เสิ่นเผยซวนกลัวเธอจะดูไม่เข้าใจ จึงพูดให้เธอฟัง
นี่เป็นคดีในกรมตำรวจในขณะที่เขาออกไปทำงานต่างถิ่น คนที่มาแจ้งความเป็นคนในครอบครัวของผู้ตาย
ที่ผู้ตายเสียชีวิต เป็นเพราะกินยาปลอมเข้าไป รักษาล่าช้าทำให้เสียชีวิต
คนในครอบครัวของผู้ตายพบยาที่ผู้ตายกินเข้าไป หาโรงงานผลิตยาที่ฉลากบนกล่องยาไม่เจอ ก็เลยไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ ผลทดสอบคือเป็นยาปลอม
ดังนั้นทางครอบครัวของผู้ตายก็เลยแจ้งความกับทางตำรวจ
ทางกรมตำรวจไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่น แต่แอบไปตรวจสอบอย่างลับๆ แถมยังปลอมตัวเป็นผู้ป่วยเข้าไปหาหมอ ยาที่ได้รับมาส่วนใหญ่เป็นยาปลอมทั้งนั้น มันไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยรักษาโรคเหมือนกัน
อาชญากรพวกนี้จับจุดอ่อนจากคนที่ชอบเอาเปรียบคนอื่น มาแสวงหาผลประโยชน์มากมายจากมัน
ตามคำกล่าวที่ว่าเงินประเมินค่าได้แต่ยาประเมินค่าไม่ได้ เวลาซื้ออะไรสามารถต่อรองราคาได้ มีแค่ซื้อยาเท่านั้น ราคาเท่าไรก็ต้องเท่านั้น ไม่สามารถต่อรองราคาได้
“นี่ไม่ใช่หมอเถื่อน คนคนนี้ไม่ได้เป็นหมอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เอกสารใบรับรองปลอมแปลงขึ้นมาทั้งหมด ส่วนยาตัวเองก็เป็นคนทำขึ้นมาเอง ทำมาจากสิ่งของราคาถูกที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ไม่ทำร้ายคน แต่ก็ไม่ได้ช่วยรักษาโรค ผ่านการตรวจสอบอย่างลับๆ ยาปลอมพวกนี้เข้าไปสู่ตลาดไม่ใช่น้อยๆ ผ่านการตรวจสอบ ร้านยาจำนวนไม่น้อยก็ตรวจหาเจอหมด แต่จากการสืบเสาะจากเบาะแส โรงงานที่ผลิตยาปลอมถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว บุคคลที่เกี่ยวข้องก็ถูกจับกุมตัวไปหมดแล้วด้วย”
“จะถูกยิงเป้าไหม?”ซางหยูเงยหน้าถามขึ้น
เธออยากให้คนพวกนี้ถูกยิงเป้าไปให้หมด
เสิ่นเผยซวนพูดขึ้น“ส่วนนี้มันจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายตรวจสอบ สุดท้ายจะตัดสินคดียังไงก็ยังต้องผ่านฝ่ายตุลาการ ส่วนเรื่องติดคุกมันแน่นอนอยู่แล้ว”
ซางหยูรู้สึกว่าแค่ติดคุกเฉยๆล่ะก็ มันเป็นการดูถูกและไม่ให้ค่าผู้ที่ได้รับความเสียหายจากคนที่กินยาปลอมเหล่านั้นเกินไป
คนที่เพิ่งมาหาเสิ่นเผยซวนเพื่อให้เขาให้เช็นชื่อคนนั้น ก็เพราะว่าคดีได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเรียบร้อยแล้ว ต้องลงนามแล้วยื่นไปยังฝ่ายตุลาการเพื่อทำการตัดสินคดีต่อไป ดำเนินการแบบนี้
“ซางหยู ผมยังมีธุระต่อ เดี๋ยวผมเรียกคนมาพาคุณกลับไปบ้าน ไปเอายาที่คุณกินมาที่แผนกตรวจสอบเพื่อทำการทดสอบสักหน่อยนะ……”
“คุณรู้สึกว่ายาที่ฉันกินเข้าไป ก็เป็นของปลอมเหมือนกันอย่างนั้นเหรอ?”ซางหยูถลึงตาโต ในตามีแสงเบาๆ ถ้าเป็นแบบที่เสิ่นเผยซวนพูดจริงๆ ยาพวกนี้เป็นของปลอมทั้งหมด ถ้าอย่างนั้น……
เสิ่นเผยซวนคิดว่ายาที่เธอกินเข้าไป ไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ แต่ก็เป็นยาปลอมที่ไม่มีประสิทธิภาพด้วย แบบนี้เด็กในท้องของเธอก็จะไม่เป็นอะไร
ซางหยูลุกขึ้นยืนทันที“ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
เสิ่นเผยซวนขมวดคิ้ว“คุณช้าๆหน่อย”
ซางหยูตระหนักได้ว่าตัวเองตื่นตัวมากเกินไป จึงขยี้ผมก่อนจะพูดขึ้น“ครั้งหน้าฉันจะระวังให้มากขึ้น”
“ผู้บัญชาการเสิ่น คนจากเบื้องบนมาแล้วครับ อยู่ที่ห้องประชุมแล้ว”เสี่ยวเฉินเคาะประตูเดินเข้ามา เสิ่นเผยซวนพูดขึ้น“ฉันทราบแล้ว”
เขาหยิบหมวกที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้น“คุณไปรอข้างนอก เดี๋ยวจะมีคนไปส่งคุณ”
ซางหยูพยักหน้ากำลังคิดที่จะเดินออกไป ก็นึกถึงการกระทำของตัวเองเมื่อตะกี้เล่นใหญ่ตื่นตัวเกินไป ก้าวที่เดินก็เลยชะลอลงไปไม่น้อย
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ซางหยูก็กลับถึงบ้านมาเอายา ภายใต้การช่วยเหลือของคนของเสิ่นเผยซวน จึงเอาไปทำการทดสอบ
ซางหยูรออยู่ในห้องรอของฝ่ายตรวจสอบ
ผ่านไปสองชั่วโมง ผลตรวจออกมาแล้ว เอามาให้กับเธอ พร้อมกับพูดกับเธอนิดหน่อย จากนั้นก็เห็นได้ว่าสีหน้าที่ตึงเครียดของเธอดูผ่อนคลายลง
ความวิตกกังวลอยู่ไม่สุข กลายเป็นรอยยิ้มดีใจ
เธอหยิบผลตรวจกลับไปที่ห้องทำงานของเสิ่นเผยซวน เขายังไม่กลับมา ก็เลยนั่งรอเขาที่โซฟา
ผ่านไปสักพัก ประตูของห้องทำงานก็เปิดออก ซางหยูหันหน้าไปเห็นคนที่เข้ามาคือเสิ่นเผยซวน ก็วิ่งตรงเข้าไปทันที กอดคอของเขาเอาไว้ เพราะว่าดีใจเกินไป ก็เลยลืมเลยว่าสถานที่นี้คือที่ไหน เงยหน้าจูบเข้าไปหนึ่งที พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ของปลอม ยานั่นเป็นของปลอม เป็นยาที่ทำจากแป้ง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้ตอบสนองอะไรกลับมา แค่มองเธอด้วยแววตาอมยิ้ม
ไม่นานซางหยูก็สังเกตว่าเขาไม่ได้มาคนเดียว ข้างหลังยังมีคนจำนวนไม่น้อยตามมาด้วย ตอนนี้กำลังจ้องมองเธออยู่
บูม!
แก้มของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ร้อนผ่าวๆ แดงลามไปจนถึงคอ
พฤติกรรมเมื่อตะกี้นี้ของเธอ ทุกคนเห็นหมดแล้ว
นี่มันน่าอึดอัดเกินไปแล้ว
ซางหยูแทบอยากจะมุดแผ่นดินหนี คนอื่นๆจะมองเธอยังไง?
นี่มันไม่สำรวมเลยสักนิด แถมยังต่อหน้าลูกน้องของเสิ่นเผยซวนด้วย
อาๆๆๆ……
ซางหยูอยากจะย้อนเวลากลับไปสุดๆ
ในตอนนี้เสิ่นเผยซวนเปิดปากพูดขึ้น“คดียาปลอมที่เพิ่งจะส่งไปเมื่อตะกี้นี้ ภรรยาของฉันก็กินเข้าไปแล้ว ฉันให้เธอเอายาไปตรวจที่ฝ่ายตรวจสอบ ทำการทดสอบ ผลออกมา ว่าไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ก็เลยดีใจมากเกินไป เลยทำให้ทุกคนได้เห็นอะไรตลกๆเข้าซะแล้ว”
ซางหยูก้มหน้า รู้สึกว่าตัวเองไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว
“พวกเราไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นครับ”มีคนเปิดปากพูดขึ้นมาคนแรก
ทุกคนก็พากันพูดตามขึ้นมา“วันนี้พวกเราตาไม่ดีครับ ไม่เห็นอะไรเลย”
แม้ว่าทุกคนจะพูดไว้หน้า แต่ซางหยูก็ยังรู้สึกว่าอึดอัดอยู่ดี พูดขึ้นเบาๆ“ฉันไปก่อนนะ”
เสิ่นเผยซวนยังไม่ทันตอบกลับมา เธอก็ไปแล้ว
พอซางหยูออกไป ก็มีคนเริ่มพูดแซวเสิ่นเผยซวน“โอ้ว เมื่อก่อนรู้สึกว่าผู้บัญชาการเสิ่นเป็นคนทื่อๆนิ่งๆซะอีก ไม่คิดว่าจะแอบเป็นคนที่เปิดเผยอยู่เหมือนกันนะครับ”
เสิ่นเผยซวนหันไปมองคนที่พูดคนนั้น
คนคนนั้นหัวเราะเยาะเย้ย“ผู้บัญชาการเสิ่นโกรธเหรอครับ?”
“ผู้บัญชาการเสิ่นไม่ใช่คนที่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น จูบให้พวกนายเห็นกันหมดแล้วไม่ใช่หรือไง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ได้หลับนอนให้พวกนายเห็นสักหน่อย จะตื่นเต้นอะไรขนาดนี้……”
“พวกนายว่างกันใช่ไหม?”เสิ่นเผยซวนจ้องคนที่เพิ่งจะพูดขึ้น“คดีที่ทางเบื้องบนส่งมาให้นี้ นายรับผิดชอบเลยแล้วกัน ต้องตรวจให้รู้ผลภายในหนึ่งเดือน”
คนคนนั้น“……”
“นี่คุณกำลังอาศัยอำนาจส่วนรวมมาแก้แค้นส่วนตัวอยู่นะครับ”
เสิ่นเผยซวนถอดหมวกออกมาตั้งไว้บนโต๊ะ นั่งลงที่โต๊ะทำงาน“ต่อให้ฉันอาศัยอำนาจส่วนรวมมาแก้แค้นส่วนตัว แล้วนายจะทำอะไรฉันได้?”