กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – บทที่ 881 เธอสมองเพี้ยนไปแล้ว

บทที่ 881 เธอสมองเพี้ยนไปแล้ว

“เชิญคุณหลินไปพักก่อนดีกว่า หลังจากนั้นพวกเราค่อยมาเจรจาเรื่องงานกัน” หนานเฉิงส่งกระเป๋าเดินทางของเธอเข้ามา

“ขอบคุณ” จงเหยียนซีลากกระเป๋าเดินทางมา

หนานเฉิงมองเธอไปแวบนึงแล้วผันร่างเดินออกไป จงเหยียนซียืนอยู่ที่หน้าประตู แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูลงไปทันที แต่ได้มองดูหนานเฉิงปิดประตูลิฟต์ลง กู้เสียนเดินออกมาจากตรงหัวมุม

“เจ้าตัวเดินไปไกลแล้วใช่มั้ย?”

“รีบเข้ามาเถอะ” จงเหยียนซีลากกู้เสียนเข้ามา

เธอถอดรองเท้าส้นสูงเปลี่ยนมาสวมรองเท้าแตะ เอากระเป๋าเดินทางไปวางข้างๆ นั่งลงไปบนโซฟา พลางเอ่ยถามออกไป “เรื่องที่ให้นายสืบไปเป็นยังไงบ้าง?”

ตลอดหนึ่งปีนี้เขากับจงเหยียนซีได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันโดยที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ในประเทศก็คอยช่วยเธอสืบเรื่องบางอย่างอยู่

“หลังจากที่เธอตายไป เจียงโม่หานก็เอาเจียงต๋ากรุ๊ปกับว่านเยว่มาควบรวมเข้าด้วยกัน และก็ได้เป็นเหิงคังกรุ๊ปในตอนนี้นั่นเองส่วนจดหมายลาตายฉบับนั้นฉันก็ยังไม่เจอว่าใครเป็นคนทิ้งไว้”

จงเหยียนซีหรี่ตาลง จดหมายลาตายที่เธอถูกตัดสินว่าฆ่าตัวตายเมื่อตอนนั้น จะต้องเป็นคนที่ทำร้ายเธอจงใจวางเอาไว้อย่างแน่นอน คนที่ทำร้ายเธอคนนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นเจียงโม่หาน แต่เธอก็ไม่มีหลักฐาน

เธอจะต้องหาหลักฐานมาให้ได้

“เพิ่งจะกลับมา ผ่อนคลายสักหน่อย ไปกินมื้อเย็นด้วยกันสักหน่อย ฉันจะเลี้ยงต้อนรับเธอเอง” กู้เสียนพูดยิ้มๆออกมา

“เหนื่อยแล้ว ไม่อยากไป ทำอาหารกันนิดๆหน่อยๆกินอยู่ที่ห้องกันก็พอแล้ว” จงเหยียนซีขยับลำคอเล็กน้อย

“ไม่ได้ๆ ออกไปกินกัน” กู้เสียนลากจงเหยียนซี “รีบสวมรองเท้าเร็ว”

จงเหยียนซีทำอะไรไม่ได้ จะปฏิเสธการต้อนรับขับสู้ของกู้เสียนไปมันก็ไม่ดี จึงได้ตอบตกลงไป

เธอสวมรองเท้าและออกไปกับกู้เสียน

“ไปที่ไหน?” ขึ้นมานั่งบนรถจงเหยียนซีก็ถามออกไป

กู้เสียนเอ่ยออกมา “เธอนั่งไปให้สบายใจเถอะ แพลนวันนี้ฉันเป็นคนจัดการเอง”

พูดไปแล้วเขาก็ได้สตาร์ทรถขับออกไป

เพียงไม่นานก็ได้เข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าประตูร้านอาหารระดับไฮเอนท์ที่อยู่ใจกลางเมืองร้านหนึ่ง เมื่อก่อนจงเหยียนซีมาเป็นประจำ มันก็ไม่ได้แปลกอะไรเลยเหมือนกัน จึงทำเพียงแค่ยิ้มแล้วมองกู้เสียนไป “ทำให้นายสิ้นเปลืองเงินแล้ว”

“นานๆทีเธอจะกลับมา ก็จะต้องลงทุนหน่อยสิไม่อย่างนั้นแล้วจะแสดงความจริงใจของฉันออกไปยังไง?” กู้เสียนลงมาจากรถ โยนกุญแจรถไปให้บริกรร้าน

ทั้งสองคนเดินเข้าไป เลือกที่นั่งที่อยู่ชิดมุม ตรงนี้ค่อนข้างเงียบเลยทีเดียว

เพียงไม่นานพนักงานก็เดินเข้ามา จงเหยียนซีไม่มีกะจิตกระใจอะไร เลยให้กู้เสียนสั่งเองก็พอ

กู้เสียนยิ้มออกมา “งั้นฉันสั่งอันที่เธอชอบกินมาให้หมด?”

จงเหยียนซียิ้มออกมา “ได้อยู่แล้ว ถึงยังไงนายก็เป็นคนจ่ายเงิน”

ตอนที่พูดอยู่นั้นเอง สายตาของเธอเหลือบมองไปโดยไม่ตั้งใจ เห็นคนทั้งสองคนเดินเข้ามาจากหน้าประตู เจียงโม่หานแล้วก็ยังมีหลิงเวยที่ตามเขาอยู่ข้างๆมาด้วยอีกคน

หางคิ้วของเธอเลิกขึ้นมา ในใจคิดไปว่าโลกมันกลมจริงๆ เพิ่งจะกลับมาแค่วันเดียววันที่สองก็มาเจอกันแล้ว

เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้นั่งลงกันไปตรงที่นั่งที่ติดริมหน้าต่าง

หลิงเวยสั่งอาหาร

รอหลังจากที่พนักงานเดินออกไปแล้ว เจียงโม่หานก็ได้ถามออกไป “ตกลงว่าเธอมีเรื่องอะไรจะพูดกับฉัน?”

หลิงเวยยิ้ม “กินมื้อเย็นกันก่อน”

เจียงโม่หานเห็นได้ชัดว่ามีความทนไม่ไหวอยู่บ้าง “ถ้าเธอไม่อยากพูด งั้นครั้งหน้าค่อยพูด”

เขาเหยียดตัวลุกขึ้น

หลิงเวยรีบดึงมือของเขาเอาไว้ เอ่ยเสียงเบาที่ประดับไปด้วยลักษณะการพูดร้องขอออกไป “โม่หาน กินข้าวด้วยกันกับฉันสักมื้อไม่ได้เลยหรือไง?”

“ฉันยังมีธุระ…” เจียงโม่หานยังคงปฏิเสธออกมา

“โม่หาน ฉันชอบคุณ ชอบคุณมานานแล้ว คุณหย่ามาปีนึงแล้ว พวกเรามาลองคบกันดูดีมั้ย?” หลิงเวยเอ่ยออกมาอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว

เจียงโม่หานขมวดคิ้วออกมาด้วยความประหลาดใจ “หลิงเวย เธอกำลังพูดอะไรอยู่?”

“ฉันบอกว่าฉันชอบคุณ นานมากแล้ว…”

“หลิงเวย!” เจียงโม่หานขัดเธอออกมา “เธอสมองเพี้ยนไปแล้ว”

พูดจบเขาก็สลัดมือของหลิงเวยออก แล้วผันร่างเดินออกไป

“โม่หาน” เธอตามออกไป

“แม่งเอ๊ย แค่มากินข้าวก็ยังมาเจอกันได้อีก นี่เป็นการออกจากบ้านที่ไม่ดูฤกษ์ยามสินะ” กู้เสียนค่อนแคะออกมา

จงเหยียนซีมองเขาไปแวบนึง “ภาษาจีนนับวันจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว เข้าใจได้ไม่น้อยเลย ฉันขอตัวออกไปสักแป๊บนึง”

ไม่นึกเลยว่าหลิงเวยจะชอบเจียงโม่หาน เมื่อก่อนทำไมเธอถึงมองไม่เห็น?

นานมาก ที่ว่านานมากนี้มันนานแค่ไหนกัน?

นิ้วมือของเธอหดเกร็ง นี่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอแล้วยังเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย

“ฉันไปกับเธอด้วยคน” กู้เสียนยึนขึ้นมา

“คนเยอะไปมันจะสะดุดตา จะถูกจับได้ง่ายๆ ฉันไปดูเองสักหน่อยก็พอแล้ว” จงเหยียนซีตบไหล่ของเขาไปเล็กน้อย

จากนั้นก็เดินตามออกไปตามลำพัง

ที่ด้านนอกร้านอาหารหลิงเวยเอาแต่ตามเขาอยู่ตลอด “โม่หาน หนึ่งปีมานี้ คุณเอากะจิตกะใจและเวลาทั้งหมดไปไว้ที่งาน ไม่ให้ใครเอ่ยถึงหล่อน นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน? หรือว่าคุณจะชอบหล่อนเข้าแล้ว”

จู่ๆเจียงโม่หานก็ได้หยุดฝีเท้าลง หันหน้าไปมองเธอด้วยสายตาที่คมกริบ

“หล่อนเป็นศัตรูของคุณนะ การตายของหล่อน ก็เพราะหล่อนคิดไม่ตกไปเอง คุณก็แค่หย่ากับหล่อนไปเท่านั้นเอง นี่มันก็โทษคุณไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นอีกก็คือหล่อนนั้นได้ตายไปโดยที่ไม่สาสมกับความผิดของหล่อนเลย…”

“หุบปาก!” เจียงโม่หานขึ้นเสียงตวาดออกมาทันที เย็นชามืดครึ้มเสียจนน่ากลัว “อย่าเอ่ยถึงเธอขึ้นมา!”

“ทำไมจะเอ่ยถึงไม่ได้?” หลิงเวยโกรธเกรี้ยวจนดวงตาแดงปั้ดออกมา “คุณลืมไปแล้วเหรอว่าแม่คุณตายยังไง…”

เจียงโม่หานจับลำคอของเธอเอาไว้ เขาไม่อยากฟังคำพูดพวกนี้อีกแล้ว “หลิงเวยดูสถานะของตัวเองให้ชัดเจนหน่อย”

หลิงเวยไม่กล้าที่จะเชื่อว่าเขาจะทำอย่างนี้กับตนได้ “ฉันมันมีสถานะอะไร? คุณตามจีบจงเหยียนซี ฉันในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของหล่อน สืบหาความชอบของหล่อน แล้วค่อยมาบอกคุณอีกที ให้คุณได้ใจหล่อนมา ฉันมีแต่คุณทั้งใจ คุณว่าฉันมีสถานะอะไร?”

สายตาของเจียงโม่หานวูบออกมาแวบนึง คลายแรงลงไปเล็กน้อย “เธอเป็นเพื่อนของเธอ ยิ่งไม่ควรจะมีความคิดอย่างนี้”

“ถ้าไม่เพื่อที่จะช่วยคุณ ฉันก็ไม่มีทางจะเป็นเพื่อนกับหล่อนด้วยเหมือนกัน ทั้งหมดที่ฉันทำไปมันก็เพื่อคุณทั้งนั้น โม่หาน หรือว่าคุณคิดจะโสดไปชั่วชีวิตเลยงั้นเหรอ? ทำไมในตาของคุณถึงมองไม่เห็นฉัน? เมื่อก่อนก็แล้วไป แต่ว่าตอนนี้ หล่อนได้หายไปแล้ว คุณมองฉันสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?” หลิงเวยสะอึกสะอื้นออกมา “หรือว่าเพียงเพราะว่าหล่อนเป็นคุณหนูพันชั่งที่ถูกผู้คนมากมายคอยรักใคร่ดูแลคนหนึ่งอย่างนั้นเหรอ?”

“เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยดูสถานะ ตัวฉันเองก็ใช่ว่าจะมีที่มาที่ดีนัก” เจียงโม่หานปล่อยเธอ “คำพูดอย่างนี้ต่อจากนี้ไปอย่าพูดออกมาอีก”

“โม่หาน…”

เจียงโม่หานขึ้นรถออกไป

หลิงเวยยืนมองรถที่ขับออกไปอย่างรวดเร็วอยู่ตรงที่เดิม ความรู้สึกเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม

จงเหยียนซียืนอยู่ที่ข้างกำแพงอยู่นานก็ไม่ได้สติกลับมาเลยสักที คนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนสนิทมาโดยตลอด แต่เข้ามาใกล้ชิดเธอโดยมีจุดประสงค์บางอย่าง?

แล้วก็ยังทำไปเพื่อเจียงโม่หานอีก?

เหอะๆ——

ข้างกายเธอไม่มีใครจริงใจกับเธอเลยสักคนเดียว เจียงโม่หาน หลิงเวย คนที่เธอรัก เพื่อน ทั้งหมดล้วนแล้วแต่จะแฝงไปด้วยแผนการบางอย่างกันทั้งนั้น?

คนที่ปฏิบัติตัวไปด้วยความจริงใจ ล้วนแล้วแต่จะมีเจตนาจะหลอกลวงกัน ตั้งใจลอบวางแผนคิดร้ายกับเธอ เป็นคนที่แย่งชิงสมบัติตระกูลของเธอไปทั้งนั้น?

ใจคนทำไมถึงได้ชั่วร้ายได้ถึงขนาดนี้?

“เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?” กู้เสียนเดินเข้ามา

จงเหยียนซีรีบเช็ดที่มุมตาไปเล็กน้อย “ฉันไม่เป็นไร”

“เข้าไปกินอะไรสักหน่อยเถอะ” กู้เสียนพูด

จงเหยียนซีส่งเสียงอืมออกมา

นั่งลงตรงหน้าโต๊ะ กู้เสียนก็ถามออกมา “เธอได้ยินอะไรมา? เห็นสีหน้าเธอดูไม่ดีเลย”

พูดจบเขาก็รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา เดิมทีเธอก็ไม่ได้อารมณ์ดีอยู่แล้ว ยังจะถามเรื่องนี้ออกไปอีกข้าวมื้อนี้จะกินกันได้ยังไงอีก?

“แหะๆ กินข้าว กินข้าวกันก่อนดีกว่านะ” กู้เสียนรีบคีบอาหารมาให้เธอ

“นายเองก็กินเยอะๆหน่อย” จงเหยียนซีปรับอารมณ์ให้เรียบร้อย

กินข้าวเสร็จแล้วกู้เสียนก็มาส่งเธอที่โรงแรม ให้เธอพักผ่อนให้เต็มที่

แต่เธอพลิกตัวไปมาอยู่นานก็นอนไม่หลับ สิ่งที่อยู่ในหัวล้วนแล้วแต่จะเป็นผู้ชายที่เคยบอกว่ารักเธอคนนั้น ท่าทีที่ไร้หัวใจอยู่เต็มไปหมด

บังคับให้เธอหย่า ต้องการจะเอาชีวิตเธอ!

เจียงโม่หาน!

เธอกำหมอนแน่น

วันรุ่งขึ้น

จงเหยียนซีแต่งตัวเต็มยศมายังเหิงคังกรุ๊ป

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

Status: Ongoing

การค้าครั้งหนึ่ง หลินซินเหยียนท้องลูกของชายแปลกหน้า เธอตั้งครรภ์ แต่งงานกับชายคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กเดิมคิดว่านี่เป็นแค่การค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีอุบาย แต่กลับพัวพันถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตสมรสนี้ตอนตั้งครรภ์สิบเดือนใกล้คลอด จงจิ่งห้าวส่งใบหย่ามาใบหนึ่ง เธอถึงได้ตาสว่างขึ้นมาทันใดต่อมาเขาพูดอีกว่า คุณภรรยากลับมาเถอะ คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท