หัวใจของหลินซินเหยียนกระตุก หรือว่าเขาจะเอาเอกสารหย่ามาจริงๆ เสียงของเธอเคร่งขรึมมาก “นี่อะไรคะ?”
ซูจ้านเดินไปที่เบาะหลังของรถแล้วหยิบกล่องเก็บของออกมา “ทุกอย่างในนี้เป็นของของฉินยาครับ”
หลินซินเหยียนมองไปที่กล่องในมือ แต่ไม่ได้รับมันมา แต่มองมาที่เขานิ่ง “นี่คือ…”
“ไม่ว่าเธออยากจะอยู่ที่นี่ต่อหรือกลับไปที่เมือง C ก็ยังดีกว่าอยู่เคียงข้างผม ถ้าเธอต้องการ…ต้องการจะหย่าจริงๆ ผมก็จะตามใจเธอ” ซูจ้านหลับตาลง ความรู้สึกของเขาถูกปิดบังไว้ภายใต้ดวงตา “รบกวนคุณแล้วครับ”
หลินซินเหยียนเอ่ยพูด “เอาเถอะ พวกคุณควรจะสงบสติอารมณ์และคิดให้ชัดเจน เรื่องของคุณย่าเป็นปัญหาจริงๆ ถ้าคุณไม่จัดการให้ดี คุณกับฉินยาคงไม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย”
“ผมเข้าใจครับ แต่ท่านคือคนที่เลี้ยงดูผมมาจนโต ผมจะไม่สนใจก็ไม่ได้ ฉินยา…ผมติดค้างบุญคุณกับเธอมากจริงๆ …” คงจะชดใช้ให้เธอไม่ได้แล้ว
หลินซินเหยียนรู้ว่าซูจ้านเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน ดังนั้นเธอจึงไม่พูดอะไรมาก รับกล่องใส่ของมา แล้วหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน
เธอผลักประตูห้องของฉินยาเข้าไป แล้วเห็นฉินยานั่งอยู่คนเดียวบนระเบียง แผ่นหลังของเธอดูโดดเดี่ยวราวกับว่าเธอถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังในโลกนี้
หลินซินเหยียนเดินเข้าไปข้างในช้าๆ ฉินยาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และถึงแม้จะมีใครเข้ามา เธอก็ไม่รู้สึกตัว
“เสี่ยวยา” หลินซินเหยียนเรียกเธอเบาๆ
ฉินยาหันกลับมามองช้าๆ หลินซินเหยียนยกยิ้ม “กำลังคิดอะไรอยู่?”
“ไม่ได้คิดอะไร” ดวงตาของเธอมองไปที่กล่องในมือของหลินซินเหยียน “นี่คือ…”
“นี่เป็น……”
หลินซินเหยียนพาเธอไปนั่งบนเตียง แล้วบอกเธอว่าซูจ้านเพิ่งมาโดยไม่คิดปิดบัง “เขาบอกว่าขอแค่เธอคิด เขาจะทำตามที่เธอต้องการ”
ฉินยามองลงไป ขนตาของเธอกะพริบเล็กน้อย แล้วมองไปที่กล่องที่หลินซินเหยียนยกเข้ามา “ดังนั้นของทั้งหมดในนี้เป็นของฉันทั้งหมด มีใบหย่าไหม”
“เสี่ยวยา…”
“ฉันสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง” ฉินยาลุกขึ้นมารับกล่อง ก่อนจะวางลงแล้วเปิดออกดู ข้างในเป็นของของเธอจริงๆ โดยมีซองเอกสารอยู่ด้านบน และถูกปิดผนึกไว้อย่างแน่นหนา
ฉินยานึกว่าข้างในจะเป็นใบหย่า มือของเธอจึงชะงักไป มือของเธอสั่นเล็กน้อย ขอบตาของเธอก็แดงก่ำ ความรู้สึกปวดใจรุนแรงกว่าที่จินตนาการไว้มาก พอต้องมาเผชิญหน้าจริงๆ พวกเขา ก็ยังขาดความกล้าไปจริงๆ
แต่ไม่นานเธอก็ปรับอารมณ์ตัวเองได้ เธอเอื้อมมือไปหยิบมันออกมา แล้วเปิดผนึกที่พันรอบไว้ ก่อนจะหยิบมันออกมา
ตัวหนังสือที่เขียนบอกไว้ว่าเอกสารหย่าร้างที่คิดไว้ไม่ปรากฏในซองเอกสาร ข้างในมีเงินเก็บทั้งหมดของซูจ้านอยู่ในนั้น จะให้พูดให้ถูกก็คือทรัพย์สมบัติทั้งหมดของซูจ้าน ทั้งบัญชีเงินฝาก อสังหาริมทรัพย์และเงินทุนต่างๆ
ฉินยาขมวดคิ้วเล็กน้อย นี่มันอะไรกัน?
หลินซินเหยียนเดินออกจากห้องอย่างเงียบ ๆ และช่วยเธอปิดประตูด้วย
ภายในห้อง ฉินยาหยิบของทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋าเอกสารออกมา ทั้งโฉนดที่ดิน บัตรเครดิตธนาคาร และเอกสารกองทุนที่ซื้อไว้
ติ๊งต๊อง—
โทรศัพท์มือถือของฉินยาที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมีเสียงข้อความเข้าดังขึ้นมา เธอยืนขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มีชื่อซูจ้านปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ เธอคลิกเปิดข้อความ
[เสี่ยวยา ผมเอาเงินทั้งหมดของผมฝากไว้ในบัตรเอทีเอ็มนี้แล้ว รหัสผ่านคือวันที่เราไปจดทะเบียนสมรสกัน มีบางส่วนยังใช้ไม่ได้ชั่วคราว แต่ถ้าถึงเวลาที่สมควรคุณสามารถเอาออกมาใช้ได้ ทั้งหมดนี้เป็นทรัพย์สินทั้งหมดของผม ผมมอบมันให้กับคุณ ผมติดหนี้บุญคุณคุณมากเหลือเกิน ที่ผมสามารถให้คุณได้ก็มีแต่สิ่งของภายนอกพวกนี้เท่านั้น ผมหวังว่าคุณจะอยู่ได้โดยสุขสบาย ผมให้เวลาคุณได้คิด คุณอยากจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าคุณตัดสินใจดีแล้ว… ผมจะคืนอิสระให้กับคุณ ให้คุณได้ไปหาความสุขที่เป็นของคุณเอง
ถึงแม้ผมจะไม่เต็มใจ แต่ผมไม่สามารถให้ความสุขกับคุณได้ ผมทำได้เพียงปล่อยคุณไป จะให้คุณเหี่ยวเฉาอยู่เคียงข้างผมไปตลอดไม่ได้
ฉันจะรอคุณอยู่เสมอ]
นิ้วมือของฉินยาที่ถือโทรศัพท์ซีดขาว ก่อนที่เธอจะทรุดตัวนั่งลงบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง มองดูสิ่งที่ซูจ้านทิ้งไว้ให้เธอด้วยสายตาพร่ามัว ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา “ในโลกนี้ยังมีคนสองคน ที่ต่างฝ่ายต่างก็รักกัน ต่างฝ่ายต่างไม่อยากสูญเสียอีกฝ่ายไปแต่กลับไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเหรอ”
น้ำตาของเธอไหลออกมาโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า และไหลอาบแก้ม
เธอเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา และตอบข้อความของซูจ้าน [ฉันได้รับของที่คุณให้ฉันแล้วนะคะ และฉันก็จะรับมันไว้เช่นกัน คุณเป็นทนายความคุณร่างเอกสารในการหย่าออกมา รอฉันพักผ่อนจนดีขึ้นแล้วฉันจะไปหาคุณ]
เธอรู้ดีว่าซูจ้านคิดอะไรอยู่ ถ้าหากเขาคิดว่าเขาทำแบบนี้แล้วสบายใจขึ้น เธอก็จะรับมันไว้ เพื่อให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง
ซูจ้านที่ยืนอยู่หน้าบ้านที่เขาและฉินยาเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน แม้ว่าเวลาจะสั้น แต่ก็เป็นวันที่มีความสุขที่สุดสำหรับพวกเขา
เขามองไปที่ห้องครัว พอได้เห็นสถานที่ที่คุ้นเคย ทำให้เขาเหมือนมองเห็นภาพเหตุการณ์ในวันวานที่ตนเองกำลังยืนทำอาหารอยู่ในตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน บางครั้งฉินยาจะกัดแอปเปิลในมือยืนมองเขาทำอาหาร หรือบางครั้งเธอก็จะเอาแอปเปิลยัดเข้าไปในปากของเขา แล้วกอดเขาจากด้านหลัง โผล่หัวออกมาถามเขาว่าเขาทำของอร่อยอะไรให้เธอกิน
รอยยิ้มของฉินยาดูผ่อนคลายมาก พวกเขาอยู่ด้วยกันก็สบายใจ
เขาเดินไปต่อ ตรงระเบียงในห้องนอนยังเหมือนกับตอนที่เขาเพิ่งย้ายเข้ามา มันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยกเว้นแต่ผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังเล่นกับปลาในตู้ปลานั้นหายไปแล้ว
ร่างเพรียวที่เคยนอนอยู่บนเตียงก็หายไปเช่นกัน
ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีแต่คนที่หายไป
มันว่างเปล่าเหมือนกับหัวใจของเขา
เขาหันหลังเดินกลับไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น กำลังนึกภาพตอนที่ฉินยากำลังนั่งดูรายการทีวีอยู่ที่นี่
ภาพการใช้ชีวิตที่นี่เล่นซ้ำเหมือนการฉายภาพยนตร์ซ้ำอยู่ตรงหน้า
โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เป็นฉินยาที่ส่งข้อความมา เขาจึงรีบกดเปิดอ่าน
หลังจากอ่านข้อความของฉินยาเสร็จ เขาก็ก้มหน้าต่ำลงไปอีก
ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าเขาจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ได้ครับ”