หลินซินเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ถ้าจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างเด็กผู้ชายกับผู้หญิงล่ะ? ”
จงจิ่งห้าวเงยหน้าขึ้นมองเธอ“ถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งล่ะก็ ผมอยากให้คุณคลอดลูกสาวให้ผม”
ลูกชายน่ะมีแค่หลินซีเฉินคนเดียวก็พอแล้ว
เนื่องจากเด็กผู้หญิงขี้อ้อนกว่า เขาชอบความรู้สึกเวลาที่หลินลุ่ยซีมาออดอ้อนตัวติดกับเขา
ลูกสาวจะติดพ่อกับแม่มากกว่าเมื่อเทียบกับลูกชาย
หลินซินเหยียนขยับตัวหาท่านอนที่สบายเพื่อนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา“ฉันชอบเด็กผู้ชาย และฉันหวังว่าในท้องฉันจะเป็นลูกชาย”
เด็กผู้หญิงค่อนข้างบอบบาง ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอารมณ์ความรู้สึกหรือการใช้ชีวิตก็ตาม พวกเขาจะถูกทำร้ายได้ง่ายกว่า แต่ว่าเด็กผู้ชายนั้นไม่เหมือนกัน
จงจิ่งห้าวรู้ว่าการที่เธอคิดแบบนี้มันมาจากประสบการณ์ของตัวเธอเอง เขากอดหลินซินเหยียนไว้แล้วจูบลงที่หน้าผาก“ลูกสาวของพวกเราจะไม่มีทางได้รับอันตรายใดๆทั้งสิ้น”
หลินซินเหยียนเชื่อใจเขา
เหมือนว่าทั้งคู่จะคุยออกนอกเรื่องกันไปไกลแล้ว หลินซินเหยียนจึงถามขึ้น“ทำไมถึงเอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่จ้านหรอ?”
“หืม?” จงจิ่งห้าวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ที่เธอพูดหมายความว่ายังไง?
เขาบอกอะไรกับหลี่จ้าน
“เรื่องที่เหวินชิงทำไง”หลินซินเหยียนพูด
“เขารู้แล้วหรอ??”
“ก็ไม่ใช่ว่าคุณบอก……”หลินซินเหยียนรู้สึกไม่ชอบมาพากล ถ้าจงจิ่งห้าวเป็นคนบอกหลี่จ้าน เขาก็คงยอมรับไปแล้ว
เรื่องนี้มีคนรู้ไม่มาก จะมีก็แต่เสิ่นเผยซวน ซูจ้าน และไป๋ยิ่นหนิงที่เป็นไปได้ว่าจะรู้
“อย่าไปสนใจเลย”จงจิ่งห้าวตบหลังเธอเบาๆ“นอนเถอะ”
การที่หลี่จ้านรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในแล้วนั้นไม่จำเป็นต้องไปสนใจเลย จริงอยู่ที่เขาไม่อยากให้หลี่จ้านรู้ แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ถึงตอนนี้เขาจะปิดบังได้ แต่ในอนาคตมันก็คงปิดไม่มิดหรอก
เขาไม่อยากให้หลินซินเหยียนคิดมากเพราะเรื่องนี้
“ขอแค่คุณรักษาสุขภาพให้ดี และคลอดลูกสาวของผมออกมาได้อย่างปลอดภัยแค่นี้ก็พอแล้ว อย่าไปคิดมากเรื่องอื่นเลย เดี๋ยวผมจัดการเอง”
หลินซินเหยียนหลับตาลง เขามั่นใจได้ยังไงว่าจะเป็นลูกสาว?
เธอเอ่ยขึ้นขำๆ“ถ้าเกิดว่าเป็นลูกชายล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้”จงจิ่งห้าวพูดออกมาด้วยความแน่วแน่ จากนั้นก็พูดต่อ“ถ้าเป็นลูกชาย คุณก็ต้องมีให้ผมอีกคน”
เขาคิดว่าถ้าครั้งนี้หลินซินเหยียนให้กำเนิดเด็กคนนี้ได้ แน่นอนว่าเธอก็ต้องมีคนต่อไปได้อีก
หลินซินเหยียน“……”
“เอาน่า อย่าคิดมาก นอนเถอะ”จงจิ่งห้าวประคองหัวเธอเข้ามาในอกแล้วโอบเธอไว้
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้น สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาเลยก็คือหนวดใต้คางของเขา บนผิวขาวเนียนมีหนวดหยาวออกมาเป็นตอสีเขียว เห็นทีสองวันที่ผ่านมาเขาคงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
เธอนอนซบอยู่ในอกเขาเงียบๆ
ไม่นานก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของจงจิ่งห้าว หลินซินเหยียนรู้ว่าเขาเหนื่อยจึงเงยหน้าขึ้นไปจุ๊บที่คางแล้วนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา
อาจเป็นเพราะท้องอยู่ก็เลยขี้เซา เธอผล็อยหลับไปหลังจากนอนอยู่ในอ้อมกอดเขาสักพัก
ค่ำคืนที่เงียบสงบ บรรยากาศข้างนอกก็ดูเงียบเชียบเป็นพิเศษราวกับว่าความวุ่นวายเมื่อตอนกลางวันไม่มีอยู่จริง
ตีห้า จงจิ่งห้าวสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ดัง เขากลัวว่ามันจะดังจนทำให้หลินซินเหยียนตื่นจึงค่อยๆลุกออกจากเตียง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ไปคุยที่ระเบียง
“มีเรื่องอะไร?”
เสียงกวนจิ้งที่อยู่ปลายสายดังขึ้น“ผลตรวจของจวงจื่อจิ่นออกมาแล้วครับ”
ยังไม่ถึงเวลาเลย ผมตรวจออกมาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?
เมื่อนึกถึงสิ่งที่กวนจิ้งเคยพูดไว้เมื่อครั้งที่แล้ว เขาก็ขบกรามแน่นอย่างไม่รู้ตัว“ว่ามา”
กวนจิ้งที่อยู่ปลายสายลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ผลตรวจอยู่ในมือของเขา เขามองไปที่คุณหมอแล้วถามออกไปอีกครั้ง“แน่ใจแล้วใช่ไหม?”
คุณหมอตอบอย่างมั่นใจ“ครับ”
มันคือระยะสุดท้าย
ผลตรวจไม่ได้ผิดพลาด
นี่เป็นโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือที่สุดประเทศแล้ว
กวนจิ้งทำได้แค่พูดความจริงออกไป“คุณหมอคอนเฟิร์มแล้วครับว่าเป็นระยะสุดท้าย”
นี่เป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีนัก ดูจากสภาพร่างกายของหลินซินเหยียนตอนนี้แล้วถ้ารู้เรื่องจวงจื่อจิ่นเข้าไปอีก……
เขาไม่อยากจะคิดเลย
เขาขมวดคิ้วแน่น“อย่าพึ่งบอกเรื่องนี้กับใคร”
กวนจิ้งพูด“เข้าใจแล้วครับ”
เรื่องนี่มีแค่คุณหมอเท่านั้นที่รู้ และขอแค่โรงพยาบาลนี้ปิดข่าวไว้ หลินซินเหยียนก็จะไม่รู้
พอเขารู้ว่าสภาพร่างกายจวงจื่อจิ่นเป็นยังไง เขาก็ไม่อาจแสร้งทำเป็นไม่รู้ต่อไปได้อีก ยิ่งไปกว่านั้นหล่อนเป็นแม่ของหลินซินเหยียน เขาทำใจอยู่พักหนึ่งแล้วโทรไปหาเสิ่นเผยชวนเพื่อให้ไปรับจวงจื่อจิ่นออกมารักษา ไม่ว่าจะระยะสุดท้ายหรือระยะแรกก็ให้พาไปรักษาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
เรื่องที่จวงจื่อจิ่นป่วยสามารถยื่นขอเข้ารับการรักษาได้ เสิ่นเผยชวนจึงพูดขึ้น“ผมจะจัดการให้ดีที่สุดครับ”
ตอนนี้มีเรื่องจวงจื่อจิ่นเพิ่มเข้ามาอีก เสิ่นเผยชวนก็รู้สึกหนักใจมากเหมือนกัน
ส่วนเฉินชือหานนั้นก็เหมือนรู้ว่ามีคนต้องการจับตัวเธอ เธอจึงไม่โผล่หน้าออกมาเลย เขาแทบไม่มีโอกาสได้ทำอะไร เขาจึงยกเรื่องที่ต้องจับตาดูเฉินชือหานให้ลูกน้องทำแทน จากนั้นตัวเองก็ไปจัดการเรื่องจวงจื่อจิ่น
ณ ห้องพักฟื้น หลินซินเหยียนเริ่มขยับตัวไปมา และเมื่อพบว่าข้างกายไม่มีคน เปลือกตาจึงขยับเล็กน้อย ไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้นช้าๆ ที่ข้างๆไม่มีคนอยู่จริงด้วย เธอนอนอยู่สักพักก็รู้สึกอยากไปเข้าห้องน้ำ ตอนที่ลุกขึ้นมานั่งก็เหลือบไปเห็นว่าจงจิ่งห้าวยืนอยู่ที่ระเบียง
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวยับยู่ยี่พร้อมกับยืนตัวตรง ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวจะไม่ค่อยเรียบร้อย แต่มันก็ไม่อาจปิดบังท่วงท่าอันสง่างามของเขาได้เลย
จงจิ่งห้าวกดวางสายแล้วยืนอยู่ที่ระเบียงสักพักถึงเดินกลับเข้ามา พอเห็นว่าหลินซินเหยียนตื่นแล้วแถมยังมองมาที่เขาอีก เขาจึงรู้สึกตกใจอยู่ในใจแวบหนึ่ง แต่ไม่นานก็กลับมาปกติ เขาเดินตรงเข้ามาแล้วถามขึ้นเบาๆ“ตื่นแล้วหรอ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า“คุณคุยกับใครหรอคะ?”
ตอนที่หลินซินเหยียนตื่น จงจิ่งห้าวก็ได้กดวางสายไปแล้ว เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้ยินว่าจงจิ่งห้าวคุยกับใคร
“เรื่องที่บริษัทน่ะ”จงจิ่งห้าวพูดออกไปพลางๆ
เขาขยี้ผมที่ยุ่งเหยิงของเธอเพราะพึ่งตื่น“หิวไหม?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า ในใจได้แต่คิดว่าน้อยมากที่จะมีเรื่องที่บริษัทโทรมาเวลานี้ เพราะงั้นนี่น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเธอ
เธอรู้ว่าจงจิ่งห้าวไม่ได้พูดความจริง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเธอหรือว่าจวงจื่อจิ่น
“คุณเรียกป้าหยูให้หน่อย”หลินซินเหยียนพูดขึ้น
เธออยากไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจงจิ่งห้าว เธอกลับรู้สึกเขินนิดหน่อย
จงจิ่งห้าวนึกว่าเธอไม่สบาย“เดี๋ยวผมไปเรียกหมอให้”
“ไม่ต้อง”หลินซินเหยียนโพล่งออกมา“ฉันไม่เป็นไร”
“หืม?”จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วจะเรียกป้าหยูทำไม
มีเรื่องอะไรที่บอกเขาไม่ได้?
ไม่ได้หิวข้าวงั้นหรอ หรือว่าจะหิวน้ำ?
“เดี๋ยวผมรินน้ำให้”จงจิ่งห้าวคิดเองเออเอง ทันที่ที่ได้ยินคำว่าน้ำ ความรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำก็เพิ่มมากขึ้นไปอีก
“ฉันไม่ได้หิวน้ำ”หลินซินเหยียนกลั้นจนหน้าแดงเล็กน้อย จงจิ่งห้าวยืนอยู่ที่โต๊ะมองเธอ เธอหยุดพูดและเงียบลงด้วยความเขิน
จงจิ่งห้าวเหมือนจะนึกอะไรออกจึงเดินเข้ามาแล้วอุ้มเธอขึ้น“อยากไปเข้าห้องน้ำใช่ไหม?”
หลินซินเหยียนเม้มปากแน่นไม่พูดไม่จา
จงจิ่งห้าวหัวเราออกมา“มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่ได้รังเกียจคุณสักหน่อย อีกอย่างทั้งตัวของคุณมีส่วนไหนที่ผมไม่เคยเห็นหรอ?”
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าจะเขินหรือจะอายดี เธอหน้าแดงไปหมด แม้แต่คอก็ยังเป็นสีชมพูระเรื่อ
“คุณปล่อยฉันลงนะ”หลินซินเหยียนกัดริมฝีปากแน่น
“เดี๋ยวผมอุ้มคุณเข้าไปเอง”จงจิ่งห้าวไม่สนที่เธอพูด เขาดึงดันพาเธอมานั่งที่โถส้วมจนได้“ให้ผมช่วยคุณถอดไหม?”