“ในคฤหาสน์หั่วหลีมีผีภายในงั้นหรือ?”
“ที่แท้เป็นเพราะผีภายในนี่เอง…หมายความว่าศิษย์ทั้ง 13 คนที่ถูกต้วนหลิงเทียนกำจัด ทั้งหมดก็เพราะถูกผีภายในขายตำแหน่งของพวกมันออกไปสินะ…”
“ข้าก็ว่าอยู่แล้วเชียวว่าคฤหาสน์เฉวียนโยวกับคฤหาสน์หั่วหลี จะไปมีความกล้าสมรู้ร่วมคิดกันฝ่าฝืนกฏของ 10 ตระกูลใหญ่ได้อย่างไร…ที่แท้เป็นเพราะสาเหตุนี้นี่เอง!”
“หึ! ให้คฤหาสน์เฉวียนโยวกับคฤหาสน์หั่วหลีมีความกล้ามากขึ้น 10 เท่า พวกมันก็ไม่กล้าสมรู้ร่วมคิดกันหรอก!”
…
เหล่าคฤหาสน์อมตะทั้งหลาย ไม่นานก็เข้าใจเรื่องราว และได้รู้เรื่องที่คฤหาสน์หั่วหลีมีผีภายใน
ยังมีหลายคนที่อดเห็นใจคฤหาสน์หั่วหลีไม่ได้ ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว
ภายในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลาง
“ผีภายใน?”
ในฐานะที่เป็นศิษย์ยอดฝีมือของคฤหาสน์อู่จ้าน หว่านชิงชิงก็มีสหายทั้งคนสนิทมากมายในคฤหาสน์อู่จ้าน ดังนั้นนางจึงได้รับการิตดต่อจากภายนอกและบ่งบอกสถานการณ์ในปัจจุบันเช่นกัน
‘ข้าเกรงว่าคงไม่มีใครคิดใครฝันแน่ ว่าคฤหาสน์หั่วหลีไม่มีผีภายในอะไรทั้งนั้น…เหตุไฉนที่ต้วนหลิงเทียนล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของศิษย์คฤหาสน์หั่วหลี ล้วนเป็นเพราะข้า…’
แน่นอนว่าถึงแม้หว่านชิงชิงจะตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ชัดเจน แต่นางก็ไม่คิดจะเล่าให้ใครฟัง ต่อให้เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องที่มีความสัมพันธ์อันดีกับนางในคฤหาสน์อู่จ้านก็ตาม
นางไม่อาจเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปได้เด็ดขาด!
เพราะเกิดมันแพร่งพรายไปถึงหูคฤหาสน์หั่วหลี นางไม่พ้นซวยหนักแน่
‘แต่…จนถึงตอนนี้ต้วนหลิงเทียนยังเจอแค่ศิษย์ธรรมดาๆของคฤหาสน์หั่วหลีเช่นนั้นหรือ?’
‘ยังหาโม่ผิงจื่อไม่เจออีกรึไง?’
คิดถึงจุดนี้หว่านชิงชิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเบาๆ ยังรู้สึกเสียดายแทนต้วนหลิงเทียนอยู่บ้าง
โม่ผิงจื่อนั้น นางจดจำได้ว่าก่อนที่นางจะเข้าแดนสวรรค์ใต้โบราณมากับเหิงเฟิง อีกฝ่ายก็มีคะแนนสะสมมากกว่า 100 แต้มแล้ว และยังติดอยู่ใน 10 อันดับแรก…
เป็นธรรมดาที่นางยังรู้อีกว่า…
เหตุผลที่โม่ผิงจื่อมีอันดับสูงถึงขนาดนี้ เพราะอีกฝ่ายเข้าสู่แดนสวรรค์ใต้โบราณตั้งแต่วันแรก
นอกจากนั้นเห็นได้ชัดว่าโม่ผิงจื่อผู้นั้น นับว่ามีโชคไม่น้อย
เพราะถึงแม้พลังฝีมือของโม่ผิงจื่อจะดี แต่กฏที่โม่ผิงจื่อเชี่ยวชาญก็คือกฏแห่งน้ำ ถึงแม้ความเร็วจะพอตัว แต่ก็ไม่ได้เหนือกว่าต้วนหลิงเทียน
ถึงความเร็วของต้วนหลิงเทียนจะพอๆกับโม่ผิงจื่อ หากแต่ลักษณะการเคลื่อนไหวกลับพิสดารกว่ามาก! ไม่ใช่อะไรที่โม่ผิงจื่อจะติดตามได้ง่ายๆ!!
ที่สำคัญ ทุกครั้งที่นึกถึงการโจมตีที่ต้วนหลิงเทียนใช้ฝ่าการป้องกันของเหิงเฟิง หว่านชิงชิงยังอดไม้ได้ที่จะรู้สึกขนลุกซู่! ร่างยังสะท้านไปเบาๆด้วยความหวาดกลัว!!
การโจมตีที่ทรงพลังถึงระดับนั้น ต่อให้เป็น 6 อันดับแรกของแดนสวรรค์ใต้โบราณ ก็ไม่มีใครทำได้!
ท้ายที่สุดแล้วในบรรดาทั้ง 6 คน ก็ไม่มีใครที่มีพลังโจมตีสุดโต่งขนาดนั้น แม้บางคนจะมีการโจมตีแข็งแกร่งหน่อย บ้างก็โดดเด่นเรื่องความเร็ว บ้างลูกเล่นเยอะ และบ้างก็มีความสามารถในการป้องกันตัวสูง
ที่สำคัญผู้ที่เก่งเรื่องการป้องกันที่สุดในบรรดาทั้ง 6 คนนั่น ยังไม่ได้ด้อยไปกว่าเหิงเฟิงมากนัก หากแต่มีความเร็วเหนือล้ำกว่าเหิงเฟิงงอย่างมาก ถึงขั้นเทียบได้กับนาง
หว่านชิงชิงจึงไม่คิดตัวตนที่มีความสามารถเอาชนะทั้ง 6 อาศัยโม่ผิงจื่อนั่นจะมีปัญญาสู้ต้วนหลิงเทียนได้
‘อย่างไรก็ตาม…หากตอนนี้ต้วนหลิงเทียนคิดหาตัวโม่ผิงจื่อเกรงว่าคงยากแล้ว เพราะทางคฤหาสน์หั่วหลีไม่พ้นต้องเร่งส่งข่าวให้โม่ผิงจื่อกับคนอื่นๆทราบสถานการณ์ในปัจจุบันแล้วแน่นอน’
หว่านชิงชิงลอบกล่าวในใจ
และเป็นดั่งที่หว่างชิงชิงคิดไว้ไม่มีผิด
โม่ผิงจื่อได้รับการติดต่อจากอาวุโสระดับสูงของคฤหาสน์หั่วหลี่ ว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนล่วงรู้แล้วว่าทุกคนกำลังเคลื่อนที่เป็นวงรอบค่ายคฤหาสน์หั่วหลี่ห่างไป 20 ลี้…
และในขณะที่โม่ผิงจื่อได้รับแจ้ง นอกจากมันก็ไม่ได้มีอีกแค่ 4 คนอีกต่อไป แต่ตอนนี้มีเพิ่มมาอีก 3 คน
กลุ่มของมันบัดนี้มีทั้งสิ้น 8 คนแล้ว
“พวกเจ้าทุกคนสมควรได้รับการติดต่อจากผู้อาวุโสเหมือนกันกระมัง?”
และในปัจจุบันกลุ่ม 8 คนไม่ได้นำโดยยโม่ผิงจื่ออีกต่อไป แต่เป็นชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างหน้าตาธรรมดาๆแทน
ชายวัยกลางคนผู้นี้ดูธรรมดามาก ไม่คล้ายยอดฝีมือแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามทั้ง 7 คนไม่เว้นโม่ผิงจื่อยินดีให้อีกฝ่ายเป็นผู้นำ
“ใช่ศิษย์พี่ถานหยวน ท่านก็ได้รับแจ้งเหมือนกันหรือ?”
ศิษย์ฝ่ายในของคฤหาสน์หั่วหลี่คนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยใบหน้าอัปลักษณ์ “ข้าไม่คิดเลยว่าในคฤหาสน์หั่วหลีของพวกเราจักมีผีภายในได้…หากข้ารู้ว่ามันเป็นผู้ใดข้าจักตีมันให้ตาย!!”
“เหอะๆ หากผีภายในผู้นั้นเป็นอาวุโสฝ่ายในเล่า เจ้าจะมีปัญญาตีมันตายหรือ?”
ศิษย์ฝ่ายในอีกคนกล่าวล้อออกมา
“เพ่ย! จักเป็นอาวุโสฝ่ายในไปได้อย่างไรกัน…สมควรเป็น 7 คนที่ถูกต้วนหลิงเทียนบังเอิญเจอระหว่างหนีไปแน่ พวกมันกลัวเสียหน้าเพราะถูกล้อ เช่นนั้นจึงขายผู้อื่นให้โดนดีเหมือนพวกมัน!!”
ศิษย์ฝ่ายในคนแรกโพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย ฟังจากวาจาแล้วเห็นชัดว่ามันปักใจเชื่อว่าผีภายในต้องเป็น 7 คนที่ถูกต้วนหลิงเทียนจัดการไปแน่นอน!
“ศิษย์น้องใจเย็นก่อน หากเรื่องราวไม่กระจ่าง อย่าได้ด่วนตัดสินผู้ใดเลย…”
โม่ผิงจื่อกล่าวเตือนเสียงเข้ม
“ศิษย์น้องโม่กล่าวถูกแล้ว พวกเราไม่อาจด่วนสรุปหรือกล่าวหาผู้ใดลอยๆได้”
ชายวัยกลางคนที่กลายมาเป็นผู้นำคนใหม่กล่าวขึ้น และมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ในขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศอายุไม่ถึงพันปีของคฤหาสน์หั่วหลี ถานหยวน!
“ศิษย์พี่ถาน ท่านเห็นว่าพวกเราสมควรรีบออกจากเส้นทาง ตามคำชี้แนะของผู้อาวุโสไหม?”
โม่ผิงจื่อมองถามถานหยวนด้วยสายตาเอาเรื่อง เห็นได้ชัดว่ามันไม่คิดจะหลบออกจากเส้นทางดั่งที่ผู้อาวุโสกล่าวแนะนำมา
ราวกับต้องการปะทะกับต้วนหลิงเทียน!
และเหตุไฉนที่มันกล้าตัดสินใจแบบนี้ ก็เพราะกลุ่มมันได้รวมกับกลุ่มของถานหยวนแล้ว
กลุ่มของมันพึ่งพบเจอกับกลุ่มของถานหยวนเมื่อ 2 ชั่วยามก่อน
หากไม่มีถานหยวน ต่อให้กลุ่มของมันจะมี 5 คน แต่มันก็ไม่กล้ามีความคิดเรื่องปะทะกับต้วนหลิงเทียน!
“ดูเหมือนศิษย์น้องโม่อยากพบเจอศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวนามต้วนหลิงเทียนนั่นสินะ?”
ถานหยวนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเกรงว่าคงมิใช่แค่ข้ากระมัง?”
กล่าวถึงจุดนี้ถานหยวนก็หันไปมองเหล่าศิษย์อีก 6 คนรอบๆด้วยสายตาคาดหวัง และทั้ง 6 ก็กำลังมองมาที่มันกับถานหยวนด้วยสายตาคาดหวังเช่นกัน
ถึงแม้ในบรรดาศิษย์ทั้ง 6 ที่อยู่ตรงนี้ จะมีแค่คนเดียวที่ติดอยู่ใน 100 อันดับแรกเป็นประจำตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หากมันอยู่ในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางได้ครบ 10 วัน…
และผลงานที่ดีที่สุดของมันก็คือ อันดับที่ 86
นอกจากมันแล้ว อีก 5 คนที่เหลือค่อนข้างอ่อนด้อยนักหากนำมาเทียบกับโม่ผิงจื่อและถานหยวน! 3 ใน 5 ไม่แม้จะเคยยติด 100 อันดับแรกเลย ส่วนอีก 2 คนหลายสิบปีถึงจะติดอยู่ใน 100 อันดับแรกสักครั้ง…
ต้อทราบด้วยว่า มีเพียง 100 คนเท่านั้นที่เข้ามาในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับกลางแล้วจะติดอันดับ
หากสามารถติดอยู่ใน 100 อันดับแรก ก็บ่งบอกว่ามีพลังฝีมือติดอยู่ใน 100 อันดับแรกของขุนนางอมตะ 10 ทิศทั้งหมดที่เข้ามาในนี้…
“ทำไม พวกเจ้ามั่นใจในตัวข้ากับศิษย์น้องโม่มากหรือ?”
ถานหยวนที่แลเห็นแววตาคาดหวังจากทั้ง 6 ก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา จนสองแก้มปรากฏลักยิ้มขึ้น
“ศิษย์พี่ใหญ่ถานหยวน มีท่านกับศิษย์พี่โม่แบบนี้…ข้าไม่เชื่อหรอกว่าต้วนหลิงเทียนนั่นจะมีปัญญาทำอะไรพวกเราได้!”
ศิษย์ฝ่ายในคนหนึ่งของคฤหาสน์หั่วหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“ใช่แล้วศิษย์พี่ถานหยวน พวกเราเชื่อในตัวท่านกับศิษย์พี่โม่!”
ศิษย์คฤหาสน์หั่วหลีอีกคนกล่าวเสริม
“ศิษย์พี่ถานหยวน…หรือพวกเราจักซุ่มรอต้วนหลิงเทียนนั่นอยู่แถวนี้ดี…ข้าเกรงว่ากระทั่งมันถูกส่งตัวออกไปด้านนอกแล้ว ก็คงไม่คิดไม่ฝันด้วยซ้ำว่าท่านกับศิษย์พี่โม่จะอยู่ด้วยกัน”
ศิษย์อีกคนของคฤหาสน์หั่วหลีเอ่ยออกด้วยรอยยิ้มเริงร่าสองตาวับวาว ฟังจากคำพูดคำจาของมัน ทำราวกับเชื่อว่าต้วนหลิงเทียนต้องโดนโม่ผิงจื่อกับถานหยวนจัดการได้แน่นอน
สำหรับศิษย์ฝ่ายในของคฤหาสน์หั่วหลีที่ไม่พูดอะไร อาศัยแค่สายตาคาดหวังนั่นก็บ่งบอกทุกสิ่งหมดสิ้น
“ในเมื่อพวกเจ้าเชื่อมั่นข้ากับศิษย์น้องโม่ขนาดนี้ หากไม่อยู่ไม่ใช่เป็นข้าถานหยวนกลัวต้วนหลิงเทียนนั่นแล้วหรือไร…มาเถอะ ข้าจะรอเจอกับมัน!”
ถานหยวนกล่าวพลางหัวเราะ จากนั้นก็หันไปมองงถามโม่ผิงจื่ออีกรอบ “ศิษย์น้องโม่แล้วเจ้าว่าไงเล่า”
“ศิษย์พี่ถานในเมื่อท่านอยู่ ข้ายังไม่อยู่ได้หรือ…ข้าเองก็อยากเจอศิษย์ฝ่ายนอกคฤหาสน์เฉวียนโยวที่พึ่งโด่งดังขึ้นมาช่วงนี้เต็มทีแล้ว!”
โม่ผิงจื่อตอบด้วยรอยยิ้ม
ดูจากรอยยิ้มนั่นของมัน เห็นชัดว่าโม่ผิงจื่อก็มั่นใจนัก!
“ศิษย์น้องโม่ ต้วนหลิงเทียนผู้นั้น จะอย่างไรชื่อเสียงของมันก็ดังหนาหูนัก บ่งบอกว่ามันไม่ธรรมดาแน่นอน…เมื่อมันมาถึง เจ้ากับข้าพวกเราจะผนึกกำลังลงมือทันที อย่าได้ประมาทจนเปิดโอกาสให้มันเด็ดขาด!”
หลังโม่ผิงจื่อกล่าวตอบ ถานหวนก็มองกล่าวกับโม่ผิงจื่อออกมาตรงๆ ด้วยสีหน้าท่าทีจริงจัง
“ขอศิษย์พี่ถานวางใจ ถึงแม้ข้าจะไม่คิดว่ามันสามารถสู้พวกเราสองคนที่ร่วมมือกันได้ แต่ยามสิงโตจับกระต่ายยังทุ่มพลังทั้งหมด ข้าไม่มีประมาทมันแน่!”
โม่ผิงจื่อลั่นวาจาเสียงเข้ม
“ประเสริฐ!”
ถานหยวนพอได้ฟังก็วางใจ
ดังคำกล่าว ‘ชื่อเสียงคน ร่มเงาต้นไม้’ ถานหยวน ในฐานะยอดฝีมืออันดับ 1 ขอบเขตขุนนางงอมตะ 10 ทิศอายุไม่ถึงพันปีของคฤหาสน์หั่วหลีย่อมตระหนักได้ชัดเจน…
ว่าการที่ใครสักคนจะมีชื่อเสียงโด่งดังจนผู้คนพากันกล่าวขานถึงหนาหูได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ด้วยเหตุนี้มันไม่มีทางประมาทอีกฝ่ายเด็ดขาด และจะลงมือเต็มกำลังแต่แรก
“ศิษย์น้องทั้ง 6…พอต้วนหลิงเทียนนั่นมาถึงพวกเจ้าจะอยู่ข้างๆคอยลงมือสนับสนุนตามสถานการณ์ หรือพวกเจ้าจะรีบหนีไปเลยก็ได้”
หลังถานหยวนกล่าวเตือนโม่ผิงจื่อแล้ว ด้านโม่ผิงจื่อก็ไม่ลืมหันไปกำชับศิษย์ฝ่ายในอีก 6 คนที่อยู่ข้างๆด้วย “ด้วยมีข้ากับศิษย์พี่ถานอยู่ มันไม่มีโอกาสไล่ตามพวกเจ้าได้แน่นอน!”
พอเสียงโม่ผิงจื่อดังจบคำ ศิษย์ฝ่ายในคนหนึ่งก็กล่าวแทนใจอีก 5 คนทันที
“ศิษย์พี่โม่ ด้วยมีท่านกับศิษย์พี่ถานอยู่พวกข้าไม่กลัวต้วนหลิงเทียนนั่นหรอก…นอกจากนี้ข้ายังอยากรู้นักว่ ‘ตำนาน’ ของคฤหาสน์เฉวียนโยวผู้นั้น จักแพ้พ่ายพวกท่านทั้งคู่เช่นไร!!”
“ใช่แล้วศิษย์พี่โม่พวกเราจะอยู่ชมดูชัยชนะของพวกท่าน!!”
“ถูกแล้วศิษย์พี่โม่ ข้าอยากเห็นท่านกับศิษย์พี่ถานทุบตีเจ้าต้วนหลิงเทียนอะไรนั่น!!”
…
สุดท้ายทั้ง 6 ก็ไม่มีใครคิดหนี และเลือกที่จะอยู่สนับสนุนถานหยวนกับโม่ผิงจื่อหากมีโอกาส
แต่เป็นธรรมดาว่าพวกมันรู้ดีแก่ใจ
ถึงแม้โม่ผิงจื่อจะกล่าวบอกให้พวกมันช่วยสนับสนุนหากมีโอกาส แต่พวกมันก็คงไม่อาจทำอะไรต้วนหลิงเทียนได้แน่นอน
กล่าวกันตามตรงด้วยระดับพลังฝีมือของพวกมัน เกรงว่าจะไม่มีทางสอดแทรกการต่อสู้ระหว่างต้วนหลิงเทียน กับถานหยวนและโม่ผิงจื่อที่ร่วมมือกันได้เลย
เผลอๆต่อให้พวกมันอยากจะเข้าร่วมในฐานะเหยื่อล่อ ก็คงไม่มีค่าพอจะเป็นเหยื่อล่อในสายตาโม่ผิงจื่อกับถานหยวนด้วยซ้ำ
ไม่ต้องกล่าวถึงคนที่เสียงร่ำลือบอกว่าสามารถเอาชนะศิษย์พี่ถานหยวนของงมันได้เลย กระทั่งตัวตนที่เอาชนะได้แค่โม่ผิงจื่อ พวกมันก็ไม่มีหวังจะไปเสนอหน้าออกมือแล้ว…
หลังจากที่ทั้ง 8 คนตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ว่าจะปะทะกับต้วนหลิงเทียน ทั้งคู่ก็ไม่เคลื่อนย้ายไปไหน และเฝ้ารอต้วนหลิงเทียนที่นี่
ขณะเดียวกันเหล่าศิษย์ฝ่ายในคนอื่นของคฤหาสน์หั่วหลี เมื่อได้รับแจ้ง ก็เร่งรุดออกจากวงรัศมีห่างคฤหาสน์หั่วหลี 20 ลี้ทันที
‘หลังจากเจอกลุ่มศิษย์คฤหาสน์หั่วหลี 2 กลุ่มแล้ว ข้ากลับไม่เจอใครอีกเลย…ท่าทางพวกมันคงรู้ตัวแล้วว่าข้าล่วงรู้เส้นทางรวมพลของพวกมัน…’
ต้วนหลิงเทียนที่ยังเหินร่างตีวงห่างจากคฤหาสน์หั่วหลี 20 ลี้ เริ่มคาดเดาในใจ
‘อย่างไรก็ตาม วงรัศมี 20 ลี้รอบค่ายคฤหาสน์หั่วหลีข้าสมควรมาได้ครึ่งทางแล้ว หรืออีกครึ่งข้าก็จะวนครบรอบพอดี…ถึงตอนนั้นค่อยไปหาหว่านชิงชิง’
ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกว่าต่อให้ไปต่อก็อาจจะไม่เจอศิษย์ของคฤหาสน์หั่วหลีในเส้นทางแล้ว แต่เขาก็ตัดสินใจจะเดินทางต่อให้ครบรอบ
เป็นเพราะการตัดสินใจนี้ของเขา จึงทำให้เขาพบยอดฝีมือผู้กล้าหาญของคฤหาสน์หั่วหลีทั้งสองอย่าง ถานหยวนและโม่ผิงจื่อ รวมถึงศิษย์ฝ่ายในอีก 6 คนของคฤหาสน์หั่วหลีอีกด้วย…