กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม – บทที่ 880 ความดื้อรั้นที่ฝังอยู่ในกระดูก

บทที่ 880 ความดื้อรั้นที่ฝังอยู่ในกระดูก

กู้เสียนก็อยู่โทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ทำตามที่จงเหยียนซีบอก ค้นหาความหมายของตัวอักษรนั้นในป๋ายตู้ ไม่นานนักคำตอบก็เด้งขึ้นมา

เสียน/ความหมาย

เป็นที่ต้องสงสัย ความอาฆาต น่าสะอิดสะเอียน ; ไม่พอใจ

เขาจึงหยิบให้จงเหยียนซีดู ” ชื่อของฉันความหมายอันไหนหรอ? ”

จงเหยียนซีดูสักพัก สรุปก็คือไม่มีความหมายอันไหนดีเลยซักอย่าง

ชื่อนี้ตั้งดูเรื่อยเปื่อยเกินไปหน่อย

” ความรักของพ่อแม่นายดีไหม? ” จงเหยียนซีถาม

” ดีเหรอ? ” กู้เสียนเบะปาก ” แม้แต่พ่อของฉันเองยังไม่เคยเจอเลย อีกอย่างแม่ของฉันไม่อนุญาตให้พูดถึงพ่อ เธอคิดว่าดีไหมล่ะ? ”

จงเหยียนซีรู้สึกว่าตัวเองถามมากเกินไปแล้ว แค่ฟังชื่อ ก็ได้รู้ไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ที่เกิดเขามา

” ถ้างั้น นายก็ใช้นามสกุลเดียวกับแม่น่ะสิ ” จงเหยียนซีถาม

กู้เสียนพยักหน้า ” ฉันไม่รู้ว่าพ่อตัวเองนามสกุลอะไร ”

” นายไม่มีเบาะแสสำคัญอย่างอื่นเลย จะหาเขาเจอได้ยังไง คนตั้งเป็นร้อยเป็นพัน อีกอย่างเจ้าตัวอาจจะไม่ได้อยู่ใน เมืองBก็ได้ ”

” หาไม่เจอก็ช่างมันเถอะ เพราะยังไงฉันก็แอบหาลับหลังแม่ฉันอยู่ดี ถ้าแม่รู้แล้วก็คงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ ” กู้เสียนไม่ใช่คนดื้อรั้น เพียงแค่เขาอยากจะเห็นว่าหน้าตาของพ่อตัวเองเป็นยังไงก็เท่านั้น

ถ้าไม่มีวาสนาต่อกัน ก็คงต้องปล่อยไป

อาการบาดเจ็บของจงเหยียนซีดีขึ้นมาบ้างแล้ว ก็เลยย้ายออกจากเมืองB แล้วไปรักษาตัวที่ต่างประเทศแทน

ณ เหิงคังกรุ๊ป

หลิงเวยเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา จากนั้นก็เอาเอกสารหนึ่งชุดยื่นให้กับเจียงโม่หาน ” นี่คือผู้รับผิดชอบของบริษัทรุ่นเหม่ยที่จะมาพูดคุยเจรจาในครั้งนี้กับเราค่ะ ”

บริษัทรุ่นเหม่ยเป็นบริษัทหนึ่งของต่างประเทศ ที่ร่วมทำโครงการกับเหิงคังกรุ๊ปในครั้งนี้ เพื่อที่จะตีตลาดภายในประเทศ แต่เหิงคังกรุ๊ปก็ได้รับแหล่งทรัพยากรครึ่งหนึ่งจากการร่วมงานในครั้งนี้ และนี่ก็เป็นผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างได้รับจากการร่วมมือกัน

ทั้งสองฝ่ายและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

เจียงโม่หานพลิกดูข้อมูลของผู้รับผิดชอบงานก็พบว่าเป็นคนในประเทศ สายตาของเขาเลื่อนลงไปสบตากับดวงตาของคนในรูปภาพนั้น ในใจก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะ มันทำให้เขานึกถึงใครคนหนึ่ง

ใครคนนั้นที่ตายไปแล้ว

สายตาของเขาก็หันไปดูตรงฝั่งข้อมูลข้างๆ ในแฟ้มนั้นข้อมูลทั้งหมดไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคนนี้เขาเคยรู้จักเลยสักนิด

แค่ดวงตาคู่นั้นมันคล้ายกันก็เท่านั้นเอง

หลินลุ่ยซีไม่เชื่อนั้นก็มีตัวอักษรซีอยู่ด้วย เหมือนกับเธอคนนั้นเลย

” ให้หนานเฉิงไปรับที่สนามบินไหมคะ? ” หลิงเวยถาม

” เที่ยวบินตอนกี่โมง? ” เจียงโม่หานปิดเอกสารลง

” บ่ายสามโมงค่ะ” หลิงเวยตอบกลับ

” ฉันจะไปรับด้วยตัวเอง ” เจียงโม่หานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วต่อสายไปยังห้องของเลขา ” จองโรงแรมที่สภาพแวดล้อมโอเคให้หน่อยที่หนึ่ง ”

” ได้ค่ะ ประธานเจียง ”

ถ้าวางโทรศัพท์แล้ว ก็หยิบเอกสารบนโต๊ะมาเปิด

” ประธานเจียง นี่ไม่จำเป็นต้องให้คุณไปรับด้วยตัวเองเลยนะคะ….. ”

” ทำไมล่ะ ” เจียงโม่หานเงยหน้าขึ้น น้ำเสียงเย็นชา ” เธอจะตัดสินใจเองไหมล่ะ? ”

หลิงเวยรีบอธิบายต่อ ” ไม่ใช่นะคะ ฉันแค่กลัวว่าการที่คุณลดตัวลงไปแบบนี้ จะทำให้บริษัทรุ่นเหม่ยดูถูกพวกเรา อีกอย่างทางโน้นก็ส่งมาแค่คนรับผิดชอบโครงการ ฉันกับหนานเฉิงใครไปรับก็ดูเหมาะสมกว่า แต่ว่าถ้าคุณไปจะดูไม่เหมาะสมนะคะ ”

ตั้งแต่เขากลับจงเหยียนซีหย่ากันไป หนึ่งปีมานี้ เขาก็เอาหัวจิตหัวใจทั้งหมดโฟกัสอยู่แต่กับการทำงาน สองบริษัทที่รวมกันก็เติบโตได้อย่างดีงาม

แน่นอนว่า มันต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เขาพยายามลงทุนกับมัน

” ถ้าฉันไปเองมันก็แสดงถึงความจริงใจของพวกเรามากกว่า เอาตามนี้ เธอไปทำงานเถอะ ”

” แต่ว่า…. ”

” ไปเถอะ ” น้ำเสียงเจียงโม่หานดูเย็นชากว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากพูดถึงประเด็นนี้แล้ว

หลิงเวยไม่กล้าพูดต่อ นิสัยของเขาดูเย็นชากว่าเมื่อก่อนมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะฟังเธอมากกว่านี้ ตอนนี้เขาเริ่มเหินห่างและเย็นชากับเธอมากขึ้นทุกที

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการอยากให้มันเป็น เธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา เธอแค่อยากเป็นผู้หญิงที่คอยอยู่ข้างๆเขาก็เท่านั้น

เพิ่มเม้มปาก ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน เมื่อประตูห้องทำงานปิดแล้ว เจียงโม่หานก็ทิ้งเอกสารในมือ แล้วก็บีบไปที่สันจมูกของตัวเอง เขาไม่รู้ว่าการตัดสินใจของตัวเองครั้งนี้ เขาทำไปทำไม

ผู้รับผิดชอบคนหนึ่งที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เพียงแค่เพราะว่าเธอมีแววตาที่คล้ายกับเธอคนนั้น และชื่อก็มีตัวอักษรซีอยู่เหมือนกัน

เขาหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าเขาดูสงบลง

เมื่อถึงบ่ายสองห้าสิบนาที นอกสนามบินนานาชาติก็มีรถหรูสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ ไม่นานนักหนานเฉิงก็เดินลงมาจากรถ แล้วอ้อมไปเปิดประตูหลังรถให้เจียงโม่หานเดินลงมา

ตรงทางออกนอกสนามบิน ร่างผอมบางที่ยืนอยู่ท่ามกลางคนมากมาย ด้วยหุ่นนี้ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะชนะฝีเท้า ผมสีดำของเธอถูกม้วนเป็นลอนทำให้ดูอ่อนหวาน ไม่น่าใส่แว่นกันแดดขนาดใหญ่จนปิดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง แต่เผยให้เห็นริมฝีปากที่สวยและเซ็กซี่ เธอสวมใส่เสื้อกันลมสีอูฐ พร้อมใส่เข็มขัดคาดเอวบางนั้นเอาไว้ ซึ่งขับให้ร่างที่ดูอ้อนแอ้นอรชรนั้นเด่นชัดขึ้น เธอยังสวมรองเท้าส้นสูงสิบเซนติเมตร ทำให้ดูเด่นสะดุดตาในที่นั่ง

แล้วมือถือก็สร้างขึ้นมา เธอจึงต้องผู้ชะงักฝีเท้าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วรับสาย

ปลายสายทางนั้นเป็นเสียงของจวงเจียเหวิน ” พี่ ไม่ต้องการผมจริงๆเหรอ? ”

เธอรู้ว่าเรื่องมันใหญ่ขนาดนี้ เขาก็คงจะรู้เรื่องแล้วแหละ

แต่จงเหยียนซีก็ไม่ยอมให้เขาแทรกมือเข้ามายุ่ง

” เรื่องของฉัน ฉันแก้ปัญหาเองได้ ” อันที่จริงเธอไม่อยากให้ใครรู้ แต่ก็คงปิดเอาไว้ไม่มิด

” เอางั้นก็ได้ ถ้าต้องการก็โทรหาผมเท่ากัน ” จวงเจียเหวินไม่อยากฝืนใจเธอ ก็รู้จักนิสัยเธอดี

โดนคนทำร้ายมามาก โดนหักหลังอย่างรุนแรง ความแค่นี้เธอต้องเอาคืนมันด้วยตัวเอง ถ้าเป็นเขา เขาก็ไม่อยากให้ใครยื่นมือเข้ามาแทรก

นี่คือความดื้อรั้นที่ฝังอยู่ในกระดูกยังไงล่ะ!

” ระวังด้วยล่ะ ”

” ฉันรู้น่า ”

” ใช่คนนั้นหรือเปล่าครับ? ” หนานเฉิงชี้ไปยังผู้หญิงที่กำลังโทรศัพท์อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน

เจียงโม่หานก็มองไปทางนั้น

จงเหยียนซีรู้สึกแต่ว่ามีใครบางคนมองอยู่ จึงหันไปมอง ก็ไปสบตาเขากับใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงฮอล มือที่หยิบโทรศัพท์อยู่นั้นก็สั่นเล็กน้อย เธอคิดว่าคงจะได้เจอกันตอนที่ประชุม แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอกันเร็วขนาดนี้

” ฉันวางก่อนนะ ” จงเหยียนซีวางสายไป

จากนั้นเธอก็ลากระเป๋าแล้วเดินเข้ามา

หนานเฉิงก้าวเท้าไปข้างหน้าสองก้าว ” คุณใช่คุณหลินหรือเปล่าครับ? ”

จงเหยียนซีพยักหน้าหนึ่งที่ หนานเฉิงก็รับกระเป๋าเดินทางในมือของเธอไป ” ผมถือให้เองครับ ”

เธอจึงปล่อยมือ แล้วเดินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงโม่หาน เธอถอดแว่นกันแดดออก แล้วยื่นมือไปที่เจียงโม่หาน ” ชื่อจีนของดิฉัน หลินลุ่ยซี เป็นผู้รับผิดชอบโครงการที่ทำร่วมกันครั้งนี้ของบริษัทรุ่นเหม่ย ”

เจียงโม่หานมองไปที่ดวงตาของเธอ เป็นสีดำขลับ และเปล่งประกายความเข้มแข็งออกมาลึกๆ

ไม่เหมือนกับเธอคนนั้นเลย ถึงแม้จะคล้าย แต่สายตาของเธอคนนั้นจะมีความร่าเริง ใสซื่อ แต่ดวงตาของผู้หญิงคนนี้กลับให้ความรู้สึกที่ลึกลับอย่างบอกไม่ถูก

” ประธานเจียง ”

เจียงโม่หานนิ่งไปโดยที่ไม่ตอบอะไร จงเหยียนซีจึงส่งเสียงเรียกไปเตือนเขา

” อ้อ สวัสดี คุณหลิน ” เมื่อดึงสติกลับมาได้เจียงโม่หานก็ยื่นมือไปจับมือของเธอเอาไว้ ในขณะที่สัมผัสมือกันเพียงเสี้ยววิต่างคนต่างชักมือกลับ เขายังรู้สึกอีกว่ามือของผู้หญิงคนนี้มันเย็นเหลือเกิน

” ไม่นึกเลยว่าประธานเจียงจะมารับด้วยตัวเอง ” น้ำเสียงเธอดูบ่งบอกว่าอะไรคือพูดถึงเรื่องงานและอะไรคือเรื่องส่วนตัว

” ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับการร่วมงานกันครั้งนี้ ” เจียงโม่หานพยายามหาเหตุผลให้กับตัวเอง

จงเหยียนซีพูดออกมาเชิงทางการแล้วยิ้มน้อยๆ ” พวกเราบริษัทรุ่นเหม่ยก็ยินดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทที่ทรงเกียรติในครั้งนี้ค่ะ ”

” ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูดคุยกัน ไม่งั้น เราพาคุณหลินไปส่งที่โรงแรมก่อนดีไหมครับ? ” หนานเฉิงพูดแทรก

” ดีเลยค่ะ เราจะได้พูดคุยเจรจาเกี่ยวกับสิ่งที่ตกหล่นไปในการทำงาน ” จงเหยียนซีหันไปมองหนานเฉิง ” รบกวนพวกคุณนำทางด้วยนะคะ ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับที่นี่เท่าไหร่ ”

” เมื่อก่อนคุณหลินไม่เคยมาที่เมืองนี้หรอครับ? ” เจียงโม่หานถาม

แต่ในทันใดนั้น เขาก็อยากรู้ว่าเธอเคยมาที่นี่มาก่อนหรือเปล่า

” ไม่เคยค่ะ ” จงเหยียนซีตอบออกมาสั้นๆ

เจียงโม่หานหลุบตาลงเล็กน้อย ในแววตาของเขาแฝงไปด้วยความผิดหวัง

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม

Status: Ongoing

การค้าครั้งหนึ่ง หลินซินเหยียนท้องลูกของชายแปลกหน้า เธอตั้งครรภ์ แต่งงานกับชายคู่หมั้นคู่หมายตั้งแต่วัยเด็กเดิมคิดว่านี่เป็นแค่การค้าที่ต่างฝ่ายต่างมีอุบาย แต่กลับพัวพันถึงความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิตสมรสนี้ตอนตั้งครรภ์สิบเดือนใกล้คลอด จงจิ่งห้าวส่งใบหย่ามาใบหนึ่ง เธอถึงได้ตาสว่างขึ้นมาทันใดต่อมาเขาพูดอีกว่า คุณภรรยากลับมาเถอะ คนที่ผมรักมาโดยตลอดคือคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท