“ฉันไม่รู้ว่าประธานเจียงกำลังพูดเรื่องอะไร ดูโปรเจกต์งานก่อนเถอะ พวกเรามาคุยเรื่องงานกัน” จงเหยียนซีสบตากับเขาอย่างใจเย็น
“ถ้าให้ฉันพูด วันนี้ประธานเจียงต่างหากที่ดูแปลก”
ครืดๆ–
เวลานี้โทรศัพท์ของเธอได้ดังขึ้น
เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาเป็นข้อความจากเยนฉีเฟิง เนื้อหาคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่หน้าประตูเหิงคังกรุ๊ป เธอเลิกคิ้วเบาๆ คิดในใจ เจียงโม่
หานคุณมันก็แค่ดูดี แต่ความรัก ญาติมิตร คุณไม่เคยมีไม่ได้เคยสัมผัส
“เหรอครับ ผมน่าแปลกตรงไหน คุณหลินลองพูดให้ผมฟังหน่อยสิครับ” เจียงโม่หานจ้องมองเธอ
“ได้ยินมาว่าประธานเจียงเป็นคนเย็นชา วันนี้ฉันเห็นแล้วค่อนข้างที่จะเป็นมิตรดีนิคะ อย่าบอกนะว่าถูกใจฉัน” จงเหยียนซียิ้ม “ฉันมีแฟน
แล้วนะ”
ประโยคเดียวฉันมีแฟนแล้วนะ ทำให้เจียงโม่หานจิตใจหงุดหงิดมาก ริมฝีปากยกขึ้นน้ำเสียงเคร่งขรึม “คุณหลิน เชิญคุณกลับเถอะ แล้ว
ผมจะอ่านดูโปรเจกต์งานของคุณ”
จงเหยียนซีลุกยืนขึ้น “อย่างนั้นฉันกลับก่อนนะ ประธานเจียงมีความคิดเห็นอย่างไรติดต่อฉันได้ตลอดเวลา ฉันพร้อมแก้ไขเสมอ”
พูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป
จงเหยี่ยนซีเดินจากไปตั้งนานแล้ว เจียงโม่หานถึงได้เปิดดูแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
ตอนที่เห็นหน้าสุดท้ายนั้น เสียงโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นได้ดังขึ้น
เขาเอื้อมมือไปจับแล้วมาแนบไว้ข้างใบหู
“ประธานเจียงครับ ผมได้ส่งอิเมลหนึ่งฉบับให้ท่าน พวกเราพบว่าคนคนนี้เคยปรากฏตัวที่บริษัทหลักทรัพย์ซินไฮ”
เจียงโม่หานเลื่อนเม้าส์คลิกเปิดอีเมลใหม่ อีเมลนั้นเป็นรูปถ่ายคนคนหนึ่ง คนคนนี้เขานั้นรู้จัก คือกวนจิ้ง
กวนจิ้งเป็นใครกันนั้นไม่เคยปกปิดเป็นความลับ
เขาหรี่ดวงตาลง กนจิ้งไปปรากฏตัวอยู่ที่บริษัทหลักทรัพย์ซินไฮได้อย่างไร
สั่กพักเขาก็ตระหนักถึงบางอย่าง
สายตาของเธอจับจ้องไปที่โปรจกตังานที่จงเหยี่ยนซีส่งมา บอกว่จะใช้เวลาหนึ่งเดือน แต่เธอกลับทำเสร็จในเวลาเพียงสั้น ๆ อีกทั้งยัง
ไม่มีข้อผิดพลาดใด ๆ นี่เป็นเพราะเธอเก่งหรือเพราะเธอมีการวางแผนไว้นานแล้ว”
เขาเชื่อในอย่างหลั่งมากกว่า
กวนจิ้งนั้นคือมือขวาของจงจิ่งห้าว เป็นคนที่เขาไว้ใจมาก
แต่ตอนนี้กลับมาปรากฏตัวที่บริษัทหลักทรัพย์ชินไฮ บริษัทที่เขาต้องการจะซื้อกิจการ เรื่องราวของหลิงเวย
และสักพักเขาก็คิดออกถึงความเชื่อมโยงของเรื่องราวในนั้น
เรื่องราวของหลิงเวยเกรงว่าก็อาจจะเกี่ยวข้องกับกนจิ้ง ไม่อย่างนั้นเรื่องที่หลิงเวยเคยทำก่อนหน้านี้ คงไม่ถูกเปิดเผยออกมาอย่าง
กะทันหันเช่นนั้น
อีกทั้งยังเป็นชั้นเชิงที่ทำให้เธอสู่ความตายสถานเดียว โดยที่ไม่มีพื้นที่เหลือให้ได้หวนกลับคืนมา
USB ที่เขาได้รับครั้งนั้น
ดูเหมือนมันจะพันกันยุ่งเหยิง แต่แท้ที่จริงแล้วก็เป็นด้ายเส้นเดียวกัน
กวนจิ้งกลับมาแก้แค้นให้กับจงเหยียนซี?
หลังจากหลิงเวยแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคิวเขา?
บริษัทหลักทรัพย์ซินไฮก็คือหลุมพราง?
เขารู้จักกวนจิ้งดี เพราะว่าสถานะของเขา เขานั้นเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ว่าหลินลุ่ยซีคือ?
จริง ๆ แล้วเธอมีสถานะตัวตนที่แท้จริงอย่างไร
เป็นจงเหยียนซีจริงหรือ
หัวใจของเขาฉับพลันเต้นแรงขึ้นกะทันหัน หากเป็นไปตามที่คาดเดาไว้ หลินลุ่ยซีมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะเป็นจงเหยียนซี
มีสิ่งมากมายที่สามารถเชื่อมโยงกัน คุณแม่ของเธอก็แซ่หลิน
การปรากฏตัวของกวนจิ้ง ก็ยิ่งบ่งบอกถึงสถานะของเธอ
เธอ ยังมีชีวิตอยู่?
เขาระงับหัวใจที่เต้นแรงพลุ่งพล่านไว้ “ยังมีเรื่องอื่นเพิ่มเติมไหม”
“พวกเราเห็นเขาเข้าไปอยู่ด้านในเกือบหนึ่งชั่วโมง สำหรับคุยเรื่องอะไรนั้น ผมไม่แน่ใจครับ เพราะผมเข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้” ฝั่งนั้นกล่าว
นี่คือคนที่เจียงม่หานส่งไปสืบตรจสอบเรื่องของบริษัทหลักทรัพย์ซินไ เขาไม่เคยหยุดสืบหยุดตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์ซินไฮ
เพราะว่าการซื้อกิจการครั้งนี้เกี่ยวข้องกับจำนวนเงินที่มากมายมหาศาล
“ผมรู้แล้ว นายไม่ต้องสืบต่ออีกแล้วนะ” ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าการซื้อกิจการครั้งนี้คือหลุมพราง
เขาแยกแยะเรื่องทุกอย่างออกชัดเจนแล้ว มีเพียงสิ่งเดียวคือไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันตัวตนของหลินลุ่ยซี
เขาลุกยืนขึ้น เขาจะต้องสืบให้กระจ่างชัดเจนให้ได้!
เขาเดินออกจากตัวตึก จงเหยนซีนั้นได้จากไปแล้ว เขายืนอยู่ข้างถนนแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาโทรหาหมายเลขของหลินลุ่ยซี
ไม่นานก็ถูกรับสายขึ้น
“ฮัลโหล”
“คุณหลิน ผมมีเรื่องที่เกี่ยวกับงานต้องการเจรจกับคุณ คุณมาที่บริษัทตอนนี้หน่อย”
จงเหยียนซีที่นั่งอยู่บนรถมองดูเวลาครู่หนึ่ง ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว เธอยังมีนัดกับกวนจิ้ง อีกทั้งเป็นการนัดเจอรู้จักกันครั้งแรกอย่างเป็น
ทางการของกู้เสียนกับกวนจิ้งอีก จะไปสายไม่ได้
“ประธานเจียง ฉันจะไปหาคุณพรุ่งนี้แต่เช้า……”
“ไม่ได้ ผมจะต้องเจอคุณตอนนี้” และได้เสริมอิกหนึ่งประโยค “โปรเจกตังานที่คุณให้กับผมม มีช่องโหว่ที่ใหญ่มาก ผมต้องการคำ
อธิบายจากคุณที่สมเหตุสมผล!”
ท่าทางของเขาค่อนข้างดึงดัน เมื่อพูดจบก็วางสายทิ้งไป