หลินซินเหยียนก้มหน้าพลางมองค้อนเขา
จงจิ่งห้าวกลับทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย
พอพวกเขาเดินออกมาจากในห้อง ก็เห็นพวกคนที่ไปดูเด็กกลับมาพอดี
” ยินดีด้วยยินดีด้วย มีสมาชิกใหม่สักที ” เสิ่นเผยซวนกับซูจ้านพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน พูดจบต่างคนต่างมองหน้ากันจากนั้นก็ทำเสียงชิชะแล้วผลักกันไปมา
อาการบาดเจ็บของซูจ้านดีขึ้นมาพอสมควรแล้ว ผ้า พันแผลบนหัวก็ถอดออกมาแล้ว แต่ไม่มีเคล้าขอทรงผมเดิมที่ดูดีเหมือนเมื่อก่อน
แต่ไม่ได้ทำให้หน้าตาเขาดูหล่อน้อยลงเลย
ซางหยูกับฉินยาก็เดินมาอยู่ใกล้ๆ หลินซินเหยียน ฉินยาเดินเข้าไปรับหลินซินเหยียนมาจากมือของหลินซินเหยียน ” ให้พวกเราพยุงพี่เถอะค่ะ ”
จงจิ่งห้าวพูดต่อ ” พวกเธอก็ระวังหน่อย ”
ฉินยาจุ๊ปากสองที ในใจทำเป็นอวดเก่ง แต่เธอก็มีนิสัยอวดเก่งมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีลูกชายออกมาทั้งคนไม่น่าดีใจหรือไง?
ตอนนี้ต้องระมัดระวังคนสำคัญสุดๆ ของเขามันก็เป็นเรื่องที่ควรอยู่แล้ว
หลินซินเหยียนมองซางหยูแล้วก็มองฉินยา รู้สึกเหมือนกับว่าสีหน้าของฉินยาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หน้าซางหยูจะออกขาวๆ แล้วก็ดูเหมือนจะดูอวบกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย
เธอจับมือของฉินยาแล้วนั่งลงบนโซฟา เพราะว่าบริเวณท้องยังคงปวดอยู่ เธอค่อยๆ ทิ้งตัวลงไปข้างหลัง
” มีอะไรในใจหรือเปล่า ” หลินซินเหยียนถามเธอ
ฉินยาหลบตา ” ไม่มีนี่คะ ”
แต่ความเป็นจริงแล้วหลายวันมานี้เธออยู่ด้วยความอึดอัด และไม่มีความสุข
พอซูจ้านหายแล้ว ท่านย่าก็เริ่มให้เธอกับซูจ้านไปโรงพยาบาล แล้วก็ไปตรวจร่างกาย
ผลตรวจออกมาคือ คุณภาพของไข่เธอไม่ค่อยดีนัก จำเป็นต้องฉีดยาและกินยาบำรุงร่างกาย ทุกวันฉีดหกเข็ม นี่ก็เพิ่งจะฉีดได้แค่สามวัน ทั้งที่เอวและที่มือ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสิบกว่าเข็มแล้วเห็นจะได้
ดูเหมือนว่าต่อไปก็อาจจะทุกข์ทรมานกว่านี้ ทั้งร่างกายและจิตใจของเธอพยายามเอาชนะมันอย่างสุดความสามารถ
” ตกลงยังไง ทะเลาะกับซูจ้านอีกแล้วเหรอ ” ซางหยูมองเธอ
ฉินยาไม่ได้พูดอะไร ซูจ้านก็พูดแทรกขึ้นมา ” นี่เธอแช่งพวกเราเหรอ? เธอกับเสิ่นเผยซวนต่างหากที่ต้องทะเลาะกันน่ะ ”
ซางหยูปะทะคารมใส่เขา ” ไม่ได้ทะเลาะก็ไม่ได้ทะเลาะสิ จะโกรธทำไม หรือใครเหยียบหางนายหรือยังไง? ”
” เธออยู่กับเสิ่นเผยซวน เรื่องดีๆ ไม่เรียนรู้ ทีเรื่องด่ากราดคนอื่นดันพัฒนาเสียไม่น้อยเลยนะ ”
” ตอนเผยซวนอยู่กับนาย นายก็คงเอาแต่รังแกคนอื่นเขาน่ะสิ ”
” เฮ้ย ไอ้เจ้าเด็กคนนี้….. ”
” เรียกอะไรน่ะ? ” เสิ่นเผยซวนที่อยู่ใกล้ๆ ซูจ้าน ก็ใช้แขนกระทุ้งเขาหนึ่งที รอยแผลบนตัวซูจ้านก็ยังไม่ได้หายดีทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรแล้ว เขาจึงแสร้งว่าทำเป็นเจ็บมาก ” เสิ่นเผยซวน นายอยากให้ฉันเข้าโรงพยาบาลอีกใช่ไหมล่ะ? ”
เสิ่นเผยซวนมองเขา ” นายอย่ามาพาลฉันหน่อยเลย นายหายหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? ”
” ใครบอกว่าฉันหายหมดแล้ว? ฉันไม่สน นายต้องชดใช้ ”
” จะใช้ยังไงล่ะ? ” เสิ่นเผยซวนก็พูดส่วนเขาไป แล้วก็มองเขาที่กำลังเสแสร้งอยู่
ซูจ้านตอบโดยไม่คิด ” ฉันอยากได้ซองแดงซองใหญ่ๆ จัง ”
” นายฝันไปเถอะ! ” เสิ่นเผยซวนโอบตัวเขา แล้วพูดข้างหู ” รอหน่อยได้ลูก แล้วฉันจะให้ซองใหญ่เลย ”
แถมเขายังวาดไม้วาดมือเป็นรูปถุงเงินอันใหญ่อีกต่างหาก
ซูจ้าน ” …… ”
นี่มันแทงเข้าใจเขาเต็มๆ เลยนะเนี่ย
เป็นเพราะเรื่องลูก ท่านย่าก็พยายามรีบเร่ง ฉินยาก็พลอยทุกข์ร้อนไปด้วย
เขาเป็นคนกลางไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ลำบากใจเช่นเดียวกัน
ฉินยาพูด ” ฉันเหนื่อยแล้ว เสี่ยวยาเธอพยุงฉันเข้าห้องหน่อย ”
ฉินยาตอบตกลง
เธอดูออกว่าฉินยาต้องมีเรื่องในใจแน่นอน
ฉินยาก็พยุงเธอเข้าห้องไป
หลินซินเหยียนพูดต่อว่า ” ปิดประตูสิ ”
ฉินยาได้ยินแล้วก็ปิดประตู จากนั้นก็พยุงเธอไปนั่งบนเตียง หลินซินเหยียนก็บอกให้เธอนั่งลง ” ฉันดูออกนะว่าเธอมีเรื่องอะไรในใจ บอกฉันหน่อยก็ไม่ได้เหรอ? ”
ฉินยาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ” ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากบอกพี่นะคะ แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะ…. ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว
” ช่วงนี้ฉันกำลังบำรุงร่างกาย เพราะว่ารังไข่ของฉันคุณภาพไม่ดี ต้องกินทั้งยาและฉีดยาติดต่อกันหลังจากหนึ่งเดือนนี้ก็ไปตรวจใหม่ ฉันกดดันมากยังไม่ทันได้เริ่มฉันก็เดินหน้าไม่ไหวแล้ว ฉันอยากถอดใจ… ”
ฉินยาเบือนหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง ในใจเธอสับสนเป็นอย่างมาก แล้วรู้สึกหลงทางไม่รู้จะทำยังไงดี
ตั้งแต่แต่งงานกับซูจ้านอีกครั้ง ใจดวงนั้นของเธอมักจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่
หลินซินเหยียนจับมือเธอเอาไว้ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธอยังไงดี
” ต้องหาคนหรือเปล่า? ” เธอไม่มีมดลูก คงตั้งครรภ์ไม่ได้หรอก
ฉินยาพยักหน้า ” ตอนนี้หาคนเอาไว้แล้วค่ะ ”
หลินซินเหยียนตะลึง ” เร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ”
ฉินยาพยักหน้าอย่างจำใจ ” ท่านย่าพยายามเร่งน่ะ ” เธอเลิกคิ้วแล้วมองไปที่หลินซินเหยียน ” พี่รู้ไหม? ว่าหล่อนไม่รู้ไปเอาตัวยาสมุนไพรมาจากไหน เห็นบอกว่าบำรุงร่างกายแล้วดี ตอนนี้ตุ๋นให้ฉันกินทุกวัน พวกนี้ฉันก็ยังพอรับได้ แต่ที่ทนไม่ได้ก็คือ ตัวยาที่เอาไปตุ๋น….. ”
หลินซินเหยียนเห็นว่าสีหน้าของเธอขาวซีด จึงเอื้อมมือไปกุมมือเธอไว้ คำพูดที่ว่าอยากให้เธอถอดใจนั้นติดอยู่ใต้ลิ้น ไม่ได้กล้าพูดออกมา
ท่านย่าคนนั้นก็ไม่ได้เป็นคนเดียวร้ายอะไร หล่อนคงจะมีความคิดที่ไปในเชิงหัวโบราณกับผลประโยชน์ที่หล่อนจะได้รับ เรื่องอื่นก็คงไม่ต้องพูดถึง
หากเธอบอกให้ฉินยาถอดใจ หลังจากนี้เธอจะมีหน้าไปยืมในตระกูลซูได้ยังไงล่ะ?
ดวงตาของเธอเปียกชุ่ม ” ฉันไม่ควรช่วยซูจ้านเลย ให้เธอคืนดีกับเขา ซูจ้านก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดีอะไร พอผ่านเรื่องนั้นมาแล้วก็โตขึ้นมาก แต่พอเขาจำต้องเผชิญหน้ากับย่าที่เลี้ยงดูเขามา เขาคงไม่กล้าดื้อรั้นกับท่าน ฉันก็เข้าใจนะ แต่มันก็ไม่ยุติธรรมกับเธอเท่าไหร่ ตอนนั้นเป็นเพราะฉันที่คิดรอบคอบเอง ”
” มันเกี่ยวกับพี่ที่ไหนล่ะคะ อย่าโทษตัวเองเลย ” ฉินยาดูว่าทั้งหมดเป็นเพราะเธอนั้นใจอ่อน ถ้าเธอทำใจแข็งมากกว่านี้ใครก็คงทำให้เธอโอนอ่อนไม่ได้
หลินซินเหยียนยกมือขึ้นอังไปที่แก้มเหลืองซีดของเธอ แล้วพูดออกมาด้วยความปวดใจ ” ต่อจากนี้จะทำยังไงล่ะ? ”
ฉินยาพูด ” หวังว่ามันจะราบรื่นค่ะ ”
หลินซินเหยียนพยักหน้า บางทีหากเธอผ่านด่านนี้ไปได้ คงจะเป็นเรื่องต้นร้ายปลายดี เรื่องได้ร้ายมากกว่านี้ก็เคยผ่านมาแล้ว นี่คงเป็นด่านสุดท้ายแล้วล่ะ
” ต้องการอะไรก็บอกได้นะ ” หลินซินเหยียนอยากทำอะไรบางอย่างเพื่อเธอบ้าง แต่ก็พบว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
” ครั้งนี้พี่ก็เจ็บมากแล้ว พี่ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก บำรุงร่างกายตัวเองให้ดีเถอะ “ฉินยาทำทีไม่รู้สึกรู้สาอะไร
หลินซินเหยียนก็ยังไม่วางใจเธอเสียทีเดียว จึงถามขึ้นมาว่า ” คนที่หาเจอแล้วเป็นใครเหรอ? ”
เพราะเธอกลัวว่าในอนาคต จะเกิดเรื่องผิดพลาดกับเด็ก ก็เลยบอกว่าเวลาเลือกคนก็ต้องรอบคอบให้มากๆ