กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – บทที่ 531 ครั้งที่แล้วมันคือความฝันจริงๆ เหรอ

บทที่ 531 ครั้งที่แล้วมันคือความฝันจริงๆ เหรอ

ฉินยาพาเด็กทั้งสองคนกลับมาที่ที่พัก อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้หลินซินเหยียนค่อนข้างจะเหนื่อย นอนหลับอยู่ในห้อง เพราะว่าจงจิ่งห้าวบอกว่าอีกเดี๋ยวซูจ้านจะมา เธอก็เลยปลุกหลินซินเหยียน

หลินซินเหยียนลืมตาขึ้นมาอย่างขี้เกียจ แล้วก็มองฉินยาที่อยู่ข้างเตียงด้วยสายตาที่พร่ามัว เธอลุกขึ้นนั่งแล้วก็ขยี้ตา “กลับมากันแล้วเหรอ? ”

ฉินยาตอบรับ “หัวไชเท้าที่อยากกิน ฉันซื้อกลับมาให้แล้วนะ”

หลินซินเหยียนเพิ่งจะตื่นขึ้นมา สายตาก็ยังคงสะลึมสะลือเล็กน้อย เหมือนกับว่ายังตั้งสติได้ไม่เต็มที่

ฉินยาเทน้ำให้เธอแก้วนึง เธอยื่นมือไปรับและดื่มลงไปครึ่งแก้ว ก็เลยรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ เธอวางแก้วไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ลงจากเตียงและใส่รองเท้าพร้อมกับถามว่า “พวกเธอออกไปกินอะไรกันมา?”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้นเธอก็เหลือบมองเวลา แล้วก็หันกลับมามองฉินยา “ดึกขนาดนี้เลยเหรอ?”

นับจากตอนที่เธอพาลูกออกไป จนถึงตอนนี้มันก็เป็นเวลา 3 ชั่วโมงกว่าแล้ว

พวกเขากินอะไรกันถึงได้นานขนาดนี้?

“พวกเราไปกินปลานึ่งกันมา” ฉินยาโกหก ที่ช้าเพราะเหตุนี้ ปลาก็ต้องฆ่าเป็นๆ แถมเมนูนี้กว่าจะทำเสร็จก็ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า ก็เขากินเสร็จแล้วก็ออกไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ต เวลาก็น่าจะประมาณนี้แหละ

“เธอหิวแล้วใช่ไหม ฉันซื้อของกินมาให้แล้ว”ฉินยาเดินไปที่ห้องนั่งเล่นกับเธอ เด็กทั้งสองคนกำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น

ตอนที่ซื้อของอยู่ในซูเปอร์มาเก็ตนั้น ได้เดินผ่านโซนทำขนม เด็กทั้งคู่บอกว่าหลินซินเหยียนชอบกินขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดง ถั่วแดงเป็นชั้นๆ ด้านนอกเป็นแป้งที่บางกรอบพร้อมกับเนื้อไส้เหนียวนุ่ม

เมื่อก่อนหลินซินเหยียนเคยซื้ออยู่หลายครั้ง ดังนั้นเด็กทั้งสองคนก็เลยจำได้ว่าเธอชอบกิน

พอรู้ว่าหลินซินเหยียนชอบ จงจิ่งห้าวก็เลยซื้อกลับมา 2 กล่อง แถมยังซื้อของหวานอันอื่นกลับมาอีกด้วย หัวไชเท้าไม่สามารถกินเป็นอาหารอย่างเดียวได้ แถมคุณค่าทางโภชนาการก็ยังไม่เพียงพอด้วย

ฉินยาบิดขี้เกียจ “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”

เพราะว่าเธอไม่อยากจะเห็นซูจ้าน ต่อให้ซูจ้านตายต่อหน้าเธอในตอนนี้ เธอก็ไม่มีทางใจอ่อนหรือว่าให้อภัย มันไม่ใช่เพราะว่าเธอปล่อยวางไม่ได้นะ แต่ก็แค่เพราะว่าเธอไม่อยากจะเห็นเขาทำแบบนี้

ท่าทางของเขา มันมักจะทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่เจ็บปวดและไม่มีความสุขมากมาย

เธอสามารถเปลี่ยนใบหน้า เปลี่ยนน้ำเสียงของตัวเองได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถลบความทรงจำได้เลย

หลินซินเหยียนถ้าอยากจะ เธอหยิบนมออกมาจากตู้เย็นแล้วก็เทใส่แก้ววางบนโต๊ะ

จงเหยียนเฉินนำอาหารที่เขาซื้อมาทั้งหมดวางบนโต๊ะอย่างเอาใจใส่ “หม่ามี๊ พวกเราซื้อขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงมาให้หม่ามี๊ด้วย แล้วก็ขนมปังสับปะรด”

“แล้วก็อันนี้ด้วย”จงเหยียนซีส่งหัวไชเท้าที่หลินซินเหยียนอยากกินให้กับเธอ

หลินซินเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองลูกทั้งสองคนแล้วก็ยิ้ม รู้สึกว่าพวกลูกๆ ของเธอนั้นโตขึ้นแล้ว รู้จักเอาอกเอาใจซะด้วย

เธอลูบหัวของลูกสาว “หนูช่วยล้างให้หม่ามี๊หน่อยได้มั้ย?”

“ได้ค่ะ”

จงเหยียนซีรู้สึกว่าเรื่องที่เธอสามารถช่วยหม่ามี๊ได้ มันเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ ก็เลยรู้สึกมีความสุขมาก

หลินซินเหยียนยื่นมือออกไปหยิบขนมเปี๊ยะที่ลูกชายเปิดกล่องไว้พร้อมกับกัดเข้าไป รสชาติยังคงเหมือนเดิม เธอพูดกับลูกชายอย่างสบายๆ “วันนี้ไปกินอะไรอร่อยๆ มาเหรอ?”

“สเต๊กครับ”จงเหยียนซีตอบ

เขาจะรู้ได้ยังไงว่าฉินยาตอบว่าปลานึ่ง เพื่อให้เวลามันดูเหมาะสม

มือของหลินซินเหยียนที่ถือแก้วนมอยู่นั้นชะงักไป เธอเงยหน้าขึ้นมองลูกชายของตัวเอง เมื่อกี้เธอได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า?

ฉินยาบอกว่ากินปลานึ่ง แต่เขากลับบอกว่ากินสเต๊กเนี่ยนะ?

เธอถามอีกครั้ง “พวกลูกกินอะไรกันไปนะ?”

“สเต๊กไงครับ”จงเหยียนเฉินกะพริบตา “หม่ามี๊ก็อยากกินเหมือนกันใช่ไหม?”

หลินซินเหยียนส่ายหน้า คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างอดไม่ได้ ถ้ากินสเต๊กแล้วทำไมฉินยาต้องบอกว่ากินปลานึ่งด้วยล่ะ?

แถมแถวนี้ก็ไม่ได้มีร้านอาหารฝรั่งด้วย

ทำไมฉินยาต้องโกหก?

เธอยิ้ม แล้วก็คุยกับลูกชายเหมือนบทสนทนาที่เรื่อยเปื่อย “แล้วพวกลูกไปกินที่ร้านไหนกันมาเหรอ?”

“ร้านอาหารม่านปาซี ร้านที่คุณปู่ช่าวเชิญพวกเราไปกินครั้งที่แล้วไงครับ” จงเหยียนเฉินตอบอย่างตรงไปตรงมา

“อ้อ”หลินซินเหยียนหลุบตาลงช้าๆ ร้านนั้นมันเป็นร้านอาหารฝรั่งระดับไฮเอ็น ต่ำที่สุดก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8000 หยวน แถมยังอยู่ห่างจากที่พักของพวกเขาไกลมาก

ทำไมฉินยาถึงพาพวกเขาไปที่นั่น? แถมยังโกหกเธออีก?

ตอนนี้เองจงเหยียนซีล้างหัวไชเท้าเสร็จแล้วก็เอามาให้หลินซินเหยียน “นี่ค่ะหม่ามี๊ หนูล้างสะอาดมากเลยนะ”

หลินซินเหยียนยื่นมือไปรับแต่ก็ไม่รู้สึกอยากอาหารอีกแล้ว เธอมองไปที่ลูกทั้งสองคนแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

ทำไมอยู่ดีๆ ฉินยาต้องโกหกเธอด้วยล่ะ?

หรือว่าหล่อนทำอะไรลงไป ก็เลยจงใจปกปิดเธอ?

ติ๊งต่อง

ทันใดนั้นเสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดของหลินซินเหยียน เธอกำลังลุกขึ้นจะไปเปิดประตู จงเหยียนซีก็ชิงพูดก่อน “หนูเปิดเอง”

เธอวิ่งเร็วมาก

หลินซินเหยียนนั่งกลับลงไปที่เก้าอี้ สายตามองไปยังประตูที่ปกติจะไม่มีใครมาในเวลานี้ น้อยมากที่ช่าวหยุนจะมาดึกขนาดนี้

 

ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก ซูจ้านยืนอยู่หน้าประตู ตอนที่เห็นเขาหลินซินเหยียนก็อ้าปากค้างในทันที หูอื้อเหมือนโดนเข็มแทง ร่างกายก็ชาไปทั้งตัว

ซูจ้านมาที่นี่ได้ยังไง?

เธอกำมือทั้งสองข้างแน่น ในตอนที่ตกใจนั้น เธอก็มองไปด้านหลังของเขาด้วยความคาดหวังอะไรบางอย่าง

“คุณอาซู”จงเหยียนซียิ้มแล้วก็ทักทายเขา ให้เขาเข้ามา

เพราะว่าก็เพิ่งเจอกันได้ไม่นานเท่าไหร่นะ ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยประหลาดใจเท่าไหร่

ซูจ้านเดินเข้ามามองหลินซินเหยียนแล้วก็เรียกเธอว่าพี่สะใภ้

“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”เธอพยายามอดทนอย่างมากกว่าจะทำให้น้ำเสียงของตัวเองดูสงบลงได้

“จิ่งห้าวคิดถึงลูกทั้งสองคนมาก ก็เลยให้ฉันตามหาที่อยู่ของเธอมาโดยตลอด ดังนั้น……ฉันก็เพิ่งสืบที่อยู่ของเธอเจอ” ซูจ้านอธิบายเหตุผลที่เขาปรากฏตัวที่นี่ในเวลานี้

หลินซินเหยียนกำหมัดแน่น เหงื่อเริ่มซึมออกมา ตอนนั้นเธออยากจะให้ลูกทั้งสองคนอยู่เคียงข้างเขา ถึงยังไงตอนนั้นเขาก็ควรจะมีคนอยู่ด้วย

แต่ว่าเธอที่ไม่เคยแยกห่างจากลูกทั้งสองคนเลย ก็พบว่าเธอไม่สามารถทำได้ แค่แยกออกจากเขามันก็เจ็บปวดพอแล้ว ถ้าลูกทั้งสองคนไม่อยู่ข้างๆเธออีก เธอกลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถทนไหว

“ฉันพาพวกเขาไปเมืองBซัก 2-3 วันได้ไหม?”ซูจ้านอธิบายเหตุผลที่มาที่นี่

หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมาช้าๆ อยากจะถามว่าเขาคนนั้นยังสบายดีไหม แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ถามออกไป ได้แต่พูดเบาๆ ว่า “ได้”

ลูกทั้งสองคนก็เป็นลูกของเขาเหมือนกัน

เธอยืนขึ้น “เดี๋ยวฉันจะไปเก็บเสื้อผ้าให้พวกเขา นายนั่งรออยู่ในนี้แล้วกันนะ”

“โอเค”

ซูจ้านนั่งอยู่ที่โซฟา

“จะดื่มอะไรหน่อยไหม? ”หลินซินเหยียนถาม

“แค่น้ำเปล่าก็พอแล้ว”

“เดี๋ยวหนูไปเทให้”จงเหยียนซีดีใจเป็นอย่างมาก

หลินซินเหยียนมองลูกสาวของตัวเอง ที่เธอมีความสุขขนาดนี้น่าจะเพราะว่าจะได้ไปเจอพ่อ ถึงได้ตื่นเต้นและดีใจขนาดนี้

เธอหันหลังเดินกลับไปที่ห้อง เสื้อผ้าของลูกทั้งสองคนถูกเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของเธอ

ตอนที่เธอเปิดประตูตู้จะหยิบเสื้อผ้าออกมานั้น สู้ๆ ก็ย้อนนึกกลับไปถึงความฝันครั้งก่อน เพราะว่ามันสมจริงมาก แม้กระทั่งเธอสามารถจำกลิ่นเหงื่อและกลิ่นลมหายใจของเขาได้อย่างชัดเจน ตอนที่เขาพูดว่าคิดถึงเธอเสียงของเขาก็แห้ง

ครั้งก่อนมันเป็นแค่ความฝันจริงๆ เหรอ?

มีแค่ซูจ้านที่มาที่นี่อย่างนั้นเหรอ?

เธอเริ่มสงสัย เมื่อเริ่มมีความคิดออกมาแล้วก็ไม่สามารถลบล้างได้ ตั้งแต่ที่เธอตั้งท้อง ก็เหมือนร่างกายเธอไม่ค่อยได้สติ ไม่ค่อยถูกควบคุมโดยสมองเท่าไหร่นัก เธอเดินไปที่ริมหน้าต่าง เปิดผ้าม่านสีขาวออกแล้วก็มองลงไป

มีรถจอดอยู่ตรงถนนที่เงียบสงัด เหมือนกับว่าเธอจะเคยเห็นรถคันนี้มาก่อน แต่เธอจำไม่ได้ว่าเห็นที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล หรือว่าเห็นที่หน้าประตูร้านอาหาร

ไม่นาน สายตาของเธอก็เห็นร่างกายที่คุณเคย

จงจิ่งห้าวยืนอยู่ตรงไฟสลัวของโคมไฟริมถนน เขาพิงประตูรถ กำลังคุยโทรศัพท์กับกวนจิ้งอยู่ กวนจิ้งกำลังรายงานเรื่องงานให้เขาฟัง ช่วงนี้เขาไม่ได้กลับไป ก็ทำงานผ่านทางออนไลน์เท่านั้น

เหมือนกับว่าเขารู้สึกตัวว่ามีสายตามองตัวเองอยู่ ก็เงยหน้าขึ้นไปมองที่หน้าต่าง

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

Status: Ongoing

การค้าครั้งหนึ่ง หลินซินเหยียนท้องลูกของชายแปลกหน้า เธอตั้งครรภ์ แต่งงานกับชายคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กเดิมคิดว่านี่เป็นแค่การค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีอุบาย แต่กลับพัวพันถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตสมรสนี้ตอนตั้งครรภ์สิบเดือนใกล้คลอด จงจิ่งห้าวส่งใบหย่ามาใบหนึ่ง เธอถึงได้ตาสว่างขึ้นมาทันใดต่อมาเขาพูดอีกว่า คุณภรรยากลับมาเถอะ คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท