Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 604

ตอนที่ 604

บทที่ 604 : ต้นหลิวเทวะ!
  สีเหลืองทองเปล่งปลั่งกลางจุดตันเถียนของหลิงหยุนแพร่กระจายออกมาห่อหุ้มร่างของเขาไว้ในทันที
  แต่น่าแปลกที่ควันสีเหลืองทองนี้กลับกระจายอยู่เพียงแค่ภายในห้องเท่านั้นและไม่มีแนวโน้มว่าจะระเหยออกไปนอกห้องเลยแม้แต่น้อย
  “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
  เหล่ากุ่ยที่อยู่ด้านนอกเมื่อได้เห็นภาพที่เกิดขึ้นก็ถึงกับตกใจเขาไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นเป็นเพียงภาพห้องที่ปกคลุมไปด้วย ‘ควันสีเหลืองทอง..’ และกลุ่มควันนั้นก็นิ่งแข็งปกคลุมร่างของหลิงหยุนไว้ แม้กระทั่งเหล่ากุ่ยที่เข้าสู่ขั้นเซียงเทียนได้เพียงเล็กน้อย ก็ยังไม่สามารถมองเห็นหลิงหยุนได้!
  ร่างของหลิงหยุนถูกปกคลุมไว้ด้วยสีเหลืองทองของพลังอมตะและเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอีกแล้ว เพราะรู้ดีว่าเมื่อสมุดจักรพรรดิปล่อยพลังอมตะออกมาเช่นนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องสูญเสียพลังของตนเองอีก
  หลิงหยุนนึกถึงกล่องหยกที่ท่านหมอเสี่ยวมอบให้และเขาได้สลักหลุมพลังเล็กๆ จำนวนสี่สิบเก้าชั้นไว้ หลิงหยุนอาศัยโอกาสนี้นำกล่องหยกออกมาดูดซับพลังอมตะเพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
  หลิงหยุน
  หลิงหยุนดูดซับเอาพลังอมตะเข้าไปในร่างกายบบ้าคลั่งในขณะเดียวกันก็จ้องมองซากไม้ในมือที่กำลังเปลี่ยนแปลงพร้อมกับพึมพำในใจว่า
  ‘นี่พู่กันจักรพรรดิจะนิ่งดูดายไม่ยอมออกมางั้นรึ’
  ฟรึบ!!
  ระหว่างที่สมุดจักรพรรดิกำลังเคลื่อนไหวนั้นพู่กันจักรพรรดิก็พุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของหลิงหยุนทันที และขยายตัวจนขนาดเท่าพู่กันจริง จากนั้นจึงเริ่มปลดปล่อยพลังอมตะออกมาเช่นกัน
  พู่กันจักรพรรดิหันปลายพู่กันเข้าหาท่อนไม้แห้งในมือของหลิงหยุนเขาได้แต่ภาวนาอยู่ในใจว่าขอให้พู่กันจักรพรรดิช่วยเหลือเขาสักครั้ง และรีบเอื้อมมือออกไปคว้าพู่กันจักรพรรดิไว้ทันที!
  นานๆพู่กันจักรพรรดิจะพุ่งออกจากหว่างคิ้วของเขาหลิงหยุนจึงคิดที่จะอาศัยโอกาสนี้ใช้มันให้คุ้มอีกครั้ง!
  ตอนนี้หลิงหยุนมีเรื่องสำคัญต้องทำมากมายเขาจึงไม่สนใจใยดีกับซากไม้แห้งนั่นอีก!
  หลิงหยุนยกมือซ้ายที่สวมแหวนพื้นที่ขึ้นมองและเกิดความคิดที่จะสร้างค่ายกลพื้นที่ในแหวนเพิ่ม
  ครั้งก่อนนั้นหลิงหยุนได้รับพลังอมตะจากพู่กันจักรพรรดิจนทำให้เขาเข้าสู่ขั้นพลังชี่-9ได้ชั่วคราว และได้ยึดแหวนของถังเมิ่งมาสร้างค่ายกลพื้นที่ไว้ด้านใน และเรียกมันว่าแหวนพื้นที่
  แม้ว่าตอนนี้หลิงหยุนจะอยู่ในขั้นปรับร่างกาย-8และไม่สามารถใช้พลังอมตะจากสมุดจักรพรรดิได้ เขาจึงเลือกที่จะใช้พลังในขั้นปรับร่างกาย-8 ควบคู่กับจิตหยั่งรู้ และเนตรหยินหยาง สร้างค่ายกลพื้นที่ภายในแหวนแทน และหากทำสำเร็จ.. แหวนพื้นที่ของเขาก็จะมีพื้นที่สำหรับเก็บของเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยสองตารางเมตร และนั่นก็เพียงพอที่จะใส่ของได้อีกมากมาย
  หลิงหยุนจดจ่ออยู่กับการสร้างค่ายกลพื้นที่ภายในแหวนจนลืมเวลาและในที่สุดเขาก็สามารถสร้างค่ายกลพื้นที่เพิ่มได้สำเร็จ ทำให้หลิงหยุนถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก..
  หลิงหยุนรีบใส่แหวนพื้นที่กลับเข้าไปที่นิ้วตามเดิมจากนั้นจึงสำรวจดูด้านใน และพบว่าพื้นที่ภายในแหวนตอนนี้นั้นสูง และกว้างอย่างละสองเมตรครึ่งซึ่งมีขนาดเท่ากับบ้านเล็กๆหลังหนึ่งเลยทีเดียว
  หลิงหยุนดีใจอย่างมากเขาบรรจงจูบขนพู่กันสีขาวราวหิมะของพู่กันจักรพรรดิด้วยความรักใคร่
  “อย่าเพิ่งรีบบร้อน..ข้ายังต้องใช้งานเจ้าอีก!”
  จากนั้นหลิงหยุนก็จัดการคลี่ผ้าแพรไหมดำที่เหล่ากุ่ยมอบให้เป็นของขวัญออก..
  หลังจากที่ผ้าแพรไหมดำถูกคลี่ออกแล้วหลิงหยุนก็ใช้จิตหยั่งรู้คำนวณขนาดตัวของตนเอง และใช้พู่กันจักรพรรดิแทนกรรไกรค่อยๆตัดผ้าแพรไหมดำออกเป็นชิ้นๆ
  และนี่เป็นการบ่งบอกว่าหลิงหยุนนั้นเฉลียวฉลาดมากเพียงใด!
  หลังจากที่ได้ปะทะกับธิดาพรรคมารในครั้งนั้นหลิงหยุนจึงรู้ว่าผ้าแพรไหมดำนั้นทนไฟ ทนน้ำ ทนมีด และทนกระสุนปืน แม้กระทั่งกระบี่โลหิตแดนใต้ และกระบี่มังกรขาวก็ยังไม่สามารถทำอะไรผ้าแพรผืนนั้นได้เลย
  หลิงหยุนไม่เพียงทำอาหารได้เก่งแต่ยังเป็นช่างตัดเย็บที่ฝีมือดีอีกด้วย เขากำลังจะตัดผ้าแพรไหมดำเป็นชุดไว้สำหรับใช้สวมใส่ในยามต่อสู้
  หลังจากตัดผ้าออกเป็นชุดเรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็ได้ใช้ปลายพู่กันจักรพรรดิเจาะด้านข้างเป็นรูโดยรอบเพื่อเตรียมเย็บต่อไป
  พู่กันจักรพรรดินับว่าเป็นเครื่องมือที่วิเศษที่สุดในโลกไม่เพียงใช้แทนกรรไกรชั้นยอดได้ แต่ยังใช้แทนเข็มได้อีกด้วย และหากพู่กันจักรพรรดิสามารถพูดได้ ก็คงต้องกร่นด่าหลิงหยุนอย่างแน่นอน
  แม้หลิงหยุนจะนับว่าเฉลียวฉลาดมากในเรื่องนี้แต่หากเหล่ากุ่ยได้รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่แล้วล่ะก็ เขาคงไม่รู้ว่าจะหัวเราะ หรือร้องไห้ดี
  เพราะแม้ว่าผ้าแพรไหมดำที่อ่อนพลิ้วนี้จะแข็งแกร่งทนทานจนไฟ น้ำ และของมีคมไม่สามารถทำอะไรได้ก็จริง แต่ย่อมต้องมีเคล็ดลับในการนำมาตัดเป็นเสื้อผ้า ไม่เช่นนั้นธิดาพรรคมารที่ไม่มีพู่กันจักรพรรดิ จะนำมาตัดเป็นชุดสวมใส่ได้อย่างไร
  และในเมื่อธิดาพรรคมารเป็นผู้มอบผ้าแพรผืนนี้ให้กับหลิงเสี่ยวนางก็คงต้องบอกความลับในการตัดเย็บให้เขารู้ด้วย และเหล่ากุ่ยเองก็น่าจะทราบด้วยเช่นกัน แต่เพราะเหล่ากุ่ยมัวยุ่งอยู่กับการที่จะทำให้หลิงหยุนได้รู้จักกับครอบครัวที่ให้กำเนิด จึงยังไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนี้กับหลิงหยุน..
  ภายใต้ผ้าแพรไหมดำนั้นมีขวดยาเล็กๆอยู่สองสามขวด และมันก็คือผงยาที่ถูกปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับผ้าแพรไหมชนิดนี้เท่านั้น หากต้องการนำผ้าชิ้นนี้ไปตัดเป็นเสื้อผ้าสวมใส่ จะต้องเทผงยานี้ลงผสมกับน้ำ และนำผ้าแพรไหมดำนี้ไปแช่ จากนั้นจะต้องลงมือตัดเย็บทันที
  แน่นอนว่าผงยานี้จะเปลี่ยนผ้าแพรไหมดำนี้ได้เพียงแค่ชั่วครู่เท่านั้นหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ผ้าแพรไหมดำก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม
  และตอนนี้ร่างกายของหลิงหยุนก็ได้ดูดซับเอาพลังอมตะเข้าไปจำนวนมากเขาพยายามที่จะขับเคลื่อนพลังอมตะในร่างกาย แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะความแข็แกร่งของเขาในตอนนี้ยังด้อยเกินไปที่จะใช้ขับเคลื่อนพลังอมตะที่แข็งแกร่ง
  แต่ถึงแม้จะไม่สามารถใช้พลังอมตะหล่านี้ได้แต่มันก็ถูกเก็บไว้ตามจุดฝังเข็มต่างๆตามร่างกายของหลิงหยุน ตามเซลต่างๆทั่วร่างกาย และจะส่งผลให้การฝึกฝนของเขารุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว
  “ข้าไม่เชื่อว่าจะนำมันออกมาใช้ไม่ได้..”
  หลิงหยุนบ่นพึมพำขณะที่หยิบกล่องหยกซึ่งดูดซับเอาพลังอมตะเข้าไปจนเต็มเปี่ยมกลับเข้าไปในแหวนพื้นที่
  จากนั้นหลิงหยุนก็ใช้เนตรหยิน-หยางมองทะลุพลังอมตะสีเหลืองทองและเมื่อเห็นซากไม้แห้งในมือเขาก็ถึงกับตกใจจนโยนมันทิ้งลงพื้น
  ท่ามกลางพลังอมตะสีเหลืองทองที่สมุดจักรพรรดิปลดปล่อยออกมานั้นซากไม้แห้งเมื่อครู่กลับเปลี่ยนเป็นออกดอกออกใบ ซากไม้สีดำเป็นตอตะโกเมื่อครู่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต ยิ่งไปกว่านั้นพื้นผิวของมันก็มีดอกตูมผลิออกมามากมาย
  โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกตูมเดิมนั้นตอนนี้ก็ได้แตกกิ่งใบออกมายาวถึงสามเซนติเมตร ใบหลิวสองใบอ่อนงอกออกมาเป็นสีขาวใสราวกับผลึกแก้วมรกต และตอนนี้พลังชีวิตก็ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างมากมาย
  “เป็นต้นหลิวจริงๆหรือนี่! ในโลกบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ ข้าเองก็ไม่เคยพบเห็นไม้ที่มีพลังชีวิตเข้มข้นเช่นนี้มาก่อน..”
  หลิงหยุนตัดสินใจคว้าต้นหลิวเทวะขึ้นมาไว้ในมืออีกครั้ง..
  ในเวลานี้จุดตันเถียนของหลิงหยุนก็เริ่มหมุนช้าลงและแสงสีเหลืองทองก็ค่อยๆกลับคืนสู่จุดตันเถียนของหลิงหยุน แล้วสมุดจักรพรรดิก็หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวอีก
  ระหว่างนั้นหลิงหยุนได้แต่แอบเก็บพู่กันจักรพรรดิเข้าไปในแหวนพื้นที่แต่แล้วมันก็พุ่งออกมา และกลับเข้าอยู่ในหว่างคิ้วของหลิงหยุนเช่นเดิม
  “เฮ้อ..เจ้าอยู่ในแหวนพื้นที่กับหว่างคิ้วมันต่างกันนักหรือยังไง”
  หลิงหยุนไม่สามารถโกงพู่กันจักรพรรดิได้..
  ความจริงแล้วหลิงหยุนก็พอจะรู้คำตอบนั่นก็เพราะหว่างคิ้วของเขามีพลังอมตะอยู่จำนวนมาก มีหรือที่พู่กันจักรพรรดิจะไม่อยากอยู่ในที่ที่วิเศษเช่นนั้น
  “นายน้อย..เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น นี่มัน..”
  เมื่อเหล่ากุ่ยเห็นว่าทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเป็นปกติแล้วเขาจึงรีบเข้ามาถาม แต่เมื่อเห็นต้นหลิวกลายเป็นสีเขียวราวกับมรกตในมือหลิงหยุน เขาก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท