เสิ่นเผยซวยหุบเสียงทันเวลา แต่ว่าฉินยาที่เข้ามาก็ได้ยินแล้ว เธอมองดูในห้องก็ไม่มีคนอื่น ถามว่า “เมื่อกี้คุณกำลังคุยกับใคร”
“ผม ผมพูดงั้นหรอ?” เสิ่นเผยซวนตั้งใจทำเป็นนิ่งเฉย
ฉินยาพยักหน้าอย่างมั่นใจมาก “คุณพูดนะ พูดว่ากินอะไร คุณหิวหรอ?”
“เปล่า คุณฟังผิดแล้ว” เสิ่นเผยซวนลูบจมูกปฏิเสธ ฉินยารู้สึกแปลกใจ เธอไม่ได้หูเพี้ยน เสิ่นเผยซวนพูดอยู่จริงๆ
เธอก้มหน้ามองซูจ้านที่อยู่บนเตียง เขายังคงสลบอยู่
“คุณทำไมกลับมาแล้วล่ะ?กินข้าวเสร็จไวขนาดนี้เชียว?” เสิ่นเผยซวนก้มหน้ามองดูเวลาแวบหนึ่ง สิบกว่านาทีเท่านั้นเอง เห็นได้ชัดว่าไม่พอเวลากินข้าว
ฉินยาที่จริงไปถึงร้านอาหารแล้ว เพียงแค่ลืมหยิบมือถือกับกระเป๋าสตางค์ไป เลยกลับมาเอาของ ท่านย่ายังอยู่ที่นั่น ไม่ยอมกินอะไร เธอต้องกลับไปพูดโน้มน้าวสักหน่อย
“เปล่า” ฉินยาหยิบมือถือกับกระเป๋าสตางค์บนโต๊ะขึ้นมาให้เขาดู “ฉันไปถึงร้านอาหารแล้วถึงพบว่าไม่มีเงินจ่าย”
เสิ่นเผยซวนเข้าใจ “ถ้างั้นคุณรีบไปเถอะ ที่นี่ผมดูอยู่”
ฉินยาพยักหน้า ในใจยังคงสงสัย เหล่มองไปบนเตียงแวบหนึ่ง ซูจ้านไม่มีร่องรอยของการฟื้นขึ้นมาแม้แต่น้อย เธอไม่เข้าใจ เมื่อกี้เสิ่นเผยซวนพูดอยู่ชัดๆ
“พี่เสิ่น คุณจะกินอะไรหน่อยมั้ย? ฉันซื้อกลับมาให้?” ฉินยาพูด
เสิ่นเผยซวนพูด “ไม่ต้องจริงๆ ที่บ้านผมมีคนอยู่”
ฉินยายิ้ม “ลืมไปเลย พี่เสิ่นตอนนี้เป็นคนมีครอบครัวแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ ตอนนี้เลยอวยพรช้าไปหน่อย พี่เสิ่นสุขสันต์แต่งงานนะ”
เสิ่นเผยซวนพูด “ขอบคุณ”
ฉินยาพูดครั้งสุดท้าย คุณไม่กินจริงๆ งั้นฉันไปล่ะ เสิ่นเผยซวนตอบว่าไม่กิน หลังจากที่ฉินยาเดินไปแล้ว เสิ่นเผยซวนก็ถอนหายใจยาวออกมา
ครั้งนี้มองฉินยาเดินไปไกลแล้ว เขาถึงสะกิดซูจ้านเล็กน้อย “เธอไปแล้ว เมื่อกี้เธอดูสงสัยใช่มั้ย?”
ซูจ้านลืมตาขึ้น “นายเป็นอะไร? แม้แต่ผู้หญิงคนเดียวก็หลอกไม่ได้?”
เสิ่นเผยซวน “……”
ทำไมถึงขึ้นอยู่กับเขาล่ะ?
“ซูจ้าน นายนี่มัน จิตใจถูกสุนัขกินไปหมดแล้วรึไง? เชื่อไม่เชื่อว่าตอนนี้ฉันจะไปบอกท่านย่ากับฉินยาว่านายแกล้งน่ะ? ให้นายตายอยู่ที่นี่ไม่มีคนสนใจ?”
“เฮ้ยๆ ฉันใจร้อนน่ะ” ซูจ้านรีบยอมทันที กลัวจริงๆว่าเสิ่นเผยซวนจะเผยความลับเขาออกไป ถึงตอนนั้นเขาก็ไม่มีทางย้อนกลับได้แล้วจริงๆ
เสิ่นเผยซวยส่งเสียงหึ นั่งลงบนเก้าอี้ พูดว่า “นายก็เพลาๆลงหน่อย หลอกไปนานๆ ถูกรู้เข้า นายเองก็จะจบไม่สวย ทางที่ดีที่สุดได้อะไรก็เอาไว้ก่อน”
ซูจ้านพูด “ฉันรู้ ฉันจะทำตามสถานการณ์ เทน้ำให้ฉันสักแก้วได้มั้ย? ฉันหิวน้ำ”
เสิ่นเผยซวนลุกขึ้นไปเทน้ำให้เขา แล้วถามว่า “นายอยากกินอะไรหน่อยมั้ย?”
ซูจ้านพูด “ไม่หิว”
เสิ่นเผยซวนพยักหน้า พยุงเขาลุกขึ้น ยื่นน้ำให้เขา
ซูจ้านส่ายหน้า “มือขยับไม่ได้ ไม่ป้อนฉันหรอ”
เสิ่นเผยซวน “……”
“อย่ามาแกล้ง”
“จริงๆ” ซูจ้านไม่ใช่ขยับไม่ได้ แต่ไม่อยากขยับ ปวดไปทั้งร่างกาย
เสิ่นเผยซวนยื่นเข้าไปใกล้ปากเขา “ให้นายสำลักตายไปเลย”
ซูจ้านเงยหัวมองเขา “นายนี่นะ จิตใจทำไมโหดร้ายขนาดนี้? ฉันตายไป มีผลดีต่อนายตรงไหน?”
“ฉันใจสงบ” เสิ่นเผยซวนส่งเสียงเหอะ “นายรีบดื่มซะ ดื่มเสร็จแล้วนอนลงไป จะได้ไม่ถูกเห็นเข้า”
“ไม่หรอก เวลานี้ไม่มีคนมา”
เสิ่นเผยซวนจงใจปล่อยมือออกอย่างแรง แผ่นหลังไม่มีอะไรค้ำ ซูจ้านเอนล้มกลับไป โดนบาดแผลบนร่างกาย เจ็บจนแยกเขี้ยวออกมา “เสิ่นเผยซวนพ่อนายสิ นายอยากให้ฉันล้มกระแทกตายรึไง?”
เสิ่นเผยซวนวางแก้วน้ำลง “ฉันก็คิดอย่างนั้น”
“นายไป รีบๆไปเลย” ซูจ้านท่าทางเจ็บมาก
เสิ่นเผยซวนยิ้ม “เจ็บจริง?”
ซูจ้านจ้องเขา “นายว่าไงล่ะ?”
เสิ่นเผยซวนเผยรอยยิ้มออกมา “นายเจ็บจริงๆ ฉันก็วางใจแล้ว”
ซูจ้าน “……”
เขา เขาเป็นตัวอะไร?
ยังเป็นพี่น้องกันอยู่หรือไม่?
จิตใจถูกสุนัขกินไปแล้ว?
ใจร้ายขนาดนี้?
เสิ่นเผยซวนพูดอย่างใจเย็น “นายรังแกฉินยาและท่านย่า ฉันก็ควรเอาคืนแทนพวกเธอหน่อยไม่ใช่หรือไง?”
ซูจ้าน “……”
“นาย นาย ตกลงว่านายอยู่ข้างใคร?”
“ฉันอยู่ข้างผู้อ่อนแอ”
ซูจ้าน “……”
“ฉันไม่ใช่ผู้อ่อนแอหรือไง?”
เสิ่นเผยซวนหัวเราะเหอๆ “นายเป็นผู้อ่อนแอ? นายแน่ใจ นายไม่ใช่ตัวต้นเรื่องหรือไง?”
ซูจ้าน “……”
หมดคำจะพูด
เสิ่นเผยซวนไม่คุยเล่นกับเขาแล้ว ให้เขาพักผ่อนดีๆ
เขานั่งอยู่อีกด้านเงียบๆ ไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นซางหยู บอกว่าจะเอาของกินเข้ามา
ถามเขาว่าอยู่ห้องผู้ป่วยอะไร
เสิ่นเผยซวนบอกเลขห้องไป
“ใครจะมาหรอ?” ซูจ้านถาม
“ซางหยู” เสิ่นเผยซวนตอบ
“อ้อ เธอนี่เอง” ซูจ้านนึกว่าเป็นฉินยากับท่านย่ากลับมาแล้ว
เสิ่นเผยซวนนั่งไขว่ห้าง มองเขานิ่งๆ “เธอคือใครเอ่ย?”
ซูจ้านกะพริบตา “เธอก็คือซางหยู ภรรยาของนายไง”
“มีอะไรอีก?” เสิ่นเผยซวนสีหน้าจริงจังทันที
ซูจ้านจะดูออกว่าเขาไม่ค่อยดีใจได้ยังไงล่ะ?
วอร์มเสียงนิดหนึ่ง “ฉันพูดผิดหรอ? หรือว่าไม่ใช่ภรรยานาย?”
“แกล้ง แกล้งต่อไป” เสิ่นเผยซวนพูดอย่างเฉยเมย “อีกสักพักฉันจะบอกฉินยา ว่าควรจะเรียกยังไง”
ซูจ้าน “……”
ข่มขู่ กดดันข่มขู่ชัดๆ
เขายังเป็นคนอยู่มั้ย?
เขาได้รับบาดเจ็บ ยังจะรังแกเขาอีก?
ครั้งหน้าเขามีโอกาสขับตอนเมาอีกนะ จะเอาเขานั่งรถไปด้วย ให้เขาได้ลิ้มรสชาติการได้รับบาดเจ็บดูบ้าง เหอะ!
เวลานี้ประตูห้องถูกผลักออกเบาๆ ซางหยูถือปิ่นโตเข้ามา