หลินซินเหยียนสุดจะทน!
“คุณออกไปได้แล้ว!”
จงจิ่งห้าวเอียงคอมองเธอ“โกรธหรอ?”
หลินซินเหยียนจ้องไปที่เขา
เขายิ้มออกมา“‘งั้นคุณก็ช่วยผมถอดด้วยสิ ผมก็อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน”
หลินซินเหยียน“……”
นี่เขาไร้ยางอายถึงขั้นนี้ได้ยังไง?
หลินซินเหยียนจงใจกุมท้องไว้“คุณตั้งใจยั่วโมโหฉันใช่ไหม?”
จงจิ่งห้าวเลิกแหย่เธอทันที แล้วถามขึ้นอย่างจริงจัง“ไม่สบายตรงไหนหรอ?”
หลินซินเหยียนลดเสียงลงแล้วทำท่าอ่อนแรง“อืม ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณยั่วโมโหฉัน ถ้าคุณยังกวนฉันอีก ฉันจะโกรธจริงๆด้วย”
จงจิ่งห้าวรู้ว่าเธอขี้อายจึงไม่แกล้งเธออีก เขาเดินออกไปจากห้องน้ำแล้วปิดประตูลง แต่ก็ยังไม่วางใจจึงเอ่ยกำชับออกไป“ผมจะรออยู่หน้าประตู เสร็จแล้วเรียกผมนะ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า
จงจิ่งห้าวปิดประตูลง ใบหน้าที่ดูสบายใจหายไปทันที เขาเก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกต่างๆได้เป็นอย่างดีเมื่ออยู่ต่อหน้าหลินซินเหยียน เพราะเขาไม่อยากให้เธอคิดมาก
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งข้อความไปหาเสิ่นเผยชวนว่าให้เขาพาจวงจื่อจิ่นมาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ เขาจะได้สะดวกไปเยี่ยมและดูแล อีกอย่างตอนนี้หลินซินเหยียนก็ลุกออกจากเตียงไม่ได้ เพราะงั้นไม่มีทางบังเอิญเจอกันแน่นอน
เขามั่นใจว่าหลินซินเหยียนจะไม่รู้
อีกอย่างที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศ ฉะนั้นเขาจึงไม่วางใจถ้าจะส่งตัวหล่อนไปที่โรงพยาบาลอื่น
ไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมาจากเสิ่นเผยชวนคำเดียวสั้นๆว่า【ครับ】
หลินซินเหยียนล้างมือเสร็จก็เดินไปเปิดประตู เธอเห็นจงจิ่งห้าวกำลังดูโทรศัพท์อยู่พอดี
“ดูอะไรน่ะ?”หลิซินเหยียนเหลือบมองที่โทรศัพท์ของเขา
จงจิ่งห้าวเก็บโทรศัพท์ลงแล้วพูดขึ้นด้วยท่าทีเรียบเฉย“ดูข่าวน่ะ”
หลินซินเหยียนเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย“จริงหรอ?”
จงจิ่งห้าวเอาโทรศัพท์ยื่นให้เธอพร้อมกับยิ้มออกมา“ไม่งั้นคุณก็ลองตรวจดูสิว่าข้างไหนมีสาวสวยอยู่รึเปล่า?”
หลินซินเหยียนจ้องเขม็งไปที่เขา“คุณอยากมีก็มีไปสิ”
จงจิ่งห้าวรู้ว่าเธอไม่ดูหรอกเลยจงใจยื่นไปตรงหน้าเธอ“ไม่ดูจริงหรอ?ข้างในอาจจะมีสาวๆสวยๆอยู่ก็ได้นะ เพราะคุณหมอบอกว่าพวกเราไม่สามารถทำเรื่องอย่างว่าแบบสามีภรรยาได้ตั้งสามเดือน ผมกลัวว่าผมจะอดใจไม่ไหว”
หลินซินเหยียน“……”
“ถ้าคุณมีหญิงอื่น ฉันก็จะไปมีผู้ชายคนอื่น……”
“คุณกล้าหรอ!”
จงจิ่งห้าวอุ้มเธอขึ้นแล้วแกล้งทำท่าทางโหดๆ“ถ้าคุณกล้าไปหาผู้ชายคนอื่นล่ะก็ ผมจะหักขาคุณซะ”
หลินซินเหยียนบ่นพึมพำ“ก็คุณจะไปหาผู้หญิงคนอื่นก่อนนี่นา”
เธอพูดเสียงเบาทำให้จงจิ่งห้าวได้ยินไม่ชัด ตอนที่วางเธอลงบนเตียงจึงถามขึ้น“คุณว่าอะไรนะ?”
หลินซินเหยียนรีบเปลี่ยนคำพูดทันที“ฉับบอกว่าฉันไม่กล้าหรอก”
จงจิ่งจิ่งห้าวคลี่ยิ้มออกมาแล้วหอมแก้มเธอ“นี่สิถึงจะเป็นเด็กดี ยังท้องอยู่เลยจะไปหาผู้ชายที่ไหน อีกอย่างจะไปหาผู้ชายที่ดีแบบผมได้ที่ไหนกัน?”
หลินซินเหยียนแอบกลอกตาใส่เขาอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้ทั้งบ้าอำนาจ ทั้งเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ให้โอกาสคนอื่นเลย
จงจิ่งห้าวเหลือบดูเวลาเห็นว่ามันใกล้จะหกโมงแล้ว“หิวรึยัง?”
หลินซินเหยียนนอนอยู่บนเตียงพลางขยับไปมาเพื่อหาท่าที่นอนสบาย“คุณจะกินข้าวที่นี่เลยไหม?”
จงจิ่งห้าวคิดอยู่ครู่หนึ่ง“อื้ม”
“อื้ม ฉันหิวแล้ว”หลินซินเหยียนพูด เธอกลัวว่าจงจิ่งห้าวจะออกไปสาย และกังวลว่าเขาจะไม่ได้ทานข้าวก่อนออกไป เช้านี้เขาเอาแต่รับโทรศัพท์หรือไม่ก็ดูข่าว เห็นได้ชัดเลยว่าเขายุ่งแค่ไหน
จงจิ่งห้าวหันไปเปิดประตูเพื่อจะไปเรียกป้าหยู แต่เมื่อเปิดออกก็เห็นป้าหยูถือกล่องข้าวไว้ในมือแล้วกำลังจะเคาะประตูพอดี
เธอตื่นตั้งแต่ตีสามแล้วกลับไปทำกับข้าวมาส่ง
“ป้าเอาอาหารมาส่งค่ะ แล้วก็เอาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนด้วย”
ป้าหยูยิ้มร่า มือหนึ่งถือข้าวกล่อง อีกมือหนึ่งถือถุงใส่เสื้อผ้าไว้
จงจิ่งห้าวยังคงสวมชุดของเมื่อวานอยู่ ยังไม่ได้เปลี่ยน เมื่อก่อนเขาไม่เคยใส่เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
“ในห้องน้ำมีน้ำอุ่น คุณไปอาบน้ำเถอะ”หลินซินเหยียนพูด เธอดูออกว่าสองวันมานี้จงจิ่งห้าวไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งผมเผ้าตัวเองก็แทบไม่ได้จัดการเลย
จงจิ่งห้าวเบี่ยงตัวหลบให้ป้าหยูเข้ามาพร้อมกับรับถุงเสื้อผ้าไว้ ขณะที่กำลังจะเข้าไปในห้องน้ำ จู่ๆเขาก็หยุดกึกแล้วหันมาบอกหลินซินเหยียน“คุณทานข้าวก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอผม”
หลินซินเหยียนบอกว่าหิว เขากลัวว่าหลินซินเหยียนจะหิวจนตาลายไปซะก่อน
“ฉันรู้น่า”หลินซินเหยียนโบกมือปัด
ป้าหยูนำอาหารออกมาวางบนโต๊ะแล้วเอ่ยถามหลินซินเหยียนขึ้น“กินตอนนี้เลยไหมคะ?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า“รอกินพร้อมเขาดีกว่า”
ป้าหยูยิ้ม เธอรู้สึกว่าตอนนี้ทั้งสองดูเหมือนคู่สามีภรรยามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ทั้งคู่ต่างคิดเผื่ออีกฝ่ายเสมอ เธอจึงหาข้ออ้างแล้วพูดขึ้น“ป้าไปดูคุณหมอก่อนว่าจะมาตรวจเมื่อไหร่”
พูดจบก็เดินออกจากห้องไป เพื่อจะได้ให้จงจิ่งห้าวกับหลินซินเหยียนได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
หลินซินเหยียนมองประตูที่ปิดลงแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย คุณหมอมีเวลาตรวจที่แน่ชัดอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้หล่อนไปดูหรอก เห็นได้ชัดเลยว่าหล่อนกำลังหาข้ออ้างเพื่อขอตัวออกไป เธอรู้ว่าหล่อนตั้งใจให้เธอกับจงจิ่งห้าวใช้เวลาด้วยกัน
ห้องพักฟื้นค่อนข้างมีขนาดใหญ่ ด้านในห้องน้ำมีฝักบัว และตรงหน้าต่างก็มีโซฟา แถมยังมีตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะติดอยู่กับผนังด้วย มันสะดวกมาก แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ค่อนข้างรุนแรง
แต่ยังดีที่เธอไม่ได้รู้สึกไม่ชอบกลิ่นนี้
พอจงจิ่งห้าวอาบน้ำเสร็จเขาก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียว ด้านบนเปลือยเปล่า เขาเช็ดหัวไปพลางเดินตรงเข้ามา
หลินซินเหยียนมองเขา“ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าล่ะ?”
เดินออกมาแบบนี้ได้ยังไง นี่โรงพยาบาลนะไม่ใช่บ้าน
จงจิ่งห้าวได้ยินว่าป้าหยูออกไปแล้วเขาจึงไม่ได้ใส่อะไรออกมา อีกอย่างที่นี่ไม่ใช่บ้าน ห้องน้ำมันเปียก แถมพื้นที่ยังแคบด้วย เพราะฉะนั้นมันจึงไม่สะดวกมากนัก
จงจิ่งห้าวเดินไปล็อกประตูห้องแล้วเหลือบมองเธอ“คุณเห็นอะไรไหม?”
หลินซินเหยียนรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไรที่ลามก เธอจึงจ้องเขม็งไปที่เขา“หน้าไม่อาย”
จงจิ่งห้าวหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับพูดออกมาเสียงกระเส่า“ถ้าผมมัวแต่อาย คุณจะท้องได้ยังไง?”
หลินซินเหยียน“……”
“คุณก็เคยเห็นมาก่อนนี่นา”จงจิ่งห้าวดึงผ้าเช็ดตัวออกแล้วใส่เสื้อผ้าต่อหน้าเธออย่างไม่รู้สึกอาย
หลินซินเหยียนเอามือปิดหน้าไว้ เธอรู้ว่าเอาชนะเขาไม่ได้หรอกจึงไม่พูดอะไรออกมา
ไม่กี่นาทีผ่านไป จงจิ่งห้าวกำลังติดกระดุมชุดสูทของเขาพลางพูดออกมา“เลิกเอามือปิดหน้าเถอะ ผมแต่งตัวเสร็จแล้ว”
หลินซินเหยียนเอามือออก เขาไม่ได้โกหกเธอ
จงจิ่งห้าวยกอาหารที่ป้าหยูเตรียมให้ออกมาวางลงบนโต๊ะอาหารที่อยู่บนเตียง
มีทั้งโจ๊กกุ้ง เกี๊ยวผักนึ่ง ไข่ดาวกับบร็อคโคลี่ แล้วก็มีเครื่องเคียงอื่นๆอีกเล็กน้อย
รสชาติมันจืดมาก เนื่องจากไม่ได้ปรุงรสอะไรเพิ่ม รสชาติทุกอย่างออกมาจากวัตถุดิบล้วนๆ
มันเหมาะกับหลินซินเหยียนมาก โดยเฉพาะโจ๊ก ถือว่าอร่อยมากเลยทีเดียว
เธอกินโจ๊กหมดไปอย่างรวดเร็ว จงจิ่งห้าวจึงเอาของตัวเองยื่นให้เธอ“กินอีกสิ”
ป้าหยูไม่ได้ทำมาเพื่อจงจิ่งห้าว หล่อนทำเหมือนของหลินซินเหยียนเพิ่มมาอีกหนึ่งชุดเท่านั้น เนื่องจากเมื่อวานเขากลับมาค่อนข้างดึก ป้าหยูคิดว่ายังไงเขาก็ต้องทานข้าวเช้ากับหลินซินเหยียน ดังนั้นจึงเตรียมอาหารของหลินซินเหยียนไว้สองชุด
หลินซินเหยียนเงยหน้ามองเขา“อร่อยมาก คุณไม่กินหรอ?”
“ผมไม่ชอบ”เขาพูดพลางจิ้มบล็อคโคลี่เข้าปากไปคำหนึ่ง
หลินซินเหยียนยิ้มแล้วรับถ้วยโจ๊กที่จงจิ่งห้าวยื่นมาให้กินไปครึ่งหนึ่ง เธอก็กินได้เยอะแค่นี้แหละ ถึงจะอร่อยกว่านี้ เธอก็ไม่สามารถกินหมดทั้งสองชามได้
เธอผลักถ้วยที่กินเหลืออีกครึ่งหนึ่งไปให้จงจิ่งห้าว“ฉันกินไม่หมด”
จงจิ่งห้าวเหลือบมองโจ๊กที่เหลืออยู่ในชาม แล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“คุณรังเกียจฉันหรอ?”