ตอนที่8
รถมาจอดอยู่ด้านหน้าของคฤหาสน์
ก่อนปาณีจะลงจากรถเธอจัดการผมเผ้าที่ฟูของเธอเสียก่อนแล้ว
จึงค่อยตามลงไป
ในคฤหาสน์มีธามนิธิอยู่คนเดียว
ปาณีมองไปยังธามนิธิที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างเห็นแผ่นหลังที่โดดเดี่ยว นั้นเธอรู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบรัดแน่นคิดถึงตัวเองที่เพิ่งหนีออก มาจากบ้านจากนี้เป็นต้นไปเธอก็คงต้องโดดเดี่ยวแบบนี้เหมือนกัน ทำให้เธอรู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที
ยังดีที่เธอยังมีคุณอาคนนี้อยู่ด้วย
เธอฝืนยิ้มอย่างแห้งเดินเข้าไปแล้วพูดว่า”คุณอาฉันกลับมาแล้ว
ค่ะ”
ธามนิธิหันหน้ากลับมายิ้มให้เธอ
เขาหุบยิ้มทันทีเมื่อเห็นรอยแผลบนใบหน้าของเธอ
“หน้าของเธอไปโดนอะไรมา?”
ปาณีรีบก้มหน้าก้มตาเอามือปิดหน้าไว้”ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ….”
“โดนตบมาหรอ?”
“อืมม…”เธอพูดอย่างอึดอัดว่า”โดนแม่ตบมา”
ธามนิธิเอามือกำรถเข็นไว้แน่น
ปาณีเลยบอกว่า”แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะโดนแม่ตีเป็นเรื่องปกติมาก ตอนเด็กหนูซนมากเลยโดนตีบ่อยๆเหมือนกัน…”
เธอพยายามทำตัวเหมือนไม่ได้สนใจอะไรแต่สายตาของเธอกลับ
ทรยศเธอ
ธามนิธิพูดเสียงแข็ง”มานี่!”
ปาณีเดินเข้าไปหาธามนิธิอย่างว่านอนสอนง่ายนั่งลงอยู่ข้างๆรถ เข็นของเขาเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตากำลัง มองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้า
ธามนิธิก้มตัวไปเช็ดน้ำตาให้เธอ”ครั้งนี้ก็แล้วไปถ้าครั้งหน้ามีคน กล้าแตะต้องเธออีกไม่ว่าจะเป็นพ่อเธอหรือแม่เธอฉันไม่มีทางปล่อย ไว้แน่ๆ”
“คุณอา….”ใจที่หนาวเย็นของปาณีรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
ไวยาตย์ที่ยืนดูอยู่ตั้งนานเดินออกจากห้องรับแขกไป
เขากลัวถ้ายังขึ้นยืนอีกต่อไปคุณธามนิธิจะด่าเขาไม่รู้กาลเทศะมา
อยู่เป็นก้างขวางคอทำไม
เขาถึงขั้นขนลุกนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณธามนิธิดีกับผู้หญิง ขนาดนี้
ธามนิธิที่ปกติเป็นคนเงียบๆไมพูดไม่จาแต่ในใจกลับเป็นคนที่
อบอุ่นขนาดนี้
“พรุ่งนี้กลับเมืองชยุตกับฉัน”
เมืองชยุต?นั่นเป็นบ้านเกิดของธามนิธิหนิ!
ปาณีรู้สึกตกใจเล็กน้อยธามนิธิเห็นสีหน้าของเธอพูดด้วยน้ำเสียง ที่ไม่ค่อยพอใจว่า”ทำไมไม่อยากไปกับฉันหรอ?”
“ท่ำไมจะไม่อยากไปล่ะคะฉันแค่….กลัวว่าคนอื่นจะไม่ชอบ
ฉัน..”
บ้านวิสิทธิ์เวชเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงร่ำรวยระดับประเทศถ้าฉัน กลับไปบ้านนั้นจะโดนแกล้งหรือเปล่า?
หญิงสาวที่อายุยังน้อยคนนี้ก็คงจะเคยดูละครเกี่ยวกับตระกูลที่ ร่ำรวยไม่มากก็น้อยแม่สามีในละครนั้นไม่บอกก็รู้ว่าร้ายแค่ไหน ปากกลัวว่าหากเธอไปบ้านวิสิทธิ์เวชแล้วเธอจะโดนแม่สามีรังแก ทุกวัน
ชีวิตตอนนั้นคงต้องอยู่อย่างทรมานเหมือนตายทั้งเป็น
ธามนิธิเดาออกว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่หัวเราะบอกเธอว่า”ไม่ ต้องกดดันหรอกทุกคนในครอบครัวฉันเป็นมิตรดี”
ปาณีหน้าแดงพูดด้วยเสียงเบาว่า”อิ่มงั้นฉันกลับกับคุณก็ได้”
เพราะยังไงเธอก็ได้แต่งงานกับเขาแล้วแต่งกับใครก็ต้องตามเขา คนนั้นไปสุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่าแต่งกับหมาก็เหมือนหมาแต่งกับไก่ก็ เหมือนไก่กลับเมืองชยุตก็กลับสิจะกลัวอะไร
เพราะว่าปาณียังไม่หายจากไข้ระหว่างทางกลับเมืองชยุตเธอจึง หลับตลอดทาง
ธามนิธิที่อยู่ข้างๆนอกจากต้องดูแลเธอแล้วยังต้องรับสายที่โทรมา จากบ้านวิสิทธิ์เวชไม่หยุด
พอได้ยินว่าธามนิธิจะกลับเมืองชยุตคนในบ้านวิสิทธิ์เวชก็ดีใจกัน
มาก
โดยเฉพาะหลังเกิดเรื่องกับธามนิธิคนที่บ้านก็เป็นห่วงเขามาก
“ธามนิธิถึงไหนแล้ว?”
“นี่เป็นสายที่ห้าแล้วนะ”ธามนิธิพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย พร้อมกับขมวดคิ้ว
“ก็พี่เป็นห่วงเธอไง”จันวิภาคู่สายพูดด้วยความห่วงใย”ได้ข่าวว่าจะ พาภรรยากลับมาด้วยหรอ? รีบๆพากลับมาล่ะทุกคนอยากเจอ”
“อย่าทำให้เธอตกใจกลัวก็แล้วกัน”ธามนิธิพูดพร้อมเอาปัดผมที่อยู่ ตรงแก้มของปาณีดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่น
“ห่วงใยขนาดนี้ต้องเจอเธอสักหน่อยแล้ว”
จันวิภาพูดสายอีกสักครู่เธอกลัวจะทำให้ธามนิธิรำคาญเลยวาง สายไปก่อน
หูของธามนิธิได้พักสักทีหลังจากที่รับสายมาทั้งวันเขายื่นมืออกไป ตบหลังของปาณีด้วยความเบามือ
ปาณีนอนหนุนตักของเขาหลับลงอย่างง่ายดาย