ซางหยูอึ้งตะลึงไป เธอไม่ได้คิดถึงทางส่วนนี้เลย
พอถูกหวางทิงเสว่พูดถกขึ้นมา ในใจของเธอก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา แต่ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ เธอไปหาหมอ หมอไม่ได้ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
แถมเธอก็กินยาไปแล้วด้วย
พอคิดถึงตรงนี้ เธอก็รู้สึกใจสั่นไม่น้อย ถ้าเกิดท้องขึ้นมา เธอกินยาเข้าไปจะเป็นอะไรไหม?
ตอนนี้เธอยิ่งไม่อยากอาหารขึ้นไปอีก
จากนั้นหมี่ชามนั้นของเธอ หวางทิงเสว่บอกว่าจะให้เสียเปล่าไม่ได้ ก็เลยยกมาไว้ที่ตรงหน้าของตัวเองก่อนจะลงมือกิน
กินเสร็จแล้ว พวกเธอก็เดินออกมาจากร้าน ซางหยูจิตใจยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด หวางทิงเสว่กลับไปยังหอของมหาลัยแล้ว เธอยืนอยู่ที่ริมถนนโบกรถแท็กซี่หนึ่งคันกลับบ้าน
รถจอดที่หน้าประตูทางเข้าหมู่บ้านคอนโดที่เธออยู่ เธอกลับไม่รู้เลย คนขับจึงเตือนสติเธอ“คุณครับ มาถึงแล้ว”
ในตอนนี้ซางหยูจึงดึงสติกลับมา ล้วงเงินออกมาจากกระเป๋าตางค์จ่ายเงิน ก่อนจะลงจากรถ
เดินเข้าไปในหมู่บ้านคอนโดขึ้นลิฟต์ไป เดินมาอยู่หน้าประตู ตอนที่กำลังล้วงกุญแจออกมาเตรียมจะเปิดประตูอยู่นั้น ก็สังเกตว่าห้องไม่ได้ล็อค ก่อนจะออกไปเธอจำได้แม่นว่าตัวเองล็อคไว้แล้ว เปิดออกได้ยังไง?
เธอบิดที่จับประตู ตอนที่เห็นกระเป๋าเดินทางของเสิ่นเผยซวน ปฏิกิริยาแรกของเธอ ก็คือ เขากลับมาแล้ว?
เธอเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว ก็เห็นเสิ่นเผยซวนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง ในสายไม่รู้ว่าพูดอะไร เขาพูดตอบกลับไป“ผมทราบแล้ว พรุ่งนี้จะไปตรงเวลาเลยครับ”
ในสายพูดอะไรขึ้นมาอีก เขาตอบอื้อกลับไปหนึ่งคำ จากนั้นก็วางสายลง วางมือถือลงที่ขอบระเบียง ตากเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย เสื้อผ้าที่เขาเปลี่ยนไปตอนที่ปฏิบัติงานต่างถิ่นที่ไม่ได้ซักเลย เขากลับมา หลังจากที่เอาใส่เครื่องซักผ้าซักเสร็จแล้วก็เอามาตาก
“คุณกลับมาแล้วเหรอ?”ซางหยูยืนอยู่ข้างหลังของเขา พูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
เสิ่นเผยซวนหันหน้ามา เห็นเธอที่สองตาแดง ยืนอยู่ไม่ไกลจากตัวเอง เขาตอบอื้อกลับมาเบาๆ“เป็นอะไร?”
ซางหยูกอดเอวของเขาเอาไว้“ทำไมคุณถึงกลับมากะทันหันล่ะ?”
เขากลับมากะทันหันเกินไป ก่อนกลับมาก็ไม่ได้บอกตัวเอง แล้วก็ยังไม่ถึงวันที่กลับมาเลยด้วย
“งานทางนั้นเสร็จหมดแล้ว ก็เลยกลับมาก่อน” เสิ่นเผยซวนพูดขึ้น
“แล้วยังต้องไปอีกไหม?”หน้าของซางหยูแนบที่หน้าอกของเขา
“ไม่ไปแล้ว”เสิ่นเผยซวนตบลงที่หลังของเธอ พร้อมกับพูดถามขึ้น“คุณเป็นอะไร? ดูท่าทางเหมือนไม่มีความสุข?”
“……เปล่า ไม่ได้ไม่มีความสุข ก็แค่เพิ่งจะเริ่มฝึกงาน เลยรู้สึกไม่ค่อยชินเท่านั้น”ซางหยูไม่กล้าบอก แถมตัวเองก็ยังไม่ได้ไปที่โรงพยาบาล ไม่มั่นใจว่ากำลังท้องหรือเปล่า
เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เธอคิดว่าพรุ่งนี้จะลาไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนสักหน่อยแล้วค่อยว่ากัน
“เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”เสิ่นเผยซวนพูดปลอบ แต่พอเข้ามาในหูของซางหยูแล้วกลับไม่อบอุ่นเลยสักนิด
เธอปล่อยมืออก“ฉันเหนื่อยแล้ว อยากจะนอนพักผ่อน”
“คุณกินข้าวแล้วยัง? เดี๋ยวผมพาไปกิน”
“ฉันกินมาแล้ว”ซางหยูวางกระเป๋าลง แล้วเดินตรงไปยังห้องนอน
เสิ่นเผยซวนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นรู้สึกว่าซางหยูแปลกๆไป แต่พอคิดถึงที่เธอบอกว่าเพิ่งฝึกงานเลยรู้สึกไม่คุ้นชิน ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย
ผ่านไปสักพัก เขาก็เทน้ำหนึ่งแก้วเดินเข้าไปในห้อง ซางหยูนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เขานั่งลงที่ข้างเตียง วางแก้วน้ำไว้บนขอบหัวเตียง
พูดขึ้น“ถ้ารู้สึกเหนื่อย ก็ไม่ต้องทำแล้ว เดี๋ยวผมเลี้ยงดูคุณเอง”
ซางหยูพลิกตัวมามองเขา เสิ่นเผยซวนยื่นมือมาลูบหน้าของเธอ“ผมเห็นสีหน้าของคุณดูไม่ดี”
“คุณเคยบอกไว้ ว่ามีต้องประสบความสำเร็จแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถช่วยเหลือคนได้มากขึ้น ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันไม่รู้สึกเหนื่อย ฉันแค่……อารมณ์ไม่ดีเท่านั้น”
ซางหยูยื่นมือออกมาคว้ามือของเขาเอาไว้“คุณก้าวหน้าขึ้นแล้วนะ มองออกแล้วว่าฉันมีเรื่องทุกข์ใจอยู่”
เสิ่นเผยซวน“……”
นี่กำลังชมเขาอยู่ใช่ไหม?
“คุณมีเรื่องทุกข์ใจอะไร?”เสิ่นเผยซวนถามขึ้น
“ไม่ต้องถามแล้ว ฉันง่วง อยากนอน”ซางหยูปล่อยมือของเขา ดึงผ้าห่มขึ้นมา คลุมหน้าของตัวเอง“คุณอย่าชวนฉันคุยแล้ว ฉันจะนอนแล้วจริงๆ”
เสิ่นเผยซวนพยักหน้า ครั้งนี้ไม่ได้กวนเธอต่อ
เธอปากบอกว่าง่วง จริงๆแล้วนอนไม่หลับเลยด้วยซ้ำ ตอนที่เสิ่นเผยซวนนอนอยู่บนเตียง เธอยังคงตาสว่างอยู่
จนกระทั่งดึกมากแล้วจึงค่อยๆหลับไป
ช่วงเช้าตื่นมาแต่เช้าตรู่ ทำอาหารเช้าให้เสิ่นเผยซวน แต่เธอเองไม่ได้กิน บอกว่ารีบไปทำงานแล้วก็ออกไปทันที
เธอก็ไม่ได้ไปทำงาน แต่ลากับหัวหน้า ไปโรงพยาบาล
ต่อคิวลงทะเบียนรับบัตรคิวแล้วก็เข้าไปแผนกผู้ป่วยนอก ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว เธอนั่งอยู่ในห้องผู้ป่วยนอก เล่าอาการของตัวเองให้หมอฟัง
หมอเขียนลงในประวัติอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพูดถามขึ้น“มีแฟนไหม?”
ซางหยูตอบ“ฉันแต่งงานแล้วค่ะ”
หมอเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ก่อนจะพูดขึ้น“ทำอัลตร้าซาวด์ก็แล้วกัน”
ซางหยูพยักหน้า
เวลาใกล้จะเที่ยงเธอทำอัลตร้าซาวด์เสร็จแล้ว ได้รับใบผลตรวจ
ในใบตรวจอัลตร้าซาวด์ แสดงผลว่าตั้งครรภ์ก่อนกำหนด ตั้งครรภ์เดี่ยว
ซางหยูทั้งดีใจทั้งกังวล เธอยื่นใบตรวจให้กับหมอพร้อมกับถามขึ้น“ฉันกินยาไปแล้ว จะมีผลกระทบต่อความแข็งแรงต่อทารกในครรภ์ไหม?”
หมอถาม“คุณกินยาอะไรเข้าไป?”
ซางหยูเตรียมมาไว้แล้ว เอายาที่ตัวเองกินเข้าไปให้หมอดู หนึ่งในนั้นมียาลดการอักเสบที่ไม่ดีต่อทารกในครรภ์อยู่หนึ่งชนิด
หมอถาม“กินไปนานแค่ไหน?”
ซางหยูบอกว่าหนึ่งวัน
“เวลาถือว่าไม่นาน แต่ยาตัวนี้ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์……”
“ดังนั้นเอาเด็กคนนี้เอาไว้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?”ซางหยูทั้งเศร้าทั้งอารมณ์เสีย
รู้สึกว่าตัวเองโง่เขลามาก
ตอนนั้นเธอไม่ได้คิดมาถึงเรื่องนี้จริงๆ เพราะถึงยังไงอยู่ด้วยกันกับเสิ่นเผยซวนมาก็แค่สองคืนเท่านั้น ตอนนี้ตั้งครรภ์เรียบร้อยแล้ว มันจะต้องเป็นครั้งแรกแน่ๆ เธอไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้
“อันนี้ก็ไม่เสมอไป ถ้าเกิดจะเอาเด็กล่ะก็ ก็ต้องนัดวันตรวจ เพื่อป้องกันทารกในครรภ์มีรูปร่างผิดปกติ ถ้าตรวจเจอว่าครรภ์ไม่ดีแล้ว ค่อยตัดสินใจว่าไม่เอาก็ได้ ถ้าคุณกลัวว่าจะมีความเสี่ยง สามารถเลือกที่จะไม่เอาตอนนี้ได้เลย”
ซางหยูเข้าใจความหมายของหมอ แต่ตัวเธอเองตัดสินใจไม่ได้ ต้องบอกเสิ่นเผยซวน
พอออกจากโรงพยาบาล เธอก็โทรศัพท์ไปหาเสิ่นเผยซวน