จงจิ่งห้าวตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันมา“คุณเข้ามาได้ไงเนี่ย?”
“ฉันเข้ามาไม่ได้หรอ?”เธอชะโงกหน้าไปดูในอ่างอาบน้ำ ทำไมเขาทำท่าดูกลัวว่าเธอจะเห็นอะไรยังไงยังงั้นเลย จงจิ่งห้าวขยับตัวเพื่อบังเธอไว้“วันนี้มีแขกมาที่บ้าน คุณไม่อยู่รับแขกหรอ?”
“ลูกสาวคุณกำลังต้อนรับแขกอยู่”หลินซินเหยียนชะเง้อมองอีก แต่เขาก็เขยิบตัวมาบังไว้ หลินซินเหยียนยิ่งอยากดูมากขึ้นอีก“นี่คุณจะหวงอะไรเนี่ย?”
จงจิ่งห้าวกระแอมออกมาเล็กน้อย“ผมมีอะไรให้ต้องหวง?”
“ถ้าไม่หวงก็หลบหน่อยสิ”หลินซินเหยียนยื่นมือไปผลักเขาหลบเบาๆ ของที่แช่อยู่ในอ่างอาบน้ำคือชุดชั้นในที่ซื้อจากห้างวันนี้
จงจิ่งห้าว“……”
ทั้งห้องเงียบไปชั่วขณะ
จู่ๆหลินซินเหยียนก็หัวเราะออกมา
จงจิ่งห้าวทำหน้าขรึม“คุณขำอะไร?”
หลินซินเหยียนยืนพิงประตูแล้วกุมท้องหัวเราะร่า
ผู้ชายคนนี้น่ารักเกินไปแล้ว
จงจิ่งห้าว“……”
“ออกไปเลยนะ!”เขาทำหน้าดุ
หลินซินเหยียนพยายามกลั้นขำไว้ แต่มันก็กลั้นไม่อยู่ เธอพูดออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ“ฉันไม่ขำแล้ว”
จงจิ่งห้าวขี้เกียจจะสนใจเธอแล้วจึงหันไปซักต่อ
ถึงแม้ภาพที่เขากำลังซักชุดชั้นในของผู้หญิงมันจะแปลกๆหน่อย แต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูน่ารักและมีเสน่ห์มาก หลินซินเหยียนแค่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะซักชุดชั้นในให้ตัวเอง
ความรู้สึกอบอุ่นพรั่งพรูขึ้นมาในใจทันที
เธอกอดเอวเขาจากด้านหลัง แล้วเอาหน้าผากแนบลงไปกับแผ่นหลังของเขา จงจิ่งห้าวตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที แต่ซักพักก็กลับมาสู่ปกติ เขาหันกลับมามองเธอ“วันพรุ่งนี้ใส่ให้ผมดูได้ไหม?”
หลินซินเหยียนกอดเอวเขาแน่นขึ้นอีกพร้อมกับตอบอืมออกมา
จงจิ่งห้าวพอใจกับคำตอบนี้มาก
ไม่เสียแรงที่ซักเองเลย
“ที่รักขา”หลินซินเหยียนอ้อนเขา
จงจิ่งห้าวชะงักแล้วถามขึ้น“คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?”
เมื่อกี้เขาหูแว่วไปรึเปล่า?
หลินซินเหยียนพูดทั้งๆที่เอาหน้าแนบอยู่กับเสื้อเขา จากนั้นก็จุ๊บที่แผ่นหลังเขา สัมผัสที่นุ่มนวลถูกส่งมาจากแผ่นหลัง เขากลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง แล้วได้แต่คิดว่าวันนี้เธอเป็นอะไร?
จู่ๆทำไมถึงทำตัวอบอุ่นแบบนี้
หลินซินเหยียนเอ่ยขึ้นเบาๆ“คุณได้เล่นโซเชียลบ้างไหม?”
จงจิ่งห้าว……???
คืออะไร?
“หืม?”
“ก็พวกโซเซี่ยลแอพที่เห็นบ่อยๆไงอย่างเช่นเวยซิ่นโม่โม่ เวยป๋ออะไรพวกนั้น”ขณะที่พูดเธอก็ยังคงกอดเอวเขาไว้
เขาก้มมองไปที่มือของเธอ เขารู้สึกได้ว่าคำพูดของเธอมันฟังดูทะแม่งๆ อยู่ดีๆทำไมถึงถามคำถามแปลกๆอย่างนี้ล่ะ?
เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?
เขาขมวดคิ้วแน่นเพราะกลัวว่าจะมีใครมายุ่งและทำลายช่วงเวลาอันเงียบสงบอันน้อยนิดนี้ของเขาอีก
“คุณก็มีเวยซิ่นผมนี่นา แต่ผมก็ไม่ได้โพสต์อะไรนะ ส่วนโม่โม่นั่นคืออะไรหรอ?แล้วก็เวยป๋อมีเป็นบัญชีทางการ แบบส่วนตัวไม่มี เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?”
เขาหันแค่ตัวไปและเนื่องจากมือเปียกน้ำอยู่ก็เลยไม่จับตัวเธอ เขาพูดอย่างระมัดระวัง“คือผมสาบานว่าผมไม่ได้ไปทำอะไรข้างนอกเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้น?คุณพูดกับผมตรงๆเลยได้ไหม แบบนี้ผมไม่สบายใจ”
เขามักจะรู้สึกว่าเธอถามหยั่งเชิงเขาตลอด
เขาเลยอยู่ไม่สุข
หลินซินเหยียนเห็นท่าทีที่ดูระแวดระวังของเขาก็รู้ได้เลยว่าเขาเข้าใจผิด เธอจึงยื่นมือออกไปคล้องคอเขาไว้พร้อมกับยิ้มถามขึ้น“นี่คุณจะกลัวอะไรเนี่ย?”
“ผมก็แค่กลัวว่าคุณจะเข้าใจผมผิด……”
เขายังไม่ทันพูดจบ จู่ๆหลินซินเหยียนก็เขย่งเท้าขึ้นมาแล้วจุ๊บเขา จากนั้นก็มองเขาด้วยท่าทีจริงจัง“ฉันไม่เคยสงสัยในตัวคุณเลย”
แม้กู้เป่ยจะส่งภาพตัดต่อเหมือนจริงนั้นมาให้เธอก็ไม่เคยจะหลงเชื่อ
นอกเสียจากว่าเธอจะได้เห็นกับตาและได้ยินกับหูของตัวเอง
เธอไม่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูด
เธอคิดว่าคนรักกันจะต้องมีความเชื่อใจและความซื่อสัตย์ต่อกัน
ถ้าไม่เชื่อใจกัน เธอก็คงไม่เลือกอยู่กับเขาตั้งแต่แรกหรอก
เขามักจะทำให้เธอประหลาดใจ และท่าทางที่อ่อนโยนของเขาก็ทำให้เขามีเสน่ห์มาก
“คุณรู้ไหมว่าฉันชอบท่าทางเมื่อกี้ของคุณมากแค่ไหน?”ทุกๆคำพูด การกระทำและสีหน้าของเขามันออกมาจากใจจริงๆ
“เพราะงั้นคุณก็เลยจะให้รางวัลผม?”เขาโอบเอวเธอไว้โดยไม่ได้เอามือโดนตัวเธอ
หลินซินเหยียนยิ้มออกมา“คุณอยากได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ?”
“ถ้าผมบอกอะไรไปคุณจะให้ผมได้หมดเลยใช่ไหม?”นัยน์ตาของเขาฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา มันแพรวพราวราวกับแสงดาวตก
หลินซินเหยียนไม่ได้สังเกต เธอเอียงหัวแล้วทำท่าครุ่นคิด“ก็ได้ ถ้าเป็นอะไรที่ฉันทำได้ ฉันก็จะทำให้คุณ”
จงจิ่งห้าวยิ้มอย่างมีชัย เขาค่อยๆกวาดสายตาตั้งแต่ใบหน้าของเธอลงมา แล้วหยุดลงที่ตรงหน้าอกเธอ“ถ้าผมต้องการ คุณก็ต้องทำได้อยู่แล้ว”
หลินซินเหยียนพึ่งรู้สึกตัวได้ถึงสายตาทอันร้อนแรงของเขา เธอเอ่ยเตือนขึ้นอย่างอดไม่ได้“เดี๋ยวก็จะทานอาหารเย็นแล้ว อย่าก่อเรื่อง ที่บ้านมีแขกนะ”
“ป้าหยูไม่ทำกับข้าวเสร็จเร็วขนาดนั้นหรอก และพวกเขาก็ไม่ขึ้นมาเดินพรำ่เพรื่อที่ชั้นบนด้วย”เขาพูดอธิบาย
“แต่มันก็……”
“คุณตอบตกลงผมแล้วนะ”
หลินซินเหยียน“……”
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนว่าตัวเองโดนหลอกเลยนะ
มือของจงจิ่งห้าวเย็นนิดหน่อย เพราะว่าแช่อยู่ในน้ำ เนื้อผ้าของชุดที่ใส่ในฤดูร้อนนั้นค่อนข้างบาง เพียงแค่เขาวางมือลงที่แผ่นหลังความเย็นจากมือของเขาก็แล่นผ่านทะลุเสื้อเข้ามา เธอขนลุกขนชันขึ้นมาทันที เธอเอามือดันเขาไว้เบาๆ“ไว้ตอนดึกได้ไหม?”
จงจิ่งห้าวพูดเสียงกระเส่า“ไม่ไหวแล้ว”
เขาจับมือของหลินซินเหยียนมาวางไว้ที่เป้า มันแข็งสู้มือขึ้นมา หลินซินเหยียนสมองขาวโพลน หน้าร้อนฉ่า ปากแห้งคอแห้งมาขึ้นมาทันที
ดูเหมือนว่าจะปฏิเสธไม่ได้แล้ว
เขายืนกอดหลินซินเหยียนอยู่หน้ากระจก เขากอดเธอจากด้านหลัง ทั้งสองมองหน้ากันในกระจก ต่างก็ไม่อาจซ่อนความกระหายที่มีต่อกันและกันได้อีกต่อไป
หลินซินเหยียนใส่กระโปรง เพราะงั้นเขาจึงถกขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แผงอกที่แข็งแรงค่อยๆขยับเข้ารับกับเธอ มันแนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ
ทันทีที่เขาเข้ามา หลินซินเหยียนก็ขมวดคิ้วแล้วร้องออกมาเบาๆ
ตอนนี้เธอท้องอยู่ จงจิ่งห้าวจึงไม่กล้าออกแรงเยอะ
แต่ถึงจะเป็นอย่างนี้ เขาก็ทำอยู่พักหนึ่ง ต่อมาหลินซินเหยียนยืนไม่อยู่แล้ว เธอยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับขอบอ่างไว้แล้วก้มตัวลง เพื่อป้องกันไม่ให้ท้องชนกับขอบอ่าง กระจกที่อยู่ตรงหน้าพร่ามัวขึ้นมาเพราะไอจากลมหายใจ มันเห็นเป็นเงาคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ลางๆ
หลังจากที่เสร็จเรียบร้อย จงจิ่งห้าวต้องอุ้มเธอเดินออกไป เพราะขาทั้งสองข้างของเธอนั้นอ่อนปวกเปียกไปหมด
จงจิ่งห้าววางเธอลงบนเตียง แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมร่างที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยของเธอไว้ เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า“คุณนอนพักซักหน่อย เดี๋ยวค่อยลงไปกินข้าวทีหลัง”
หลินซินเหยียนหรี่ตาลง เธอนอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความง่วง แต่ก็ไม่อยากหลับเพราะไม่สบายใจ เธอพูดขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง“วันนี้มีแขกมาที่บ้าน ถ้าฉันไม่ลงไปมันจะดูไม่ดี”
จงจิ่งห้าวจัดผมที่บังคิ้วของเธอ เมื่อปลายนิ้วมือสัมผัสลงบนหน้าผากของเธอก็พบว่ามีเหงื่อผุดออกมาเล็กน้อย เขาโน้มตัวลงไปจุ๊บที่ตาเธอ เดิมหลินซินเหยียนก็หลับตาอยู่ เขาพูดขึ้นเบาๆ“อย่าพึ่งคิดถึงมันเลย ฟังที่ผมบอกก็พอนะ?”
หลินซินเหยียนตอบอืมออกมา แล้วจับมือเขาไว้พร้อมกับพูดขึ้น“อย่าลืมปลุกฉันด้วย”
จงจิ่งห้าวตอบ“ครับ” จากนั้นเธอถึงหลับได้อย่างสบายใจ
พอเห็นว่าเธอหลับแล้วจงจิ่งห้าวถึงได้ลุกออกไป เมื่อเขาเก็บกวาดทำความสะอาดห้องน้ำเสร็จ มันก็ใกล้จะถึงเวลาทานข้าวแล้ว เขาปิดประตูลงเบาๆแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ป้าหยูกำลังเดินขึ้นบันไดมาเพื่อจะไปเรียกพวกเขาอยู่พอดี แต่เห็นเขาเข้าเลยพูดขึ้น“อาหารเย็นเสร็จแล้วค่ะ จะกินตอนนี้เลยไหมคะ?”
จงจิ่งห้าวตอบอืมออกไป
“คุณนายล่ะคะ?”ป้าหยูไม่เห็นหลินซินเหยียนก็เลยถามขึ้น
“เธอหลับไปแล้ว เดี๋ยวค่อยให้เธอกินทีหลัง”สีหน้าของจงจิ่งห้าวเรียบเฉย ขณะพูดก็นิ่งมาก ป้าหยูไม่คิดอะไร เพราะยังไงหลินซินเหยียนก็กำลังท้องอยู่ จะนอนเยอะหน่อยก็เป็นเรื่องปกติ แถมวันนี้ยังออกไปข้างนอกมาทั้งวันคงจะเหนื่อย
“ถ้างั้นป้าไปเตรียมให้เลยแล้วกัน”ป้าหยูเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อยกกับข้าวออกมา จงจิ่งห้าวเคาะประตูห้องลูกสาวทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับ
เขาจึงเคาะอีกที“เสี่ยวลุ่ย?”
“คุณพ่อห้ามเข้ามานะคะ”น้ำเสียงของจงเหยียนซีฟังดูร้อนรนมาก
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้วขึ้น“เสี่ยวลุ่ยทำอะไรอยู่ในห้องน่ะ?”