกันข้างนอกมาหรอ?”
โจวฉุนฉุนบอกว่าไปกินข้าวเย็นที่บ้านหลินซินเหยียนมา“คนรับใช้ที่บ้านของพี่เขาฝีมือดีมาก กับข้าวก็อร่อยสุดๆไปเลย แถมที่บ้านยังมีเด็กอีกสองคน น่ารักมากๆเลยด้วย”
คุณนายโจวหันขวับไปหาไป๋ยิ่นหนิงแล้วถามขึ้น“ลูก?”
ไม่ใช่ว่าพึ่งท้องหรอ?
แล้วเด็กมาจากไหน?
ไป๋ยิ่นหนิงพูดอธิบายขึ้น“ก่อนหน้านี้ครับ เป็นลูกแฝดผู้หญิงกับชาย”
คุณนายโจวไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเธอมีลูกเยอะขนาดนี้แล้ว“พวกเขาแต่งงานกันแล้วหรอ?”
ไม่เห็นพวกเขาจะจัดงานแต่งงานเลยนี่นา
“แต่งแล้ว ส่วนเรื่องทำไมไม่จัดงานแต่งงาน ผมก็ไม่รู้แน่ชัด”ไป๋ยิ่นหนิงไม่ได้พูดอะไรมาก ต่อหน้าคุณนายโจวเขาทำตัวว่าเป็นเพื่อนกับหลินซินเหยียน เพราะงั้นถ้าเขารู้มากเกินไปก็จะเห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขามันมีบางอย่างผิดปกติ
คุณนายโจวพยักหน้าลงด้วยความเข้าใจพลางตบหลังลูกสาวเบาๆ“พวกลูกไปนอนเถอะ”
โจวฉุนฉุนลุกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มแล้วเดินไปที่ห้อง ไป๋ยิ่นหนิงยังนิ่งไม่ขยับ เขามองไปที่คุณนายโจวกับโจวหวยโฮ่“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ?เมื่อกี้เห็นพวกท่านเหมือนกำลังเถียงกันอยู่”
โจวหวยโฮ่ยังคงทำหน้าขรึมเหมือนกับรู้สึกหงุดหงิดมาก
คุณนายโจวถอนหายใจออก พอคิดว่าไป๋ยิ่นหนิงไม่ใช่คนนอกก็เลยตัดสินใจพูดออกไป“ลูกก็รู้สถานการณ์ของแม่ ก็น้องชายของแม่น่ะ คนที่ไม่ค่อยติดต่อมา จู่ๆเขามาหาแม่แล้วบอกว่ามีเพื่อนคนหนึ่งกำลังบาดเจ็บ ก็เลยอยากจะให้เพื่อนที่กำลังบาดเจ็บของเขาพักอยู่ที่บ้านซักสองสามวัน……”
“เพื่อนอะไรกัน คุณไม่เห็นในข่าววันก่อนหรอว่าเขาเป็นใคร? ”
คุณนายโจวยังไม่ทันพูดจบก็ถูกโจวหวยโฮ่ที่กำลังโมโหพูดขัดจังหวะ“ถ้าไม่เดือดร้อนก็คงไม่มาหาหรอก ปกติเขาเคยเห็นคุณเป็นพี่สาวซะที่ไหน แล้วตอนนี้มาขอให้คุณช่วย แถมยังเรียกคุณอย่างสนิทสนมว่าเป็นพี่สาวอีก เอาคนเป็นๆทั้งคนมาซ่อนที่บ้านเรา เขาเห็นบ้านของเราเป็นอะไรกัน?”
โจวหวยโฮ่พ่นลมออกมาทางจมูกด้วยความโมโห“อย่าแม้แต่จะคิดเชียวนะ ผมไม่ยอมเด็ดขาด!”
คุณนายโจวก็ไม่ได้สมัครใจ แต่กู้เป่ยมาขอร้องเธอถึงที่ เธอก็ไม่รู้จะทำยังไง ถึงจะไม่รู้สึกอะไรกับน้องชายคนนี้แล้ว แถมไม่ได้ติดต่อกันบ่อยๆ ทว่าครั้งนี้เขามาเอ่ยปากขอด้วยตัวเอง ถ้าเธอปฏิเสธมันก็คงไม่เหมาะ เพราะยังไงก็เกิดออกมาจากท้องพ่อท้องแม่เดียวกัน
คุณนายโจวรู้สึกหมดปัญญาจึงถอนหายใจออกมา เธอไม่รู้จะทำยังไงดี
“ใครหรอครับ?บางทีผมอาจจะช่วยได้”ไป๋ยิ่นหนิงถาม