จงเหยียนซีก้มหัวลงแล้วเดินลงมา สถานที่ที่อยู่ตรงหน้านี้เหมือนกับเป็นบ้านส่วนบุคคลยังไงยังงั้นเลย
“ตามผมมา” เป็นครั้งแรกที่กู้เสียนมาที่นี่เหมือนกันเพราะงั้นเขาจึงไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ยังไงเขาก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เขาเพียงแค่หาข้อมูลได้ว่าผู้ชายคนนี้มักจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่บ่อยๆ
จงเหยียนซีพยักหน้า
เธอไม่ได้โง่ ฉะนั้นเธอจะไม่วู่วามทำอะไรที่ตัวเองควบคุมไม่ได้ เธอพยายามทำตัวให้เหมือนไม่มีตัวตนมากที่สุดเท่าทีจะทำได้
กู้เสียนเดินตรงไปเคาะประตู
ไม่นานประตูก็เปิดออก ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าคาบบุหรี่ห้อยไว้ที่ปาก พอเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็พ่นควันออกมา“มาหาใคร?”
“มาหาหัวหน้าของพวกคุณ”กู้เสียนพูด
ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้ามองเขาจากบนลงล่างก็พบว่าด้านหลังมีคนอยู่ จึงเหล่มองไปที่ด้านหลัง“มีสาวน้อยมาด้วยเหรอ?”
กู้เสียนเอาตัวมาบังจงเหยียนซีไว้“พวกเราอยากเจอหัวหน้าของคุณ”
“หัวหน้าของเรารู้จักคุณไหม?”ชายตรงหน้าดูดบุหรี่เข้าไปอย่างแรง“แล้วหาที่นี่เจอได้ยังไง?”
กู้เสียนเงียบ คงจะพูดออกไปไม่ได้ว่าก็กำลังสืบเรื่องพวกเขาสินะ
เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้
“ฉันเป็นเพื่อนของคุณหลิงเวย หล่อนเป็นคนแนะนำให้ฉันมา”จู่ๆจงเหยียนซีก็เดินออกมาพูด
วันนั้นเธอเห็นหลิงเวยกับผู้ชายคนนั้นคุยเรื่องการซื้อขาย คิดๆดูเขาคงจะอาศัยการทำงานผิดกฎหมายเพื่อเลี้ยงชีพ ซึ่งหลิงเวยก็ไม่ได้มาหาพวกเขาแค่เพียงครั้งเดียวด้วย เพราะงั้นจึงต้องรู้จักหล่อนแน่นอน
เป็นอย่างที่คิดไว้เมื่อได้ยินชื่อหลิงเวยผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าก็เอ่ยถามขึ้น“คุณหลิงแนะนำคุณมาเหรอ?”
“ใช่ ฉันอยากจะคุยเรื่องธุรกิจกับหัวหน้าของพวกคุณ”จงเหยียนซีพูด
ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าทิ้งบุหรี่แล้วใช้เท้าบี้ให้มันดับ จากนั้นก็เปิดประตูพร้อมกับเอ่ยขึ้น“เข้ามาสิ”
กู้เสียนเดินนำเข้าไป จงเหยียนซีเดินตามหลังเขา
ด้านในค่อนข้างเละเทะ ทว่าพื้นที่ถือว่ากว้างใช้ได้ มีผู้ชายสองสามคนนั่งอยู่บนโซฟา มีทั้งนั่งไขว่ห้าง ทั้งนอนแผ่หลาและเล่นโทรศัพท์อยู่ เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็เหล่มองแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับไปเล่นต่อ
บนโต๊ะมีกล่องใส่อาหารที่กินเสร็จแล้วแล้วยังไม่เก็บวางอยู่ และก็มีกระป๋องเบียร์วางอยู่เป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ดื่มชา เห็นทีถ้าคอแห้งก็คงจะดื่มแต่เบียร์
“พวกคุณรอสักครุ่ เดี๋ยวผมไปเรียกหัวหน้าก่อน”ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าเหลือบมองลูกน้องที่อยู่บนโซฟา“มีแขกมา พวกแกทำตัวให้มันดีๆหน่อย”
ทั้งสองสามคนเริ่มขยับตัวไปมา ทว่ากลับไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจอะไร พวกเขาทำตัวสบายมาก
ผู้ชายที่มีรอยแผลเป็นจากมีดอยู่บนหน้าเดินขึ้นไปชั้นสอง
ไม่นานก็เดินลงมาแล้วเอ่ยขึ้น“หัวหน้าของพวกเราอยู่ข้างบน พวกคุณขึ้นมาสิ”
กู้เสียนเอาตัวบังจงเหยียนซีไว้ข้างหลังเพื่อปกป้องเธอ จากนั้นก็พูดขึ้น“อยู่ข้างหลังผมไว้นะ”
จงเหยียนซีตอบตกลง
ทั้งสองเดินตามกันขึ้นไปที่ชั้นสอง
แม้ชั้นแรกจะเละเทะ แต่ชั้นสองกลับสะอาดหมดจด บนพื้นถูกเช็ดจนเป็นเงาสะท้อนส่องดูได้
พอพ้นหัวบันไดไปก็เจอเข้ากับห้องทานอาหาร มีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานบานใหญ่ มันดูสว่างและโล่งมาก มีชายคนหนึ่งกำลังทานอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหาร เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา เขาก็พูดโดยไม่เงยหน้าขึ้น“พวกคุณคือคนที่หลิงเวยแนะนำมาเหรอ?”
กู้เสียนกำลังจะพูด ทว่าจงเหยียนซีดึงเขาไว้แล้วส่ายหน้า จากนั้นก็มองไปที่ชายตรงหน้า“ทั้งใช่และก็ไม่ใช่”
นี่มันหมายความว่าอะไร?
ชายตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมามอง“หมายความว่าไง?”
จงเหยียนซีมองเขา“หล่อนเป็นคนทำให้ฉันรู้จักคุณ แต่ฉันไม่ได้มาเพราะหล่อนแนะนำ”
ไม่รอให้ชายตรงหน้าตอบ จงเหยียนซีพูดขึ้นอีกครั้ง“คุณคงสงสัยสินะว่าที่ฉันพูดมันหมายความว่ายังไง ที่จริงมันง่ายมาก ฉันรู้เรื่องของคุณมาจากปากหล่อน แถมยังรู้ด้วยว่าพวกคุณทำอะไรกัน”
ชายตรงหน้าวางช้อนในมือลง แววตานิ่งสุขุม เขาไม่พอใจ ยังไงเขาก็ไม่ได้ทำธุรกิจสุจริต เพราะงั้นเขาจึงไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องมาก
จงเหยียนซียิ้ม“ที่จริงฉันมาหาคุณก็เพราะอยากทำธุรกิจกับคุณ”