หลินซินเหยียนมองพระอาทิตย์ที่สดใส เป็นอีกวันที่สวยงาม เธอไม่ควรคิดถึงคนในแง่ไม่ดีขนาดนั้น บางทีเธออาจจะมีปมที่ถูกเหอรุ่ยเจ๋อทำร้าย เธอจึงมองโลกในแง่ร้ายมากขนาดนี้
“ไม่มีอะไร ฉันแค่พูดไปงั้นๆ ฉันถึงแล้ว”หลินซินเหยียนชี้ไปที่โรงแรมที่อยู่ไม่ไกล หยุดฝีเท้าลง“คุณล่ะ?”
ไป๋ยิ่นหนิงหอบ“ผมคิดว่าคุณจะเชิญผมเข้าไปซะอีก”
“นั่นคือถิ่นของคุณ คุณอยากเข้าไปก็เข้าไปสิ ถึงแม้คุณไม่อยู่บ้าน มาพักที่โรงแรม ฉันว่าฉันก็ไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย”หลินซินเหยียนสองมือผายออก นี่ไม่ใช่ถิ่นของเธอ เธอไม่มีสิทธิ์พูด
ไป๋ยิ่นหนิงกะพริบตา คิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดี
“ทำไมผมคิดไม่ถึงนะ?”ไป๋ยิ่นหนิงเกาคิ้ว“ผมตัดสินใจแล้ว วันนี้จะพักผ่อนที่โรงแรม”
หลินซินเหยียน“……”
คนนี้ประสาทหรือเปล่า มีบ้านแต่ไม่กลับไปพักโรงแรม?
ไป๋ยิ่นหนิงไม่อธิบาย เขาจงใจทำให้จงจิ่งห้าวไม่มีความสุข ใครให้จงจิ่งห้าววางสายเขาตอนเช้า แล้วยังบอกว่าเขาคือ 10086ล่ะ
จงจิ่งห้าวยิ่งไม่สะดุดตาเขามากขึ้น ไม่ชอบที่เขาเข้าใกล้หลินซินเหยียน งั้น เขาจึงทำแบบนี้
ทำให้เขาหนักใจหน่อยก็ดี
เรื่องของคนอื่น หลินซินเหยียนไม่ตัดสินด้วย
“ฉันเข้าไปก่อน”
“โอเค”
หลินซินเหยียนเดินไปก่อน กลับไปที่ห้องอาหารของโรงแรม คนก็แยกย้ายกันแล้ว เธอเลยได้แต่ขึ้นไปข้างบน ในลิฟต์มีบอดี้การ์ดเฝ้าอยู่ ชั้นนี้ไม่มีใครขึ้นมาได้มั่วๆ พอเกิดเรื่องตุ๊กตา แม้แต่พนักงานเสิร์ฟที่รู้จักก็ไม่ให้ขึ้นมา พอเห็นหลินซินเหยียน บอดี้การ์ดก็พยักหน้าอย่างเคารพ หลินซินเหยียนไม่ใช่คนที่ชอบเต๊ะท่า ยิ้มให้พวกเขา
ชั้นนี้ไม่มีคนนอก ห้องของฉินยาไม่ได้ปิด หลินซินเหยียนเห็นฉินยาพาหลินลุ่ยซีวาดรูปในห้อง เด็กสาวยากมากที่จะเงียบขนาดนี้ เธอไม่ได้เข้าไปรบกวน หลินซีเฉินนอนลงบนเตียงแก้คำถามยากๆของเขา ไม่ต้องให้คนอื่นเป็นห่วงเขาเลย
ฉินยาพบหลินซินเหยียนที่ยืนอยู่หน้าประตู จึงแตะไหล่เล็กๆของหลินลุ่ยซี“น้าจะไปเทน้ำ หนูวาดรูปไปก่อนนะ”
“อือ”หลินลุ่ยซีไม่เงยขึ้นแม้ตแหน้า ตอนนี้กำลังสนใจอยู่
ฉินยาเดินไปหน้าประตู“กลับมาแล้ว?”
หลินซินเหยียนพยักหน้า“คนไปไหนกันหมดแล้ว?”
“ในห้องของพี่เสิ่นบอกว่า รอคุณกลับมา เรียกคุณให้ไป”
หลินซินเหยียนพยักหน้าแล้วหัวเราะ“รบกวนคุณดูแลเสี่ยวลุ่ยแทนฉันด้วย”
“พวกเราเป็นอะไรกัน อย่ามาเกรงใจกับฉัน”ฉินยาปิดประตูหัวเราะ“คุณไปเถอะ”
“อือ”
หลินซินเหยียนหันกลับเดินไปหน้าประตูห้องของเสิ่นเผยซวน ยกมือขึ้นเคาะประตู แป๊บเดียวประตูก็เปิดออกมาจากด้านใน เป็นซูจ้านที่เปิดประตู ครั้งนี้ไม่ได้ช่างพูดแล้ว แต่ทักทายเธออย่างจริงจังมาก“พี่สะใภ้”
หลินซินเหยียนกลับไม่ค่อยชินกับความจริงจังของเขา
นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำให้เขาคนที่ตอนไม่ทำงาน จะตามใจตัวเอง แล้วจู่ๆก็จริงจังขึ้นมา?
ซูจ้านไม่พูดอะไร แต่หันข้างให้เธอเข้ามา
หลินซินเหยียนเดินเข้ามา ในห้อง ผ้าม่านรูดไว้อยู่ มีแสงอาทิตย์ส่องเข้ามา สว่างมาก จงจิ่งห้าวนั่งอยู่บนโซฟา ร่างผอมบางทำท่าเอนพิงไปที่โซฟา ไม่พูดอะไร เสิ่นเผยซวนยืนอยู่ตรงหน้าต่าง
บรรยากาศอึมครึมหน่อยๆ
หลินซินเหยียนเดินเข้ามา นั่งข้างกายจงจิ่งห้าว ถามไปก่อนว่า“ทุกคนเป็นอะไรไป?จริงจังกันขนาดนี้?”
จงจิ่งห้าวค่อยๆหันหน้ามา มองเธอ เอาแต่มอง ยังคงไม่พูดอะไร
หลินซินเหยียนคล้องเขาของเขาก่อน เธอไม่ชอบท่าทางที่จงจิ่งห้าวเงียบ มักจะรู้สึกว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
สักพักหนึ่ง จงจิ่งห้าวจึงเริ่มพูดอย่างนิ่งๆ“ออกไปกินอะไรมา?”
หลินซินเหยียนหายใจอึดอัด นี่กำลังโกรธที่เธอไปกินข้าวกับไป๋ยิ่นหนิงเหรอ?
คนนี้นี่ ไม่ได้ใจแคบธรรมดาจริงๆ ก็แค่กินข้าวมือหนึ่งไหม?
ในใจคิดถึงตรงนี้ กลับไม่กล้าพูดออกมาจริงๆ
“ก็ซาลาเปา โจ๊ก”หลินซินเหยียนไม่กล้าพูดมาก
ยิ่งไม่กล้าเอาที่ไป๋ยิ่นหนิงแนะนำเล่าให้เขาฟัง
ฟังแล้วก็น่าจะโกรธอีก
เพื่อหลีกเลี่ยงจงจิ่งห้าวไม่ปล่อยเรื่องที่เธอกินข้าวกับไป๋ยิ่นหนิง เธอจึงเอาเรื่องที่ทำไมไป๋ยิ่นหนิงถึงมาหาเธอเล่าให้เขาฟัง“เขาจงใจเรียกฉันออกไป ที่จริงอยากพูดกับฉันเรื่องของเหยาชิงชิง เขาเชื่อมั่นในเหยาชิงชิงมาก ไม่เชื่อว่าเธอคือคนที่แกล้ง”
ฟังจบ จงจิ่งห้าวก็หัวเราะอย่างเย็นชา
หลินซินเหยียนไม่เคยเห็นเขาหัวเราะเย็นชาอย่างเยาะเย้ยแบบนี้ ในใจก็เต้นตึกตัก
“ไม่แน่ว่าจะใช่การล้อเล่น”เสิ่นเผยซวนที่ยืนตัวตรงอยู่ที่หน้าต่าง พูดออกไป
หลินซินเหยียนเงยหน้ามองเขา“คุณหมายความว่าไง?”
ไม่ใช่การล้อเล่นแล้วเป็นอะไร?
เสิ่นเผยซวนมองมา“ผมหมายถึง ตุ๊กตาแบบนั้น น่าจะเป็นของจริง”
หลินซินเหยียนยังไม่เข้าใจ
“คนที่ไปสืบที่บ้านเหยาชิงชิงกลับมาแล้ว”เสิ่นเผยซวนพูดเสียงหม่นลง“ตอนเธอ 16 ปี เคยตั้งท้อง ทารกนั้นก็คลอดออกมา ต่อมาเสียชีวิต และก็อนาถมากด้วย โอนลงไปในบ่อน้ำทั้งที่มีชีวิตอยู่”
ดังนั้นเธอจึงคิดใช้เรื่องที่ทำให้คนขนหัวลุก มาข่มขู่หลินซินเหยียน
ไม่รู้ว่าเพราะตัวเองก็เป็นแม่คนหนึ่งหรือเปล่า หลินซินเหยียนถึงได้รู้สึกเจ็บปวด ใครกันจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ จบชีวิตเป็นๆของคนๆหนึ่งได้?
เธอกุมหน้าอกไว้ ลมหายใจนั้น ติดขัดอยู่ที่คอ
จงจิ่งห้าวยานมือไปโอบเธอ“เป็นอะไรไป?”
หลินซินเหยียนส่ายหน้า ทันใดนั้นปากก็แห้งขึ้นมา คันคอมาก เธอจึงไอขึ้นมา หลินซินเหยียนผลักเขาออก วิ่งเข้าไปอาเจียนแห้งที่ห้องน้ำ
น่าจะเกิดจากการไอขึ้นมา
จงจิ่งห้าวตามเข้ามาตบหลังของเธอ ปวดใจสุดๆ นี่เป็นอะไรไป หรือว่ากินของเสียไป?
“ซูจ้าน เทน้ำมาแก้วหนึ่งหน่อย”
จงจิ่งห้าวพูดเสียงดุ ไป๋ยิ่นหนิงพาเธอออกไปกินอะไร ถึงทำให้เธอกลายเป็นแบบนี้?
ซูจ้านเทน้ำเข้ามา ยื่นให้เธอ
จงจิ่งห้าวรับน้ำมา ปิดประตูห้องน้ำไว้ ถามเธอว่า“ดีขึ้นยัง”
หลินซินเหยียนฟุบไปที่อ่างล้างมือไม่ขยับ ผ่านไปสักพักไม่รู้สึกอยากอาเจียนจึงเงยหน้าขึ้น จงจิ่งห้าวเอาน้ำยื่นให้เธอ“บ้วนปากหน่อย”
หลินซินเหยียนรับน้ำไปแก้วหนึ่ง กรอกใส่ปาก ล้างปากแล้วบ้วนออกมา รู้สึกสบายขึ้นเยอะ
จงจิ่งห้าวยื่นมือไป เช็ดน้ำที่มุมปากของเธอ ตอนที่ปลายนิ้วกดลงมา หลินซินเหยียนก็ตัวแข็งเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองเขา ท่าทางอ่อนโยน และระมัดระวัง จู่ๆในใจก็รู้สึกพลุ่งพล่าน ความรู้สึกที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่อาจบรรยายได้
เธอโอบกอดเขาไว้ เอาหัวซุกไปที่อ้อมแขนของเขา“เมื่อกี๊ฉันเสียใจมาก เพราะฉันคือแม่ ฉันจินตนาการได้ว่า ถ้าลูกของฉัน ……ฉันจะเจ็บแค่ไหน กลัวแค่ไหน ฉันก็เคยประสบทุกข์ ตอนนั้นมีคนโน้มน้าวให้ฉันยอมแพ้ ฉันคิดว่า พวกเขามาเกิดในท้องของฉันได้ เป็นโชคชะตาของพวกเรา ฉันจะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร ฉันโชคดี ถึงแม้ว่าตอนที่พวกเขาคลอดออกมา ตัวไม่ใหญ่มาก แม้กระทั่งฃเสี่ยวลุ่ยก็แค่สองโลกว่า ตัวเล็กขนาดนั้น ฉันไม่กล้าแตะต้องเลย กลัว แค่แตะต้องจะทำให้แย่ ดูอ่อนแอมาก แต่ว่า พวกเขาต่างเติบโตมาอย่างแข็งแรง ฉันคิดว่า ที่จริงฉันเจอความสุขแล้ว”
ความรู้สึกของคนนั้นตรงไปตรงมาเสมอ เจ็บปวด มีความสุข และจะเกิดความรู้สึกหลากหลายปะปนกันไป เพราะคนที่คุณแคร์
เช่นจงจิ่งห้าวในตอนนี้ เขามีความรู้สึกที่หลากหลาย ในขณะที่สงสารหลินซินเหยียน ก็รู้สึกโชคดีไปด้วย
โชคดีที่คืนนั้นเป็นเขา โชคดี ที่เธอไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเอง คลอดลูกทั้งสองของเขามา
เขาขอบคุณผู้หญิงคนนี้ ที่เข้ามาในโลกของเขา ให้โลกที่หมองหม่นของเขามีสีสันขึ้นมา
เขาไม่เคยคิดเลยว่า ตัวเองจะมีวันหนึ่ง ที่เปลี่ยนไปเหมือนไม่ใช่ตัวเองเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
ตอนนี้ ก็ใช่
เขาอยากกอดเธอ จูบเธอ ชดเชยให้เธอ เอาของสวยงามทุกอย่างบนโลกใบนี้ให้เธอ
แล้วก็เอาตัวเองให้เธอด้วย
เขาก้มหน้าลงจูบเส้นผมของเธอ ……