“คุณคือใคร?” เห็นได้ชัดว่าเหอรุ่ยเจ๋อไม่คิดจะไปเปิดประตู เพราะเขาไม่แน่ใจว่าคนที่มาเคาะประตูคือใคร
หลินซินเหยียนจ้องประตูไว้ หัวใจทั้งดวงเต้นตุ๊มๆต่อมๆ จะเป็นจงจิ่งห้าวหามาถึงนี่หรือเปล่า
เธอเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ท่าทีของอีกฝ่ายแข็งกร้าวมาก ได้ใช้แรงตบประตูอีกสองที เสียงดังสนั่น “เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเราจะพังประตูเข้าไป!”
เหมือนเหอรุ่ยเจ๋อจะรู้แล้วว่าคนที่อยู่หน้าห้องคือใคร เขาได้ด่าเสียงต่ำ “ทำไมยังมีคนที่ตรวจห้องด้วย?”
เขาหันไปห่มผ้าให้หลินซินเหยียนและสั่งการว่า “เดี๋ยวไม่ว่าคนที่มาคือใคร เธอก็ห้ามส่งเสียงนะ”
เมื่อครู่หลินซินเหยียนได้ยินเสียงด่าทอของเหอรุ่ยเจ๋อ เธอเองก็รู้คร่าวๆแล้วว่าคนที่อยู่หน้าห้องไม่ใช่จงจิ่งห้าว
ที่จริงเธอไม่รู้ว่าจงจิ่งห้าวจะมาหาเธอหรือเปล่า
เธอมีเรื่องที่ไม่แน่ใจในตัวเขาอยู่มากมาย
เพราะเธอกับเขามีอะไรกั้นไว้มากมาย
แค่ตั้งความหวัง กับความคาดหวังและความโหยหาที่มีต่อเขา
ภายใต้สถานการณ์ที่เธอไม่มั่นใจว่าจะหนีไปได้ เธอจะไม่เผยความคิดที่ตัวเองอยากจะหนีให้หน้าเหอรุ่ยเจ๋อเห็นง่ายๆหรอก เธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ฉันรู้แล้วค่ะ”
“เด็กดี” เหอรุ่ยเจ๋อขยี้ผมของเธอ จากนั้นได้หันหลังเดินไปเปิดประตู เสี้ยววินาทีที่ประตูห้องเปิดออก คนที่อยู่หน้าห้องบุกเข้ามาอย่างแข็งกร้าว จากนั้นผู้ชายที่ใส่ชุดนอกเครื่องแบบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าแววตาเคร่งขรึม “พวกคุณสองคน……”
“คุณตำรวจอย่าเข้าใจผิดนะครับ เราไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมนะครับ ผมเป็นคนเมืองB คนที่อยู่บนเตียงคือแฟนของผม เธอไม่สบายและยังเป็นใบ้ด้วยครับ” ระหว่างที่พูดเหอรุ่ยเจ๋อได้ล้วงบัตรประชาชนของตนเองออกมา ด้านล่างมีเงินแนบอยู่ปึกนึง มีอยู่ประมาณสองพันกว่าหยวน เขายื่นไปในมือของตำรวจ “คุณตำรวจดูสิครับ”
มือของตำรวจคนนั้นกุมบัตรประชาชนที่เหอรุ่ยเจ๋อยื่นมาให้ เขาขยี้อยู่ในมือพอรู้แล้วว่ามีเงินอยู่ประมาณเท่าไหร่ เขาได้ใส่เข้าไปในกระเป๋าอย่างสงบเยือกเย็น จากนั้นได้ดูบัตรประชาชนอย่างลวกๆ เสร็จแล้วก็พูดกับตำรวจอีกคนว่า “โอเคแล้ว พวกเขาไม่ใช่”
ตำรวจทั้งหลายเดินเรียงกันออกไป ออกจากห้องที่คับแคบ ก่อนที่หัวหน้าทีมจะออกจากห้องยังได้เตือนด้วยความหวังดี “ดีที่สุดอย่าพักโรงแรมแบบนี้ดีกว่า ไม่ปลอดภัย ง่ายที่จะถูกเข้าใจผิด”
เหอรุ่ยเจ๋อส่งเขาออกไป พร้อมพยักหน้ารัวๆ “ครับๆ”
คนๆนั้นกดเสียงต่ำและพูดกับเหอรุ่ยเจ๋อว่า “ผมรู้ว่าพวกคุณไม่ใช่ความสัมพันธ์ลูกค้ากับ‘โสเภณี’ เพราะ‘โสเภณี’ของแถวนี้ผมรู้จักหมดเลย”
ลึกๆแล้วเหอรุ่ยเจ๋อไม่พอใจอย่างยิ่งที่เขาพูดคำพูดนี้ออกมาเปิดเผยขนาดนี้ แต่ภายนอกยังต้องคอยฝืนยิ้ม เพราะนี่ไม่ใช่ถิ่นของเขา ว่ากันว่ามังกรแข็งแกร่งสู้งูประจำถิ่นไม่ได้ เขาไม่อยากแส่หาเรื่อง “ผมรู้แล้วครับ”
เหอรุ่ยเจ๋อส่งคนไป กลับมาที่ห้องแล้วปิดประตู “พวกกวาดล้างหญิงหากินของที่นี่……”
คำพูดของเขายังพูดไม่จบก็พบว่าคนที่อยู่บนเตียงไม่เห็นแล้ว หน้าต่างที่ใกล้หัวเตียงได้เปิดทิ้งไว้ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปพร้อมเดินมาอย่างเร็ว ยื่นศีรษะมองลงไปด้านล่าง ด้านล่างของหน้าต่างมีหลังคาเล็กๆอันนึง ไม่ได้มีมาตั้งแต่เดิม เหมือนต่อเติมเพิ่มอีกต่างหาก
ก็เหมือนที่ตำรวจคนนั้นพูด ส่วนใหญ่คนที่มาพักโรงแรมแบบนี้ล้วนเป็นความสัมพันธ์เชิงค้าขาย พวกที่กวาดล้างหญิงหากินพวกนั้นก็บุกมาตรวจค้นฉับพลันอยู่เป็นประจำ เพื่อสะดวกแก่การวิ่งหนี ใต้หน้าต่างจึงได้ออกแบบหลังคาเล็กๆแบบนี้ขึ้น
ถึงแม้มีหลังคาสามารถให้เธอเหยียบลงมาได้ แต่ก็ค่อนข้างสูงจากพื้นอยู่ ตอนที่หลินซินเหยียนโดดลงไปได้ทำขาพลิก ก็เลยวิ่งได้เชื่องช้า
เหอรุ่ยเจ๋อเห็นร่างเงาของเธอ ได้ตะคอกด้วยความโกรธ “หลินซินเหยียน!”
เสียงเรียกของเขาเหมือนการโจมตีที่หนักหน่วง หลินซินเหยียนวิ่งยิ่งเร็วขึ้น เธอไม่สนความเจ็บปวดของขา แค่อยากวิ่งสุดชีวิต อย่าให้เหอรุ่ยเจ๋อจับตัวได้เด็ดขาด
เพราะเธอหนีไป เหอรุ่ยเจ๋อก็จะรู้แน่นอนว่าเธอไม่ได้ความจำเสื่อม
เดิมทีก็ไม่เชื่อใจเธออยู่แล้ว แค่คิดก็รู้ถ้าถูกเขาจับตัวไปอีกครั้ง เขาจะทำตัวกับเธอยังไง
เหอรุ่ยเจ๋อพุ่งลงไปชั้นล่าง และวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาจะให้หลินซินเหยียนหนีไปไม่ได้เด็ดขาด!
ที่นี่เล็ก แม้แต่ไฟข้างถนนก็ยังติดตั้งไม่ครอบคลุมเลย แสงไฟมืดสลัว อีกอย่างล้วนเป็นซอยเล็ก ตามถนนมีร้านปิ้งย่างอยู่บ้าง มีกลิ่นผงยี่หร่าและกลิ่นเนื้อย่างหอมฟุ้งอยู่
หลินซินเหยียนวิ่งเข้าไปในซอยเล็กๆ ในซอยไม่มีไฟมืดตึ๊ดตื๋อมองไม่เห็นอะไรเลย เธอไม่กล้าหยุด คอยปัดไปมาอยู่ข้างหน้าเพื่อคอยเปิดทางให้ตัวเอง ฝีเท้าก็ยิ่งอยู่ยิ่งเร็ว
“หลินซินเหยียนเธอหนีไม่รอดหรอก” มีแสงไฟแว๊บผ่าน คือเสียงของเหอรุ่ยเจ๋อ
เขาอยู่ระแวกนี้เอง
หลินซินเหยียนสะกดความกลัวและความลนลานของในใจไว้ เธอเดินต่อไป จู่ๆไม่รู้ขาไปเหยียบโดนอะไรได้ทิ่มเข้าไปในเท้า เพราะเธอถูกเหอรุ่ยเจ๋อมัดไว้ตลอด ไม่มีรองเท้า เธอก็เลยเท้าเปล่า เท้าเปล่าก็มีข้อดีอยู่เหมือนกันเวลาวิ่งจะไม่ส่งเสียง ข้อเสียก็คืออาจจะถูกสิ่งของที่อยู่บนพื้นตำเท้าเอาได้
เธอไม่รู้ว่าเท้าถูกอะไรตำ สรุปก็คือเจ็บมาก
เธอคอยเกาะผนังของซอยเดินไป ไม่กล้าชักช้าเลยสักนิด
พอเดินมาถึงสุดซอยเธอเห็นแสงสว่างจึงได้วิ่งไปอย่างเร็ว อยากขวางเอาไว้ แต่แสงสว่างนั้นกลับแว๊บผ่านไปอย่างไว
ความหวังดับสลาย แถมฝีเท้าของเหอรุ่ยเจ๋อก็ยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที เธอมองซ้ายมองขวาด้วยความตื่นเต้น อยากหาที่ๆสามารถหลบซ่อนตัวได้
“เหยียนเหยียน” เสียงยิ่งใกล้เข้ามามากขึ้น เธอถึงขั้นสามารถมองเห็นเหอรุ่ยเจ๋อเขย่าไฟฉายของมือถือ
นาทีนี้ เธอหวังอยากให้มีคนมาช่วยเธอเหลือเกิน
แต่ในใจเธอรู้ดี ตอนนี้ถ้าจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเหอรุ่ยเจ๋อ จะต้องพึ่งตัวเองเท่านั้น
เธอฮึดสู้ขึ้นมา ไม่ไปสนใจความเจ็บปวดที่เท้าและวิ่งไปข้างหน้าต่อ
ออกจากซอยคือถนนซีเมนต์เส้นนึง ที่ห่างจากไม่ไกลมีไฟข้างถนนอยู่ดวงนึง แถวนั้นสว่างมาก
“หลินซินเหยียน เธอโกหกพี่!” ไม่รู้ว่าเหอรุ่ยเจ๋อตามมาเมื่อไหร่
ทันใดนั้นหลินซินเหยียนหันหน้าไป พบว่าเหอรุ่ยเจ๋อยืนอยู่ที่ทางออกของซอย ในมือถือไฟฉายโทรศัพท์ไว้ พร้อมส่องมาที่ตัวเธอด้วยสีหน้าร้ายกาจ “เธอนึกว่าเธอจะหนีพ้นเหรอ?”
หลินซินเหยียนยืนอยู่ฝั่งตรงของข้ามถนน และตะคอกเสียงต่ำใส่เขา “อย่าบังคับให้ฉันเกลียดพี่!”
“ตอนนี้เธอไม่เกลียดพี่หรือไง? เธอได้เกลียดพี่ไปแล้ว พี่เองก็ไม่มีทางหนีทีไล่แล้ว เธอจะเดินมาแต่โดยดี หรือว่าให้พี่ไปจับเธอมา?”
ริมฝีปากแห้งกร้านของหลินซินเหยียนเผยรอยยิ้มออกมา เธอยิ้มอย่างเศร้ารันทด “ฉันตายก็ไม่เดินไปหรอก!”
พูดจบเธอก็ได้วิ่งไปหาแสงสว่างนั้น เพราะเมื่อครู่เธอเห็นตรงนั้นมีแสงสะท้อนของพื้นผิวน้ำ เลยตัดสินว่าที่นั่นมีน้ำ
พอวิ่งมาใกล้ๆเธอเห็นชัดแล้ว คือแม่น้ำสายหนึ่งจริงๆด้วย
“หลินซินเหยียนเธอบ้าไปแล้วเหรอ เธอว่ายน้ำไม่เป็นนะ!” เหอรุ่ยเจ๋อเห็นเจตนารมณ์ของของเธอ
หลินซินเหยียนหันกลับมามองเขา พร้อมยกมุมปากขึ้น “ฉันจำได้ว่าพี่ก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน”
พูดจบเธอก็ได้โดดลงไปอย่างไม่ลังเลใจเลยสักนิด “ตุ๋ม”เสียงนึงพร้อมกับน้ำกระเซ็น
แทนที่จะถูกเหอรุ่ยเจ๋อจับตัวไป สู้เธอยอมตายดีกว่า!
เหอรุ่ยเจ๋อก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน โชคดีที่บางทีเธออาจจะยังมีโอกาสหนีรอดไปได้
“ยัยบ้า!” เหอรุ่ยเจ๋อวิ่งมาถึงริมแม่น้ำ น้ำไหลเชี่ยวมาก ดูแล้วลึกมาก ถนนใกล้แม่น้ำไม่ได้ผ่านการตัดแต่ง มีหญ้าแฝกขึ้นเต็มเลย เขาอยากโดดลงไป แต่สมัยเด็กๆเคยจมน้ำ ในใจมีปม เขาเลยไม่กล้าโดดลงไปซี้ซั้ว
เหอรุ่ยเจ๋อกำมือทั้งสองไว้แน่น “ถ้าเธอจะรนหาที่ตาย ใครจะขวางเธอได้!”
น้ำลึกและเชี่ยวกราก หลินซินเหยียนว่ายน้ำไม่เป็น ได้กินน้ำเข้าไปเยอะมาก เธอเคยเห็นในโทรทัศน์ ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ว่ายน้ำไม่เป็น เวลาตกลงไปในน้ำ จะหายใจอยู่ในน้ำไม่ได้เด็ดขาดจะสำลักเอาได้ ถ้าน้ำเข้าไปในปอดเธอก็จะตายโดยที่ไม่ต้องสงสัยเลย
แต่ถ้ากินลงไปในท้อง ยังมีโอกาสรอดชีวิตอยู่ ถึงความหวังมันจะริบหรี่ เธอก็จะยอมแพ้ไม่ได้
ลูกของเธอต้องการเธอ เธอจะยอมแพ้ไม่ได้…