กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – บทที่136 ตกส้วมไปแล้วเหรอ

บทที่136 ตกส้วมไปแล้วเหรอ

ในครอบครัวของตระกูลใหญ่ที่ร่ำรวย ความสัมพันธ์นั้นเต็มไปด้วยผลประโยชน์ การที่เขาพูดว่าเป็นห่วงชื่อเสียงของลูกสาวนั้นแท้ที่จริงเป็นห่วงชื่อเสียงของตระกูลเหอมากกว่า

“เห็นแก่ความสัมพันธ์ของสองครอบครัว อีกอย่างหลินหลินก็เคยคบหากับคุณ ก็ให้โอกาสเธอได้ปรับปรุงตัวสักครั้งเถอะ เพราะถึงยังไง…”

คำพูดที่เหลือเหอเหวินหวยไม่ได้พูดออกมา เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนทำลายเหอรุ่ยหลิน

เมื่อคิดถึงเรื่องที่จงจิ่งห้าวไม่เหลือพื้นที่ให้กับตน บีบบังคับพวกเขาถึงขนาดนี้ เลือดในลำตัวของเหอเหวินหวยก็พลุ่งพล่าน อดไม่ได้ที่อยากจะบีบคอเขาให้ตาย แต่ว่าเขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ความสามารถไม่มากพอ

ขโมยไก่ไม่ได้ เสียข้าวสารอีกกำมือ ทำได้เพียงโทษลูกของตนที่ไม่เอาไหน

อายุขนาดนี้แล้วยังต้องมาทำตัวนอบน้อมให้กับคนรุ่นหลานอีก ขายหน้าจริงๆ

ใบหน้าของจงจิ่งห้าวไร้ความรู้สึก สองตาของเขาเบิกกว้างอย่างเย็นชา“ต่อไปผมไม่อยากได้ยินคำพูดนี้อีก”

“คำพูดอะไรเหรอครับ?”

“ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลูกสาวของคุณไง?”

เหอเหวินหวยไม่รับปากก็คงจะไม่ได้ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“ต่อไปผมจะไม่พูดเรื่องนี้อีก คุณวางใจเถอะ ผมเป็นคนมีเหตุผล เป็นเพราะเด็กสองคนนั้นไม่เขาไหน คงจะโทษใครไม่ได้”

ก๊อกก๊อก…

ในเวลานี้ มีเสียงเคาะประตูห้องรับแขกดังขึ้น กวนจิ้งผลักประตูแล้วเดินเข้ามา กระซิบที่ข้างหูของเขา “ซูจ้านกับหยูโต้วโต้วมาแล้วครับ”

จงจิ่งห้าวไม่ได้มองมาที่เหอเหวินหวยทำเพียงกระซิบกับกวนจิ้งว่า“คุณเอาคลิปวิดีโอต้นฉบับให้กับเขา”

เมื่อพูดจบก็ลุกขึ้นและลุกออกจากห้องรับแขก

เหอเหวินหวยดีอกดีใจ ในที่สุดเรื่องนี้ก็สามารถแก้ไขได้แล้ว

หลายวันมานี้เขากินไม่ได้ นอนไม่หลับ เหนื่อยล้าทั้งกายใจ ในที่สุดความกังวลที่ค้างคาอยู่ในใจก็คลายลง

“รอสักครู่”ท่าทางของเหอเหวินหวยไม่ได้ดูว่านอนสอนง่ายเหมือนเมื่อสักครู่นี้ แต่ว่าก็ไม่ได้ดูแข็งกร้าวเกินไป เพียงแต่ต้องการสื่อให้เห็นว่าเขาไม่พอใจกับเรื่องๆนี้“ครอบครัวของพวกเราไม่เคยมีความขัดแย้งกัน หลินหลินมีความผิด แต่คุณก็ทำเกินไป โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน มีใครรับรองได้ว่าใครจะรุ่งโรจน์ได้ตลอดไป?”

จงจิ่งห้าวค่อยๆหันลำตัวกลับมา สายตาไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย อวัยวะทั้งห้ายังคงสง่างามเยือกเย็นและหนักแน่น รังสีแห่งความเยือกเย็นแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณรอบๆทำให้คนรอบข้างอดที่จะตัวสั่นไม่ได้

เหอะ

เขาหัวเราะเบาๆ“ผมจะคอยดู”

เมื่อพูดจบก็ก้าวเท้าแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก

บรรยากาศสงบลงสองวินาที กวนจิ้งนำคลิปวิดีโอต้นฉบับวางไว้บนโต๊ะ เงยหน้าเหลือบมองเหอเหวินหวย“ประธานกรรมการเหออะไรบนโลกนี้ก็ไม่แน่นอน คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ด้วยว่าศัตรูมีไพ่ตายอยู่ในมือเท่าไหร่”

เหอเหวินหวยขมวดคิ้ว“คุณหมายความว่ายังไง?”

กวนจิ้งยิ้ม“ผมก็แค่รู้สึกว่าคำพูดของประธานกรรมการเหอเมื่อสักครู่นี้ดูเขาไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่”

“หรือว่าสิ่งที่ผมพูดไม่ถูกเหรอครับ?”เหอเหวินหวยถามกลับ

ไม่ใช่เพราะจงจิ่งห้าวบีบบังคับคนอื่นก่อนหรอกเหรอ?

“เปล่า”กวนจิ้งไม่ได้พูดอะไรต่อกับเขา เขายื่นมือออกไปทำเพียงท่าเชิญ“เดี๋ยวผมไปส่งประธานกรรมการเหอเองครับ”

สีหน้าของเหอเหวินหวยเคร่งขรึมสะบัดแขนเสื้อแล้วลุกขึ้น

กวนจิ้งทำเป็นไม่เห็นเขาโกรธ ในใจคิดเพียงว่าการที่ตระกูลเหอเข้าสู่ช่วงขาลง ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ลูกชายทั้งสองคนของเขาไม่มีพรสวรรค์ในการทำธุรกิจ ส่วนเขาเองก็ไม่ได้ดีกว่ากันสักเท่าไหร่

ห้องทำงานประธานกรรมการบริหารซูจ้านนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจอยู่ข้างๆโต๊ะทำงานของจงจิ่งห้าว พลางหมุนลูกโลกที่อยู่บนโต๊ะไปมาหลายรอบ เมื่อทำซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งก็รู้สึกว่าน่าเบื่อ จึงขมวดคิ้ว พลางตะโกนเรียกกวนจิ้งที่หน้าประตู “จงจิ่งห้าวเขาไปทำอะไรของเขา?ตกส้วมไปแล้วเหรอ?ให้ผมรอนานขนาดนี้ …”

เขายังไม่ทันพูดจบ ประตูห้องก็ถูกผลักออก

เสียงของเขาดังมาก แน่นอนว่าจงจิ่งห้าวได้ยิน

เขากระโดดลงจากโต๊ะ หัวเราะด้วยความคับแค้นใจ“ผมไม่ได้พูดอะไรเลย คุณคงไม่จินตนาการไปเองหรอกนะว่ามีใครพูดต่อว่าคุณ?”

จงจิ่งห้าวเหลือบมองเขาอย่างราบเรียบ“ไม่คิดรักษาหน้าบ้างเลยเหรอ?”

ซูจ้านลูบใบหน้าด้านขวาที่หล่อเหลาของตนเอง “หน้าก็ยังอยู่หนิ”

หยูโต้วโต้วที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่กล้าพูด รู้สึกเพียงว่าซูจ้านทำให้เขาได้เห็นอีกมุมหนึ่งของทนายความ

เขาไม่เคยเห็นทนายที่ชอบทำอะไรประหลาดๆแบบนี้มาก่อน

ซูจ้านทำหน้าจริงจัง แกล้งเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง เพื่อหาทางออกให้กับตัวเอง“ในส่วนของคดีอุบัติเหตุรถชน ผมได้เขียนคำฟ้องร้องไว้เรียบร้อยแล้ว จะให้ยื่นฟ้องเมื่อไหร่ครับ?”

หยูโต้วโต้วเบิกตากว้าง รอฟังคำตอบของจงจิ่งห้าว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาอยากทำมาโดยตลอด ในที่สุดตอนนี้เขาก็จะได้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับพี่ชายที่ตายไปได้เสียที คนที่ทำร้ายเขาจะต้องได้รับบทลงโทษ

ในใจรู้สึกดีใจจนเนื้อเต้น

จงจิ่งห้าวนั่งลงบริเวณด้านหน้าของโต๊ะทำงานแล้วพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า“ไม่รีบ”

เมื่อเห็นว่าเหอเหวินหวยค่อนข้างโกรธ ไม่รู้ว่าวันไหนจะทำเรื่องที่น่ารังเกียจกับเขา ละเว้นไว้ก่อนก็แล้วกัน

อ่า?

“จะไม่รีบได้ยังไง ผ่านมาตั้งหกปีแล้ว เวลายิ่งนานก็ยิ่งทำให้คดียากที่จะฟื้นได้ อีกอย่างตอนนั้นหล่อนก็ยังทำร้ายคุณหลินด้วย”ทันใดนั้นหยูโต้วโต้วจึงรู้สึกร้อนใจขึ้นมา ไม่รีบ หมายความว่ายังไง?

หรือว่าเขาเกิดเสียใจภายหลังขึ้นมาที่ช่วยเขา?

ซูจ้านกับจงจิ่งห้าวเป็นเพื่อนสนิทกัน ค่อนข้างเข้าใจเขาเป็นอย่างดี การที่เขาพูดว่าไม่รีบไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้ไม่ทำแล้ว

เขาสะกิดหยูโต้วโต้วหนึ่งที“ทำไมถึงไม่รู้จักระงับอารมณ์เลย หากอยู่ในศาลคนอื่นพูดแค่สองสามประโยคก็จะทำให้คุณโกรธได้แล้วงั้นเหรอ?ทำแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อคุณเลยนะ”

 

หยูโต้วโต้วทำคอแข็งด้วยความโกรธ“ผมรู้ ผมก็แค่…”

“ก็แค่ไม่อยากรอแล้ว”ซูจ้านพูดความในใจของเขาออกมา พลางตบที่ไหล่ของเขา“จิ่งห้าวไม่ใช่คนที่พูดจากลับกลอก การที่เขาการที่เขาพูดว่าไม่ต้องรีบนั้นหมายความว่าตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะที่จะเปิดเผย รอมาได้ตั้งหกปีแล้ว ก็คงไม่สนใจแล้วว่าจะต้องรออีกนานเท่าไหร่ใช่ไหม?”

หยูโต้วโต้วนิ่งเงียบ ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่ซูจ้านพูดนั้นถูกต้อง

ฝีปากของทนายความนั้นเก่งกล้าเป็นที่สุด

“แต่ว่า เรื่องนี้…”

“คุณไม่เชื่อผม?”ซูจ้านขัดจังหว่ะการพูดของเขา

“เปล่าครับ”หยูโต้วโต้วลูบที่ศีรษะ ท่าทางหงอยเหงาเศร้าซึม

“พอได้แล้ว ผมขอตัวกลับก่อน ยื่นฟ้องเมื่อไหร่ผมจะแจ้งให้คุณทราบอีกที”

ความสามารถของเขาไม่เพียงพอ จำเป็นต้องพึ่งพาพวกเขา

ในเมื่ออำนาจอยู่ในมือของคนอื่น แล้วเขาจะทำอะไรได้ล่ะ?

ไม่อยากรอก็ต้องรอ

หยูโต้วโต้วทำได้เพียงขอตัวกลับก่อน

รอจนกระทั่งคนออกไปกันหมดแล้ว ซูจ้านก็เดินมาที่โต๊ะทำงานของจงจิ่งห้าวพลางทำทีท่า‘เลิกคิ้ว’“เป็นยังไงสหาย ผมใช้ได้ไหม?”

จงจิ่งห้าวไม่แม้แต่ขยิบตาให้กับเขา แต่กลับโยนเอกสารไว้บนโต๊ะ“เล่นพอแล้ว รีบกลับไปดูแลคุณย่าของคุณเถอะ”

“คุณพูดคุยเรื่องที่สบายอารมณ์หน่อยได้ไหม?”ซูจ้านแทบระเบิด พอพูดถึงคำว่าคุณย่าสองคำนี้ เขาก็ไม่อาจอยู่เฉยได้

เขากับจงจิ่งห้าวอายุไล่เลี่ยกัน แต่นิสัยร่าเริง กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งงาน พ่อแม่ของเขาจากไปค่อนข้างเร็ว คุณย่าเป็นคนเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะรีบแต่งงานและมีลูกในเร็ววัน แต่สุดท้ายเขากลับไม่อยากแต่งงาน อยากจะเล่นไปวันๆ

ไม่มีความสนใจในเรื่องความรัก

“คราวที่แล้วคุณเบี้ยวผม คุณต้องชดเชยให้กับผม”ซูจ้านหยิบโทรศัพท์ออกมา“เดี๋ยวผมจะโทรหาซวนซวนผมจะเลือกสถานที่เอง แล้วพวกเรามาดื่มด้วยสักแก้ว นานแล้วที่พวกเราไม่ได้มารวมตัวกัน”

ขณะที่พูดเขาก็ได้โทรศัพท์ขึ้นมา

“มีอะไรเหรอ?วันนี้จิ่งห้าวมีธุระ พวกเรามารวมตัวกันเถอะ?”

เสิ่นเผยซวนก็งานยุ่งเหมือนกัน เขาไม่ใช่คนเมืองBแต่หลังจากเรียนจบก็อาศัยอยู่ที่เมืองBสามารถตั้งรกรากอยู่ที่เมืองBได้ และมีการงานที่มั่นคง เห็นได้ว่าเขาก็เพียรพยายามไม่น้อยเลย

“วันนี้ผมไม่มีธุระอะไรพอดี นัดมาได้เลยว่าที่ไหน ผมจะไปหาพวกคุณเอง”

ซูจ้านเหลือบมองดูเวลาครู่หนึ่ง“พวกเราไปกินข้าวข้างนอกกันที่‘โฮมสเตย์จวู้เสียน’เถอะ ที่นั้นบรรยากาศดีอาหารก็อร่อย”

“คุณจัดการได้เลยนะ”

ทุกครั้งเวลาที่พวกเขาก็จะไปยังสถานที่ที่ซูจ้านจัดเตรียมไว้ให้ ส่วนจงจิ่งห้าวจะเป็นคนจ่ายเงิน

ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะจงจิ่งห้าวเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุด

เมื่อพระอาทิตย์ตกดินเสิ่นเผยซวนขับรถมายังว่านเยว่กรุ๊ป เพื่อมาหาซูจ้านกับจงจิ่งห้าว

พวกเขาแต่ละคนขับรถทั้งสามคันมายังบริเวณด้านหน้าของโฮมสเตย์จวู้เสียน

รถขับเข้ามายังบริเวณที่จอดรถ ขณะที่จงจิ่งห้าวลงจากรถก็เห็นรถที่จอดอยู่บริเวณด้านข้างของเขา เป็นรถที่เขามอบให้กับหลินซินเหยียน

“ เฮ้ย เฮ้ยจิ่งห้าว นี่คือรถของคุณไม่ใช่เหรอ?ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

ซูจ้านเหลือบมองครู่เดียวก็จำรถได้

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

Status: Ongoing

การค้าครั้งหนึ่ง หลินซินเหยียนท้องลูกของชายแปลกหน้า เธอตั้งครรภ์ แต่งงานกับชายคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กเดิมคิดว่านี่เป็นแค่การค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีอุบาย แต่กลับพัวพันถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตสมรสนี้ตอนตั้งครรภ์สิบเดือนใกล้คลอด จงจิ่งห้าวส่งใบหย่ามาใบหนึ่ง เธอถึงได้ตาสว่างขึ้นมาทันใดต่อมาเขาพูดอีกว่า คุณภรรยากลับมาเถอะ คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท