บางทีมันอาจจะเป็นโชคชะตาที่ฟ้ากำหนดไว้ ไม่ว่าคนเราจะทำแค่ไหน ก็ไม่อาจหลุดออกมาได้
“เสี่ยวซีกลับเสี่ยวลุ่ย น่าจะใกล้เข้าโรงเรียนแล้วใช่ไหม? ไปตามเธอกลับมา เราก็ใช้ชีวิตให้ดีๆ กันเถอะ”
ความคับแค้นใจของคนรุ่นเก่า ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลย พวกเขาไม่ควรจะต้องมารับผิดชอบผลลัพธ์แบบนี้
ตั้งแต่ตอนที่รู้จักปากของไป๋ยิ่นหนิงว่าหลินซินเหยียนจากไปแล้ว วันเวลาเหล่านี้ เขาไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขได้เลย กลัวว่าจงจิ่งห้าวจะได้ทำเรื่องที่ต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
เขาได้สัมผัสถึงรสชาติของความเสียใจมามากพอแล้ว ไม่อยากให้ลูกชายเดินตามรอยของตัวเอง
“ไม่รู้ว่าเธอแค้นฉันหรือเปล่า จะไปนานขนาดนี้ ยังไม่เคยแม้แต่มาเข้าฝันฉันด้วยซ้ำ”เสียงของเขายังคงดำเนินต่อไป เขาไม่สามารถซ่อนเร้นน้ำเสียงที่สะอึกสะอื้นของตัวเองได้
จงจิ่งห้าวไม่ตอบอะไรเลย ได้แต่ยืนฟังอยู่แบบนั้น
บางทีก็มีลมพัดเข้ามา และใบไม้ก็ส่งเสียง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่ถาวร แสงแดดที่สว่างจ้า ภูเขาทางทิศตะวันตกขวางเอาไว้ ปิดกั้นแสงแดดที่ร้อนแรง เปลี่ยนกลางวันให้เป็นกลางคืน
สองพ่อลูกอยู่ในห้องด้วยกันอยู่นาน ไม่มีใครเข้าไปรบกวน จนก่อนถึงเวลากินข้าว จงจิ่งห้าวถึงได้เดินออกมาจากห้อง
เฉิงยู่เวินเตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว บนโต๊ะกลมสไตล์จีนในบ้านนั้น จงเหยียนซีเดินเข้ามาจูงมือพ่อของเธอ “พ่อคะ”
จงจิ่งห้าวยื่นมือไปลูบหัวของเธออย่างอ่อนโยน
“รีบมากินข้าวเร็ว”จงเหยียนซีดึงเขาเดินไปที่โต๊ะ
ครืด—
ตอนนี้เองโทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาสั่น เขาให้ลูกสาวนั่งกินข้าวก่อน แล้วก็เดินไปอีกด้านนึงพร้อมกับดึงโทรศัพท์ออกมา หน้าจอเผยให้เห็นชื่อของเสิ่นเผยซวน เขารับสายแล้วเอาโทรศัพท์แนบหู
แล้วเสียงของเสิ่นเผยซวนก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว “ผลสรุปของเหวินชิงมาแล้ว”
อุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อให้เกิดผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 1 ราย สภาพการณ์ค่อนข้างร้ายแรง ตามกฎหมายควรได้รับโทษอย่างหนัก การสอบสวนโดยตุลาการพบว่า เดิมทีนี้เป็นคดีลักพาตัว เหวินชิงที่เป็นคนก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้เข้ามอบตัวเอง สารภาพความผิดของตนเองตามความจริง และยังขอโทษตอบหน้าสาธารณะด้วย การยอมรับผิดของเขานั้นจริงใจมาก ฝ่ายตุลาการก็ถือว่าลงโทษอย่างเบา
“จำคุก 2 ปี เลื่อนโทษประหารชีวิต” เสิ่นเผยซวนพูด
ตอนตัดสินนั้น ประธานผู้พิพากษาประกาศว่า “เหวินชิง รับรู้และฝ่าฝืนกฎหมายในฐานะข้าราชการ ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของข้าราชการในสายตาของประชาชนนั้นเสียหายอย่างรุนแรง ทำลายชื่อเสียงของข้าราชการ เรื่องนี้ พวกเราจะจัดการอย่างจริงจัง ผู้ต้องสงสัยได้มอบตัวโดยสมัครใจ และสารภาพความผิดต่อศาล ขอโทษประชาชน มีเจตนาที่จะกลับใจ หลังจากพิจารณาแล้ว ตัดสินให้โทษจำคุก 2 ปี เดือนโทษประหารชีวิตออกไป และลิดรอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต”
จงจิ่งห้าวไม่ได้อารมณ์แปรปรวน แล้วก็ไม่ได้มีความสุขที่ได้แก้แค้น ได้แต่ตอบอย่างเฉยเมยว่า “เข้าใจแล้ว”
“คนที่เกี่ยวข้องคนอื่นก็ถูกลงโทษคล้ายๆ กัน แต่ว่า……กู้เป่ยกลับไม่ได้รับโทษ”
เหวินชิงไปหากู้เป่ย เหวินชิงเป็นคนบงการ และกู้เป่ยก็ไม่ได้ไปปล้นรถด้วยตัวเอง แต่ว่าให้ผู้จัดการคนนั้นที่เป็นลูกน้องเขาไปแทน
ตอนแรกเพื่อที่จะล่ากู้เป่ยลงไปในน้ำ ก็ได้ถ่ายวิดีโอที่ผู้จัดการกับนักเลงพวกนั้นคบค้าสมาคมกัน แล้วก็จงใจให้ผู้จัดการพูดว่า กู้เป่ยเป็นคนบอกให้เขาทำ แต่ว่าหลังจากที่ผู้จัดการคนนั้นถูกจับให้เป็นตายเขาก็เอาแต่พูดว่าเขาไปคนเดียว กู้เป่ยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย
บวกกับท่านปู่กู้อาศัยเส้นสาย ดังนั้นเขาก็เลยรอดพ้นบทลงโทษไปได้
คนที่สามารถเปิดผับอย่างนี้ได้ ก็ต้องมีอำนาจไม่น้อยอย่างแน่นอน
“หลังจากเหตุการณ์นี้ มันต้องรู้ว่าพวกเราโกหกมัน หลอกใช้มัน จะรู้สึกอยากแก้แค้นหรือเปล่า”ยังไงซะกู้เป่ยก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ครั้งนี้เกือบจะไม่รอด แล้วเขาจะยอมปล่อยไปได้ยังไง
“แกคอยจับตามองความเคลื่อนไหวของมันไว้ เดี๋ยวฉันกลับไปแล้วค่อยคุยกัน”
“ได้”
พอวางสายแล้วเขาก็หันกลับไปมองลูกทั้งสองคน เด็กทั้ง 2 คนกินข้าวเงียบๆ อยู่ภายใต้แสงจันทร์ คำพูดของจงฉีเฟิงเขาจำขึ้นใจ แม้แต่ตอนที่เขาจะแก้แค้นให้เฉิงยู่ซิ่วนั้น ก็ไม่เคยคิดที่จะละทิ้งหลินซินเหยียน แล้วทอดทิ้งครอบครัวนี้เลย
เขาเดินเข้าไป เฉิงยู่เวินดึงเก้าอี้ให้เขา “ดึกมากแล้ว รีบนั่งลงกินข้าวเถอะ”
จงจิ่งห้าวมองเขาแล้วก็นั่งลงและพูดว่า “ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันก็ไม่ใช่คนนอก ไม่ต้องเกรงใจ”เฉิงยู่เวินส่งตะเกียบให้เขา
“ต่อไปหากต้องการอะไรบอกผมได้เลยนะ” จงจิ่งห้าวรับตะเกียบที่เขาส่งมาให้ “ต่อไปที่เขาอยู่ที่นี่ ผมฝากดูแลเขาด้วยนะครับ”
จงฉีเฟิงบอกว่าเขาจะอยู่ที่นี่ ร่างกายของเขาไม่ได้เจ็บป่วย แต่ว่าป่วยทางจิตใจ
เฉิงยู่เวินตอบ “มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ฉันเองก็ไม่ได้เห็นเขาเป็นคนนอก ไม่ว่าก่อนหน้านี้ ไม่ว่าเขากับน้องสาวของฉันจะมีความรักหรือเปล่า แต่ว่าพวกเขาก็อยู่ในฐานะสามีภรรยากันมา 20 กว่าปี ฉันเห็นเขาเป็นน้องเขยมาตั้งแต่แรกแล้ว”
พอพูดแล้วเขาก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย 20 กว่าปีถ้าจะบอกว่านานก็ไม่นาน แต่ถ้าจะบอกว่าสั้นก็ไม่สั้น
เฉิงยู่เวินเทน้ำให้เขา “ว่าแล้วฉันก็ต้องขอบคุณนายนะ”
แล้วเขาก็เทน้ำให้ตัวเองเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำรังอยู่ในไป๋เฉิงที่ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่นะ แต่ว่าเขาก็ให้ความสนใจโลกภายนอก
“นายเองก็เห็นแล้ว บ้านหลังนี้บรรพบุรุษเราทิ้งไว้ให้ เป็นตระกูลที่เริ่มต้นจากสิ่งทอ ผ้าไหมกวางตุ้งพัฒนาโดยปู่ของฉัน พอมาถึงรุ่นของพ่อฉัน มันก็มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่แล้ว สมัยของพ่อฉันนั้น มาตรฐานการครองชีพของทุกคนค่อยๆ สูงขึ้น ใส่ใจเกี่ยวกับการสวมใส่เสื้อผ้า ผ้าไหมกวางตุ้งได้รับการยกย่อง มีตำแหน่งสูงในโลกของผ้า” เฉิงยู่เวินทอดถอนใจเล็กน้อย “ตอนแรกก็นึกว่ามันจะตกต่ำลง และหายวับไปกับกาลเวลา ไม่เคยคิดว่ามันจะได้เห็นดวงอาทิตย์อีกครั้ง”
ตั้งแต่นิทรรศการที่หลินซินเหยียนจะขึ้นประสบความสำเร็จ ทำให้ผ้าไหมกวางตุ้งได้เข้าสู่สายตาสาธารณชนด้วยสไตล์ที่เป็นส่วนตัว แพร่หลายในวงการ
ในฐานะที่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมนี้ เขาก็ค่อนข้างให้ความใส่ใจกับการเคลื่อนไหวภายในอุตสาหกรรม
“ฉันคิดว่า นายเป็นคนทำใช่ไหม ถ้าเกิดว่าไม่มีนาย ใครจะยังมาสนใจกิจการของตระกูลเฉิงได้อีก”เฉิงยู่เวินรูปหน้าตัวเอง หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วชูขึ้น “ขอบคุณนะ”
จงจิ่งห้าวเม้มปาก เข้าใจความหมายของเขา แต่ ทั้งหมดนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำ
ตอนงานนิทรรศการนั้น เขานึกว่าหลินซินเหยียนจะล้างบาปให้กับเฉิงยู่ซิ่ว จนถึงตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจอย่างแท้จริง ว่าเธอต้องการให้ผ้าไหมกวางตุ้งกลับเข้ามาอยู่ในสายตาของสาธารณชนอีกครั้ง
ไม่ใช่เพียงแค่การตายของเฉิงยู่ซิ่ว แต่มันเป็นการสืบทอดมากกว่า หรือว่าบางทีทุกอย่างก็ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
เธอได้กลายเป็นผู้สืบต่อเทคนิคของผ้าไหมกวางตุ้ง สืบสานต่อกิจการของตระกูลเฉิง
ตอนนี้เอง เขาอยากจะพูดขอบคุณกับหลินซินเหยียนเป็นอย่างมาก
ขอบคุณที่เธอทำทุกอย่างเพื่อเขา เพื่อตระกูลเฉิง
จงจิ่งห้าวกลับเฉิงยู่เวินดื่มไวน์แก้วนั้น หลังจากนั้นเฉิงยู่เวินก็เราเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา
ซูจ้านไม่ได้ดื่ม เพราะว่าพรุ่งนี้เขาต้องขับรถ คืนนี้ค้างคืนที่นี่ และพรุ่งนี้เช้าพวกเขาต้องกลับไปที่เมืองC
เมืองC
หลังจากหลินซินเหยียนออกมาจากร้าน ก็เรียกแท็กซี่ริมถนน เธอทิ้งรถไว้ให้ฉินยา
มีรถส่วนตัวสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ผู้ชายที่อยู่ด้านในมองมาที่เธอ มองหัวจรดเท้า หลังจากนั้นก็เอ่ยปากถามคนข้างๆ ว่า “แกแน่ใจเหรอ? ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม?”
“คุณชายกู้วางใจได้ครับผมสืบมาอย่างดีแล้ว ที่จงจิ่งห้าวมาที่เมืองนี้ก็เพราะว่าเธอ”พี่สี่ตอบ
“แต่ทำไมฉันเห็นว่าเธอเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?” รูปพวกนั้นเขาเป็นคนจงใจส่งให้หลินซินเหยียน ก็เพราะว่าอยากไปเห็นปฏิกิริยาของเธอ
แต่ว่าเธอสงบเกินไป สงบจนเหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร
ถ้าในสถานการณ์ปกติ พอเห็นผู้ชายของตัวเองขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนอื่น ก็คงจะร้องไห้โวยวายโมโหเกรี้ยวกราดแล้วไม่ใช่เหรอ?
“ผมมั่นใจมาก ที่ก่อนหน้านี้เขายกเลิกการแต่งงานกับคุณหนูตระกูลเหอก็เพราะผู้หญิงคนนี้ มีเรื่องบาดหมางเหวินชิง ก็เหมือนจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้”
“อ้อ งั้นเหรอ? ” กู้เป่ยยิ่งรู้สึกสนใจขึ้นเรื่อยๆ