ทั้งคำพูดและความนัยของหญิงสาวล้วนเป็นการยั่วยุ
ทั้งยังแทงถูกจุดอ่อนของจงหยุนเฉียง เหมือนกันตรงที่ไม่สามารถให้กำเนิดได้ หญิงสาวจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์ ชายหนุ่มรู้สึกอับอายขายหน้า ราวกับว่าไม่สามารถให้กำเนิดได้ บางด้านก็ใช้ไม่ได้เช่นกัน
สีหน้าจงหยุนเฉียงขรึมลง
“ฉันไปห้องน้ำนะคะ” หญิงสาวยิ้มแล้วลุกขึ้น เดินบิดเอวเหยียบรองเท้าส้นสูงบิดไปทั้งห้องน้ำ เมื่อรองเท้าส้นสูงเหยียบลงกับพื้นหินอ่อนก็มีเสียงก๊อกๆดังขึ้น
เสิ่นเผยซวนกับลูกน้องคนหนึ่งตามไปดักซุ่มอยู่นอกห้องน้ำ รอจนหญิงสาวออกมา ก็ปิดปากแล้วลากคนออกไป
ในไม่ช้าพวกเขาก็ลากหญิงสาวหลบสายตาผู้คนขึ้นมาบนรถได้
“พวกคุณเป็นใครกัน…เป็นคุณ” หญิงสาวตวาดเสียงเข้ม เอ่ยยังไม่ทันจบก็เห็นเสิ่นเผยซวน เธอเคยเจอเสิ่นเผยซวน รู้ว่าเขาเป็นคนของจงจิ่งห้าว
เธอยิ้ม เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว “พวกคุณจับฉันไปก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเด็กถูกจงหยุนเฉียงซ่อนไว้ที่ไหน”
เธออ้าปากก็ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับจงหยุนเฉียง
“ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง อะไรก็ไม่เข้าใจ ทางที่ดีที่สุดพวกคุณปล่อยฉันไปเถอะค่ะ” รู้เป้าหมายของพวกเขาแล้ว หญิงสาวกลับไม่ตื่นตระหนก ถึงอย่างไรลูกน้อยก็อยู่ในมือพวกเขา เป็นจุดอ่อน พวกเขาไม่กล้าทำอะไรกับตัวเอง
เสิ่นเผยซวนไม่สนใจ ให้คนรีบขับรถไป
รถไปถึงตึกร้างแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อรถยนต์จอดนิ่งก็เหวี่ยงหญิงสาวออกมาจากด้านใน ถนนที่นี่ไม่เรียบ บนพื้นล้วนเต็มไปด้วยเศษซากสิ่งก่อสร้าง เธอสวมรองเท้าส้นสูงจึงสะดุดถอยหลังไปก้าวหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมาขึงตาใส่ชายหนุ่มที่เหวี่ยงตัวเอง “คุณรนหาที่ตายหรือ”
นิสัยโอหังเสียไม่มีใครเกิน
เสิ่นเผยซวนบังสายตาของหญิงสาว ถามเสียงเข้มว่า “ถ้าหากว่าคุณบอกที่อยู่ของลูกน้อย ผมจะให้คุณจากไปอย่างปลอดภัย ถ้าหากว่า…”
“ฉันพูดไปแล้วว่าฉันไม่รู้” หญิงสาวเอ่ยทีละคำทีละประโยค
“ได้ ในเมื่อคุณไม่รู้ เช่นนั้นก็ไม่มีค่าอะไร” เสิ่นเผยซวนส่งสายตาให้กับลูกน้อย “พาคนเข้าไป”
ลูกน้องจับแขนหญิงสาวแล้วคุมตัวเข้าไป
“พวกคุณปล่อยฉันนะ จับตัวคนมาโดยไม่ได้รับอนุญาตผิดกฎหมายนะ!” หญิงสาวกรีดร้องเสียงแหลม
เสิ่นเผยซวนบีบคางเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอส่งเสียง “อยากจะร้อง ก็รออีกสักครู่”
หญิงสาวถูกนำตัวไปที่ชั้นบนสุดของตึก มัดไว้แล้วโยนลงพื้นอย่างรวดเร็ว
จงจิ่งห้าวและกวนจิ้งยืนอยู่ริมตึก เมื่อได้ยินเสียงก็หันหน้ากลับมา
เสิ่นเผยซวนเดินไปถึงข้างกายจงจิ่งห้าว บอกคำพูดที่ตัวเองได้ยินตอนลอบติดตามให้จงจิ่งห้าวฟัง “ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงคนนี้ที่ปลุกปั่น”
“คิดดูแล้วก็ใช่ สงบมาหลายสิบปี แก่แล้วถึงได้ออกมาสร้างปัญหาก่อเรื่อง ไม่ใช่ว่าตัวเองรนหาที่ตายหรือ เป็นอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ นำหายนะมาให้เขา” กวนจิ้งแค่นเสียงเย็น
จงจิ่งห้าวกวาดตามองหญิงสาวที่อยู่บนพื้นแวบหนึ่ง เอ่ยเสียงทุ้มต่ำว่า “ลูกชายของฉันอยู่ที่ไหน”
หญิงสาวแค่นเสียง “ฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้ว่า พวกคุณทำร้ายฉัน จงหยุนเฉียงจะต้องแก้แค้นแทนฉันแน่นอน”
หญิงสาวอาศัยที่ว่ามีตัวประกันในมือ จึงวางใจไม่เกรงกลัวอันใด
เสิ่นเผยซวนย่อตัวลงตรงหน้าเธอ “จงหยุนเฉียงชอบเรือนร่างของเธอ ถ้าหากว่าฉันทำให้เรือนร่างของเธอเสียหายล่ะ”
หญิงสาวเบิกตากว้างทันที ใบหน้าและเรือนร่างเป็นต้นทุนที่เธอใช้คว้าหัวใจของผู้ชาย ไม่มีสิ่งเหล่านี้ เธอก็ไม่ได้อะไรทั้งนั้น เบื้องลึกนัยน์ตามีแววหวาดกลัวพาดผ่านหลายส่วน “คุณ คุณกล้า คุณแตะต้องฉันส่วนหนึ่ง ฉันจะเอาคืนบนร่างของเด็กคนนั้นส่วนหนึ่ง!”
“คุณต้องการอะไร? เงิน? บอกตัวเลขมา” กวนจิ้งเดินเข้ามา ก้มมองหญิงสาวจากด้านบน “จงหยุนเฉียงแก่แล้ว สิ่งที่มอบให้คุณได้มีจำกัด สิ่งที่คุณต้องการไม่ใช่เงินหรอกหรือ เพียงแค่คุณบอกตัวเลขมา”
หญิงสาวกลอกตาไปมา รู้ว่าพวกเขามีสิ่งที่ต้องพะว้าพะวง
“แน่นอนว่าฉันต้องการเงิน ฉันยังต้องการมากกว่านี้ พวกคุณให้ได้หรือ” หญิงสาวยิ้ม สายตาตกลงบนร่างของจงจิ่งห้าวที่อยู่ไม่ไกล “คุณอยากรู้ที่อยู่ของลูกชายคุณ ก็ไม่ใช่ว่าฉันบอกไม่ได้ เพียงแต่คุณต้องเสนอเงื่อนไขที่ล่อใจฉันมากพอ”
“พูดมา คุณต้องการอะไร” จงจิ่งห้าวสีหน้าทะมึน เจือไปด้วยโทสะที่คนยากจะสังเกตเห็น
หญิงสาวขยับตัว “คลายเชือกให้ฉันก่อน คุยกันแบบนี้ไม่ยุติธรรม”
เสิ่นเผยซวนและกวนจิ้งเบนสายตามองไปทางจงจิ่งห้าว เพื่อสอบถามความเห็นของเขา
“พวกคุณมีคนเยอะขนาดนี้ ฉันยังจะหนีไปได้หรือ” หญิงสาวหัวเราะพรืด
“ปล่อยเธอ” จงจิ่งห้าวสั่ง
เสิ่นเผยซวนคลายเชือกบนร่างเธอ เธอลุกขึ้นยืนจากพื้น ปัดเศษฝุ่นที่อยู่บนกระโปรง หลังจากนั้นสายตาก็ตกลงบนร่างของจงจิ่งห้าวอีกครั้ง เธอทำตาปรือกึ่งยิ้มกึ่งหลงใหลมองไปทางเรือนร่างสูงใหญ่ของเขา อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้านั้นลึกล้ำ หยิ่งเย็นชาสงบนิ่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายบีบคั้นผู้คน ยืนอยู่ตรงนั้นเฉยๆก็แผ่กลิ่นอายที่มองฟ้าดินด้วยความโอหังออกมา
ในฐานะผู้ชาย เขามีต้นทุนที่ทำให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มหลงใหล
เธอเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงบิดเอวเข้าไปทีละก้าวทีละก้าว สุดท้ายก็ยืนอยู่ด้านหน้าเขา “ฉันอยู่กับจงหยุนเฉียง เขารับปากว่าหลังจากได้ว่านเยว่มาแล้ว จะให้ฉันเป็นประธานบริษัท ให้เงินฉัน ให้อำนาจฉัน ถ้าหากว่าฉันทรยศหักหลังแล้ว คุณจะให้อะไรกับฉัน”
เธอมองเขาอย่างพิจารณาโดยไม่ปิดบัง
จงจิ่งห้าวรังเกียจการที่คนอื่นใช้สายตาแบบนี้มองมา
“ความจริงแล้ว ฉันก็ไม่ได้จะต้องให้ได้สิ่งเหล่านี้หรอกนะ” เอ่ยจบแล้วมือของหญิงสาวก็วางลงบนไหล่ของจงจิ่งห้าว เป่าลมข้างหูเขา “ไม่อย่างนั้นคุณนอนกับฉันคืนหนึ่ง ฉันจะบอกที่ลูกชายคุณกับคุณ?”