“ประธานเจียงของเราอยากพบคุณครับ” หนานเฉิงพูด
หัวหน้าหวูพูดอย่างเป็นธรรมชาติมาก “ประธานใหญ่ของเหิงคังกรุ๊ปอุตส่าห์เชิญเลี้ยง ผมต้องให้เกียรติแน่นอนอยู่แล้ว บอกมาได้เลยครับ ที่ไหนเหรอ”
“หวงเฉิง ห้องส่วนตัวชั้นบนสุด หนึ่งทุ่มประธานเจียงของเราจะรอคุณอยู่ที่นั่นครับ” หนานเฉิงตอบกลับ
“ได้ คุณไปบอกประธานเจียง ผมจะไปที่นั่นแน่นอนครับ”
“โอเคครับ ผมจะไปบอกประธานเจียง หัวหน้าหวูช่างเป็นคนง่ายๆ ดีครับ ต่อไป มีเรื่องอะไรที่ผมทำให้ได้ ขอเพียงเอ่ยปาก”
หัวหน้าหวูโบกมือ “เรื่องนี้ ในอนาคตค่อยว่ากันครับ”
หนานเฉิงพูดว่า “งั้นได้ ผมขอตัวก่อน”
หัวหน้าหวูส่งเสียงตอบรับ
หนึ่งทุ่ม
ชั้นบนสุดของหวงเฉิง ห้องที่ดีที่สุดสำหรับการดูวิว เจียงโม่หานมาถึงก่อนเวลา
ห้องส่วนตัวนี้ตั้งอยู่ใกล้กับริมขอบมากที่สุด ผนังเป็นกระจกยาวล้อมรอบด้าน โต๊ะอาหารวางชิดหน้าต่าง นั่งตรงนี้ สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองในยามค่ำคืนได้แบบพาโนรามา
หนึ่งทุ่ม หัวหน้าหวูมาถึงตรงเวลา หนานเฉิงที่อยู่ข้างนอกเห็นเขามาแล้ว จึงมาต้อนรับทันที พูดอย่างกระตือรือร้นว่า “หัวหน้าหวู”
หัวหน้าหวูพยักหน้ารับ
“ประธานเจียงอยู่ในห้องส่วนตัวแล้ว”
หนานเฉิงนำหัวหน้าหวูไปยังห้องส่วนตัว
ไม่นานก็มาถึงหน้าประตูห้อง หนานเฉิงเปิดประตูห้องส่วนตัว แล้วผายมือเชิญเขา “หัวหน้าหวูเชิญครับ”
หัวหน้าหวูเดินเข้ามา
เจียงโม่หานลุกขึ้นจากที่แล้วเอ่ยทักทายก่อน “หัวหน้าหวู”
หัวหน้าหวูเดินมาหา “ประธานเจียง”
ทั้งสองจับมือกัน เจียงโม่หานชักมือกลับแล้วพูดว่า “หัวหน้าหวูเชิญนั่ง”
หัวหน้าหวูนั่งลง และเอ่ยออกไปตรงๆ ว่า “ประธานเจียงมาหาผมเพราะเรื่องของคุณหลิงใช่ไหม”
เจียงโม่หานนั่งลงตามและไม่ได้ปิดบัง ตอบกลับว่า “ใช่”
“แล้วประธานเจียงคิดจะทำอะไร หรือว่าอยากให้ผมทำอะไร” หัวหน้าหวูยกน้ำตรงหน้าขึ้นจิบ “คุณอยากให้ผมยั้งมือไว้ไมตรีเหรอ”
เพราะท้ายที่สุดหลิงเวยก็เป็นคนของเขา เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ
ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่เป็นฝ่ายมาหาตนก่อนหรอกใช่ไหม
เจียงโม่หานพูด “ไม่ใช่”
หัวหน้าหวูเลิกคิ้ว “หืม เช่นนั้นประธานเจียงมาหาผมด้วยเหตุผลอะไรครับ”
“ฆ่าคนตายชดใช้ด้วยชีวิต สมควรได้รับโทษตามกฎหมาย ผมหวังว่าเธอจะถูกตัดสินประหารชีวิต”
หัวหน้าหวูค่อนข้างคาดไม่ถึง ยังคิดอยู่เลยว่าเขาอยากช่วยคน ที่แท้ตรงกันข้าม
“เท่าที่ผมรู้ คุณหลิงคนนี้อยู่กับประธานเจียงมาเป็นเวลานาน หรือว่าประธานเจียงไม่นึกถึงความสัมพันธ์ครั้งเก่าเลย”
ขณะนี้ ณ โรงแรม
หลังจากที่หัวหน้าหวูได้ที่อยู่ ก็บอกกับกวนจิ้ง กวนจิ้งติดตั้งเครื่องดักฟังไว้ในห้องส่วนตัวล่วงหน้าแล้ว ที่พวกเขาพูดคุยกันในห้องส่วนตัว กวนจิ้งได้ยินทั้งหมดอย่างชัดเจน
เขาเตรียมตัวไปจัดการคนเอาไว้ดิบดี ปรากฏว่าเจียงโม่หานไม่ได้มาขอร้องให้หลิงเวย
จุดนี้ทำให้เขาหงุดหงิดน้อยลง
ยังดีที่เขาไม่ได้ไร้จิตสำนึก ไม่แยกแยะถูกผิด
ไม่ เขาเป็นคนที่ไม่แยกแยะถูกผิด!
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีการแก้แค้นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก
ภายในห้อง
เจียงโม่หานรินน้ำให้หัวหน้าหวู “พูดไม่ได้ว่าเป็นคนของผม แค่ทำงานในบริษัทเท่านั้นครับ”
“คดีนี้ ยังเกี่ยวข้องกับคดีเมื่อปีก่อนด้วย เกี่ยวกับการตายของภรรยาคุณ ประธานเจียงคงรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับ เหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่คราวนั้นไม่ใช่การฆ่าตัวตายก่อนไฟลุกใหม้ และผู้ต้องสงสัยคือหลิงเวย ไม่ทราบว่าประธานเจียง มีความคิดเห็นยังไง”
เจียงโม่หานวางมือไว้บนโต๊ะ ค่อยๆ ประสานเข้าด้วยกัน ดูเหมือนสงบนิ่ง ในความเป็นจริงคือกำลังแสร้งทำเป็นใจเย็น
“ผมกับภรรยาแต่งงานกันสามปี…” เมื่อพูดถึงเธอ ในใจเจียงโม่หานก็ยิ่งไม่สงบ เขาใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ผมรักเธอมาก เธอตายไปผมเสียใจมาก หวังว่าคนที่ทำร้ายเธอ จะถูกลงโทษตามความเหมาะสม แบบนี้ถึงสามารถปลอบประโลมวิญญาณของเธอบนสวรรค์ได้”
หัวหน้าหวูเลิกคิ้วเล็กน้อย “ผมจำได้ว่าตอนนั้นพวกคุณทำเรื่องหย่าแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
เจียงโม่หานลดสายตาลงเล็กน้อย ขนตาสั่นไหว “ใช่ครับ”
“แม้เราจะหย่ากัน แต่ก็เคยรักกัน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่แต่งงาน” น้ำเสียงของเขาไม่เฉยเมยและหนักแน่นดังเช่นปกติ กลับกันมันค่อนข้างขาดความมั่นใจ
หากตอนแรกเป็นเพียงความรักอันบริสุทธิ์ บางทีตอนนี้ พวกเขาคงจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
“หัวหน้าหวู สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ ว่าจะตัดสินอย่างไร”
“ฆ่าคนตายชดใช้ด้วยชีวิต นอกจากนี้เธอยังมีพฤติการณ์อาชญากรรมขั้นเลวทราม ก่อให้เกิดผลกระทบหนักอย่างใหญ่หลวง ต่อให้ไม่ยิงเป้า ก็จะต้องจำคุกตลอดชีวิต ผมคิดว่าการลิดรอนเสรีภาพตลอดชีวิตของบุคคล ทรมานยิ่งกว่าปล่อยให้เธอตาย ประธานเจียงคิดว่ายังไงครับ”
“ถ้าอย่างนั้นผมอยากรบกวนให้หัวหน้าหวูช่วยอะไรหน่อยครับ” เจียงโม่หานมองเขา
“ประธานเจียงโปรดพูดมา หากเป็นสิ่งที่ผมทำได้ ก็จะไม่ปฏิเสธ ตอนนี้ประธานเจียงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของเมืองเรา แน่นอนว่าผมต้องเห็นแก่หน้าคุณครับ”
“ผมจะไม่ให้หัวหน้าหวูช่วยเปล่าๆ มีอะไรที่ผมเป็นประโยชน์ต่อหัวหน้าหวู แค่เอ่ยปากกับผมมา”
ทั้งสองคนมีมารยาทต่อกัน
“ผมไม่อยากให้เธอใช้ชีวิตอยู่ในนั้นอย่างสงบสุขเกินไป” เจียงโม่หานละสายตาบางเบาออกไปนอกหน้าต่าง มองดูแสงไฟสลัวในระยะไกล ดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ได้”
หัวหน้าหวูตอบตกลงเต็มปากเต็มคำ ต่อให้เจียงโม่หานไม่ร้องขอสิ่งนี้ เขาก็จะทำอย่างนั้นเช่นกัน
“ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อน” หัวหน้าหวูลุกขึ้นยืน
เจียงโม่หานก็ยืนขึ้นตาม “หัวหน้าหวู ยังไม่ได้บอกเลยว่าต้องการให้ผมทำอะไร”
“งั้นถือว่าประธานเจียงติดหนี้บุญคุณผม หากในอนาคตต้องการความช่วยเหลือจากประธานเจียง ก็หวังว่าประธานเจียงจะไม่ปฏิเสธ”
“แน่นอนครับ”
“มื้อนี้ผมคงไม่ทานแล้ว ผมยังมีธุระจริงๆ ครับ ประธานเจียงไม่ต้องเดินไปส่ง” หัวหน้าหวูโบกมือ
เจียงโม่หานเอ่ยเรียก “หนานเฉิง ส่งหัวหน้าหวู”
หนานเฉิงผลักประตูเข้ามา
หัวหน้าหวูเดินออกไป หนานเฉิงตามเข้าไป “ผมจะไปส่งหัวหน้าหวูถึงชั้นล่างครับ”
หัวหน้าหวูพูดว่า “ไม่ต้องหรอกครับ คุณไปทำงานเถอะ”
แม้ว่าหัวหน้าหวูจะพูดอย่างนั้น หนานเฉิงก็ยังคงไปส่งเขาขึ้นลิฟต์ก่อนจะกลับไปที่ห้องส่วนตัว
ภายในห้อง โคมไฟระยะสว่างไสว แสงนีออนสะท้อนผ่านหน้าต่าง กลายเป็นหลากสี ราวกับห้องนี้อยู่ท่ามกลางมหาสมุทรที่มีสีสัน
เจียงโม่หานยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองออกไปนอกหน้าต่าง ร่างสูงดูอ้างว้างและโดดเดี่ยว
หนานเฉิงเปิดประตูเข้ามา มองดูเขา ใช้เวลานานกว่าจะพูดออกมา “หลิง… เวยจะตายไหมครับ”