เมื่อรถหยุดนิ่งแล้ว หลินซินเหยียนก็รีบสังเกตให้แน่ชัดว่าเหงาเมื่อกี้คืออะไรกันแน่
มีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งกระพือเข้าหาฝากระโปรงหน้ารถก่อนจะร้องแล้วตะโกนเสียงดัง
หลินซินเหยียนสะดุ้งโหยง
” แกลงมาจากรถเดี๋ยวนี้! “ผู้หญิงคนนั้นชี้มาทางหลินซินเหยียน หน้าตาดุดันน่ากลัว ราวกับเป็นสัตว์ร้ายที่กำลังหิวโหย
หลินซินเหยียนไม่เห็นหน้าตาผู้หญิงคนนั้นแล้ว สมองก็มีอะไรบางอย่างแล่นออกมาทันที ไม่นานก็นึกออกว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร ผู้หญิงคนนี้ก็คือคนที่ที่ทำตัววางอำนาจบาตรใหญ่ในโรงเรียนอนุบาลวันนั้นใช่หรือเปล่า
ทำไมถึงมาขวางรถเธอแบบนี้
สักพักหลินซินเหยียนก็เหมือนจะหนักเรื่องสำคัญออก เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา หาข่าวที่เป็นกระแสพักนี้ ข่าวมากใหม่ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอของเธอ เพราะว่าหลินซีเฉินเป็นคนอัพคลิปนั้น จึงทำให้รองผู้ว่าของเมืองBถูกตรวจสอบ พอถูกตรวจสอบยังไม่เท่าไหร่…..
เธอรีบอ่านบทความนั้นอย่างรวดเร็ว คอร์รัปชันรับสินบน เลี้ยงหญิงชู้รัก…..
นี่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งหมด
ตึงตึง….!
” อีผู้หญิงต่ำช้าเปิดประตูเดี๋ยวนี้ ” ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นวิ่งมาหยุดอยู่ตรงกระจกเมื่อไหร่ ลอนใช้แรงทั้งหมดทุบลงมาตรงกระจกของหน้าต่าง เพื่อหวังจะทำให้แตกแล้วจับหลินซินเหยียนให้ได้
หลินซินเหยียนพยายามทำใจให้สงบ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่บ้าคลั่งคนนี้ เธอจึงพยายามใจเย็นและเปิดหน้ากดหมายเลขของโทรศัพท์ ก่อนจะกดเลขหนึ่งหนึ่งศูนย์….
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นหน้าจอของหลินซินเหยียน ก็พ่น คำพูดอันธพาลออกมา ” ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่! ”
พูดจบผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งออกไป
หลินซินเหยียนจะไม่รีบกดวางสาย ก่อนที่เธอจะรีบขับรถจากไป
เมื่อกลับถึงบ้าน เฉิงยู่ซิ่วก็กำลังสอนหลินลุ่ยซีเขียนหนังสือ เด็กสาวตัวน้อยช่างมีพรสวรรค์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาลด้วยซ้ำนี่เป็นครั้งแรก แต่กลับเขียนออกมาอย่างประณีตและเรียบร้อย เพียงแค่สอนก็สามารถเขียนเป็นแล้ว
นี่ทำให้เฉิงยู่ซิ่วตื่นเต้นเป็นอย่างมาก หลินซินเหยียนที่เข้ามาใน หล่อนจึงกวักมือเรียก ” รีบมาตรงนี้สิ ”
หลินซินเหยียนวางกุญแจรถลงก่อนจะรีบเข้ามาดู
” รีบดูสิว่าลูกสาวของเธอเขียนตัวหนังสืออะไร ” เฉิงยู่ซิ่วพูด
หลินซินเหยียนก้มตัวลง มองไปที่สมุดตารางคัดคำ ก็เห็นมีคำที่เขียนเอาไว้มากมายทั้งทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน เส้นตรงคมชัด รูปแบบชัดเจนและหลากหลาย ลูกสาวตัวน้อยไงหน้าขึ้นมามองหลินซินเหยียน ก่อนจะทำตาวิบวับรอคำชมจากเธอเอง
หลินซินเหยียนลูบหัวเธอเบาๆ ก่อนจะจูบลงบนหน้าผากของเธอ ” ลูกสาวของแม่นี่เก่งที่สุด ฉลาดที่สุดเลยจ้ะ ”
เมื่อถูกหลินซินเหยียนชม เด็กน้อยก็ยิ่งมีไฟที่จะเขียนมากขึ้น
หลินซินเหยียนพยายามดึงชายเสื้อของเฉิงยู่ซิ่วก่อนจะพูดเสียงเบา ” แม่คะ มาคุยกับฉันสักครู่ได้ไหม ”
เฉิงยู่ซิ่วพยักหน้า เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกับหลานสาวว่า ” ตั้งใจเขียนล่ะ เดี๋ยวไปเทน้ำผลไม้มาให้ ”
เด็กน้อยที่กำลังตั้งใจเขียนอยู่ ก็ไงหน้าขึ้นมา ตอบรับสั้นๆ ” ได้เลยค่ะ ”
เฉิงยู่ซิ่วตามหลินซินเหยียนเข้าห้องไป
เมื่อเข้าห้องไปแล้วก็ปิดประตู หลินซินเหยียนก็เลยเปิดประเด็นทันที ” หลายวันมานี้ เวลาออกไปไหนพาคนดูแลไปด้วยเถอะนะคะ ”
ผู้หญิงคนนั้นวันนี้ปรากฏตัวออกมา อีกหน่อยก็คงเป็นแบบนี้อีก พอไม่เจอเธอ เธอก็กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะเอาความโกรธเกลียดทั้งหมดเปลี่ยนไปลงใส่ลูกของเธอแทน
สู้ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
ไม่งั้น เธอคงไม่สบายใจ
เฉิงยู่ซิ่วไม่รู้เรื่องพรุ่งนี้ ก็เลยถาม” เกิดอะไรขึ้นเหรอ มันได้แรงไหม ”
หลินซินเหยียนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ” ช่วงนี้ไม่ได้ดูข่าวบ้างเหรอคะ ”
เฉิงยู่ซิ่วส่ายหน้าปฏิเสธ ตั้งแต่มีเด็กสองคนนี้เข้ามาในชีวิต จิตใจของหล่อนก็หมกมุ่นอยู่กับพวกเด็กๆ เมื่อเด็กๆ ไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว หล่อนก็อยู่บ้านสนใจในเรื่องอาหารการกิน จากนั้นก็รอโรงเรียนเลิก แล้วก็มาทำอาหารให้กับพวกเขาแค่นั้น
ในวันหยุดก็ยังต้องพาเด็กทั้งสองคนไปสวนสัตว์ ไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสนุก ตารางเวลาทั้งหมดทุกจะเอาไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีเวลาที่จะดูข่าวหรอก
พอได้ยินหลินซินเหยียนพูดแบบนี้ หล่อนจึงรู้สึกว่าเรื่องนี้คงจะเกี่ยวกับข่าวในช่วงนี้แน่ๆ หล่อนเลยเปิดโทรศัพท์ มองดูเทรนด์ตอนนี้ ไม่นานหล่อนก็เห็นเข้ากับข่าวของรองผู้ว่า
เฉิงยู่ซิ่วเงยหน้าขึ้นมา
หลินซินเหยียนพยักหน้า ” นี่เป็นคลิปของรองผู้ว่า หลินซีเฉินเป็นคนอัปโหลด ”
เฉิงยู่ซิ่วเบิกตากว้าง ” คือครั้งที่แล้ว…. ”
ครั้งก่อนที่คุณครูเรียกผู้ปกครอง หล่อนรู้ว่าเด็กทั้งสองคนตอนที่อยู่ในโรงเรียนอนุบาลได้ไปทะเลาะกับคนอื่นเข้า
แต่เรื่องราวที่ละเอียดกว่านั้นก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
หลินซินเหยียนอธิบายให้หล่อนฟัง ” ครั้งที่แล้วเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มีเรื่องเอะอะกับเสี่ยวลุ่ย เด็กคนนั้นคือลูกที่คลอดอย่างลับๆ ของรองผู้ว่า…. ”
ไม่นานนักเฉิงยู่ซิ่วก็รู้ถึงจุดสำคัญของเรื่องทั้งหมด เด็กคนนั้นก็คือลูกสาวที่คลอดอย่างลับๆ ของรองผู้ว่า ถ้าอย่างนั้นแม่ของเด็กคนนั้นก็คงเป็นหญิงชู้ไม่ใช่เหรอ
เป็นเพราะว่าหลินซีเฉินอัพคลิปวิดีโอนั้นออกไป รองผู้ว่าก็เลยถูกตรวจสอบ ตอนนี้รองผู้ว่าคนนั้น ถูกตรวจสอบจนพบการกระทำที่ผิดกฎหมายมากมาย ผู้หญิงคนนั้นก็เลยโกรธจนเป็นบ้าสินะ
” วางใจเถอ ” ใจของเฉิงยู่ซิ่วพอจะเตรียมการไว้บ้างแล้ว ลอนก็คงจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อปกป้องเด็กๆ แน่นอน
หลินซินเหยียนพยักหน้า ” ลำบากหน่อยนะคะ กี่วันต่อจากนี้พยายามอย่าไปโรงเรียนอนุบาลเลยนะคะ ”
รอให้เรื่องนี้สิ้นสุดลงก่อน คนที่สมควรจะถูกจับให้ถูกจับเสียก่อน ให้เรื่องมันชัดเจนขึ้นค่อยไป ไม่งั้นถ้าเด็กทั้งสองคนอยู่ในโรงเรียนอนุบาลแล้ว เธอคงไม่สบายใจ
เฉิงยู่ซิ่วเห็นด้วย ” ฉันอยู่บ้านสอนพวกเด็กๆ ก็เหมือนกัน ” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฉิงยู่ซิ่วก็นึกถึงหลินซีเฉินขึ้นมา ” เสี่ยวเฉิน เจ้าเด็กคนนี้ เห็นเดี๋ยวเดียวก็ไม่อยากไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว เขาก็เป็นเด็กอยู่แท้ๆ แต่กลับไม่ชอบเพื่อนที่ยังไม่ประสีประสาในโรงเรียนอนุบาลนั้นเลย แต่ก็ยังดี ไม่นานพวกเขาก็คงจะเลื่อนขึ้นชั้นประถมได้แล้ว ”
หลินซีเฉินโตขึ้นหลินซินเหยียนนั้นรู้ดี
เมื่อพูดถึงหลินซีเฉิน เฉิงยู่ซิ่วก็บอกว่า ” เธอไปดูเขาเถอะ หลายวันมานี้พอกลับถึงบ้านก็รีบเข้าห้องเลย ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า ก่อนจะเปิดประตูออกไป
เมื่อเดินมาถึงห้องของหลินซีเฉิน เธอก็เคาะประตู
ในห้องไม่มีเสียงอะไร เธอจึงเอามือไปจับลูกบิดประตู แล้วก็พบว่าประตูไม่ได้ถูกล็อก เธอจึงค่อยๆ บิดลูกบิดประตูเข้าไป เมื่อผลักประตูเข้าไปแล้ว ในห้องก็สว่างไปด้วยแสงที่มาจากโคมไฟสีเหลืองต้องหัวเตียง หลินซีเฉินนอนแผ่อยู่บนเตียง เหมือนกำลังดูอะไรบางอย่างอยู่ ดูจนสติหลุดลอยไป ไม่ได้ยินแม้กระทั่งว่ามีคนเคาะประตูเรียกอยู่
หลินซินเหยียนย่างเท้าเบาๆ เข้ามา
บนแท็บเล็ตของเขาเต็มไปด้วยตัวเลขที่ดูแล้วลายตาเต็มไปหมด
ตัวเลขพวกนี้หลินซินเหยียนก็ดูไม่ออกเหมือนกัน
เธอเรียกลูกชายเบาๆ ” เสี่ยวเฉิน ”
หลินซีเฉินจึงจะเพิ่งรู้ตัวว่ามีคนเข้ามาในห้อง เขาหันหน้าไปมองหลินซินเหยียน แล้วตะโกนตอบรับ ” หม่ามี๊ ”
หลินซินเหยียนยิ้ม ” เสี่ยวเฉินทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ ดูตั้งใจเชียว แม่เข้ามาไม่ได้ยินเลยเหรอ ”
หลินซีเฉินยิ้มน้อยๆ ” ครูของ AC ส่งตัวเลขชุดหนึ่งให้ผมแก้ครับ ผมว่ามันสนุกดี ”
เขาชี้มันให้หลินซินเหยียนดูอย่างกระตือรือร้น ” หม่ามี๊ดูสิครับ ว่าตัวเลขนี้มันมีกฎอะไร ”
หลินซินเหยียนดูตัวเลขพวกนี้ไม่ออก ก่อนจะส่ายหัว เธอไม่เข้าใจมันเลยสักนิด
” ดูสิครับ ” หลินซีเฉินชี้ไปยังเส้นที่เอียง ” ตัวเลขที่อยู่บนนี้เป็นจำนวนร่วมทั้งหมด ส่วนเส้นตรงนี้มันคือเอกพจน์ พวกมันมีกฎตายตัวครับ เพียงแค่หากฎตายตัวนั้นให้ชัดเจนก็จะคิดคำตอบของพวกมันออกมาได้ ”
เมื่อพูดถึงขอบเขตในด้านที่ตัวเองถนัด ใบหน้าของหลินซีเฉินก็มีแสงเปล่งประกายออกมา
หลินซินเหยียนที่อยู่ข้างเตียง ก็ดึงลูกชายเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก ” หรือว่าลูกไม่อยากเรียนอนุบาลแล้ว ”
หลินซีเฉินพยักหน้ายอมรับอย่างซื่อตรง ” มันเด็กน้อยเกินไปแล้ว ครูทำเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กยังงั้นแหละ ”
หลินซินเหยียนจุ๊บ ลงไปที่แก้มของเขา ก่อนจะกอดลูกชายไว้แน่น ” ถ้างั้น ลูกอยากไปเรียนที่ไหนล่ะ ”
หลินซีเฉินลดสายตาลง ขนตางอนยาวนั้นกระพรือไปมา ก่อนจะพูดด้วยเสียงเล็กเสียงน้อย ” ผมอยากไปเรียนที่AC ”
ไม่ใช่ว่าหลินซินเหยียนไม่อยากให้ลูกชายไปที่นั่น แต่ว่าเขายังเด็กเกินไป เขาเรียนที่AC ได้แค่ครึ่งคาบเท่านั้น
” เสี่ยวเฉิน ลูกมีพรสวรรค์นะ แต่ลูกยังอายุน้อยเกินไป ถ้าเส้นทางที่ลูกควรจะเดินตอนนี้แต่ลูกไม่เดินมัน ภายหลังลูกอาจจะเสียใจก็ได้นะ แต่ละขั้นตอนก็มีความสนุกในรูปแบบของมัน ถ้าลูกไม่มีประสบการณ์ ก็เหมือนกับรู้ได้สูญเสียความทรงจำเสี้ยวหนึ่งไป ส่วนนั้นมันก็จะว่างเปล่าไปเลยนะ พอถึงเวลาที่ลูกต้องแต่งเติมเนื้อหาเข้าไป ลูกก็ไม่มีอะไรจะเติม ลูกลองคิดดู แม่สนับสนุนลูกอยู่แล้ว แค่คะแนนลูกดี ไม่ว่าประถมหรือมัธยม ลูกก็สามารถข้ามชั้นไปได้ ลองไปอยู่ประถมหรือมัธยมต้นซักปีสองปีไหม เมื่อผ่านช่วงนี้ไปแล้ว ถึงเวลาลูกก็จะเติบโตเอง จากนั้นก็ค่อยเรียนคาบเต็มที่AC แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ”
หลินซีเฉินคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็คิดเหตุผลนี้ขึ้นมาได้
” หม่ามี๊ ผมฟังคำหม่ามี๊ทุกอย่างเลย ” หลินซีเฉินหมกตัวเข้าไปในอ้อมอกของเธอ ” หม่ามี๊ ”
” หืม ”
หลินซินเหยียนก้มหัวลงไปมองลูกชายของตัวเอง
หลินซีเฉินยิ้มแหยๆ ” หม่ามี๊รู้ไหม ว่าครูของผมมาที่เมืองBแล้ว ”
สีหน้าของหลินซินเหยียนชะงักไป รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ” ครูของAC คนนั้นน่ะเหรอ ”
หลินซีเฉินพยักหน้า ” เขายังมีอีกสถานะหนึ่งด้วยนะ ”