คนขับรถได้ยินดังนั้นจึงเปลี่ยนเส้นทาง
หลินซินเหยียนนั่งเงียบๆ ในใจก็เอาแต่คิดถึงเรื่องของฉินยา ถ้าส่งฉินยาไปแล้ว ยังไงซูจ้านก็ต้องตามหาเธอ
แต่ตัวเธอเองก็ยังสนับสนุนฉินยาอยู่ดี ไม่ว่าซูจ้านจะพูดอะไร เธอก็จะไม่หักหลังฉินยาเด็ดขาด
เมื่อผ่านเรื่องครั้งนี้ไป ความรู้สึกนึกคิดของเขาที่มีต่อเรื่องพวกก็คงเติบโตขึ้นแล้วล่ะ ตั้งสองคนต่างต้องการเวลาที่จะสงบสติของตัวเอง แล้วจัดการความสัมพันธ์ในระยะเวลานี้
ในเมื่อใจของเธอไม่คิดทุกอย่างไว้หมดแล้ว ใจที่อยากจะส่งฉินยาของเธอก็ยิ่งหนักแน่นขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีก
เพียงเวลาไม่นาน คนขับรถก็ได้ขับมาถึง ro dessert houseแล้ว
เมื่อเธอจ่ายเงินเสร็จก็ลงจากรถ
เมื่อมองผ่านกระจกร้านเข้าไป หลินซินเหยียนก็เห็นเฉิงยู่ซิ่วพาลูกทั้งสองคนมาด้วย พวกเขานั่งกินเบเกอรี่อยู่ใกล้หน้าต่าง เธอจึงผลักประตูกระจกเดินเข้าไป
” หม่ามี๊ ” เมื่อหลินซีเฉินเห็นเธอเข้ามาก็รีบทักทายเธออย่างเร็วไว
เฉิงยู่ซิ่วหันหน้ามาตามเสียง มาเห็นเธอ ก็ยิ้มพลางพูด” ChocolateTataของที่นี่รสชาติไม่เลวเลยนะ ฉันสั่งให้เธอชุดหนึ่งแล้วล่ะ ”
หลินซินเหยียนนั่งลง พร้อมพูดขอบคุณ
เฉิงยู่ซิ่วยิ้ม ” จะขอบคุณอะไรฉันกันล่ะ เห็นฉันเป็นคนนอกกันหรือยังไง ”
หลินซินเหยียนยิ้มรับเล็กน้อย ก่อนจะใช้ช้อนตักChocolateTataเข้าปาก ในนั้นมีกลิ่นนมที่เข้มข้น แต่ไม่มีความเลี่ยน แล้วก็ไม่หวานจนเกินไป แล้วก็มีกลิ่นอายของความเป็นนมและเนยอยู่กลายๆ รสชาติไม่เลวเลยทีเดียว
ขนมหวานที่นี่ขึ้นชื่อมาก ข้างหลังก็ยังเป็นสวนสนุกอีก เหมาะแก่การพาเด็กมาด้วยจริงๆ
เมื่อกินขนมเสร็จแล้ว หลินลุ่ยซีก็ลากหลินซีเฉินไปมา ” พี่ชาย ไปเล่นเป็นเพื่อนหนูหน่อยสิ ”
หลินซีเฉินถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ เหมือนกับว่าไม่รู้จะทำยังไงกับน้องสาวตัวเองดี เลยทำได้แค่ตอบตกลงไป ” ก็ได้ ”
เฉิงยู่ซิ่วเลยให้คนขับรถตามไปด้วย ” เธอดูเด็กสองคนนั้นไว้นะ ”
คนขับรถพยักหน้ารับ ก่อนจะตามเด็กน้อยสองคนเข้าไปในสวนสนุก
เพราะมีเพียงกระจกใสกั้นอยู่ ดังนั้นถึงจะนั่งอยู่ตรงนี้ก็สามารถมองเห็นได้
หลินซินเหยียนลืมน้ำผลไม้เข้าไปอึกหนึ่ง ก่อนจะถาม” ที่เรียกฉันมามีเรื่องอะไรเหรอคะ ”
” ถึงไม่มี ก็เรียกเธอมาไม่ได้เหรอ ” เฉิงยู่ซิ่วแค่รู้สึกว่าพักนี้ พวกเธอไม่ได้คุยกันนานแล้ว เลยถือโอกาสที่เป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี นานๆ ทีเธอจะพาพวกเด็กๆ ออกมาเที่ยว ก็เลยเรียกหลินซินเหยียนให้มาด้วยกัน
หลินซินเหยียนยิ้มพลางพูด ” ไม่ใช่ค่ะ ”
ปกติแล้วเวลาเฉิงยู่ซิ่วเรียกเธอจะมีธุระเสมอ เธอก็เลยถามขึ้นมา
เฉิงยู่ซิ่วมองผ่านกระจกใสออกไป ก็มองเห็นเด็กทั้งสองกำลังเล่นอยู่ข้างในอย่างสบายใจ ลอนฉีกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ” เมื่อก่อน ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้ ที่ได้อยู่ร่วมกันกับจิ่งห้าว และก็ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกของเขา ถึงฉันจะเป็นแม่คนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้รับสิทธิ์ที่จะเป็นแม่อย่างเปิดเผย ฉันรู้สึกซึ้งใจและขอบคุณเธอจริงๆ ”
เฉิงยู่ซิ่วคว้ามือของหลินซินเหยียนมาจับไว้ ” ขอบคุณเธอนะ ที่ทำให้ฉันและจิ่งห้าวได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน และได้ใช้ชีวิตกับเด็กสองคนนี้ ”
” มันเป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้วค่ะ ” หลินซินเหยียนดูหาอเหี่ยวลงเล็กน้อย ” ฉันพลาดหลายสิ่งมามากมาย ถึงตอนนี้เธอไม่ครอบครองมากกว่าแต่ก่อน ก็ทำได้เพียงเสริมในสิ่งที่ขาดไป แต่สิ่งดีงามที่เคยพลาดไปแล้ว มันชดเชยได้ที่ไหนกัน ”
เฉิงยู่ซิ่วส่ายหัว ” ตอนนี้ฉันก็พอใจแล้ว ”
หล่อนรู้สึกพอใจกับชีวิตตอนนี้แล้ว ครอบครัวได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหลังจากการพลัดพราก หล่อนมักก็เห็นภาพนั้นบ่อยๆ ที่จงจิ่งห้าวปล่อยวางเรื่องในอดีตทั้งหมด แล้ว ‘ หันกลับมาให้อภัย ‘ ต่อเธออย่างสันติ
” เหมือนช่วงนี้ไป๋ยิ่นหนิงจะเจอปัญหาแล้วล่ะ ” จู่ๆ เฉิงยู่ซิ่วก็พูดขึ้น หล่อนหันหน้าไปทางหลินซินเหยียน ” เธอได้บอกจิ่งห้าวแล้วหรือยัง ว่าที่เหวินชิงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นเพราะเขาทำ ”
หลินซินเหยียนพยักหน้ารับ ” ฉันปิดบังเขาไม่ได้หรอกค่ะ ”
เพราะเขาฉลาดเกินกว่าจะปิดบังไว้ได้
หลินซินเหยียนรู้ ถ้าจงจิ่งห้าวรู้ว่าไป๋ยิ่นหนิงเป็นคนลงมือเรื่อง เหวินชิงล่ะก็ คงไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่
อีกอย่างที่เมืองBนี้ ก็เป็นถิ่นของจงจิ่งห้าว จะจัดการเขาก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ที่นั่งด้านหลังของพวกเธอนั้น คุณหญิงคนหนึ่งที่หันหลังให้กับพวกเธอ คุณหญิงคนนั้นก็คือหลี่จิ้ง หล่อนก็มากินของหวานที่ร้านนี้เหมือนกัน หล่อนมาก่อน เมื่อเฉิงยู่ซิ่วพาเด็กๆ ทั้งสองคนมาที่นี่ ก็เป็นจังหวะที่หล่อนจะไปพอดี
เป็นเพราะความสัมพันธ์ของเหวินชิงกับเฉิงยู่ซิ่ว หล่อนเลยไม่ได้อยากจะทักทายอะไร เมื่อหล่อนกำลังจะออกไปจากพวกเขาอย่างเงียบๆ ก็ได้ยินเฉิงยู่ซิ่วโทรหาหลินซินเหยียนพอดี
หล่อนก็เลยนั่งลงไปดังเดิม
หล่อนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างจงจิ่งห้าวกับเฉิงยู่ซิ่ว หลินซินเหยียนเป็นภรรยาของเขา แต่ทำไมถึงมาทำตัวใกล้ชิดกับเฉิงยู่ซิ่วได้ล่ะ
หล่อนแบกความสงสัยนั้นไว้ภายในใจก่อนจะนั่งอยู่ตำแหน่งเดิมเพื่อรอให้หลินซินเหยียนมาที่นี่ สุดท้ายก็ได้ยินสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
เรื่องที่เหวินชิงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่แท้ก็มีใครบางคนเป็นคนทำ ในใจหล่อนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
อีกอย่างเฉิงยู่ซิ่วกับหลินซินเหยียนก็ฟังรู้เรื่องนี้
แล้วไป๋ยิ่นหนิงเป็นใครกันล่ะ
ในใจของหลี่จิ้งมีแต่ความเกลียดแค้น อุบัติเหตุรถยนต์ครั้งนั้น ที่แท้ก็มีคนจงใจทำให้มันเกิดขึ้นนี่เอง
ตอนนั้นหล่อนตกใจจนแทบบ้า โชคยังดีที่ไม่มีการสูญเสียอะไร จะมีก็แต่บาดเจ็บที่แขนเท่านั้น
หล่อนแอบหันหลังไปมองเฉิงยู่ซิ่ว ผู้หญิงคนนั้นเรียกจงจิ่งห้าวอย่างสนิทสนม อีกอย่างน้ำเสียงที่ใช้ก็เหมือนกับแม่แท้ๆ ที่พูดถึงลูกของตัวเอง
ตอนแรกที่เฉิงยู่ซิ่วแต่งงานกับจงฉีเฟิง ก็ตกลงกับเหวินชิงแล้วว่า ให้ใช้กิจการสืบทอดของตระกูลเฉิงเป็นข้อแลกเปลี่ยน และห้ามมีลูกกับจงฉีเฟิงอีกด้วย
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เอาจงจิ่งห้าวมาเป็นลูกของตัวเองเนี่ยนะ
หล่อนเป็นแม่คนก็จริง ถึงจะมีจิตใจที่โอบอ้อมอารียังไง ก็ยากที่จะเอาลูกของคนอื่นมาเป็นลูกของตัวเอง
ตอนนี้ไม่คิดคิดดูแล้ว ตอนนั้นเฉิงยู่ซิ่วก็ใจกล้าบ้าบิ่นไม่เบา ต้องรักจงฉีเฟิงขนาดไหน แม้กระทั่งสมบัติที่ตระกูลสืบต่อให้ก็ไม่สนใจ ยังจะกล้าแต่งงานเสียนี่
แต่พอมาคิดอีกทีแค่ความรัก ก็คงไม่ถึงกับทำให้คนคนหนึ่งละทิ้งตระกูลไปได้ รวมถึงละทิ้งการเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่ง
ผู้หญิงอย่างเราเกิดมาไม่มีลูก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างที่สุด
ถ้าจงจิ่งห้าวเป็นลูกของหล่อนล่ะ…..
หล่อนเองก็ไม่อยากจะคิดเลย ที่แห่งนี้ปกปิดความลับอะไรมากมายกันนะ
ขณะเดียวกันหล่อนก็ทำเป็นกินน้ำ เพื่อที่จะฟังต่อ
หลังๆ พวกเธอก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับจงจิ่งห้าวแล้ว หัวข้อสนทนาทั้งหมดก็เกี่ยวกับแค่เด็กสองคนนั้น
หลี่จิ้งรู้สึกว่าตัวเองคงจะไม่ได้ยินเรื่องที่สำคัญอะไรแล้ว เลยลุกออกจากประตูหลังไป
เมื่อออกจากdessert houseแล้ว หล่อนก็รีบโทรศัพท์หาเหวินชิงทันที
” คุณจะกลับมาเมื่อไหร่ ” น้ำเสียงของหล่อนฟังดูรีบร้อน
หมอบอกให้เขาเข้ารับการรักษาอย่างสงบที่สุด แต่เขาอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ไหว บอกว่าบาดเจ็บที่แขน ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเดินอะไร ก็เลยขอออกจากโรงพยาบาล
เขาเพิ่งดูการฝึกซ้อมเสร็จ พอกลับมาถึงห้องทำงานแล้วจึงรับสายหลี่จิ้ง หลี่จิ้งก็เป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็นคนหนึ่ง น้อยครั้งที่จะเห็นหล่อนรีบร้อนแล้วโทรมาหาเขาแบบนี้ เขาปลดกระดุมคอเสื้อที่ที่รั้งกันอยู่ ก่อนจะหันไปดูเวลา จึงจะตอบรับปลายสายไป ” ห้าโมงกว่า ลูกชายของเธอก่อนเรื่องแล้วหรือไง ”
ปกติที่หลี่จิ้งทำตัวรีบร้อนแบบนี้ โดยมากก็คงจะเป็นเพราะลูกชายของพวกเขา นอกจากลูกชาย ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้เธอรีบร้อนขนาดนี้
” ไม่ใช่ คุณกลับมาค่อยบอก รีบกลับมาเลยนะ ฉันรอคุณอยู่ ” พูดจบหลี่จิ้งก็วางสาย รีบโบกรถกลับบ้านไป
เหวินชิงลองโทรศัพท์ที่ถูกวางหูใส่ มันจะวางโทรศัพท์ลง แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เรื่องของลูกชายจะเป็นเรื่องอะไรที่ทำให้เธอลนลานได้ขนาดนี้
เหวินชิงไม่ได้วางใจ ยังไม่ทันจะห้าโมงก็รีบกลับบ้านทันที เพราะหลี่จิ้งกำลังรอเขาอยู่ที่บ้านนี่นะ
ไม่เห็นว่าเขาเดินมา หลี่จิ้งก็รีบเดินเข้าไปหาทันที ก่อนจะช่วยเขาถอดเสื้อตัวนอกออก ” หมอก็บอกให้คุณพักอยู่นิ่งๆ บาดเจ็บแล้วยังไม่หยุดอีกนะ ”
เหวินชิงมองเธอ ก่อนจะเปลี่ยนประเด็นโดยที่ไม่ตอบคำถามเมื่อกี้ ” อยากจะบอกอะไรกับผม ”
” วันนี้ฉันไป ro dessert houseมา แล้วก็ไปเจอเข้ากับเฉิงยู่ซิ่ว…. “