ช่วงนี้เธอแปลเอกสารให้จงจิ่งห้าวที่บริษัท รู้ว่าโครงการที่เขาเปิดใหม่อยู่ที่ประเทศA และโครงการนั้นได้ดำเนินการที่เมืองหยีหลัน และแปดปีที่เธออยู่ ต่างประเทศ ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหยีหลัน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
ที่สำคัญคือ คืนที่เธอขายตัวเองเพื่อแลกกับเงินค่าผ่าตัดของแม่ และน้องชาย เพราะว่าครั้งแรกเจ็บเกินไป เธอกัดผู้ชายคนนั้นหนึ่งที ตามคำขอที่ผู้หญิงที่แนะนำงานให้เธอ ในห้องห้ามเปิดไฟ ดังนั้นตั้งแต่เธอเข้าห้อง ห้องก็มืดทั้งหมด
เธอไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย แต่ตามสถานการณ์ของตอนนั้น ตำแหน่งที่เธอกัดผู้ชายคนนั้น ก็คือไหล่ขวา
นี่คือความบังเอิญเหรอ?
เธออดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ถ้าเป็นเรื่องบังเอิญ จะบังเอิญขนาดนี้เลยเหรอ?
และมีเรื่องหนึ่งจากที่เธอรู้จากการแปลเอกสาร ก็คือสองเดือนก่อนจงจิ่งห้าวเคยไปประเทศA
ถ้าเป็นความจริง งั้น—
มือของเธออดไม่ได้ที่จะจับท้องน้อย
ลูกของตัวเองเป็นของเขา?
หลังจากมีความคิดนี้ หลินซินเหยียนก็ตกตะลึง
จงจิ่งห้าวรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องมองตัวเอง ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรอยู่?
เขาทำเป็นเพิ่งตื่นนอน ค่อยๆ ลืมตา เขาคิดว่าหลินซินเหยียนกำลังแอบมองเขาขณะที่เขายังนอนอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขาเห็น คือดวงตาที่มีน้ำตาคลอ
ใจของเขากระตุก เธอกำลังร้องไห้
จงจิ่งห้าวตื่นอย่างกะทันหัน หลินซินเหยียนหลบไม่ทัน เธอรีบเบือนหน้าหนี วิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
ท่าทางของเธอเร็วเกินทำให้กระทบต่อแผลที่หัวเข่า เธอไม่สนใจความเจ็บ วิ่งเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตู เธอพิงประตูอารมณ์ยังอยู่ในช่วงที่ไม่สงบ
ผ่านไปนาน เธอถึงจะใจเย็นลง
แม้หลายๆ อย่างบ่งบอกได้ว่าคืนนั้นอาจจะเป็นจงจิ่งห้าว แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเรื่องบังเอิญ
ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ แค่บังเอิญแน่ๆ
ไม่ ไม่ใช่เรื่องจริง
เธอค่อยๆ ใจเย็นลง ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำ ทำแผลบนหัวเข่าใหม่
ชั้นบน จงจิ่งห้าวชะงักไปหลายวินาที สีหน้าเมื่อกี้ของผู้หญิงคนนั้นกำลัง—ร้องไห้?
เธอร้องไห้ทำไม? วิ่งทำไม?
เขานั่งลงนวดขมับ แม้ว่าเมื่อคืนจะหลงกล แต่ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเธอ ทำไมสีหน้าเป็นแบบนั้น?
นึกถึงเรื่องเมื่อคืน สายตาของเขามืดลง หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ โทรศัพท์หากวนจิ้ง “หลินซื่อกรุ๊ป ฉันไม่อยากเจออีก!”
“รับทราบ” เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ตระกูลหลิน กวนจิ้งพอเดาได้ จงจิ่งห้าวออกคำสั่งนี้ ไม่ใช่โดยบังเอิญ แต่โดยความตั้งใจ
วางสายโทรศัพท์ เขาโยนโทรศัพท์มือถือไปอีกฝั่ง เปิดผ้าห่มลงจากเตียง ถึงจะพบว่าทั้งตัวของตัวเองมีเพียงกางเกงในหนึ่งตัว
เมื่อคืน……เขาหลับตา
ในความสับสนเหมือนว่าหลินซินเหยียนเป็นคนถอดให้เขา
ผู้หญิงคนนั้น—
จงจิ่งห้าวมักจะรู้สึกว่าเธอเหมือนเป็นปริศนา เปิดหนึ่งชั้น ยังมีอีกหนึ่งชั้น
ก๊อกๆ –
หลังจากเสียงเคาะประตูก็มีเสียงของป้าหยูตามมา “คุณชายคะ ท่านตื่นหรือยัง อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ”
จงจิ่งห้าวตอบรับหนึ่งที ลงจากเตียงทำธุระส่วนตัว สวมเสื้อผ้าสะอาดลงไปชั้นล่าง
หลินซินเหยียนอยู่ในห้องอาหารแล้ว เสื้อผ้าบนตัวถูกเปลี่ยน สีหน้าสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่เขาเห็นคือภาพลวงตา
เขาเดินช้าๆ สวมรองเท้าแตะเดินลงไปทีละก้าว
หลินซินเหยียนวางโจ๊กอ่อนๆ ไว้ตรงหน้าของเขา “ตอนเช้าทานอ่อนๆ ดีต่อกระเพาะ”
จงจิ่งห้าวนั่งลง ตักหนึ่งช้อนแล้วกินเข้าไปอย่างให้หน้า อ่อนจริงๆ ไม่มีรสชาติ
หลินซินเหยียนก้มหน้า “เมื่อคืนฉันประมาท นึกไม่ถึงเสิ่นซิ่วฉิง จะทำเรื่องแบบนั้น”
จงจิ่งห้าวเชยตา ยิ้มเห็นฟัน ฟันขาวสะอาด “พวกไร้ยางอายพบได้มาก ไร้ยางอายอย่างตระกูลหลิน พบน้อย”
ประโยคนี้ด่าทุกคนที่นามสกุลหลินไปหมดแล้ว
หลินซินเหยียนก้มหัวลง เธอก็นามสกุลหลิน
“คือว่า—ฉันอยากลางาน” หลินซินเหยียนเงยหน้า เธอต้องไปโรงพยาบาล หลายวันนี้ไม่ได้ไปดูคุณแม่ที่โรงพยาบาลเลย
แล้วก็เธอต้องนำเช็คไปขึ้นเงินสดและฝากธนาคาร ฝั่งคุณแม่อาจจะต้องใช้เงินมาก เงินพวกนี้สำคัญมากสำหรับเธอ
ยังมีอีก ค่ารักษาที่เหอรุ่ยเจ๋อช่วยเธอจ่ายล่วงหน้า บวกกับก่อนหน้านี้ก็ต้องคืนให้เขา
จงจิ่งห้าวกินโจ๊กไม่เงยหน้า ถามนิ่งๆ “มีธุระ?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “ฉันต้องไปดูแม่ของฉัน”
จงจิ่งห้าวอืมเบาๆ ถือว่าอนุญาตแล้ว
หบังจากอาหารเช้าจงจิ่งห้าวไปบริษัทตามปกติ หลินซินเหยียนช่วยป้าหยูเก็บกวาด ป้าหยูหยิบถ้วยในมือของเธอ “ไม่ใช้เธอ ไปพักผ่อนเถอะ”
ฮะ?
พักผ่อนตอนเช้า?
ป้าหยูมองเธอ พูดอย่างจริงใจ “เธอแต่งงานเข้ามาในตระกูลจงแล้ว เมื่อคืน—เธอเป็นเจ้านายจริงจัง อย่าให้มือที่สามมาแย่งตำแหน่ง”
หลินซินเหยียนหน้าแดง ป้าหยูคิดอะไรอยู่?
เมื่อคืนนอนห้องเดียวกันกับจงจิ่งห้าว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่นา
ป้าหยูต้องไม่เชื่อแน่ๆ
หลินซินเหยียนพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
ป้าหยูยังช่วยหลินซินเหยียน แม้ก่อนหน้านี้จะไม่พอใจกับการกระทำของเธอ
“ฉันว่าคุณชายไม่ได้ชอบคุณไป๋จริงๆ เธอต้องสู้ๆ คุณชายต้องชอบเธอแน่ๆ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าจงจิ่งห้าวไม่ได้ชอบไป๋จวู่เวยจริงๆ?”
“คุณไป๋อยู่กับคุณชายไม่น้อย แต่คุณชายก็ไม่ได้ชอบเธอ สองเดือนก่อน หลังจากกลับมาจากต่างประเทศ จู่ๆ ก็ยอมรับสถานะของเธอ สิ่งนี้จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมจู่ๆ ก็รักเธอ?” จนถึงตอนนี้ป้าหยูก็ยังคิดไม่ออก
หลินซินเหยียนสั่นทั้งตัว สองเดือนก่อน?
เธอคงอารมณ์ ถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ก่อนหน้านี้จงจิ่งห้าวไม่ได้ชอบไป๋จวู่เวย แต่ว่าสองเดือนก่อน หลังจากที่ไปทำธุระที่ต่างประเทศกลับมา จู่ๆ ก็ให้สถานะแฟนสาวกับเธอ?”
ป้าหยูพยักหน้า “ใช่แล้ว คุณชายไม่ใช่คนที่สมองไม่ดี จู่ๆ ก็ยอมรับ น่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
หลินซินเหยียนจมอยู่กับความคิดหนัก ความเป็นเกลียดชังของไป๋จวู่เวยที่มีต่อเธอ ดูเหมือนว่าจะลึกมาก
เพียงแค่เพราะเธอแต่งงานกับจงจิ่งห้าว หรือว่ายังมีอะไรซ่อนอยู่?
เธอหาคำตอบไม่เจอในเวลาทันที ทำได้เพียงไปหาคุณแม่ที่โรงพยาบาลก่อน ก่อนไปโรงพยาบาลเธอนำเช็กไปเปลี่ยนเป็นเงินสด แล้วนำส่วนที่จำเป็นออกมา ที่เหลือก็ฝาก จากนั้นค่อยไปโรงพยาบาล จ่ายค่ารักษาที่เหลือ ในการจัดการของพยาบาล เธอพบจวงจื่อจิ่น
จวงจื่อจิ่นถูกขังไว้ในห้องที่ไม่ใหญ่ ภายในไม่มีอะไรเลย มีเพียงเตียงหนึ่งเตียง และโต๊ะหนึ่งตัว ด้านบนมีแก้วน้ำพลาสติกในแก้วน้ำมีน้ำครึ่งแก้ว
ผู้ป่วยโรคจิตเภท จะทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นก่อนที่เธอจะเข้ามา ก็ถูกพยาบาลตรวจ ห้ามนำของอันตรายเข้ามา
จวงจื่อจิ่นสวมชุดผู้ป่วยสีน้ำเงิน ขดตัวอยู่ที่หัวเตียง มีคำพูดในปาก
หลินซินเหยียนได้ยินไม่ชัด ผลักประตูเข้ามา เห็นหลินซินเหยียนเข้ามาเธอเงยหน้าขึ้น จ้องเขม็งไปสองวินาที “เหยียนเหยียน”
เพียงประโยคเดียว หลินซินเหยียนแสบจมูก ดวงตาแดง พุ่งเข้าไปกอดเธอ “คุณแม่”
จวงจื่อจิ่นยื่นมือไปลูบผมของเธอ “ทำไมเธอมาคนเดียว ไม่พาซินฉีมาเยี่ยมฉัน? ฉันไม่เจอเขานานมากแล้ว”