จงเหยียนซีถึงกับรู้สึกว่าคำพูดนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่น?
นี่คือการเห็นเธอเป็นเพื่อนด้วยความจริงใจ ถึงได้ยืนอยู่ฝั่งเธอ คิดเพื่อเธอ
และลองครุ่นคิดดูว่าก่อนหน้านี้เธอคบหาเพื่อนแบบไหนกัน
จู่ๆเธอก็ก้มหน้าลง หัวเราะเยาะตัวเอง
กู้เสียนไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรไป ทั้งยังก้มหน้าราวกับว่าอารมณ์หม่นหมอง จึงนึกว่าเธอโมโหเลยเอ่ยถามว่า “เธอโกรธหรือ”
“เปล่า อีกอย่างทำไมฉันจะต้องโกรธด้วยล่ะ?” จงเหยียนซีเงยหน้ามองมา เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเขาแล้ว ก็เบนสายตาหลบไปทางอื่น “รีบสวมเสื้อผ้าเร็วเข้า อีกครู่หนึ่งจะมีคนมาส่งอาหารเช้า สภาพแบบนี้ของนาย…”
ไม่รอให้จงเหยียนซีเอ่ยจบ กู้เสียนก็ตัดบทเธอ “สภาพแบบนี้ของฉันมันทำไมกัน? ดูดีกว่าหนุ่มน้อยหน้าตาดีในโทรทัศน์อยู่มากนะ ดาราพวกนั้นสวยแต่รูป จูบไม่หอม มองได้แต่ใช้งานไม่ได้ เลิกเสื้อผ้าขึ้นมา ก็ไม่แน่ว่าจะมีแต่เนื้อย้วยๆ เธอดูสิว่าฉันแข็งแรงขนาดไหน?”
จงเหยียนซีลุกขึ้น “นายจะสวมเสื้อผ้าหรือไม่ ไม่สวมฉันจะเข้าไปใช้ห้องน้ำแล้ว?”
กู้เสียน “…”
นี่มันท่าทีอะไรของเธอกัน?
หรือว่าเขาจะน่าเกลียดจริงๆ?
เขาก้มหน้ามองตัวเอง ไม่น่าเกลียดจริงๆนะ
“เรือนร่างแข็งแรงของนายเก็บเอาไว้ให้แฟนสาวในอนาคตจะได้ไหม?” จงเหยียนซีผลักเขาไปทีหนึ่ง “เก็บเรือนร่างอันยอดเยี่ยมของนายให้ดีเสียเถอะ”
กู้เสียนเดินยิ้มเข้าไปในห้อง “ใช่ ต้องซ่อนเอาไว้ ให้คนเห็นแล้วตกหลุมรัก ฉันไม่ชอบถูกคนตามจีบ”
จงเหยียนซี “…”
นี่มันจะหลงตัวเองเกินไปแล้ว คุณอากวนไม่หลงตัวเองเหมือนเขาขนาดนี้
เขาเป็นลูกชายของคุณอากวนจริงๆหรือ
จุดนี้ทำให้เธอรู้สึกสงสัย
“เหยียนซี” ประตูห้องที่ปิดอยู่ถูกเปิดออกกะทันหัน กู้เสียนยื่นหน้าออกมา “เสื้อผ้าที่ถอดเมื่อวาน ฉันสวมมันไม่ลงจริงๆ มันยังมีกลิ่นเหล้า เหม็นมาก”
จงเหยียนซี “…”
“นายหมายความว่าอะไร” เธอกอดอก
“แหะๆ เธอช่วยไปซื้อให้ฉันหน่อยเถอะ? ถือโอกาสช่วยฉันซื้อกางเกงในผู้ชายมาด้วยตัวหนึ่ง” กู้เสียนยิ้มหล่อ
จงเหยียนซีหยิบหมอนที่อยู่บนโซฟาขึ้นมาแล้วโยนไป “นายไม่ใส่ นายก็แก้ผ้าแล้วกัน ถึงอย่างไรฉันก็มีเสื้อผ้า อีกครู่หนึ่งฉันจะไปข้างนอก”
“พวกเราไม่ใช่เพื่อนกันหรือ เธอขี้เหนียวขนาดนี้เลย?”
“ขอโทษด้วย ฉันใจกว้างไม่ไหว”
ซื้อกางเกงใน?
เชื่อเลยว่าเขาจะคิดออกมาได้
สุดท้ายกู้เสียนก็สวมเสื้อผ้าชุดเมื่อวานที่ถอดออกมา
ทั้งสองคนเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว อาหารเช้าของโรงแรมก็ขึ้นมาส่ง
เมื่อผ้าม่านภายในห้องถูกเปิดออกก็สว่างมาก เปิดหน้าต่างเพื่ออากาศที่สดชื่น ทั้งสองคนนั่งกินอาหารเช้าที่หน้าโต๊ะ พลางพูดคุยกัน
“เธอมีดาราชายที่ชอบไหม” กู้เสียนถาม
จงเหยียนซีเอ่ย “ไม่มี”
“เธอนี่น่าเบื่อจริงๆ”
จงเหยียนซี “???”
“นายมีดาราสาวที่ชอบ?” จงเหยียนซีถามกลับ
“มีสิ”
“ใคร?”
“ไม่บอกเธอหรอก”
จงเหยียนซี “…”
เธอดื่มนมไปคำหนึ่ง “ฉันไม่อยากจะรู้หรอก”
กู้เสียนยิ้ม หยิบมันฝรั่งอบชีสในจานเล็กชิ้นหนึ่งไปวางไว้ในจานอาหารของเธอ “อันนี้อร่อย”
จงเหยียนซีคีบเข้าปาก
รสชาติไม่เลว มีรสชาติของชีสและความอ่อนนุ่มของมันฝรั่ง บวกกับอบจนเหลืองเกรียม กรอบนอกนุ่มใน
อีกด้านหนึ่ง เจียงโม่หานที่เดินออกมาจากโรงแรม ก็มีสีหน้าเย็นชา อาหารเช้ายังไม่ได้กินก็ขับรถออกไปด้วยความรวดเร็วตลอดทาง ช่วงเวลานี้ยังไม่ถึงเวลาทำงาน รถจึงไม่เยอะ ไม่อย่างนั้น เขาอยากจะขับเร็วก็ขับไม่ได้
เมื่อถึงบริษัท เขาก็ให้เลขาแจ้งให้ทุกแผนกเข้าประชุม
ดูเหมือนว่ามีเพียงแค่ให้ตัวเองทำงานขึ้นมา ถึงจะไม่นึกถึงภาพที่กู้เสียนโอบหลินลุ่ยซี
เขาก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไปเหมือนกัน
ความจริงแล้ว เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เอามากๆ
ไม่ชอบที่ตัวเองมีความรู้สึกใดกับผู้หญิงคนอื่นๆ นอกจากจงเหยียนซี
เขารู้สึกว่าตัวเองหักหลังเธอ
แม้ว่าเขาจะเคยเกลียดเธอ แค้นเธอ
แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่า หลังจากนี้ตัวเองจะยังมีความรู้สึกใดกับผู้หญิงคนอื่นได้อีก
ตลอดช่วงเช้าล้วนประชุม เจียงโม่หานมอบหมายภารกิจให้กับแต่ละแผนกทีละอย่างๆ ทำให้ออฟฟิศที่เดิมก็ยุ่งอยู่แล้ว มีบรรยากาศการทำงานที่ตึงเครียดมากกว่าเดิม
ทุกคนล้วนมองออกว่าดูเหมือนเขาจะอารมณ์ไม่ดี จึงไม่กล้าเอ่ยขัด ล้วนแล้วแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานเหมือนนกกระทา
ไม่มีใครกล้าพูดนินทา
เวลาในช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนใกล้เวลากลางวัน เลขาก็ถือกล่องกล่องหนึ่งมาเคาะประตูห้องทำงาน
เจียงโม่หานถอดสูทแล้ว กระดุมสองเม็ดบริเวณปกคอเสื้อของเสื้อเชิ้ตตัวบนสีขาวถูกปลดออก เผยให้เห็นลำคอยาวที่เซ็กซี่ เนคไทถูกดึงเป็นแนวเฉียงพาดไว้ที่ด้านหน้า ไร้ซึ่งท่าทีสำรวมเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา แต่เห็นได้ชัดว่ามีความหงุดหงิดอยู่หลายส่วน
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็เอ่ยเสียงเข้ม “เข้ามา”
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เงยหน้าขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
ในไม่ช้าเลขาก็ผลักประตูให้เปิดออกแล้วเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน “นี่คือพัสดุที่ประชาสัมพันธ์ได้รับตอนช่วงเช้าที่คุณประชุมอยู่ค่ะ”
พัสดุ?
เจียงโม่หานเงยหน้า
เลขายื่นกล่องพัสดุให้ “ชื่อผู้รับเป็นชื่อของคุณค่ะ”
เจียงโม่หานไม่ซื้อของทางอินเทอร์เน็ต ใครส่งพัสดุให้เขากัน?
“ด้านในคืออะไร” เขาถาม
เลขาส่ายหน้า ในใจก็คิดว่าเธอก็ไม่กล้าแกะ จะไปรู้ได้อย่างไรกัน?
“ไม่รู้ว่าด้านในคืออะไรค่ะ แต่เมื่ออยู่ในมือก็เบามาก”
“วางลงเถอะ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ
เมื่อเลขาวางกล่องลงบนโต๊ะแล้ว ก็ถอยออกไป และปิดประตูลงให้เรียบร้อย
เจียงโม่หานก้มหน้าอ่านแฟ้มเอกสารต่อ แต่ว่ากลับไม่สามารถสงบนิ่งได้ เขาปิดแฟ้มเอกสาร มองกล่องพัสดุที่วางอยู่บนโต๊ะ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ยื่นมือไปหยิบมา ใช้ปลายปากกากรีดสก็อตเทปให้ขาดออก ด้านในคือแฟลชไดรฟ์อันหนึ่ง
เป็นแฟลชไดรฟ์อีกแล้ว
คราวที่แล้วหลี่เฉิงเจี๋ยให้แฟลชไดรฟ์เขามาอันหนึ่ง อย่างนั้นครั้งนี้จะคืออะไร?