หลินซีเฉินสวมเสื้อสเวตเตอร์ที่มีคอเสื้อเป็นรูปหัวใจสีกากี ส่วนด้านในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาว ใส่คู่กับกางเกงสแล็ค และรองเท้าผ้าใบสีขาว ร่างเล็กยืนตัวตรง คิ้วของเขาโค้งมนได้รูป ริมฝีปากแดงระเรื่อ ฟันก็ขาวสะอาด แถมยังมีแก้มตุ้ยนุ้ยน่ารัก จมูกก็โด่ง เขามีผมสีดำสนิทหยิกเล็กน้อย รวมๆแล้วดูหล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว
เขาลูบหัวน้องสาวเบาๆ“เสี่ยวลุ่ย เชื่อฟังที่หม่ามี๊พูดรึเปล่า?”
หลินลุ่ยซีพยักหน้ารับอย่างแรง เธอชื่นชมพี่ชายของเธอมาก ทั้งสองเกิดออกมาห่างกันไม่กี่นาทีเอง แต่ว่าหลินซีเฉินกลับดูเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลเอามากๆ
ส่วนหลินลุ่ยซีนั้นดูเป็นเด็กสาวน่ารักไร้เดียงสาซะมากกว่า
หลินซินเหยียนยกอาหารมื้อค่ำมาที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว “เอาล่ะ ไปล้างมือแล้วมาทานข้าวกัน”
เหอรุ่ยเจ๋อเดินเข้ามา แล้วยื่นมือออกไปอุ้มหลินลุ่ยซี ทว่าหลินซินเหยียนกับดึงเขาไว้ “พี่ไปทานข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันพาพวกเขาไปล้างมือเอง”
“ให้พี่ช่วยนะ” เหอรุ่ยเจ๋อไม่ได้คิดว่าจะมองหน้าหลินซินเหยียนไม่ติดเพราะเรื่องที่พูดกันเมื่อกี้
“คุณหมอเหอให้เหยียนเหยียนไป แล้วคุณมานั่งเถอะค่ะ” จวงจื่อจิ่นเดินตรงเข้ามาแล้วพูดด้วยความเกรงใจ
เหอรุ่ยเจ๋อจึงทำได้เพียงนั่งลงที่โต๊ะอาหาร จวงจื่อจิ่นหยิบไวน์ออกมาหนึ่งขวดแล้วเดินไปเลื่อนเก้าอี้ที่โต๊ะอาหารออกมาจากนั้นก็นั่งลง
เธอเหลือบมองไปที่ห้องน้ำแวบหนึ่ง เพื่อเช็คดูว่าหลินซินเหยียนจะไม่ได้ยินสิ่งที่เธอกำลังจะพูด จากนั้นก็หันมาคุยกับเหอรุ่ยเจ๋อ “หลายปีมานี้ ฉันต้องขอบคุณคุณแทนเหยียนเหยียนมากเลย”
เธอพูดไปพลางรินไวน์ให้เหอรุ่ยเจ๋อไปแก้วหนึ่ง และรินให้ตัวเองแก้วหนึ่ง ไวน์ของต่างประเทศไม่ค่อยแรงเท่าเหล้าขาว พอดื่มลงไปจึงรู้สึกว่ามันนุ่มคอ พอยกแก้วของตัวเองดื่มเสร็จก็พูดขึ้น “ฉันก็หวังว่าเธอจะอยู่กับคุณ แต่อย่างว่าเหยียนเหยียนเด็กคนนี้มันหัวแข็ง แถมตอนนี้ยังมีลูกอีกสองคน อีกอย่างตอนนี้คุณก็อายุไม่น้อยแล้ว ถ้าเจอคนที่เหมาะสมก็รีบแต่งงานมีครอบครัวเถอะ”
“คุณป้าครับ ผมยังอยากให้คุณป้าช่วยพูดโน้มน้าวใจเธอให้เลย”เหอรุ่ยเจ๋อก้มมองไวน์ที่อยู่ในแก้ว แต่ไม่ดื่ม
มีหรอที่จวงจื่อจิ่นจะไม่พูด?
เธอพึงพอใจในตัวเหอรุ่ยเจ๋อมาโดยตลอด ช่วงที่หลินซินเหยียนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากก็เป็นเขานี่แหละที่คอยดูแลเธอ พาเธอออกมา
พูดได้เลยว่าถ้าไม่มีเหอรุ่ยเจ๋อคอยช่วย ก็คงไม่มีหลินซินเหยียนในตอนนี้หรอก
เธอรู้สึกขอบคุณและพอใจในตัวเหอรุ่ยเจ๋อมาก
แต่ทว่าหลินซินเหยียนกลับไม่ยอมรับความรู้สึกเขา เธอไม่รู้จะทำยังไงแล้ว?
จวงจื่อจิ่นฝืนยิ้มออกมา“มีหรอที่ฉันจะไม่เกลี้ยกล่อมเธอ แต่เธอไม่เคยฟังฉันเลยต่างหากล่ะ”
จวงจื่อจิ่นเข้าใจดีว่าทำไมลูกสาวถึงเป็นแบบนี้ เธอมีลูกตั้งสองคนแล้ว ครอบครัวชาติตระกูลของเหอรุ่ยเจ๋อนั้นก็ดี หน้าตาเขาก็หล่อเหลาเอาการ และถึงแม้เขาจะไม่ถือเรื่องนี้
แต่ในใจลูกสาวของเธอใช่ว่าจะไม่ถือนี่นา
เธอรู้ดีว่าความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนหนึ่งสำคัญต่อผู้เป็นสามีมากขนาดไหน
เหอรุ่ยเจ๋อยกแก้วไวน์ขึ้นกระดกรวดเดียวหมด จากนั้นก็วางแก้วลง “ผมไม่ยอมแพ้หรอก”
ผมจะรอจนกว่าเธอจะยอมรับผม
“ไม่จำเป็นหรอก เธอเป็นคนหัวแข็ง มันไม่คุ้มค่าที่จะรอ——”
ในขณะนั้นเองหลินซินเหยียนก็ได้อุ้มหลินลุ่ยซีกับหลินซีเฉินเดินออกมา
จวงจื่อจิ่นหยุดพูดแล้วหันไปรับหลินลุ่ยซีที่อยู่ในอกหลินซินเหยียน “มาหายายเร็ว”
“หม่ามี๊อุ้ม” หลินลุ่ยซีกอดคอหลินซินเหยียนไว้แน่น เธอค่อนข้างติดหลินซินเหยียน
เพราะว่าปกติหลินซินเหยียนค่อนข้างยุ่ง จึงไม่มีเวลาดูแลเธอ ครั้งนี้ได้โอกาสให้หม่ามี๊อุ้มไปกินข้าว เธอจะยอมปล่อยไปได้ยังไง?
จวงจื่อจิ่นแกล้งมองอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “ดูพี่ชายของเธอสิ”
หลินซีเฉินปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ด้วยตัวเอง แถมยังกินข้าวเองด้วย แต่พอได้ยินจวงจื่อจิ่นพูดถึงตัวเอง เขาก็เงยหน้าขึ้นมองน้องสาวแล้วพูดออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“น้องยังเด็ก”
“……”
จวงจื่อจิ่งได้แต่คิดในใจ นายก็โตกว่าเธอไม่กี่นาทีเท่านั้นเองนี่นา
เจ้าเด็กนี่มาทำท่าทางเป็นผู้ใหญ่ ช่างน่าขำเสียจริง
หลินซินเหยียนอุ้มหลินลุ่ยซีนั่งลง
เมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ เหอรุ่ยเจ๋อจำเป็นต้องกลับก่อน จวงจื่อจิ่นจึงเข้าไปอุ้มเด็กในอกหลินซินเหยียนออกมา“ไปส่งคุณหมอเหอสิ”
หลินซินเหยียนลุกขึ้นด้วยความเต็มใจพลางยิ้มร่า “เดี๋ยวฉันไปส่งพี่เอง”
ถึงแม้เธอจะไม่ยอมรับความรู้สึกของเหอรรุ่ยเจ๋อ แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณเขา
หลายปีมานี้ เขาช่วยเธอไว้มากเลยทีเดียว
“เอาสิ”เหอรุ่ยเจ๋อยิ้มรับ
ทั้งสองเดินออกจากบ้านตามกันไป หลินซินเหยียนเดินตามหลังมาพร้อมกับปิดประตู
“เธอเคยคิดอยากจะกลับไปบ้างไหม?”เหอรุ่ยเจอลองถามหยั่งเชิงดู
หลินซินเหยียนส่ายหน้า “ไม่”
เธอพูดจากใจจริง เธอรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว
เหอรุ่ยเจ๋อก้มหน้าลง“สองสามวันนี้พี่คงไม่มีเวลามาเยี่ยมนะ”
หนึ่งก็เพราะเรื่องงาน สองก็คือเขาต้องกลับไปที่จีน เพราะงั้นเลยไม่มีเวลามาหา
“พี่ไปจัดการเรื่องของพี่เถอะ ฉันอยู่ที่นี่สบายดี” เธอไปทำงาน ส่วนจวงจื่อจิ่นก็ดูแลเด็กทั้งสองอยู่ที่บ้าน
“อื้ม”เหอรุ่ยเจ๋อยื่นมือออกมาโอบไหล่หลินซินเหยียนไว้พร้อมกับเลียริมฝีปากที่แห้งผาก “แม่เธอพึ่งคุยกับพี่เมื่อกี้”
หลินซินเหยียนเหลือบมองเขาที่กำลังจับมือเธอไว้ “แม่ฉันพูดว่าอะไรหรอ?”
“บอกว่า ให้พี่ยอมแพ้ไปซะ อาจเป็นเพราะพี่แก่เกินหรือกลัวว่าพี่จะได้อยู่คนเดียวตลอดไป ” เหอรุ่ยเจ๋อพูดด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย
หลินซินเหยียนหัวเราะออกมาเบาๆ “แก่แล้วจริงๆ ควรจะมีครอบครัวไปตั้งนานละ”
เหอรุ่ยเจ๋อเหลือบมองเธอ “ลองคบกับพี่ไม่ได้จริงๆหรอ?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินซินเหยียนแข็งทื่อลงทันที เธอรู้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อรู้สึกดีต่อเธอ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยคิด แต่เธอรับปากคุณนายไว้แล้ว
“พี่เหมาะกับคนที่ดีกว่านี้——”
“แต่ว่าในสายตาของพี่ไม่มีใครดีไปกว่าเธอแล้ว”เหอรุ่ยเจ๋อหยุดเดินแล้วหันมาจับไหล่เธอไว้แล้วสบตากับเธอ“พี่ชอบเธอนะ ไม่ใช่แบบที่พี่ชายชอบน้องสาว แต่เป็นแบบที่ผู้ชายชอบผู้หญิง”
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าจะตอบเขายังไงดี
“ฉัน……”
“ชู่ว”เหอรุ่ยเจ๋อโน้มตัวเข้ามาใกล้ ใกล้มากจนรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจของเขาเลยทีเดียว หลินซินเหยียนแข็งทื่อไปทั้งตัว
เธอโตแล้ว เธอรู้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อกำลังจะทำอะไร
เมื่อเหอรุ่ยเจ๋อกำลังจะประทับริมฝีปากลงมาที่ปากของเธอ เธอจึงหันหน้าหนี ริมฝีปากของเหอรุ่ยเจ๋อถูกประทับลงบนแก้มของเธอทันที เขาไม่โกรธแต่กลับยิ้มออกมา “ก็ได้ ถือว่าลองดูก่อนว่ารู้สึกไหม ถ้าไม่รู้สึกครั้งหน้าค่อยลองที่ปากแล้วกัน”
หลินซินเหยียน“……”
“พี่——”หลินซินเหยียนอยากพูดกับเขาให้ชัดเจนว่าเธออยู่กับเขาไม่ได้จริงๆ
“ไม่เอาจูบดีกว่า”เหอรุ่ยเจ๋อพูดขัดเธอ เขาไม่ใช่เด็กแล้ว เขาไม่อยากรออีกต่อไป
หลินซินเหยียนก้มหน้าลง “พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานอีก งั้นพี่กลับก่อนแล้วกัน”
“อื้ม”
หลินซินเหยียนหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน จวงจื่อจิ่นกำลังเก็บกวาดในครัวอยู่ พอได้ยินเสียงประตูเปิดออกก็รู้ได้เลยว่าคือหลินซินเหยียน เธอจึงพูดขึ้น“วันนี้พวกเขาไม่ให้แม่อาบน้ำให้ บอกว่าจะให้ลูกอาบ ลูกมีเวลาไหม?”
“มีค่ะ”หลินซินเหยียนเดินไปเปิดน้ำร้อนทิ้งไว้ในอ่างเพื่อเตรียมที่จะอาบน้ำให้เด็กทั้งสองคน
หลินลุ่ยซีชี้ไปที่เจลอาบน้ำขวดสีชมพู“หม่ามี๊ขา หนูจะอาบน้ำให้ตัวหอมๆ”
เด็กน้อยผิวขาวนวลละเอียดยืนอยู่ในอ่างอาบน้ำพร้อมกับขยับตัวไปมา น้ำจึงสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่
หลินซินเหยียนชี้ไปที่เธอ “อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวแม่ไปเอามาให้”
เด็กน้อยทำปากจู๋ท่าทางไม่พอใจ
ยังดีที่หลินซินเหยียนไม่ต้องกังวลเรื่องหลินซีเฉินจะมีก็แต่หลินลุ่ยซีนี่แหละที่ทำให้เธอไม่สบายใจ แค่อาบน้ำให้เธอเสื้อผ้าของหลินซินเหยียนก็เปียกปอนไปหมดแล้ว
หลินซินเหยียนหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวเธอไว้ แล้วอุ้มไปที่เตียง จากนั้นก็หยิบชุดนอนสีชมพูออกมาใส่ให้เธอ
เธอกระโดดไปมาบนเตียง
หลินซีเฉินทนไม่ไหวแล้วจริงๆ น้องสาวของเขาโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง เขาเลยพูดออกไปเสียงเข้ม“เงียบหน่อยน่า”
ดูเหมือนคำพูดของเขาจะน่าเชื่อถือมากกว่าหลินซินเหยียนซะอีก หลินลุ่ยซีปีนขึ้นไปบนตัวเขาพร้อมกับพูดเสียงอ่อน“พี่จ๋า”
หลินซินเหยียนมองพวกเขาแล้วยิ้มออกมาพร้อมกับถอนหายใจ เด็กคนนี้เชื่อฟังคำพูดของหลินซีเฉินสินะ
“เสี่ยวเฉิน ลูกดูน้องให้ทีนะ เดี๋ยวแม่ไปอาบน้ำก่อน ”
“หม่ามี๊วางใจได้เลยครับ”หลินซีเฉินเอามือตบลงเบาๆที่อกเพื่อเป็นการยืนยัน“ผมจะดูน้องให้อย่างดีเลยครับ”
หลินซินเหยียนยื่นมือไปลูบหัวเขาเบาๆ จากนั้นก็หยิบเสื้อผ้าแล้วไปอาบน้ำ
พออาบเสร็จก็กลับมาเล่านิทานกล่อมพวกเขาเข้านอน
รุ่งเช้ามาพอหลินซินเหยียนทานอาหารเช้าเสร็จกำลังเตรียมตัวจะไปทำงาน จู่ๆหลินซีเฉินก็เดินเข้ามา“หม่ามี๊ ผมไปทำงานด้วยได้ไหมครับ?”
“หืม?”