“ฉันมีอะไรบางอย่างจะให้ประธานเจียงดู”เธอเปิดวิดีโอที่ถูกตัดออกมาจากกล้องวงจรปิดให้เขาดู
เจียงโม่หานก้มมองดูวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคที่ว่าหลินลุ่ยซีจะตามจีบเขา จู่ๆหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมานิดหน่อย
“คนของเหิงคังกรุ๊ปเที่ยวระรานคนอื่นขนาดนี้เลยเเหรอ? มาขู่ฉันโดยไม่มีสาเหตุ ฉันอยากฟังคำชี้แจงจากปากของประธานเจียงถ้าไม่อย่างนั้นการร่วมงานของเราคงต้องใช้เวลาสักหน่อยแล้วล่ะ”
เจียงโม่หานยกแขนข้างหนึ่งขึ้นมาพาดลงบนโต๊ะ“นี่มันคงไม่กระทบกับการร่วมงานของเราหรอกมั้ง”
“ประธานเจียงพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก ฉันเป็นตัวแทนของบริษัทรุ่นเหม่ย เดิมพวกเราเป็นหุ้นส่วนกัน แต่ฉันกลับถูกคนของเหิงคังกรุ๊ปรังแก นี่คุณจะไม่ชี้แจงอะไรให้ฉันฟังหน่อยเหรอ?”เธอโน้มตัวไปข้างหน้า ระยะห่างของทั้งสองใกล้กันมากขึ้น“ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะชอบประธานเจียงมาก หล่อนมักจะไปขู่ผู้หญิงที่ติดต่อกับประธานเจียงทุกคนแบบนี้รึเปล่าเนี่ย?หรือถ้าจะพูดอีกอย่าง ประธานเจียงชอบความรู้สึกที่ถูกรักแบบนี้ ดังนั้นก็เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง?ถ้าเป็นอย่างนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วค่ะ ถือซะว่าฉันซวยเองแล้วกันที่โดนหมามันกัดเอา”
พูดจบเธอก็เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากบนโต๊ะ“ฉันรับรู้และเข้าใจนิสัยพนักงานเหิงคังกรุ๊ปของพวกคุณแล้วล่ะ จากนี้ไปฉันคงจะติดต่อกับประธานเจียงไม่ได้แล้ว ไม่งั้นจะต้องมีคนมาขู่ฉันอีกแน่ เดี๋ยววันนี้ฉันจะติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อบอกว่าการร่วมงานของเราจะต้องค่อยๆปรึกษาหารือกัน”
พูดจบเธอก็หันหลังจะเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
เจียงโม่หานตะโกนเรียกเธอไว้“หยุดก่อนคุณหลิน”
เขาลุกเดินออกมาจากโต๊ะทำงาน“ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้ความเป็นธรรมกับคุณหลินสักหน่อย ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย?”
จงเหยียนซีหันขวับกลับมา
“ประธานเจียงจะจัดการยังไง?”จงเหยียนซีเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาบังคับจะเอาคำตอบ
นิสัยแบบนี้……
เจียงโม่หานยังคงสีหน้าเดิมไว้แล้วเดินเข้ามาใกล้นิดหน่อย จงเหยียนซีถอยหลังไปหนึ่งก้าวโดยสัญชาตญาณ ทว่าเจียงโม่หานก็ยังไม่หยุดฝีเท้าลง ระยะห่างระหว่างเธอกับเขาเริ่มหดเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เธอจึงต้องถอยหลังไปอีกสองก้าวอย่างช่วยไม่ได้
เจียงโม่หานคว้าข้อมือเธอไว้แล้วดึงเธอเข้ามา จงเหยียนซีก้าวไปข้างหน้าตามแรงดึง ส่วนมืออีกข้างก็ดันไว้ที่หน้าอกของเขา เพื่อระงับความตื่นตระหนกในใจ เธอจึงตะโกนออกไป“คุณจะทำอะไร?”
“เรื่องที่คุณหลินไม่ได้รับความเป็นธรรม ผมจะหาคำชี้แจงมาให้คุณแน่นอน แต่ว่ากว่าจะถึงตอนนั้น ผมอยากชี้แจงให้คุณหลินฟังเรื่องหนึ่ง”เขาพูดไปพลางเลื่อนสายตาลงมองนิ้วมือที่เรียวยาวและอ่อนนุ่มของเธอ จงเหยียนซีรับรู้จังหวะการเต้นของหัวใจเขาได้อย่างชัดเจน แผงอกอันร้อนฉ่าของเขายังคงแข็งแรงและมีพลังเหมือนเมื่อก่อนเลย เธอชักมือกลับแล้วหลบสายตาเขา“ประธานเจียงต้องการคำชี้แจงอะไร?”
เจียงโม่หานกดเสียงต่ำลง“ที่คุณหลินบอกว่าจะจีบผม คุณจริงจังใช่ไหม?”
จงเหยียนซี“……”
ตอนนั้นเธอก็แค่อยากยั่วโมโหหลิงเวยก็เลยพูดออกไปว่าจะตามจีบเขา
หึ มีหวังชาติหน้า!
เธอเงยหน้าแล้วแสร้งทำเป็นไขสือ“ฉันเคยพูดด้วยเหรอ?”
“ความจำของคุณหลินแย่ขนาดนี้เลยเหรอ?”ร่างอันกำยำของเจียงโม่หานเขยิบเข้ามาใกล้มากขึ้น“หรือว่าคุณหลินอยากให้ผมทบทวนความจำให้?”
ขณะที่พูดไอความร้อนจากลมหายใจของเขาก็พวยพุ่งออกมา มันทำให้เธอประหม่าเล็กน้อย แต่มันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เพราะหัวใจของเขาถึงทำให้เธอใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ และไม่ใช่เพราะจูบของเขาที่ทำให้เธอตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
จำได้เลยว่าครั้งแรกที่จูบกัน วันนั้นฝนตก เขามาส่งเธอกลับบ้านแล้วเขาก็จูบเธอที่ตรงหน้าประตู
เธอตื่นเต้นดีใจจนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย
เนื่องจากเธอเป็นฝ่ายชอบเขาก่อน แต่ต่อมาเขาคิดว่าความรักของเธอเกิดขึ้นในแผนการของเขา ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เธอทุ่มเทไปทั้งหมดนั้นมันออกมาจากใจจริงๆ
ถ้าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ เธอจะรักและเชื่อใจเขาขนาดนั้นเพราะแค่เขาตามจีบได้ยังไง?ทั้งหมดมันก็เพราะเธอรักเขาต่างหาก เธอรักเขาทั้งใจจริงๆ เธอใช้ความกล้าหาญทั้งหมดและหัวใจดวงน้อยๆที่มีเพื่อรักเขาและยอมมอบทุกอย่างให้กับเขาพร้อมกับยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยความเต็มใจ
“ฉันก็แค่ไม่ชอบที่โดนขู่ถึงได้พูดโต้กลับ มันไร้สาระมากถ้าประธานเจียงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง”จงเหยียนซียังคงทำหน้านิ่ง ความรักที่เธอมีต่อเขาหายไปตั้งแต่ที่เขาพูดว่าเขาไม่เคยรักเธอมาก่อน เพราะงั้นตอนนี้ระหว่างพวกเขาทั้งสองจึงเหลืออยู่แค่ความแค้นและความเกลียดชังเท่านั้น
“คุณหลินกำลังบอกผมว่า คุณโกหกงั้นเหรอ?”เขาผละตัวออกพลางเอ่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชา
จงเหยียนซีมองเขาด้วยสายตาอันแข็งกร้าว“หรือว่าตอนที่โดนหล่อนขู่ฉันพูดผิดไป ฉันต้องพูดว่าจากนี้ไปฉันจะไม่ติดต่อกับประธานเจียงอีกแล้วงั้นเหรอ?ประธานเจียง พวกเรายังต้องทำงานด้วยกันอยู่นะ จากนี้ไปโอกาสที่ต้องติดต่อกันก็ยังมีอีกเยอะ คุณจะให้ฉันตัดความสัมพันธ์ในการทำงานกับคุณทันทีเพราะคำขู่ของหล่อนเหรอ?”
เจียงโม่หานขมวดคิ้วขึ้น ผู้หญิงคนนี้ทำไมปากดีจังนะ?
“แล้วก็รบกวนประธานเจียงปล่อยฉันด้วยค่ะ เพราะถ้าเกิดว่าผู้หญิงที่หลงรักคุณหัวปักหัวปำคนนั้นมาเห็นเข้า ไม่รู้ว่าหล่อนจะเข้ามาบีบคอฉันให้ตายเลยรึเปล่า”
เจียงโม่หานคลายมือลง ไม่รู้ว่าทำไมในใจมันถึงรู้สึกมีอะไรบางอย่างขาดหายไปเล็กน้อย
“คุณหลินต้องการให้จัดการยังไง?”เขากลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม
จงเหยียนซีพูดขึ้น“ขอโทษฉัน ขอโทษฉันต่อหน้าทุกคน”
“โทรศัพท์ของคุณหลินที่พังไป ผมจะซื้อเครื่องใหม่คืนให้ ส่วนเรื่องขอโทษ……”
“จำเป็นต้องขอโทษฉัน!”จงเหยียนซีท่าทางแข็งกร้าวมาก“ฉันมาทำงาน ไม่ได้มาเพื่อให้ใครคุกคามฉันนะ”
เจียงโม่หานเหลือบมองเธอครู่หนึ่ง“คุณหลินก็โกหกผม เพราะงั้นก็ต้องขอโทษด้วยรึเปล่า?”
“ฉันโกหกอะไรคุณ?”
“ก็ที่บอกว่าจะตามจีบผมแล้วก็ชอบผมนิดหน่อย”
จงเหยียนซี“……”
เธอขมวดคิ้วขึ้น“ฉันชีแจ้งส่วนนี้ไปแล้ว……”
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร คุณก็โกหกผม”เจียงโม่หานทำหน้าขรึมราวกับว่ากำลังไม่พอใจเอามากๆ
นี่เขากำลังปกป้องหลิงเวยงั้นเหรอ?
เขา——ชอบหลิงเวย?
จงเหยียนซีกำหมัดแน่น“ฉันเข้าใจแล้ว ที่แท้ประธานเจียงก็ชอบหล่อนนี่เอง ในเมื่อชอบขนาดนั้นทำไมไม่ไปขอหล่อนแต่งงานซะล่ะ?จะมาใช้วิธีนี้เพื่อแสดงออกถึงความรักทำไม?ถือซะว่าวันนี้ฉันซวยเพราะถูกหมาบ้ากัดก็แล้วกัน ส่วนเรื่องโทรศัพท์เครื่องใหม่ ฉันมีเงินซื้อเองได้ ไม่ต้องให้ประธานเจียง เสียเงินซื้อให้หรอก”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไป
“คุณหลินหัวแข็งขนาดนี้ ระวังจะไม่มีใครชอบเอานะ”เจียงโม่หานเอ่ยขึ้น
จงเหยียนซีหันขวับกลับมา“เกรงว่าคงจะทำให้ประธานเจียงผิดหวังแล้วล่ะ ฉันก็มีคนมาชอบเหมือนกัน รสนิยมของคนเราไม่เหมือนกัน ถึงประธานเจียงจะไม่ชอบ แต่ก็มีคนอื่นที่ชอบ”
เมื่อก่อนเธอถูกคนมามายตามจีบ แต่ว่าเธอกลับตาบอดเลือกคนที่ไร้หัวใจ
เจียงโม่หานรู้สึกว่าคำพูดนี้ของเธอมันขัดหูแปลกๆ ทว่าน้ำเสียงที่พูดออกไปยังคงเย็นชาเหมือนเดิม“คุณหลินไม่ใช่ว่าอกหักหรอกเเหรอ?”
“อกหัก ฉันไม่ได้เสียหัวใจของฉันไป แต่ฉันเสียผู้ชายห่วยๆไปต่างหาก ซึ่งฉันหาได้ดีกว่านั้นแน่นอน”จงเหยียนซีมองไปที่เขา“ในเมื่อประธานเจียงเข้าข้างหล่อน และไม่ยอมให้หล่อนมาขอโทษฉัน ฉันก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว ฉันยอมรับว่าฉันมันโชคร้ายเอง ประธานเจียงมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมาเถอะ ฉันมีธุระ ไม่มีเวลามาคลุกอยู่กับคุณที่นี่นานๆหรอกนะ”
เจียงโม่หานมองเธออย่างเคร่งขรึมอยู่ครู่หนึ่ง เธอมีนิสัยหัวแข็งเหมือนหล่อนเลย
เมื่อก่อนหล่อนก็เป็นแบบนี้ ไม่เคยยอมให้ตัวเองเสียเปรียบ
และไม่หาเรื่องใครก่อน แต่เวลาไม่ได้รับความยุติธรรมก็จะไม่ยอมเด็ดขาด
เมื่อก่อนก็แค่รู้สึกว่าหล่อนเอาแต่ใจตัวเองเพราะถูกที่บ้านเลี้ยงดูตามใจมาอย่างดี แต่พอตอนนี้มาคิดดู เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาหล่อนเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยปิดบังตัวตนเลยแม้แต่น้อย หล่อนแสดงตัวตนที่แท้จริงของหล่อนออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาตลอด
แล้วทำไมทุกครั้งที่มองหลินลุ่ยซีแล้วมักจะนึกถึงหล่อน
เขาขมวดคิ้วแล้วกดเสียงต่ำ“คุณรอสักครู่”
เขากดโทรศัพท์สำนักงานโทรออกไปที่โต๊ะของเลขา“บอกให้หัวหน้าหลิงเข้ามาหน่อย