เวลานี้อารมณ์ของเจียงโม่หานจะต้องไม่ดีอย่างแน่นอน เดิมที่เขาอยากจะขึ้นไปเกลี้ยกล่อมเขาสักหน่อย แต่กลับถูกเลขาฯแจ้งว่า
ประธานเจียงกำชับไว้ว่าไม่ต้องการพบใครทั้งนั้น
ต่อให้หนานเฉิงจะอยากแค่ไหนก็ไม่กล้าขัดคำสั่งของเจียงโม่หาน แล้วก็นึกถึงเรื่องที่เขากำชับให้ตัวเองไปทำ จึงได้พลางโทรศัพท์พลาง
เดินออกไปด้านนอก
จงจัดคนไปทำความสะอาดวิลล่า
ยามนี้ กู้เสียนตัดสินใจที่จะไปเจอกวนจิ้งแล้ว ตื่นเต้นนิดหน่อย ยังไม่ทันถึงเวลาเขาก็ดึงจงเหยี่ยนซีมา ให้เธอช่วยตัวเองเลือกเสื้อผ้า
จงเหยียนซีถึงกับแหวะออกมา “คุณไม่ได้จะไปนัดเจอตัวดูคู่สักหน่อย จะแต่งตัวให้เป็นพิเศษทำไมกัน”
กู้เสียนเข้าใจดี แต่ว่าควบคุมความตื่นเต้นในใจไม่ได้ ที่จะได้ไปเจอคนที่อาจเป็นพ่อของตัวเองครั้งแรกอย่างเป็นทางการ
อย่างน้อยก็ต้องแต่งตัวให้ดูดีหน่อย
“ช่วยผมดูหน่อย” กู้เสียนเงยหน้าขึ้น
จงเหยียนซีเห็นท่าทางของเขาที่จริงจัง จึงไม่ได้พูดอะไรอีก ช่วยเขาจัดเนคไทให้ตรงจัดเสื้อให้เรียบ “ดูดีแล้ว”
“เหรอ”
“ใช่” เธอตอบกลับอย่างมั่นใจ
ครีดๆ ท้นใดนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อของจงเหยียนซีได้ดังขึ้น
เธอลัวงออกมาแล้วดูที่หน้าจอ กู้เสียนถามขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ใครเหรอ”
ความจริงในใจของเขานั้นคิดว่าใช่กวนจิ้งหรือไม่
“น้องชายของฉัน”
เมื่อพูดจบเขาก็ไปรับสายข้างๆ
กดรับสายแล้วเสียงของจวงเจียเหวินก็ด้งลอยขึ้น “เรื่องของพี่จะจัดการได้เมื่อไร”
จงเหยียนซีกล่าวถาม “ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้น”
“วันที่สิบหกเดือนสิบผมจะแต่งงานนิ หรือว่าพี่จะไม่มางานแต่งของผม” จวงเจียเหวินกล่าวอย่างเคร่งขรึม
จงเหยียนซีกล่าวขึ้นทันที “ใช่สิ พี่เกือบลืมไปแล้ว”
“ถึงเวลานั้นคุณพอคุณแม่จะกลับมาจากต่างประเทศ พี่จะหลบไม่เจอได้อีกเหรอ ดังนั้นรีบจัดการเร็วๆ” น้ำเสียงจวงเจียเหวินจริงจังมาก
“พี่รู้”
“พรุ่งนี้ผมกับซินเหยาจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่ประเทศไทย พี่มีคำพูดอะไรจะฝากผมพูดไหม”
“ถ่ายรูปพวกท่านให้พี่สักใบนะ” เธอกล่าว
จวงเจียเหวินนั้นอยากให้เธอไปพร้อมกับตัวเอง “ได้ แต่พี่ต้องรีบจัดการเรื่องของพี่นะ หลบมาหนึ่งปีแล้ว เหลือเวลาให้พี่อีกไม่มาก”
“พี่รู้” จงเหยียนซีหรี่ตาลง
เพียงแต่ว่าการที่จะทำให้เจียงโม่หานไม่เหลืออะไรในเวลาเพียงสั้นๆนั้น ช่างเป็นอะไรที่ยากเย็นเหลือเกิน
ฝั่งนั้นได้วางสายลง จงเหยียนซีก็เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋า เธอไม่รู้ว่ากู้เสียนได้ยื่นหน้าเข้ามา เมื่อหันหลังปลายจมูกจจึงไปเฉียด
ผ่านใบหน้าของกู้เสียน กู้เสียนที่แอบยื่นหน้าเข้าเพื่อมาฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ของเธอ ได้ยินคำสนทนาของเธอกับจวงเจียเหวิน เขารู้ว่าจง
เหยียนซีต้องการความช่วยเหลือ เขาจึงปริปากกล่าวขึ้น “ต้องการให้ผมช่วยไหม”
แต่ผลที่ได้คือเธอกลับส่ายหน้าอย่างเร็วโดยไม่คิดจะไตร่ตรอง
วินานที่ที่ผิวเฉียดชนกัน ทั้งคู่ต่างก็ตกใจตะลึง
จงเหยี่ยนซีรีบดึงตัวออกมา จ้องมองไปที่เขาด้วยความโกรธ “คุณมายืนอยู่ด้านหลังฉันทำไม”
กู้เสียนยื่นมือมาจับหน้าแล้วบอกตรง ๆ “มาฟังคุณคุยโทรศัพท์”
จงเหยียนซี “…..
“คุณ… ..ทางบ้านไม่ได้สอนหรือไงว่าการแอบฟังคนอื่นคุยกันนั้นเสียมารยาทมาก”
“ตั้งแต่เล็กจนโตผมก็ไม่มีพ่อ ไม่มีคนทางบ้านคอยอบรมสั่งสอนเรื่องแบบนี้หรอก”
กู้เสียนหันหลัง เห็นท่แล้วคงจะถูกคำพูดของจงเหยี่ยนซีทิ่มแทงเข้าแล้ว ถึงได้ไม่พอใจ
“ขอโทษ” จงเหยียนซีกล่าวขออภัย
เป็นเธอเองที่พูดโดยไม่คิด ไม่ควรที่จะพูดแรงขนาดนั้น
กู้เสียนโบกมือปัด “คุณคิดถึงตัวคุณเองก่อนเถอะ ว่าจะจัดการเรื่องราวของคุณให้ได้โดยเร็วที่สุด”
จงเหยียนซีม้มปากแล้วเดินออกไปทางประตู “ฉันจะไปที่เหิงคังกรุ๊ปสักหน่อย”
“ตอนนี้เหรอ” กู้เสียนมองดูนาฬิกาครู่หนึ่ง “ตอนนี้บ่ายสองโมงแล้วนะ”
“ยังอีกนานกว่าจะถึงตอนเย็น” จงเหยนซีเปิดประตูแล้วเดินออกไป
เธอลงจากตึก เถียนฉีเฟิงนั่รอเธออยู่ในรถที่จอดอยู่ข้างทาง เมื่อเห็นเธอออกมา จึงได้ลงจากรถมาเปิดประตูให้เธอ
เธอก้มตัวนั่งเข้าไปในรถแล้วกล่าว “กลั่บโรงแรม”
เธอต้องการกลับไปเอาโปรเจกต์งาน
อันที่จริงโปรเจกต์งนนั้นได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว สาเหตุที่ต้องล่าช้าหนึ่งเดือน อไม่ต้องการให้เจียงม่หานเกิดความสงส้ย หากทุก
อย่างราบรื่นเกินไปจะเป็นการดึงดูดความสนใจจากเขา
การร่วมมือซื้อกิจการครั้งนี้ของพวกเขา นั้นเป็นการจัดฉากตั้งแต่ต้น เบื้องหลังผู้สนับสนุนบริษัทหลักทรัพย์ซินไช่คือธนาคารเพื่อการลง
ทุนโจว่เยว่ และธนาคารเพื่อการลงทุนโจว์เยว่นั้นจงจิ่งห้าวเป็นผู้ก่อตั้ง
นี่เป็นธุรกิจของว่านเยว่กรุ๊ป เพียงแต่มีคนส่วนน้อยที่รู้
ต้องการซื้อบริษัทหลักทรัพย์ที่มีการพัฒนามาดีไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงแต่การสำรวจตรวจสอบข้อมูลภายในต้องชัดเจนและถูกต้อง
ก่อนหน้านี้เจียงโม่หานก็เคยทำการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นเวลากว่าครึ่งปี ตรวจสอบอย่างละเอียดชนิดที่ว่าเป็นข้อมูลรายวัน
ถ้าหากว่าผลการตรวจสอบนี้ของเจียงโม่หานนั้นออกมาว่า บริษัทหลักทรัพย์ซินไฮมีการพัฒนาอย่างดี
ต้องการจะซื้อบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวนี้ จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการลงทุน
เพียงเจียงโม่หานลำพังนั้นไม่สามารถทำได้ เขาจะต้องหาคนมาร่วมลงทุน เพื่อลดจำนวนเงินในการลงทุนของตัวเอง ขณะเดียวกันเพื่อ
หาคนมาแบบรับความเสี่ยงกับเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะวางแผ่นอย่างรอบคอบแล้ว แต่ไม่สามารถกรันได้ว่าจะไม่เกิดความผิดพลาด เพราะมันเกี่ยวข้องกับจำนวนเงินที่
มหาศาล หากเกิดความไม่ระวังก็อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงได้ เมื่อถึงเวลานั้นซื้อกิจการไม่สำเร็จแล้ว เงินที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้
ก็ยังอาจจะสูญเปล่า
และแผนการของเธอขั้นแรกก็คือให้เจียงม่หานตรวจสอบความสามารถในการทำกำไรของบริษัทหลักทรัพย์ซินไฮแต่ข้อมูลเหล่านั้น
ล้วนเป็นข้อมูลจริง หากเป็นการปลอมแปลงขึ้นยากที่จะหลอกเจียงโม่หานได้ เธอต้องการให้เจียงโม่หานหลวมตัวเข้ามาคือขั้นต่อไป
รอบแรก เมื่อซื้อกิจการแล้ว ก็ต้องลงทุนจำนวนเงินมหาศาล เมื่อรอให้เหิงคั่งกรุ๊ปลงทุนจำนวนเงินมหาศาลแล้ว เวลานี้บริษัทหลักทรัพยั
ซินไฮก็จะประกาศข้อบกพร่องอย่างเป็นทางการ และธุรกิจเดิมที่มีอยู่ได้ถูกถ่ายโอนไปยังบริษัทอื่นแล้ว
สุดท้ายความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของพวกเขาก็กลายเป็นความว่างเปล่า ไร้ค่าไร้ความหมาย
เมื่อถึงตอนนั้นเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดของเจียงโม่หาน ก็ขาดทุนย่อยยับไม่สามารถเอากลับคืนมาได้!
