“ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย” เจียงโย่เชียนกุมหน้าผาก ร่างกายก็โงนเงนไปด้วย
เจียงโม่หานตระหนักอะไรได้บางอย่าง เขามองไปยังกาน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะทันที “นายไม่ได้ชงชานี่มาเหรอ?”
“แม่ผมชงมาให้ ทำไม…..”
เขายังไม่ทันพูดจบร่างก็ล้มลงไป
เจียงม่หานหันกลับไปมองเจียงโเซียนที่ล้มลงบนพื้น เขาเรียกอย่างตื่นตกใจ “เจียงโย่เชียน! ”
ในตอนนี้เขาหมอสติไปแล้ว ไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง
ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของเจียงม่หานนั่นคือต้องรีบไปจากที่นี่ ขาของเขาไม่สะดวกจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วต่อสายหาหนานเฉิงทันที
โทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครรับ ร่างกายของเขาเองก็เริ่มปรากฎความผิดปกติขึ้นแล้ว การมองเห็นของเขาค่อย ๆ เลือนราง
เขากำมือแน่น
ปัง
ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก
ชิวหมิงเยี่ยนยืนอยู่ที่ประตู มองลูกชายที่ล้มอยู่บนพื้นแต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินเข้าช่วยประคองเขา “ลูกชายเอ๋ย แม่เองก็ทำ
เพื่ออนาคตที่ดีของลูกนะ”
ชิวหมิงเยี่ยนรู้จักนิสัยของเจียงโเชียนอยู่บ้าง ถ้าให้เขารู้ เขาต้องไม่ยอมให้ใช้วิธีการแบบนี้มาแย่งชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลแน่
ยานี้ก็แค่ทำให้คนหมดสติเท่านั้น
ไม่มีผลข้างเคียงภายหลัง
ในตอนนี้ โทรศัพท์ของเจียงโม่หานต่อสายได้แล้ว เสียงของหนานเฉิงดังออกมา “ประธานเจียง….”.
เมื่อชิวหมิงเยี่ยนได้ยินเสียงก็มองมาทันที ขณะเจียงม่หานกำลังจะอ้าปากพูด มือถือก็ถูกชิวหมิงเยี่ยนแย่งไป ทั้งยังวางสายอีก
สติของเจียงโม่หานยิ่งเลือนรางไปเข้าไปทุกที ดวงตามืดมน และสุดท้ายเขาก็หมดสติไป
ชิวหมิงเยี่ยนปิดมือถือแล้วทิ้งลงถังขยะ แค่นเสียงเย็นชา “วันนี้ ฉันไม่อนุญาตให้ใครมาทำลายแผนของฉันทั้งนั้น”
หลังจากเธอประคองลูกชายไปที่เตียง เธอก็ไปที่ประตูเรียกผู้หญิงที่สวมหน้ากากคนหนึ่งเข้ามา
“เขาจะอยู่ที่นี่ไม่ได้” ชิวหมิงเยี่ยนพูด ที่อยู่นี้หนานเฉิงเองก็รู้
ถ้าหากเขาตามมาจะยุ่งยาก
“ฉันมีที่ที่หนึ่ง” หลิงเวยพูด
คนที่ชิวหมิงเยี่ยนเพิ่งเปิดประตูให้เข้ามานั้นก็คือหลิงเวย
ชิวหมิงเยี่ยนนั้นต้องการจะแย่งชิงทรัพย์สมบัติของตระกูลมาตลอด เธอยุยงให้เจียงจวิ้นตามหาเจียงโม่หานหลายต่อหลายครั้ง ทุกครั้งเจียงโม่หานไม่เคย
ปฏิเสธ เธอรู้ว่าเจียงโม่หานจะไม่
อ่อนข้อ ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลเธอก็วางแผนอยู่ตลอดว่าจะทำยังไงถึงจะทำให้เจียงโม่หานลดละไปได้
ในตอนนั้นเอง หลิงเวยก็มาหาเธอ
เมื่อหลิงเวยกลับมาก็พบว่จงเหยียนซีได้ไปจากเมืองBแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามหาเธอเพื่อแก้แค้น เธอไม่มีทางออกจากเมืองBได้ เธอไม่กล้าแสดง
หน้าตาที่แท้จริง หากประมาทเพียง
นิดก็จะถูกพบตัวได้ ดังนั้นเธอจคงหันเป้าหมายไปที่เจียงโม่หาน
เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำได้
เธอรู้ว่าแม่เลี้ยงของเจียงโม่หาน ชิวหมิงเยี่ยนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับเจียงโม่หานมาตลอด และยังคิดจะแย่งทุกอย่างที่เขามีทั้งหมดในตอนนี้ด้วย
เพียงแต่เยงโม่หานในตอนนี้ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไป จึงต้องปล่อยให้เธอจัดการ
หลิงเวยก็แค่ใช้เรื่องนี้ มาหาชิวหมิงเยี่ยนแล้วเสนอความคิดนี้กับเธอ ทั้งยังบอกกับชิวหมิงเยี่ยนว่าจะสามารถช่วยให้เธอได้เหิงคังกรุ๊ปมาได้
อย่างที่คิด ชิวหมิงเยี่ยนตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
ศัตรูของศัตรูก็คือมิตรคำพูดนี้ไม่ผิดแม้แต่น้อย
เมื่อบรรลุข้อตกลง พวกเธอก็วางแผนนี้ขึ้นมา แน่นอนว่าคนที่รู้แผนนี้ก็ยังมีเจียงจวิ้นด้วย เขาถูกเจียงโม่หานดูหมิ่นมามากพอแล้ว ตอนที่รู้ว่าต้องใช้วิธีการ
แบบนี้ เขาเองก็ไม่ได้ขัดขวางหรือ
คัดค้าน
“บ้านของฉัน” ก่อนหน้านี้เธอซื้ออสังหาริมทรัพย์อาไว้ นอกจากที่ถูกยึดไปแล้วก็ยังมีอยู่อีกที่หนึ่ง
สถานที่นั้นไม่มีใครรู้
“ปลอดภัยหรือเปล่า?” ชิวหมิงเยี่ยนถาม
“ปลอดภัย” หลิงเวยตอบอย่างมั่นใจเต็มที่
เธอมองไปยังเจียงโม่หานที่หมดสติไป มุมปากยกยิ้มเย็น “สุดท้าย นายก็ตกมาอยู่ในมือของฉัน”
“เอาล่ะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคุยเล่น จัดการธุระซะ” ชิวหมิงเยี่ยนพูด
หลิงเวยให้ความร่วมมืออย่างดีโดยไมโต้แย้ง ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาจะมาพูดคุยจริง ๆ เธอเดินไปยังเข็นแล้วผลักรถเข็นของเจียงโม่หาน “เราไปกันเถอะ”
ชิวหมิงเยี่ยนเหลือบมองลูกชายเล็กน้อยก่อนพยักหน้า
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงพวกเธอก็พาเจียงโม่หานมาถึงบ้านที่หลิงเวยซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้ ขั้นตอนนี้ไม่ได้ยากนัก เจียงโม่หานนั้นนั่งอยู่บนรถเข็น หลิงเวย
แค่เข็นรถไปก็พอแล้ว
ส่วนชิวหมิงเยี่ยนก็รับผิดชอบการคุ้มกัน
ตลอดทางจึงราบรื่น
เมื่อเจียงโม่หานตื่นขึ้น
เขาก็ถูกมัดไว้กับรถเข้นด้วยเชือก เขาพยายามที่จะขยับแขนแต่มันไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” หลิงเวยยืนอยู่เบื้องหน้าของเขา เธออาบน้ำแล้วและสวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้าน ในตอนนี้กำลังมองมาที่เขา
เจียงโม่หานเบิกตาอย่างกะทันหัน
“อย่าตกใจขนาดนั้นสิ” หลิงเวยนั่งลงบนโซฟาแล้วหัวเราะ “แปลกใจมากเลยเหรอ?”
เจียงโม่หานแววตานิ่งขรึมไม่พูดจา
หลิงเวยยื่นมือเข้าไปลูบหน้าของเขา ใบหน้านั้นแย้มยิ้มอยู่แท้ ๆ! แต่กลับมีรังสีความน่าสะพรึงอย่างบอกไม่ถูก “ฉันทำเพื่อนายด้วยใจจริง แต่นายกลับ
ต้องการให้ฉันตาย เจียงโม่หานนาย
ช่างเหี้ยมโหดจริงเชียว”
“หัวใจของเธอที่ฉันอยากให้ตาย มันไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด” เจียงโม่หานท่าทีร้งเกียจ “หลิงเวย ฉันเคยรู้สึกอะไรกับเธอด้วยงั้นเหรอ?”
หลิงเวยกำมือทั้งสองข้างแน่น แม้จะอดกลั้นอย่างสุดกำลังก็อดไม่ได้ที่จะสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ และสีหน้โกรธเกรี้ยวของเธอก็เปลี่ยนเป็นรายยิ้ม
“ฮ่า ๆ ถึงนายจะอยากให้ฉันตาย
แล้วมันยังไงกันล่ะ? ชีวิตขิงนายในตอนนี้อยู่ในกำมือของฉันแล้ว”
เธอลุกแล้วเดินเข้ามานั่งลงบนขาของเจียง’ม่หาน “นายเกลียดฉัน อยากให้ฉันตาย แต่ฉันก็ดันอยู่อย่างสุขสบาย นายเกลียดฉันมากเท่าไหร่ ในตอนนี้ฉันก็
จะอยู่ใกล้นายมากเท่านั้น เจียง
โม่หานนายรู้รึเปล่า? ฉันชอบนายมานานขนาดนี้ ในเวลานี้ ฉันเพิ่งจะรู้สึกสบายใจได้ เพราะว่า….”
หลิงเวยขยับริมฝีปากของเธอเข้าไปใกล้ของเขา “ฉันสามารถครอบครองนายได้ทุกเมื่อ”